เลิกเรียนเลยดีไหม!! ถ้า “เรียนไม่ดีเป็นเจ้านาย เรียนแทบตายเป็นลูกน้อง”

คนที่เป็นเจ้านายอาจจะเคยมีผลการเรียนไม่ดีก็จริง แต่เจ้านายเป็นคนเก่งและขยันมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงปัจจุบัน มาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่า  คนที่เก่งและขยันจะมีผลการเรียนที่ไม่ดีได้ยังไงกัน!
    เรามาย้อนกลับไปที่ห้องเรียนกันเถอะ
    ในห้องเรียนมีนักเรียนอยู่หลายประเภท ซึ่งจะแบ่งให้เข้าใจง่าย ๆ แบบนี้
1.คนที่เก่งและขยัน    
2.คนที่เก่งและขี้เกียจ
3.คนที่ไม่เก่งแต่ขยัน    
4.คนที่ไม่เก่งแล้วยังขี้เกียจ

    ในบทความนี้จะพูดถึงแค่นักเรียนประเภทเดียว คือ คนที่เก่งและขยัน เท่านั้น สำหรับคนกลุ่มอื่น ๆ เมื่อถึงจุดพลิกผันของชีวิตก็มีโอกาสเป็นคนที่เก่งและขยันได้เสมอ (มีผู้เขียนเกี่ยวกับจุดพลิกผันของชีวิตมากมายแล้ว)


    คุณรู้ไหมว่าคนเก่งและขยัน  อาจจะมีผลการเรียนที่ดีหรือผลการเรียนที่ไม่ค่อยดีก็ได้ แล้วคนทั้งเก่งทั้งขยัน
จะมีผลการเรียนที่ไม่ดีได้อย่างไร ที่สำคัญคนกลุ่มนี้แหละเป็นที่มาของคำว่า “เรียนไม่เก่งเป็นนาย เรียนแทบตายเป็นลูกน้อง”
    

    คนเก่งและขยัน ต้องมีผลการเรียนดีเป็นธรรมดา
    คนที่มีผลการเรียนดี คือ คนที่ใช้ความเก่งและความขยันมุ่งมั่นกับการเรียนตามหลักสูตรอย่างเคร่งครัด เป็นคนที่มีวินัยในตนเอง ตั้งใจเรียน ทบทวนบทเรียน และทำการบ้านให้ถูกต้องที่สุดเสมอ
    ลักษณะพิเศษคือ ให้ความสำคัญกับคะแนนเป็นหลัก ทำตามคำสั่งของอาจารย์เพื่อคะแนนและศึกษาเนื้อหาบทเรียนเฉพาะในส่วนที่ต้องสอบเท่านั้นเพื่อทำคะแนนให้ได้มากที่สุด  คนกลุ่มนี้ศึกษาเพื่อให้มีผลการเรียนที่ดี เท่านั้น
    
   ผลการเรียนดี มันไม่ดีตรงไหน!
    หลักสูตรโดยทั่วไป จะสอนวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลาย นั่นหมายความว่าผู้เรียนต้องเรียนทั้งวิชาที่จำเป็นและไม่จำเป็นกับอาชีพไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ต้องเสียเวลาบางส่วนไปกับความรู้ที่ไม่จำเป็น
    รูปแบบการเรียนโดยทั่วไปนั้นฝึกทักษะการเป็นลูกน้องที่ดี  คือ อาจารย์สั่งงาน ผู้เรียนเป็นคนรับคำสั่งไปปฏิบัติ เมื่อทำงานเสร็จก็ส่งให้อาจารย์ตรวจงาน อาจารย์ก็ตัดสินว่าสิ่งที่ทำมาถูกหรือไม่  ถ้าลองเปรียบเทียบกับชีวิตทำงานคือ เจ้านายสั่งงาน ลูกน้องทำงานเสร็จส่งให้เจ้านาย  เจ้านายก็ตัดสินว่าจะนำไปใช้หรือให้แก้ไข  เห็นได้ว่าคล้ายกันมาก
    ผู้เรียนที่ต้องการมีผลการเรียนดี มักจะติดนิสัยรอคำสั่งต่าง ๆ ถึงจะเริ่มลงมือทำและไม่มีความคิดสร้างสรรค์ เพราะถูกฝึกฝนให้อยู่ในขอบเขตของบทเรียนอยู่ตลอดเวลา  แม้ว่าจะมีความรู้ที่กว้างขว้างมาก แต่นำมาใช้กับอาชีพได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น

    
  
และแล้วก็มาถึงจุดสำคัญของเรื่อง!

    คนเก่งและขยัน แต่มีผลการเรียนไม่ดี เกิดขึ้นได้อย่างไร
    คนกลุ่มนี้จะศึกษาแต่เรื่องที่ต้องใช้ในอนาคตเท่านั้นและบางเรื่องที่ศึกษาอาจจะไม่มีในหลักสูตรที่เรียนด้วย เช่น ทักษะภาวะผู้นำ ทักษะการพูดจูงใจ ทักษะการฟัง อ่าน เขียน ในรูปแบบต่าง ๆ การศึกษาและฝึกฝนทักษะที่ไม่จำเป็นต่อการเรียนเหล่านี้ทำให้คนกลุ่มนี้มีผลการเรียนที่ไม่ดีนัก
    ลักษณะพิเศษของคนกลุ่มนี้คือ รู้ตัวเองดีว่าต้องการทำอาชีพอะไร ตำแหน่งอะไร และต้องมีความสามารถด้านไหนบ้าง คนกลุ่มนี้จึงฝึกฝนแต่เรื่องที่จำเป็นเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าผลการเรียนจะเป็นอย่างไร เป็นการศึกษาเพื่อไปสู่อาชีพการงานในอนาคต
        บทสรุป
        เจ้านาย เป็นคนเก่งและขยันมาก แต่ความขยันและความเก่งไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ในใบเกรด เพราะไม่มีวิชาที่สอนเป็นเจ้านายโดยตรง ผลการเรียนเลยออกมาไม่ดี คนเก่งระดับโลกก็มีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือ ต้องใช้ความพยายามมากมาย ทุ่มเทกับเรื่องเฉพาะทาง ถึงจะประสบความสำเร็จได้ เหตุผลที่คนกลุ่มนี้มีผลการเรียนไม่ดี เพราะผลการเรียนไม่สามารถบอกถึงความสามารถทั้งหมดของคนกลุ่มนี้ได้ว่ามีมากมายแค่ไหน

      
       ข้อคิดสำคัญ
       1. อย่าใช้คำเหล่านี้เป็นข้ออ้างในความขี้เกียจของคุณ
           คุณอาจจะมองเห็น คนที่ประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องเรียน มันก็อาจจะจริงที่เขาเหล่านั้นไม่ได้เรียนในระบบ แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่า เขาเรียนนอกระบบหนักแค่ไหน เขาอาจจะต้องศึกษา เรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพของเขาวันละ 16 ชั่วโมง ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขาเลยก็ได้ พูดง่าย ๆ คือ เริ่มศึกษาเมื่อลืมตาตื่น เลิกศึกษาเมื่อหลับตานอน แล้วคิดว่าคุณสามารถ "ทำได้ไหม" ถ้าคุณคิดจะเลิกเรียนในระบบ
       2. จงเลือกทางที่มีความสุข
           การเป็นเจ้านาย ไม่ได้หมายความว่ามีคุณค่ามากกว่าการเป็นลูกน้อง ในโลกของเราจะต้องมีคนที่มาเป็นเจ้านายและลูกน้องคู่กันไปเสมอ โลกจึงจะหมุนต่อไปได้ ดังนั้นคุณจงเลือกทางที่เหมาะสมกับตัวคุณ เลือกในสิ่งที่คุณเป็นแล้วมีความสุข


ขอขอบคุณท่านผู้อ่าน
อมยิ้ม03แบ่งปันทัศนคติ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่