ประเทศไทย ศูนย์ "แปลงเพศ" ของโลก?!
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 13:30:05 น.
มติชนสุดสัปดาห์ เทศมองไทย ประเทศไทย ศูนย์ "แปลงเพศ" ของโลก?!
ผมได้รับข้อมูลและความรู้มากมายจากการอ่านข้อเขียน ว่าด้วยการกลายเป็น "จุดหมายในการเดินทางเข้ามารับการผ่าตัดแปลงเพศ" ของเมืองไทยเรา ที่ "เจสัน เกล" เขียนเอาไว้เป็นบทความขนาดยาวของสำนักข่าว "บลูมเบิร์ก" เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เป็นข้อมูลใหม่ ความรู้ใหม่ ในแวดวงที่ผมไม่คุ้นเคยนักของสังคม "คนข้ามเพศ" ของโลก
เจสัน เกล บอกว่า ด้วยเหตุผลบางประการ ผู้ที่เปิดเผยตัวว่าเป็น "คนข้ามเพศ" นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สาเหตุหนึ่งอาจสืบเนื่องจากสภาวะโลกาภิวัตน์ หรือเพราะอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ที่ไม่เพียงทำให้การรับรู้เรื่องราวเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงทัศนคติต่อภาวะข้ามเพศ ซึ่งนำไปสู่การยอมรับมากขึ้น
เมื่อจำนวนคนข้ามเพศมากขึ้น และมีตัวอย่างจากคนดังๆ ให้เห็นมากขึ้น (เช่นกรณีของ แคทลิน เจนเนอร์ เป็นต้น) กิจกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งในแวดวงคนข้ามเพศด้วยกันเรียกว่า "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" คือการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนชายให้เป็นหญิง หรือหญิงให้เป็นชาย ต้องตรงตามความต้องการของเจ้าตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ข้อเขียนของ เจสัน เกล บอกให้รู้ว่า การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของหลายประเทศ บางประเทศมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งและมีศูนย์บริการเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่นในอังกฤษ หรือในออสเตรเลีย บางประเทศให้บริการนี้ "ฟรี" ต่อพลเมืองของตนเอง อย่างเช่นอิสราเอล เป็นต้น
แต่บริการนี้มีจำกัดจำเขี่ย ในอิสราเอล ผู้ที่ต้องการรับการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศบอกว่า ไม่เพียงต้องรอนานเป็นปีเท่านั้น ยังได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
ในอังกฤษ เกลบอกว่าศูนย์บริการที่โรงพยาบาลชาร์ริง ครอส ในลอนดอน มีคิวเข้ารับบริการยาว ผู้ที่ต้องการผ่าตัดต้องรอเฉลี่ยแล้วคนนึง 72 สัปดาห์
ที่ออสเตรเลีย ซึ่งมีศูนย์บริการเพียงแห่งเดียว คือ เจนเดอร์ ดิสโฟเรีย คลินิก ของมหาวิทยาลัยโมนาช ในนครเมลเบิร์น ก็เข้าทำนองคล้ายคลึงกัน
ในสหรัฐอเมริกา เพิ่งจะมีการยอมรับกันว่าการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ เป็นกิจกรรมทางการแพทย์ที่จัดอยู่ในข่ายการ "รักษา" ซึ่งทำให้อยู่ในวงเงินประกันได้ แต่ถ้าใครไม่มีประกันก็ต้องควักจ่ายเองเป็นจำนวนมหาศาล
นั่นทำให้ยิ่งนับวันชื่อเสียงของ "ไทย" ในฐานะเป็นประเทศที่ให้บริการทางการแพทย์เพื่อการนี้ "ในระดับหัวแถว" ของโลก ยิ่งเป็นที่รู้จัก และยอมรับกันมากขึ้น
บลูมเบิร์กระบุว่า ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเพื่อการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมี "องค์ความรู้" หรือ "โนว์-ฮาว" เพื่อการนี้ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษ อีกหนึ่งคือค่าบริการราคาถูก เช่นถูกลงกว่าการผ่าตัดในแบบเดียวกันในสหรัฐอเมริกาถึง 2 ใน 3
อีกประการหนึ่งก็คือ ประเทศนี้มีศัลยแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีมากมายพร้อมเพื่อดำเนินการผ่าตัดแปลงเพศนี้
โจเซฟวูดแมน ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ของ "เพเชียนท์ส บียอนด์ บอร์เดอร์ส" บริษัทที่ปรึกษาด้านการแพทย์ใน ชาเปลฮิลล์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ยืนยันกับ เจสัน เกล ว่า "เมืองไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดในหมู่ผู้ต้องการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตนเอง"
เจสันเกล ยังบอกด้วยว่า เคอร์ติส เครน ศัลยแพทย์ด้านศัลยกรรมพลาสติกและศัลยแพทย์ทางระบบขับถ่ายปัสสาวะ ถึงกับเดินทางมาจากซานฟรานซิสโก ใช้เวลาอยู่ในเมืองไทยนาน 6 สัปดาห์ เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศในไทย
ทั้งหมดนั้นทำให้ "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" กลายเป็นส่วนพิเศษเฉพาะส่วนหนึ่ง "เล็กๆ แต่เติบใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว" ในภาคอุตสาหกรรม "ท่องเที่ยวทางการแพทย์" ของประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีดึงดูดชาวต่างชาติเข้าประเทศมามากกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้ 140,000 ล้านบาท เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2013 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลของ เจสัน เกล บอกว่า เมื่อไทยมีศูนย์การแพทย์อย่างน้อย 20 แห่ง ที่ให้บริการ "ผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" นี้ ส่วนใหญ่แล้วมักนำเสนอเป็น "แพ็กเกจ" ที่รวมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด เข้ากับค่าโรงแรมที่พักระหว่างดำเนินกระบวนการและค่าใช้จ่ายเพื่อ "ซิตี้ ทัวร์" เหมารวมไปรวดเดียว
สนนราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 9,770 ดอลลาร์หรือราว 342,000 บาท เรื่อยไปจนถึงระดับ 30,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,050,000 บาท กับการผ่าตัดผ่านผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์และมีผลงานดีเป็นเครื่องการันตี
ศูนย์การแพทย์แห่งหลังนี้เจสัน เกล บอกว่า ผ่าตัดแปลงเพศในอัตราเฉลี่ย 2-3 รายต่อสัปดาห์ สร้างรายได้สัปดาห์ละ 2-3 ล้านบาท
อย่างน้อย 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้ารับบริการผ่าตัดยืนยันเพศในเมืองไทยเป็นชาวต่างชาติ หลักๆ มาจากจีน, ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ว่ากันว่า เมืองไทยมีนายแพทย์พร้อมให้บริการอยู่มากมายถึง 100 คน
เจมส์ เบลลิงเจอร์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะชาวอังกฤษ ซึ่งผ่าตัดแปลงเพศชายให้เป็นหญิงมาแล้วกว่า 1,000 ราย บอกว่า ประเทศไทยไม่เพียงมีชื่อเสียงในด้านนี้ องค์ประกอบทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ก็มีการจัดเตรียมการไว้เป็นอย่างดี
"แพทย์ไทยผ่าตัดได้ผลออกมาสร้างความพอใจให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดได้เต็มที่และปลอดภัยอีกด้วย" นายแพทย์รายนี้ยืนยัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันแพทย์ไทยต้องระมัดระวังรักษาไว้ให้ดียิ่ง ถ้าหากต้องการก้าวไปสู่ความเป็นศูนย์กลาง "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" ของโลกในอนาคตนะครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446358696
เชื่อ กูรู ด่วนรีบเก็บหุ้น โรงพยาบาลแปลงเพศด่วน 10 เด้งเห็นๆ
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 13:30:05 น.
มติชนสุดสัปดาห์ เทศมองไทย ประเทศไทย ศูนย์ "แปลงเพศ" ของโลก?!
ผมได้รับข้อมูลและความรู้มากมายจากการอ่านข้อเขียน ว่าด้วยการกลายเป็น "จุดหมายในการเดินทางเข้ามารับการผ่าตัดแปลงเพศ" ของเมืองไทยเรา ที่ "เจสัน เกล" เขียนเอาไว้เป็นบทความขนาดยาวของสำนักข่าว "บลูมเบิร์ก" เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เป็นข้อมูลใหม่ ความรู้ใหม่ ในแวดวงที่ผมไม่คุ้นเคยนักของสังคม "คนข้ามเพศ" ของโลก
เจสัน เกล บอกว่า ด้วยเหตุผลบางประการ ผู้ที่เปิดเผยตัวว่าเป็น "คนข้ามเพศ" นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สาเหตุหนึ่งอาจสืบเนื่องจากสภาวะโลกาภิวัตน์ หรือเพราะอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ที่ไม่เพียงทำให้การรับรู้เรื่องราวเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงทัศนคติต่อภาวะข้ามเพศ ซึ่งนำไปสู่การยอมรับมากขึ้น
เมื่อจำนวนคนข้ามเพศมากขึ้น และมีตัวอย่างจากคนดังๆ ให้เห็นมากขึ้น (เช่นกรณีของ แคทลิน เจนเนอร์ เป็นต้น) กิจกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งในแวดวงคนข้ามเพศด้วยกันเรียกว่า "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" คือการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนชายให้เป็นหญิง หรือหญิงให้เป็นชาย ต้องตรงตามความต้องการของเจ้าตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ข้อเขียนของ เจสัน เกล บอกให้รู้ว่า การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของหลายประเทศ บางประเทศมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งและมีศูนย์บริการเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่นในอังกฤษ หรือในออสเตรเลีย บางประเทศให้บริการนี้ "ฟรี" ต่อพลเมืองของตนเอง อย่างเช่นอิสราเอล เป็นต้น
แต่บริการนี้มีจำกัดจำเขี่ย ในอิสราเอล ผู้ที่ต้องการรับการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศบอกว่า ไม่เพียงต้องรอนานเป็นปีเท่านั้น ยังได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
ในอังกฤษ เกลบอกว่าศูนย์บริการที่โรงพยาบาลชาร์ริง ครอส ในลอนดอน มีคิวเข้ารับบริการยาว ผู้ที่ต้องการผ่าตัดต้องรอเฉลี่ยแล้วคนนึง 72 สัปดาห์
ที่ออสเตรเลีย ซึ่งมีศูนย์บริการเพียงแห่งเดียว คือ เจนเดอร์ ดิสโฟเรีย คลินิก ของมหาวิทยาลัยโมนาช ในนครเมลเบิร์น ก็เข้าทำนองคล้ายคลึงกัน
ในสหรัฐอเมริกา เพิ่งจะมีการยอมรับกันว่าการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ เป็นกิจกรรมทางการแพทย์ที่จัดอยู่ในข่ายการ "รักษา" ซึ่งทำให้อยู่ในวงเงินประกันได้ แต่ถ้าใครไม่มีประกันก็ต้องควักจ่ายเองเป็นจำนวนมหาศาล
นั่นทำให้ยิ่งนับวันชื่อเสียงของ "ไทย" ในฐานะเป็นประเทศที่ให้บริการทางการแพทย์เพื่อการนี้ "ในระดับหัวแถว" ของโลก ยิ่งเป็นที่รู้จัก และยอมรับกันมากขึ้น
บลูมเบิร์กระบุว่า ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเพื่อการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมี "องค์ความรู้" หรือ "โนว์-ฮาว" เพื่อการนี้ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษ อีกหนึ่งคือค่าบริการราคาถูก เช่นถูกลงกว่าการผ่าตัดในแบบเดียวกันในสหรัฐอเมริกาถึง 2 ใน 3
อีกประการหนึ่งก็คือ ประเทศนี้มีศัลยแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีมากมายพร้อมเพื่อดำเนินการผ่าตัดแปลงเพศนี้
โจเซฟวูดแมน ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ของ "เพเชียนท์ส บียอนด์ บอร์เดอร์ส" บริษัทที่ปรึกษาด้านการแพทย์ใน ชาเปลฮิลล์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ยืนยันกับ เจสัน เกล ว่า "เมืองไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดในหมู่ผู้ต้องการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตนเอง"
เจสันเกล ยังบอกด้วยว่า เคอร์ติส เครน ศัลยแพทย์ด้านศัลยกรรมพลาสติกและศัลยแพทย์ทางระบบขับถ่ายปัสสาวะ ถึงกับเดินทางมาจากซานฟรานซิสโก ใช้เวลาอยู่ในเมืองไทยนาน 6 สัปดาห์ เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศในไทย
ทั้งหมดนั้นทำให้ "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" กลายเป็นส่วนพิเศษเฉพาะส่วนหนึ่ง "เล็กๆ แต่เติบใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว" ในภาคอุตสาหกรรม "ท่องเที่ยวทางการแพทย์" ของประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีดึงดูดชาวต่างชาติเข้าประเทศมามากกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้ 140,000 ล้านบาท เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2013 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลของ เจสัน เกล บอกว่า เมื่อไทยมีศูนย์การแพทย์อย่างน้อย 20 แห่ง ที่ให้บริการ "ผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" นี้ ส่วนใหญ่แล้วมักนำเสนอเป็น "แพ็กเกจ" ที่รวมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด เข้ากับค่าโรงแรมที่พักระหว่างดำเนินกระบวนการและค่าใช้จ่ายเพื่อ "ซิตี้ ทัวร์" เหมารวมไปรวดเดียว
สนนราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 9,770 ดอลลาร์หรือราว 342,000 บาท เรื่อยไปจนถึงระดับ 30,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,050,000 บาท กับการผ่าตัดผ่านผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์และมีผลงานดีเป็นเครื่องการันตี
ศูนย์การแพทย์แห่งหลังนี้เจสัน เกล บอกว่า ผ่าตัดแปลงเพศในอัตราเฉลี่ย 2-3 รายต่อสัปดาห์ สร้างรายได้สัปดาห์ละ 2-3 ล้านบาท
อย่างน้อย 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้ารับบริการผ่าตัดยืนยันเพศในเมืองไทยเป็นชาวต่างชาติ หลักๆ มาจากจีน, ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ว่ากันว่า เมืองไทยมีนายแพทย์พร้อมให้บริการอยู่มากมายถึง 100 คน
เจมส์ เบลลิงเจอร์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะชาวอังกฤษ ซึ่งผ่าตัดแปลงเพศชายให้เป็นหญิงมาแล้วกว่า 1,000 ราย บอกว่า ประเทศไทยไม่เพียงมีชื่อเสียงในด้านนี้ องค์ประกอบทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ก็มีการจัดเตรียมการไว้เป็นอย่างดี
"แพทย์ไทยผ่าตัดได้ผลออกมาสร้างความพอใจให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดได้เต็มที่และปลอดภัยอีกด้วย" นายแพทย์รายนี้ยืนยัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันแพทย์ไทยต้องระมัดระวังรักษาไว้ให้ดียิ่ง ถ้าหากต้องการก้าวไปสู่ความเป็นศูนย์กลาง "การผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ" ของโลกในอนาคตนะครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446358696