จากที่นี่ครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446456175
เพราะยิ่งอธิบายยิ่งเลอะเทอะ ยิ่งอธิบายยิ่งเห็นถึงความไม่เข้าใจหลักการของการโหวด และยิ่งอธิบายยิ่งทำให้ผมรู้แล้วว่า ทำไมคุณมีชัยเขียนรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ จึงต้องถูกฉีกไปเกือบทุกฉบับแบบนั้น
คุณมีชัยครับ แค่คุณมีชัยนำเรื่องการเลือกตัวแทน การเลือกผู้นำไปเปรียบเทียบกับการเลือกอาหารของครอบครัว ก็เป็นความเข้าใจที่ไม่เข้าใจในหลักการ ไม่เข้าใจถึงข้อตกลง และก็ไม่เคยเห็นความสำคัญของกติกาแล้วล่ะครับ
คุณมีชัยครับ การกินอาหารในครอบครัว เขาจะไม่ใช้วิธีการโหวตแบบนั้นหรอกครับ ก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนไป แต่ตราบใดที่วันหนึ่ง ต้องการกินอาหารพิเศษสักเมนู นั่นแหละครับ พวกเขาจึงจะโหวตกัน และก็ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมากด้วย ส่วนเสียงข้างน้อยเมื่อแพ้ตามข้อตกลง ก็มีทางเดียวครับ ออกมาหากินของที่ชอบ เพื่อเคารพการตัดสินใจของเสียงข้างมาก ครอบครัวจึงจะไม่มีปัญหาความขัดแย้ง
ส่วนการเลือกผู้นำประเทศ การเลือกตัวแทนเข้าไปทำงานแทนเรานั้น มันย่อมต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่เป็นตัวกำหนด เป็นกติกาที่ทั่วโลกเขาใช้กัน และก็เป็นประชาธิปไตยที่สร้างขึ้น เพื่อลดความขัดแย้งในเรื่องความคิดเห็นต่างภายในประเทศ
ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้นั้น ไม่ใช่ขึ้นกับกติกาอะไรทั้งสิ้นหรอกนะครับ มันขึ้นอยู่กับการเคารพกติกาต่างหากครับ อย่ามาอ้างเรื่องกติกาใหม่เลยนะครับ เพราะถ้าบางฝ่ายไม่ยอมรับ ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไรกันล่ะครับ
ผมจะยกตัวอย่างให้นะครับ อย่างการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา เสียงของคนที่ไม่ต้องการผู้ว่าฯคนนี้มีกันล้านกว่าเสียงเชียวนะครับ แต่เมื่อแพ้เสียงส่วนใหญ่ ก็ต้องยอมรับกติกา ปล่อยให้ผู้ว่าฯบริหารให้เต็มที่ แม้ผลงานจะไม่เป็นสับปะรด แต่เสียงที่พ่ายแพ้ก็ต้องทนให้หมดวาระ เพื่อรอโอกาสโหวตใหม่ ต่อให้เลือกตั้งครั้งหน้า ยังคงพ่ายแพ้ ก็ต้องยอมรับเสียงของประชาชน นี่ต่างหากครับจึงจะไม่สร้างปัญหา จึงจะไม่สร้างความขัดแย้ง
ไม่ใช่พ่ายแพ้แล้วปลุกระดมมวลชนล้านกว่าเสียงที่ไม่เห็นด้วย มาก่อกวน มาสร้างความวุ่นวาย โดยไม่สนใจกติกา เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับคุณมีชัย ปัญหาไม่มีทางจบหรอกครับ
ถ้าคำนึงถึงเสียงข้างน้อยมีความหมาย นั่นหมายถึงคะแนนล้านกว่าเสียงที่ไม่ต้องการผู้ว่าฯคนนี้ กลายเป็นคะแนนที่ทิ้งไป แล้วคุณมีชัยจะมีวิธีไหน อย่างไรที่จะให้คะแนนเสียงนี้ไม่ไร้ค่า พอเห็นหรือยังครับคุณมีชัย การเลือกตั้งในทุกเรื่อง ย่อมต้องมีเสียงส่วนใหญ่กับเสียงข้างน้อย แล้วคุณมีชัยจะแก้ปัญหาเรื่องเสียงข้างน้อยทั้งหลายแหล่ไม่สูญเปล่าได้อย่างไรกันครับ
แล้วการโหวตนายกฯในสภาล่ะครับ คุณมีชัยจะเอาเสียงข้างน้อยที่ไม่ต้องนายกฯคนนี้ไปทิ้งที่ไหนหรือครับ ทั้งๆที่เสียงข้างน้อยในสภา อาจเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศก็เป็นได้ แต่ด้วยกติกาติงต๊อง ก็เลยกลายเป็นเสียงข้างน้อยในสภาซะงั้น
แต่ถ้าคุณมีชัยมองแค่การเลือกตั้งเพียงมิติเดียว นั่นก็คงห้ามคนสงสัยไม่ได้หรอกครับว่า เป็นไปตามแผน เป็นไปตามความต้องการ ที่จะให้พรรคที่ครองใจประชาชนมากที่สุด ไม่สามารถชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอีก ซึ่งสอดคล้องกับการถอดถอนก่อนหน้านี้ สอดคล้องกับการปลุกระดมให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่า ไม่ต้องการ “เสียของ”เหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นการปฏิรูปการเมืองอันสวยหรูนั้น จึงเป็นเพียงวาทกรรมที่จะสร้างกติกาอย่างไรไม่ให้ผู้ชนะสามารถชนะได้อีก แล้วเปิดโอกาสให้ผู้แพ้มีโอกาสชนะ และถ้าไม่เป็นไปตามแผน ก็ยังมีองค์กรอิสระต่างๆ คอยขัดขวางการทำงาน แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไรกันครับ
เห็นหรือยังครับคุณมีชัย มันไม่ได้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของเสียงส่วนใหญ่เลย แต่เป็นเจตนารมณ์เช่นไรผมไม่รู้ นอกจากบอกคุณมีชัยว่า กรรมมันส่อเจตนา นะครับ
โดยเฉพาะเรื่องที่คุณมีชัยนำมาอ้างสำหรับกติกาใหม่นั้น มีเรื่องคนภาคใดหรือจังหวัดใด ถ้าไม่เลือกพรรคของตนจะไม่จัดสรรงบประมาณไปให้ นี่ยิ่งทำให้ผมผิดหวังในตัวคุณมีชัยมากขึ้นกว่าเดิมเลยครับ ไม่อยากเชื่อว่า การร่างรัฐธรรมนูญเพื่อใช้กับคนทั้งประเทศ คุณมีชัยอาศัยคำพูดของคนๆหนึ่ง มาเป็นปัจจัยในการบรรจุเข้าในรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่เป็นเพียงคำที่พลั้งปากออกไป เพราะความผิดหวังเท่านั้นเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับการพลั้งปากพูดเรื่องการปิดประเทศหรอกนะครับคุณมีชัย
ข้อสำคัญนะครับคุณมีชัย ถ้าคุณมีชัยหมายถึงการพูดของคุณทักษิณในวันนั้นล่ะก้อ คุณมีชัยอาจไม่ได้ต้องการบิดเบือน แต่คงจะได้ข้อมูลผิดๆเฉกเช่นเดียวกับพวกสลิ่มทั้งหลาย เพราะที่คุณทักษิณพูดในวันนั้น จะจัดสรรงบให้กับจังหวัดที่เลือกก่อน ไม่ใช่ไม่จัดสรรนะครับ และต้องดูด้วยว่า คุณทักษิณทำอย่างที่พูดหรือเปล่า นี่ต่างหากครับที่คุณมีชัยจะต้องรับรู้
สุดท้ายอยากฝากคุณมีชัยว่า การเลือกตั้งนั้น เสียงข้างน้อยไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ แต่จะเป็นการแสดงให้เสียงข้างมาก ต้องขยันทำงานมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อรักษาความเป็นเสียงข้างมากต่อไป
ฝ่ายพรรคที่ได้เสียงข้างน้อย ก็ต้องหมั่นทำการบ้าน เพื่อรักษาฐานเสียงที่มีอยู่ และยังต้องพยายามสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ต้องตาต้องใจประชาชน เพื่อจะได้กลับกลายเป็นเสียงข้างมากในอนาคต
ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ อย่างไรเสียก็มีคะแนนมาคำนวณเป็น ส.ส.สัดส่วนอยู่ดี มันก็จะกลายเป็นรัฐบาลแบบจัดสรรปันส่วน นั่นหมายความว่า การโหวตนายกฯคงจะวุ่นวายมหัศจรรย์พันลึก จนสุดท้ายก็จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายกฯคนนอกเป็นคำตอบสุดท้าย ต้องการอย่างนี้หรือเปล่าครับคุณมีชัย
คุณมีชัยครับ ผมว่าอย่าอธิบายเลยดีกว่านะครับ---------------ทวดเอง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446456175
เพราะยิ่งอธิบายยิ่งเลอะเทอะ ยิ่งอธิบายยิ่งเห็นถึงความไม่เข้าใจหลักการของการโหวด และยิ่งอธิบายยิ่งทำให้ผมรู้แล้วว่า ทำไมคุณมีชัยเขียนรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ จึงต้องถูกฉีกไปเกือบทุกฉบับแบบนั้น
คุณมีชัยครับ แค่คุณมีชัยนำเรื่องการเลือกตัวแทน การเลือกผู้นำไปเปรียบเทียบกับการเลือกอาหารของครอบครัว ก็เป็นความเข้าใจที่ไม่เข้าใจในหลักการ ไม่เข้าใจถึงข้อตกลง และก็ไม่เคยเห็นความสำคัญของกติกาแล้วล่ะครับ
คุณมีชัยครับ การกินอาหารในครอบครัว เขาจะไม่ใช้วิธีการโหวตแบบนั้นหรอกครับ ก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนไป แต่ตราบใดที่วันหนึ่ง ต้องการกินอาหารพิเศษสักเมนู นั่นแหละครับ พวกเขาจึงจะโหวตกัน และก็ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมากด้วย ส่วนเสียงข้างน้อยเมื่อแพ้ตามข้อตกลง ก็มีทางเดียวครับ ออกมาหากินของที่ชอบ เพื่อเคารพการตัดสินใจของเสียงข้างมาก ครอบครัวจึงจะไม่มีปัญหาความขัดแย้ง
ส่วนการเลือกผู้นำประเทศ การเลือกตัวแทนเข้าไปทำงานแทนเรานั้น มันย่อมต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่เป็นตัวกำหนด เป็นกติกาที่ทั่วโลกเขาใช้กัน และก็เป็นประชาธิปไตยที่สร้างขึ้น เพื่อลดความขัดแย้งในเรื่องความคิดเห็นต่างภายในประเทศ
ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้นั้น ไม่ใช่ขึ้นกับกติกาอะไรทั้งสิ้นหรอกนะครับ มันขึ้นอยู่กับการเคารพกติกาต่างหากครับ อย่ามาอ้างเรื่องกติกาใหม่เลยนะครับ เพราะถ้าบางฝ่ายไม่ยอมรับ ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไรกันล่ะครับ
ผมจะยกตัวอย่างให้นะครับ อย่างการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา เสียงของคนที่ไม่ต้องการผู้ว่าฯคนนี้มีกันล้านกว่าเสียงเชียวนะครับ แต่เมื่อแพ้เสียงส่วนใหญ่ ก็ต้องยอมรับกติกา ปล่อยให้ผู้ว่าฯบริหารให้เต็มที่ แม้ผลงานจะไม่เป็นสับปะรด แต่เสียงที่พ่ายแพ้ก็ต้องทนให้หมดวาระ เพื่อรอโอกาสโหวตใหม่ ต่อให้เลือกตั้งครั้งหน้า ยังคงพ่ายแพ้ ก็ต้องยอมรับเสียงของประชาชน นี่ต่างหากครับจึงจะไม่สร้างปัญหา จึงจะไม่สร้างความขัดแย้ง
ไม่ใช่พ่ายแพ้แล้วปลุกระดมมวลชนล้านกว่าเสียงที่ไม่เห็นด้วย มาก่อกวน มาสร้างความวุ่นวาย โดยไม่สนใจกติกา เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับคุณมีชัย ปัญหาไม่มีทางจบหรอกครับ
ถ้าคำนึงถึงเสียงข้างน้อยมีความหมาย นั่นหมายถึงคะแนนล้านกว่าเสียงที่ไม่ต้องการผู้ว่าฯคนนี้ กลายเป็นคะแนนที่ทิ้งไป แล้วคุณมีชัยจะมีวิธีไหน อย่างไรที่จะให้คะแนนเสียงนี้ไม่ไร้ค่า พอเห็นหรือยังครับคุณมีชัย การเลือกตั้งในทุกเรื่อง ย่อมต้องมีเสียงส่วนใหญ่กับเสียงข้างน้อย แล้วคุณมีชัยจะแก้ปัญหาเรื่องเสียงข้างน้อยทั้งหลายแหล่ไม่สูญเปล่าได้อย่างไรกันครับ
แล้วการโหวตนายกฯในสภาล่ะครับ คุณมีชัยจะเอาเสียงข้างน้อยที่ไม่ต้องนายกฯคนนี้ไปทิ้งที่ไหนหรือครับ ทั้งๆที่เสียงข้างน้อยในสภา อาจเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศก็เป็นได้ แต่ด้วยกติกาติงต๊อง ก็เลยกลายเป็นเสียงข้างน้อยในสภาซะงั้น
แต่ถ้าคุณมีชัยมองแค่การเลือกตั้งเพียงมิติเดียว นั่นก็คงห้ามคนสงสัยไม่ได้หรอกครับว่า เป็นไปตามแผน เป็นไปตามความต้องการ ที่จะให้พรรคที่ครองใจประชาชนมากที่สุด ไม่สามารถชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอีก ซึ่งสอดคล้องกับการถอดถอนก่อนหน้านี้ สอดคล้องกับการปลุกระดมให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่า ไม่ต้องการ “เสียของ”เหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นการปฏิรูปการเมืองอันสวยหรูนั้น จึงเป็นเพียงวาทกรรมที่จะสร้างกติกาอย่างไรไม่ให้ผู้ชนะสามารถชนะได้อีก แล้วเปิดโอกาสให้ผู้แพ้มีโอกาสชนะ และถ้าไม่เป็นไปตามแผน ก็ยังมีองค์กรอิสระต่างๆ คอยขัดขวางการทำงาน แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไรกันครับ
เห็นหรือยังครับคุณมีชัย มันไม่ได้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของเสียงส่วนใหญ่เลย แต่เป็นเจตนารมณ์เช่นไรผมไม่รู้ นอกจากบอกคุณมีชัยว่า กรรมมันส่อเจตนา นะครับ
โดยเฉพาะเรื่องที่คุณมีชัยนำมาอ้างสำหรับกติกาใหม่นั้น มีเรื่องคนภาคใดหรือจังหวัดใด ถ้าไม่เลือกพรรคของตนจะไม่จัดสรรงบประมาณไปให้ นี่ยิ่งทำให้ผมผิดหวังในตัวคุณมีชัยมากขึ้นกว่าเดิมเลยครับ ไม่อยากเชื่อว่า การร่างรัฐธรรมนูญเพื่อใช้กับคนทั้งประเทศ คุณมีชัยอาศัยคำพูดของคนๆหนึ่ง มาเป็นปัจจัยในการบรรจุเข้าในรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่เป็นเพียงคำที่พลั้งปากออกไป เพราะความผิดหวังเท่านั้นเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับการพลั้งปากพูดเรื่องการปิดประเทศหรอกนะครับคุณมีชัย
ข้อสำคัญนะครับคุณมีชัย ถ้าคุณมีชัยหมายถึงการพูดของคุณทักษิณในวันนั้นล่ะก้อ คุณมีชัยอาจไม่ได้ต้องการบิดเบือน แต่คงจะได้ข้อมูลผิดๆเฉกเช่นเดียวกับพวกสลิ่มทั้งหลาย เพราะที่คุณทักษิณพูดในวันนั้น จะจัดสรรงบให้กับจังหวัดที่เลือกก่อน ไม่ใช่ไม่จัดสรรนะครับ และต้องดูด้วยว่า คุณทักษิณทำอย่างที่พูดหรือเปล่า นี่ต่างหากครับที่คุณมีชัยจะต้องรับรู้
สุดท้ายอยากฝากคุณมีชัยว่า การเลือกตั้งนั้น เสียงข้างน้อยไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ แต่จะเป็นการแสดงให้เสียงข้างมาก ต้องขยันทำงานมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อรักษาความเป็นเสียงข้างมากต่อไป
ฝ่ายพรรคที่ได้เสียงข้างน้อย ก็ต้องหมั่นทำการบ้าน เพื่อรักษาฐานเสียงที่มีอยู่ และยังต้องพยายามสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ต้องตาต้องใจประชาชน เพื่อจะได้กลับกลายเป็นเสียงข้างมากในอนาคต
ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ อย่างไรเสียก็มีคะแนนมาคำนวณเป็น ส.ส.สัดส่วนอยู่ดี มันก็จะกลายเป็นรัฐบาลแบบจัดสรรปันส่วน นั่นหมายความว่า การโหวตนายกฯคงจะวุ่นวายมหัศจรรย์พันลึก จนสุดท้ายก็จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายกฯคนนอกเป็นคำตอบสุดท้าย ต้องการอย่างนี้หรือเปล่าครับคุณมีชัย