AOT เป็นธุรกิจผูกขาดในแบบที่ Warren Buffets ชื่นชอบเลยครับ ลองคิดดูง่ายๆ ว่าสนามบินที่ AOT ครอบครองอยู่มี 6 ที่ เช่น สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เรียกได้ว่ายึดหัวหาด พื้นที่สำคัญในประเทศเกือบหมดแล้ว แล้วพื้นที่เหล่านี้การจะมีคนมาตั้งสนามบินแข่งเรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนวิธีการจัดเก็บรายได้คือค่าธรรมเนียม กับค่าเช่าพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งรายได้พวกนี้สามารถปรับขึ้นได้ตามสถานการณ์อยู่แล้ว ประกอบกับทรัพย์สินพวกที่ดิน และอาคาร รวมแล้วหลักแสนล้านบาท
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ AOT นั้นเปรียบเสมือนผูกอยู่กับการท่องเที่ยว เพราะท่องเที่ยวเป็นหนึ่งใน Engine หลักในการหารายได้เข้าประเทศไทย AOT จึงเปรียบเหมือนด่านสำคัญที่ไทยจะต้องดูแลให้ดีครับ
ประเด็นสำคัญในเรื่องของการเติบโตกำไรเราจะดูได้จากไหนว่า ราคาหุ้นซึ่งควรจะไปในแนวทางเดียวกับกำไร เรื่องแรกที่มองได้ง่ายที่สุดคือ จากงบการเงินปี 57 ครับ
“จากการที่ ทอท.มีโครงการส่งเสริมและจูงใจสายการบินต้นทุนต่า (LCCs) และสายการบินที่ไม่มีการเชื่อมต่อ (Point to Point) ที่ย้ายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มาใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) (ระยะที่ 2) มีกาหนดระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2558 โดยให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามที่กาหนดไว้ในโครงการ เช่น ค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยาน ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน ค่าใช้บริการ สะพานเทียบเครื่องบิน และค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น ในปีแรก ร้อยละ 30 ปีที่สอง ร้อยละ 20 และปีที่สาม ร้อยละ 10 ตามลาดับ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึง 30 กันยายน 2557 อัตราส่วนลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวจึงเปลี่ยนจาก ร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 20”
สรุปง่ายๆ คือ AOT มีการจัดโปรโมชั่นให้สายการบิน Low Cost โดยส่วนลดจะลดลงทุกปี ปีละ 10% พูดง่ายๆ คือรายได้เติบโตทุกปีแน่นอน แต่เท่าไหร่นั้นต้องดูสัดส่วน Low Cost ว่าเป็นรายได้เท่าไหร่ของยอดทั้งหมด ตรงนี้ผมหาข้อมูลไม่ได้จริงๆ แต่โปรจะหมดปลายปีนี้ ซึ่งหมายความว่ารายได้ควรจะเพิ่มจากส่วนของ Low Cost มาอีก 10% แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีการออกโปรกระตุ้นการท่องเที่ยวมาอีกหรือเปล่าต้องรอดูกันครับ แต่ถ้ามีการจัดโปร รายได้อาจจะลดลง
มาดูอีกจุดหนึ่งคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับได้จากงบการเงินเช่นเคย
* อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแบ่งเป็นอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคารเทียบเครื่องบินมีพื้นที่ รวม 563,000 ตารางเมตร มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี
ข้อมูลปี 57 รองรับผู้โดยสาร 46,497,257 คน ปี 56 นั้น over ไปถึง 50,900,697 คน
โดย AOT ก็มีแผนรองรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ปีงบประมาณ2554-2560)
โดยจะสามารถรองรับได้ 60 ล้านคน เรียกว่าเพิ่มปริมาณรองรับได้ 20% ซึ่งถ้าหากเพิ่มตรงนี้ได้ รายได้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามๆ กันครับ
ความเสี่ยง ICAO
สำหรับคนที่กังวล ICAO เรื่องชักธงแดงประเทศไทย ครับ อันนี้จากรายงานล่าสุด Q3 ก็พบว่า ICAO ไม่เห็นชอบกับแผนของการบินพลเรือน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับปริมาณเที่ยวบินของ AOT กลับเพิ่มขึ้นอีกโดยสิ้นสุดเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นถึง 19.27% คือไม่กระทบ กิจการกลับดีขึ้นเสียอีก ดังนั้นในช่วงที่มีข่าวกระทบหุ้นติดลบไปค่อนข้างมากนั้น เป็นช่วงที่ถ้าเรามั่นใจในกิจการเข้าซื้อได้ ถือว่าเป็น Fallen Angel เลยทีเดียวครับ
มาแวะดูฐานะการเงินก่อนจบครับ แข็งแกร่งไร้เทียมทานมาก ๆ
สินทรัพย์หมุนเวียนมีมากถึง 47,355 ล้านบาท ในขณะที่ หนี้สินหมุนเวียนมีเพียง 18,508 ล้านบาท (งบปี 57)
หลายท่านอาจจะยังกังวลว่า ทรัพย์สินหมุนเวียนเป็นเงินลงทุนชั่วคราว ถึง 36,153 ล้านบาท มันจะเป็นไรหรือไม่ ขอให้ดูรูปนี้ครับ
เป็นเงินฝากประจำเกือบหมดครับ ขอให้วางใจได้ อีกข้อคือหนี้ที่ต้องชำระภายใน 1 ปีมีเพียง 3,959 ล้านบาท ในขณะเงินสดมีอยู่ เจ็ดพันกว่าล้าน เรียกว่า สบาย~
แถมท้ายกับรูปนี้ครับ
จะเห็นว่าราคาตกไปร่วม 10% ในช่วงสั้นๆ ตกไปต่ำสุดถึง 252.00 ผมจำไม่ได้ละ แต่เหมือนจะเป็นข่าว ICAO ถ้าใครที่ทันช่วงนั้นก็พบว่าราคา recover กลับมาเป็นที่เรียบร้อยหลังงบ Q3 ออกครับ ถือว่าในช่วงนั้นเป็น Wonderful Business at fair price ครับ
My Take
AOT ถือว่าเป็นธุรกิจที่รายได้สม่ำเสมอ และเติบโตแน่นอน เป็นธุรกิจที่มี Competitive Advantage สูงมาก เรียกได้ว่าผูกขาดเลยทีเดียว ฐานะทางการเงินถือว่าแข็งแกร่งสุด ๆ ประกอบกับสินทรัพย์จำนวนมหาศาลซึ่งสร้างรายได้ให้มหาศาลแน่นอน แต่อย่างที่บอกครับในราคาปัจจุบันกับปันผล 1% กว่าๆ ถือว่าอาจจะน้อยกว่าเงินฝาก แต่มี upside ดังนั้นคำแนะนำของผมคือ ซื้อเมื่อราคาลง และสามารถถือยาวไปได้เพราะรายได้มีการเติบโต เป็นหุ้นมั่นคงสไตล์ defensive ครับผม
ปล. อ่านงบจบผมอยากไปทำงานการท่าเลยทีเดียวครับ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
อ้างอิง:
http://www.finmoment.com/เจาะลึก-aot-super-stock/
ไปอ่านหุ้นตัวอื่นๆ ได้ที่
http://www.finmoment.com
เจาะลึก AOT SUPER STOCK!
AOT เป็นธุรกิจผูกขาดในแบบที่ Warren Buffets ชื่นชอบเลยครับ ลองคิดดูง่ายๆ ว่าสนามบินที่ AOT ครอบครองอยู่มี 6 ที่ เช่น สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เรียกได้ว่ายึดหัวหาด พื้นที่สำคัญในประเทศเกือบหมดแล้ว แล้วพื้นที่เหล่านี้การจะมีคนมาตั้งสนามบินแข่งเรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนวิธีการจัดเก็บรายได้คือค่าธรรมเนียม กับค่าเช่าพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งรายได้พวกนี้สามารถปรับขึ้นได้ตามสถานการณ์อยู่แล้ว ประกอบกับทรัพย์สินพวกที่ดิน และอาคาร รวมแล้วหลักแสนล้านบาท
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ AOT นั้นเปรียบเสมือนผูกอยู่กับการท่องเที่ยว เพราะท่องเที่ยวเป็นหนึ่งใน Engine หลักในการหารายได้เข้าประเทศไทย AOT จึงเปรียบเหมือนด่านสำคัญที่ไทยจะต้องดูแลให้ดีครับ
ประเด็นสำคัญในเรื่องของการเติบโตกำไรเราจะดูได้จากไหนว่า ราคาหุ้นซึ่งควรจะไปในแนวทางเดียวกับกำไร เรื่องแรกที่มองได้ง่ายที่สุดคือ จากงบการเงินปี 57 ครับ
“จากการที่ ทอท.มีโครงการส่งเสริมและจูงใจสายการบินต้นทุนต่า (LCCs) และสายการบินที่ไม่มีการเชื่อมต่อ (Point to Point) ที่ย้ายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มาใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) (ระยะที่ 2) มีกาหนดระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2558 โดยให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามที่กาหนดไว้ในโครงการ เช่น ค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยาน ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน ค่าใช้บริการ สะพานเทียบเครื่องบิน และค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น ในปีแรก ร้อยละ 30 ปีที่สอง ร้อยละ 20 และปีที่สาม ร้อยละ 10 ตามลาดับ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึง 30 กันยายน 2557 อัตราส่วนลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวจึงเปลี่ยนจาก ร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 20”
สรุปง่ายๆ คือ AOT มีการจัดโปรโมชั่นให้สายการบิน Low Cost โดยส่วนลดจะลดลงทุกปี ปีละ 10% พูดง่ายๆ คือรายได้เติบโตทุกปีแน่นอน แต่เท่าไหร่นั้นต้องดูสัดส่วน Low Cost ว่าเป็นรายได้เท่าไหร่ของยอดทั้งหมด ตรงนี้ผมหาข้อมูลไม่ได้จริงๆ แต่โปรจะหมดปลายปีนี้ ซึ่งหมายความว่ารายได้ควรจะเพิ่มจากส่วนของ Low Cost มาอีก 10% แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีการออกโปรกระตุ้นการท่องเที่ยวมาอีกหรือเปล่าต้องรอดูกันครับ แต่ถ้ามีการจัดโปร รายได้อาจจะลดลง
มาดูอีกจุดหนึ่งคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับได้จากงบการเงินเช่นเคย
* อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแบ่งเป็นอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคารเทียบเครื่องบินมีพื้นที่ รวม 563,000 ตารางเมตร มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี
ข้อมูลปี 57 รองรับผู้โดยสาร 46,497,257 คน ปี 56 นั้น over ไปถึง 50,900,697 คน
โดย AOT ก็มีแผนรองรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ปีงบประมาณ2554-2560)
โดยจะสามารถรองรับได้ 60 ล้านคน เรียกว่าเพิ่มปริมาณรองรับได้ 20% ซึ่งถ้าหากเพิ่มตรงนี้ได้ รายได้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามๆ กันครับ
ความเสี่ยง ICAO
สำหรับคนที่กังวล ICAO เรื่องชักธงแดงประเทศไทย ครับ อันนี้จากรายงานล่าสุด Q3 ก็พบว่า ICAO ไม่เห็นชอบกับแผนของการบินพลเรือน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับปริมาณเที่ยวบินของ AOT กลับเพิ่มขึ้นอีกโดยสิ้นสุดเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นถึง 19.27% คือไม่กระทบ กิจการกลับดีขึ้นเสียอีก ดังนั้นในช่วงที่มีข่าวกระทบหุ้นติดลบไปค่อนข้างมากนั้น เป็นช่วงที่ถ้าเรามั่นใจในกิจการเข้าซื้อได้ ถือว่าเป็น Fallen Angel เลยทีเดียวครับ
มาแวะดูฐานะการเงินก่อนจบครับ แข็งแกร่งไร้เทียมทานมาก ๆ
สินทรัพย์หมุนเวียนมีมากถึง 47,355 ล้านบาท ในขณะที่ หนี้สินหมุนเวียนมีเพียง 18,508 ล้านบาท (งบปี 57)
หลายท่านอาจจะยังกังวลว่า ทรัพย์สินหมุนเวียนเป็นเงินลงทุนชั่วคราว ถึง 36,153 ล้านบาท มันจะเป็นไรหรือไม่ ขอให้ดูรูปนี้ครับ
เป็นเงินฝากประจำเกือบหมดครับ ขอให้วางใจได้ อีกข้อคือหนี้ที่ต้องชำระภายใน 1 ปีมีเพียง 3,959 ล้านบาท ในขณะเงินสดมีอยู่ เจ็ดพันกว่าล้าน เรียกว่า สบาย~
แถมท้ายกับรูปนี้ครับ
จะเห็นว่าราคาตกไปร่วม 10% ในช่วงสั้นๆ ตกไปต่ำสุดถึง 252.00 ผมจำไม่ได้ละ แต่เหมือนจะเป็นข่าว ICAO ถ้าใครที่ทันช่วงนั้นก็พบว่าราคา recover กลับมาเป็นที่เรียบร้อยหลังงบ Q3 ออกครับ ถือว่าในช่วงนั้นเป็น Wonderful Business at fair price ครับ
My Take
AOT ถือว่าเป็นธุรกิจที่รายได้สม่ำเสมอ และเติบโตแน่นอน เป็นธุรกิจที่มี Competitive Advantage สูงมาก เรียกได้ว่าผูกขาดเลยทีเดียว ฐานะทางการเงินถือว่าแข็งแกร่งสุด ๆ ประกอบกับสินทรัพย์จำนวนมหาศาลซึ่งสร้างรายได้ให้มหาศาลแน่นอน แต่อย่างที่บอกครับในราคาปัจจุบันกับปันผล 1% กว่าๆ ถือว่าอาจจะน้อยกว่าเงินฝาก แต่มี upside ดังนั้นคำแนะนำของผมคือ ซื้อเมื่อราคาลง และสามารถถือยาวไปได้เพราะรายได้มีการเติบโต เป็นหุ้นมั่นคงสไตล์ defensive ครับผม
ปล. อ่านงบจบผมอยากไปทำงานการท่าเลยทีเดียวครับ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
อ้างอิง:
http://www.finmoment.com/เจาะลึก-aot-super-stock/
ไปอ่านหุ้นตัวอื่นๆ ได้ที่
http://www.finmoment.com