เบาะแสเริ่มชัดเครื่องบินโดยสารรัสเซียตกเพราะ'ระเบิด' สหรัฐฯชี้ฝีมือISลอบซุกบนเครื่อง!!

กระทู้ข่าว
รอยเตอร์/เอเอฟพี - สาเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารของสายการบินรัสเซียโหม่งโลกในอียิปต์เมื่อวันเสาร์(31ต.ค.) มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะมีต้นตอจาก "ระเบิด" แต่ไม่ชัดเจนว่ามันเกี่ยวข้องกับน้ำมัน เครื่องยนต์ หรือวัตถุระเบิด แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตรวจสอบกล่องดำเปิดเผยในวันพุธ(4พ.ย.) ขณะที่ซีเอ็นเอ็นอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯพูดเจาะจงมากกว่า ด้วยเชื่อว่ามีการซุกระเบิดบนเครื่องจากฝีมือของพวกไอเอส
       
       "เชื่อว่าเป็นระเบิดแต่ลักษณะของมันยังไม่ชัดเจน มีการตรวจสอบทรายที่เก็บมาได้จากจุดตกเพื่อพยายามและสรุปว่ามันเป็นระเบิดหรือไม่" แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ "คณะสืบสวนนิติเวชศาสตร์กำลังทำงานที่จุดตกของเครื่องบิน เพื่อดูว่าพบร่องรอยของวัตถุระเบิดหรือไม่ ซึ่งจะช่วยสรุปถึงสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้"
       
       อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่าคณะสืบสวนกำลังมองหาความเป็นไปได้กรณีที่วัตถุชิ้นหนึ่งที่ถูกจัดเก็บอยู่บนเครื่องบินอาจเป็นต้นตอของโศกนาฏกรรม "มี 2 ข้อสันนิษฐานที่อยู่ภายใต้การพิจารณาในเวลานี้ หนึ่งมาจากวัตถุบางอย่างที่ถูกจัดเก็บอยู่ภายในเครื่องบินและสองคือจากปัญหาทางเทนนิค แต่เครื่องบินไม่สามารถแตกเป็นเสี่ยงๆได้เองในอากาศ มันน่าจะมีการกระทำบางอย่าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่จรวด เพราะไม่มีร่องรอยของมันเลย"
       
       แม้แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสืบสวนไม่พาดพิงอย่างตรงๆเกี่ยวกับการลอบวางระเบิดบนเครื่อง แต่ทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารรัสเซีย จะมีต้นตอจากระเบิดที่ถูกซุกไว้โดยพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) หรือหนึ่งในเครือข่ายของพวกเขา
       
       ซีเอ็นเอ็นบอกว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ซึ่งมีความใกล้ชิดกับเรื่องดังกล่าวได้อ้างข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ แต่บอกว่าเครือข่ายข่าวกรองของอเมริกายังไม่สรุปอย่างเป็นทางการต่อสาเหตุของหายนะทางการบินครั้งนี้ "พวกเขาเชื่ออย่างแน่ชัดว่ามันเป็นวัตถุระเบิดที่ซุกไว้ในกระเป๋าสัมภาระหรือที่ไหนสักแห่งบนเครื่อง"
       
       ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการบินของอียิปต์บอกว่ากล่องบันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบินของเครื่องบินได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ก็สามารถถอดและกู้ข้อมูลคืนมาได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์
       
       ผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่า ข้อเท็จจริงที่เศษเครื่องบินและศพผู้เสียชีวิตหล่นสู่พื้นเป็นบริเวณกว้างมาก ชี้ให้เห็นว่าตัวเครื่องบินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลางอากาศ ซึ่งแตกต่างไปจากกรณีเครื่องบินตกส่วนใหญ่ จึงเหลือความเป็นไปได้อยู่ 2 ประการ นั่นคือ เกิดความบกพร่องผิดพลาดทางเทคนิคที่ทำให้เครื่องบินแตกเป็นเสี่ยง หรือไม่ก็เกิดจากระเบิดที่ถูกลับลอบวางไว้บนเครื่องบิน
       
       คำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิดทีมสืบสวน สอดคล้องกับท่าทีของอังกฤษในวันพุธ(4พ.ย.) ที่แสดงความกังวลว่าเครื่องบินแอร์บัส321 อาจถูกวางระเบิด และสั่งระงับเที่ยวบินที่มุ่งหน้ามาจากชาร์ม เอล-ชีค ดินแดนตากอากาสริมทะเลแดงของอียิปต์เป็นการชั่วคราว
       
       "ในขณะที่ยังคงมีการสืบสวนอยู่ เราคงไม่สามารถพูดอย่างชัดเจนว่าทำไมเครื่องบินรัสเซียถึงตก แต่ด้วยข้อมูลต่างๆที่ปรากฎออกมา เราเริ่มมีความกังวลว่าเครื่องบินอาจโหม่งโลกด้วยวัตถุระเบิด" สำนักนายกรัฐมนตรีของนายเดวิด คาเมรอน ระบุในถ้อยแถลง
       
       ถ้อยแถลงของทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษมีขึ้น 4 วันหลังจากเครื่องบินแอร์บัสลำนี้ ตกในไซนาย ทางเหนือของอีบิปต์ เพียง 23 นาที หลังเทคออฟขึ้นจากชาร์ม เอล-ชีค
       
       กลุ่มนักรบเครือข่ายของพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) ออกมาอ้างว่าเป็นคนสอยเครื่องบินลำดังกล่าว แต่ทางฝั่งนักวิเคราะห์ไม่เชื่อว่าพวกญิฮัดกลุ่มนี้เป็นผู้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินโคกาลีมาเวีย หรือเมโทรเจ็ต เนื่องจากเครื่องบินอยู่เหนือพื้นดินถึง 35,000 ฟุต (10,668 เมตร) ซึ่งไม่มีอาวุธใดๆ เท่าที่ทราบกันของไอเอสสามารถยิงสู่เป้าหมายเช่นนี้ได้
       
       ประธานาธิบดีอับดุล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ ให้สัมภาษณ์วิทยุโทรทัศน์บีบีซีในวันอังคาร (3พ.ย.) ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของไอเอสที่บอกว่าใช้ขีปนาวุธยิงเครื่องบินโดยสารรัสเซียตก คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 224 ศพ โดยระบุมันเป็นแค่ การโฆษณาชวนเชื่อและต้องใช้เวลาในการหาต้นตอที่แท้จริง
       
       "เรายอมรับว่าข้อมูลนี้อาจก่อความกังวลแก่ผู้ที่อยู่ในชาร์ม เอล-ชีค และผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางไปที่นั่นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" ถ้อยแถลงทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุ "เราได้ส่งเจ้าหน้าที่กงสุลพิเศษไปที่ชาร์ม เอล-ชีคแล้ว เพื่อคอยประจำการที่สนามบิน ประสานงานกับสายการบินต่างๆเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอังกฤษที่นั่น"
       
       ถ้อยแถลงบอกต่อว่าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของอังกฤษได้ถูกส่งไปยังชาร์ม เอล-ชีค เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคง และเที่ยวบินที่มุ่งหน้าจากชาร์ม เอล-ชีคสู่อังกฤษ จะถูกระงับชั่วคราวจนกว่าผลการประเมินเสร็จสิ้น ซึ่งคาดหมายว่าจะเป็นในช่วงค่ำวันพุธ(4พ.ย.)
       
       ทั้งนี้นายคาเมรอน จะเรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีในวันพุธ(4พ.ย.) ด้วย "เราขอย้ำว่านี่เป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน และเรากำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินต่างๆต่อแนวทางนี้" ถ้อยแถลงระบุ
       
       อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ เผยว่าไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงคำแนะนำด้านการบินในแถบคาบสมุทรไซนาย จากคำยืนยันของทำเนียบขาวในวันพุธ(4พ.ย.) หลังมีข้อสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆว่าการตกของเครื่องบินรัสเซีย เป็นไปได้ว่าจะมีพวกหัวรุนแรงเกี่ยวข้อง
       
       ไม่มีสายการบินสหรัฐฯใดที่ปฏิบัติการเป็นปกติในแถบไซนาย หลังทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติอเมริกา (เอฟเอเอ) เคยออกคำแนะนำด้านการบินในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยเตือนให้หลีกเลี่ยงบินในระดับต่ำกว่า 26,000 ฟุต โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่จะถูกเล่นงานโดยพวกหัวรุนแรง

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000123203
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่