หนีเที่ยวทะเลมาอีกแล้วค่ะ รอบนี้ไปทะเลอ่าวไทยที่เกาะช้าง จังหวัดตราดมาค่ะ ไป 4 วัน 3 คืน ช่วงวันที่ 25 -28 ตุลาคม 2558 ที่พักแรกเราเลือกไปพักที่ครัวแสงอรุณ รีสอร์ท 1 คืน ไหนๆ ไปทั้งทีก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศ Home Stay แบบชาวบ้านบ้าง เราจะข้ามการเล่าเรื่องวิธีการเดินทางไปเกาะช้างนะค่ะ เพราะสามารถหาข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ต (มีคนใจดีเขารีวิววิธีการเดินทางไว้เยอะแล้ว) เราเลือกซื้อตั๋วรถขากลับ +ตั๋วเรือแบบไป-กลับ ไว้เลย เพื่อความสะดวก พอข้ามฝั่งมาถึงอ่าวสัปปะรด ปรากฏว่าคิวรถสองแถว หรือรถแท๊กซี่ที่จะไปด้านสลักเพชรออกไปแล้วค่ะ เรามาถึงช้าไป จ๋อย !! เพิ่ง 11.30 เอง เขาบอกว่าฝั่งสลักเพชร มีรถวิ่งแค่วันละ 3 รอบค่ะ คือ รอบ 9.00 / 11.00 และ 15.00 น. (พวกคิวรถตรงนั้นบอกว่าถ้าเหมาเขาไปครัวแสงอรุณ รีสอร์ท คิด 1,000 บาทจ้า เอิ่ม....กะโขกเรา 2 สองเลย)  ทำไงละ เราลองติดต่อที่พักให้เขามารับที่ท่าเรืออ่าวสัปปะรดสิค่ะ เจ้าของที่พักคิด 500 บาทค่ะ ก็ยังดีอะนะ เพราะขี้เกียจรอรถรอบบ่ายสาม

ขอขอบคุณแผนที่จาก http://www.sangaruntour.com จากแผนที่จะเห็นได้ว่าที่พักตั้งอยู่ไกลมากจากท่าเรือ ซึ่งพอลองนั่งรถไปจริงๆ แล้วไกลจริงค่ะ จากท่าเรือไปที่พักเกือบ 50-60 โลได้ ให้เขาไปเถอะ 500 บาท เพราะรถที่นี้เขาไม่ใช้แก็ส เพราะไม่มีปั๊มแก็ส วิ่งโดยน้ำมันล้วนๆ ซึ่งน้ำมันบนเกาะก็แพงมาก

บริเวณที่พักก็เป็นแบบนี้ค่ะ แต่ทางเข้าหน้าบ้านจะออกโบราณ วินเทจเป็นบ้านไม้ชาวประมงสมัยก่อนหน่อย (ไม่ได้ถ่ายมาให้ชมอะนะ)

เราไปเที่ยวสวนกระแสช่วงคนกลับหมดแล้ว เราเลยได้ห้อง A1 นอนชมวิวได้รอบทิศ ฟินไปเลย (Sea View จริงๆ มีแต่น้ำทะเล และเกาะเล็ก เกาะน้อย)

มองออกไปทางหน้าต่างห้องพักจะเห็นวิวสวยๆ แบบนี้


ที่พักไม่ใหญ่มาก แบบบ้านๆ แต่แอร์เย็นสะใจมากขอบอก

คืนละแค่ 500 บาท เราว่าก็โอเคละ แถมตอนเราไปเจ้าของใจดีบอกว่าจะเช็ดเอาท์ตอนไหนก๋ได้ ^0^



บริเวณที่พักมีกระชังปลาเลี้ยงไว้ดูเล่นหลายกระชังเลย

เป็นร้านอาหารในตัว (ใครสนใจมากพักแถวสลักเพชรควรเตรียมเสบียงมาให้พร้อมนะ เพราะแถวด้านนี้ไม่มีร้านขายของชำ ไม่มีเซเว่นคอยอำนวยความสะดวก)


มีกะปิทำเองขายด้วย กระปุกใหญ่ 100 กระปุกเล็ก 50 บาท

ทำกันสดๆ อัดใส่ถังวางไว้หน้าบ้านเลย (เขาบอกว่ากะปิสีดำคือกะปิเก่า กะปิสีม่วงอ่อน คือเพิ่งอัดใหม่)



ข้าวผัดก็พอทานได้ ไม่ได้อร่อยเวอร์วัง

หมึกแดดเดียวจานนี้อร่อยดี ราคาไม่แรงเกินไป

ต้มยำทะเล ผิดหวังอย่างแรง เนื้อปลาไม่มีใส่ลูกชิ้นปลามาแทน ส่วนปลาหมึกกลับกลายเป็นปลาหมึกเกาหลีแบบในโลตัสที่ชิ้นใหญ่ๆ เราไม่ปลื้มเลย


เย็นๆ ก็ไปเที่ยวแถวท่าเรือสลักเพชร (เจ้าของที่พักแนะนำมา แถมให้ยืมมอไซต์มาแว๊นเล่นอีกด้วย น่ารักที่สุด) แถวนี้คนที่นั่นนิยมมาเดิน มาวิ่งออกกำลังกายกัน

บ้านด้านหลังคือพวกที่เขาทำเป็นโฮมเสตย์กันนะจ๊ะ


แดดย้อนแสงมาก นี่คือมอไซต์ที่เจ้าของที่พักให้ยืมมา โชว์ของให้ซะหน่อย






ชอบภาพนี้มาก ดูแล้วแถวสลักเพชรนี้เป็นมุมที่เงียบสงบดีจัง น้ำนิ่ง สะท้อนเงาชัดเจนแจ่มแจ๋วเลย

เช้ามาคุณแฟนก็ออกไปสำรวจบ้านชาวบ้านแถวนั้น

วิวสวยดีค่ะแถวนี้