ประสบการณ์เจาะไขกระดูกที่ รพ.ราชวิถี กับเด็กอายุ 21 ปีที่กลัวเข็ม และเลือดตัวเอง

#ไม่ได้ยืมล็อกอินใครมาน่ะ

#ขอโทษด้วยครับที่ใช้คำว่าเด็ก

เมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว จขกท. ได้แอดมินเข้า รพ. ด้วยไข้เลือดออกครับ นี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผมได้เผชิญกับโรคระบาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่ได้แอดมิดที่ รพ. ครับ และด้วยความที่ว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วอาการจึงดีขึ้นเร็วมากอย่างน่าตกใจ แต่คุณหมอก็ยังให้นอน รพ. ต่อเพราะ CBC บอกว่าเลือดผมมีปัญหา คือ ปริมารของเม็ดเลือดขาว เฮโมโกบิน และเกร็ดเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งก็ทำให้ผมต้องนอน รพ. ต่ออีกหลายวัน จนอาจารย์หมอตัดสินใจว่าจะต้องส่งตัวไปเจาะไขกระดูกที่ รพ.ราชวิถีครับ ในใจก็คิดว่า โอ้เเม่เจ้า ชีวิตนี้เคยดูเเต่ซีรีย์เกาหลีที่นางเอกตัวซีดขาวโพน แล้วต้งไปเจาะไขกระดูกตรวจลูคีเมีย โดยมีพระเอกเป็นกำลังใจให้อยู่ห่าง ๆ ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับตัวเองเร็วขนาดนี้ (ผมอายุ 21 ครับ)

และด้วยความที่ไม่เคยไป รพ. นี้มาก่อนเลย เลยแหกขี้ตาไปแต่เช้า... เช้ามาก ๆ ตอนนั้นถึง รพ. ตอนตีห้าครึ่งครับ รีบตรงดิ่งไปยังเวชระเบียนแล้วขึ้นไปชั้น 6 ตึกสิรินธร เพื่อยื่นประวัติครับ ไปแต่เช้าก็จริง แต่กว่าจะได้ตรวจ โอโห้แม่โจ้ สิบเอ็ดโมงนู้น กว่าคุณหมอจะเรียกชื่อผมเข้าห้องตรวจ

"เอ่อ...ทางนู้นได้บอกมาไหมค่ะว่าต้องโดนเจาะไขกระดูก" คุณหมอบอกผม ผมก็ตอบไปว่า อ่อ...ครับ แถมยังถามหมออีกว่ามันจะเจ็บไหม ด้วยความที่เป็นคนเชื่อคนง่ายครับ หมอบอกไม่เจ็บก็คือไม่เจ็บ จนถึงเวลาที่มีพี่บุรุษพยาบาลคนหนึ่งเรียกตัวเข้าไปเจาะ โอ้วววววว พี่เค้าน่ารักดีน่ะ ห้า ๆๆๆๆ ผมก็เดินเข้าไปที่ห้องตรวจครับ พี่พยาบาลผู้หญิงเค้าให้นอนคว่ำลอง แล้วเค้าก็เปิดเสื้อ และถกกางเกงลงนิดนึง แต่ทีนี้ด้วยความที่เราก็กลัวอ่ะ คืออ่านในเน็ตมาเค้าบอกว่าต้องปักเข็มอันใหญ่ ๆ ลงไปที่สะโพกด้านหลัง เเละต้องปักเข้าไปที่กระดูก ป๊าดดดดด...ตัวสั่นเลยครับตอนนี้ พี่บุรุษพยาบาลเค้าก็คลึง ๆ หาจุดที่จะปักนั่นแหละ ดันไปโดนจุดบ้าจี้อ่ะ แล้วคือมันบ้าจี้ทั้งตัวอ่ะเข้าใจป่ะ เราก็ขำดิ ห้า ๆ ไม่เป็นไร ขำกลบเกลื่อนความกลัว หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มเอาไอ้เข็มใหญ่ ๆ นั้นอ่ะปักลงไป (ฉีดยาชาก่อนน่ะ) จึกกกกกกกก.... อู้ววววว เจ็บนิด ๆ น่ะเจ็บนิด ๆ ยังพอไหว แต่พอมันเข้าไปถึงกระดูก แล้วพี่เค้าก็คลึง ๆ กด ๆ โอ้โห... หน้าพ่อหน้าแม่ขึ้นมาครบ ดีน่ะไม่มีญาติฝั่งอื่นมาอีก เเมร่งปวดดดดด เสียวสะท้านขามาก จี๊ดแบบ เห้ยยยยยยยยยยยยยย ไหนบอกไม่เจ็บไง (เออ ก็ไม่เจ็บไง แต่ปวด การโกหกที่โหดร้ายที่สุดคือการพูดความจริงไม่หมด) หืมมมม จะร้องไห้อ่ะ คือร้องออกมานี้เสียงสั่นเเล้ว แล้วพี่เค้าก็ยังคงคลึง ๆ ต่อไป เหมือนมันไม่เข้าหรือมันปักไม่ตรงอ่า หือ ๆ ปวดมาก ถึงมากที่สุด โดนเจาะเลือดตอนเป็นไข้เลือดออกทุกเช้าเย็นยังโอเคคว่าเลย โอ้ย พิมพ์เเล้วอยู่ดี ๆ ก็ปวดขึ้นมา

เสร็จแล้วช่ะ เค้าก็ปิดแผลแล้วให้นอนหงายทับเเผลไว้ครับ น่าจะเพื่อให้เลือดหยุดไหล ตอนนั่นคือระบบไปหมด ปวดก็ปวด เสียวก็เสียว ร้องครางไปหลายรอบ น่าสงสารจริง ๆ โถ่ หมอน่ะหมอบอกไม่เจ็บ แต่มันก็จริงของเค้า ไม่เจ็บเลยสักนิด...จริง ๆ

ยังน่ะ ชะตากรรมยังไม่จบ ยังต้องเอา BM (ไขกระดูกที่ดูดออกมาด้วยเข็มเบอร์ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต) ไปส่งที่แลป รพ.รามาอีก ที่พีคคืออะไรรู้ป่ะ คือ ไป รพ. คนเดียวครับ อื้มหืม เดินก็แทบจะไม่ไหวด้วยความปวด ยังต้องแบกสังหารที่เหมือนตะเกียบเสียบลูกชิ้นนี้ไป รพ. อื่นอีก เรียกอูเบอร์เลยครับงานนี้ สินมอไซต์คงไม่ไหวอ่ะ กระแทกน้ำแตกแน่นอน เลยอูเบอร์ละกัน ถูกดี พอไปถึง รพ.รามา ก็จัดแจงกรอกประวัติส่งเวชระเบียบ แล้วถือ BM ขึ้นไปส่งที่แลปครับ รู้ตัวอีกทีก็แทบทรุดอยู่น่าแลป เพราะเห็นเลือดตัวเองวิ่งนุ๊งนิ๊งอยู่ใน blood tube โอ้ยยยย... จะเป็นลม สุดท้ายก็จบภารกิจ โดนค่าเสียหายไป 1,500 เพราะใช้สิทธิ์บัตรทอง เย่... เห็นตัวเลขในใบเสร็จแลปตอนแรกแล้วก็จะเป็นลม เกือบหมื่น ขาดไปไม่กี่ร้อย

สรปคือ หมอไม่เคยพูดโกหก แค่นางพูดความจริงไม่หมด จะเรียกโกหกได้ยังไงล่ะ หุหุ

ปล. หาเพื่อนไปสักคนก็ดีน่ะครับ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเจาะ
ปล2. บุรุษพยาบาลน่ารักดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่