วันนี้ได้มาลองร้านอาหารไทยซีฟู๊ดเปิดใหม่ในย่าน ม.รังสิต ที่ย้ายมาจากทางพารากอน จริง ๆ ขออนุญาตเรียกว่าเป็นร้านอาหารไทยผสมผสานที่ใช้วัตถุดิบเป็นอาหารทะเล ดีกว่า เพราะว่าไม่มีเมนู เผา ๆ ปิ้ง ๆ ย่าง ๆ มีแต่อาหารที่ปรุงเป็นเมนูทั่วไปแล้ว ร้านนี้ชื่อร้าน Waterfront

การเดินทางก็ไม่ยากเท่าไหร่ครับ ใครที่มาจากทางวิภาวดี-พหลโยธิน เลี้ยวซ้ายเข้ามาทางที่จะไป ม.รังสิต ตรงเข้าไปสัก 3-4 กิโลเมตร ก่อนเข้าเขตมหาลัยนิดหน่อย สังเกตทางขวามือก็จะเจอร้าน Waterfront แน่นอนครับ เพราะป้ายชัดเจนมาก ยิ่งไปตอนค่ำ ๆ ป้ายไฟชัดเจนเลยครับ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 11.00 – 23.00 น.



ร้าน Waterfront เปิดตรงนี้มาได้ 2 เดือนแล้ว บรรยากาศร้านก็เป็นร้านห้องแถว 2 คูหา กว้างพอสมควรไปนั่งกินก็สบาย ๆ ครับ ตกแต่งแนวไทย ๆ นิดหน่อย อาจจะดูโต๊ะวางติดกันไปสักนิด แต่ถ้าคนไม่เยอะมากก็พอได้ครับ ร้านจุคนได้ประมาณ 40 คน ยังดีที่เพดานสูง และมีการให้แสงสว่างที่เพียงพอ จึงดูไม่อึดอัดเท่าไหร่ครับ




เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นเมนูที่ทานง่ายมีทั้งเมนูกับข้าวและอาหารจานเดียว รวมถึงของทานเล่น และมีเมนูที่หลากหลายมากเหมาะกับครอบครัว และนักศึกษา แถว ๆ นั้นครับ วันนี้ที่ผมได้ลองก็มีหลายเมนูพอสมควร มีเมนูอะไรบ้างลองไปดูกันครับ






ปูนิ่มราดซอสไข่เค็ม – 189 บาท
ปูนิ่มนำไปชุปแป้งทอด กรอบนอกนุ่มในกินคู่กับซอสไข่เค็มที่ผสมเครื่องแกงเล็กน้อยได้ความเค็มมันกำลังดี รสชาติอร่อยครับ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันได้ดีจริง ๆ



กุ้งแซ่บมะเขือเปราะ – 189 บาท
เป็นกุ้งลายเสือตัวพอประมาณไม่ใหญ่มาก ผ่าหลังนำไปย่างเล็กน้อยให้พอสุก ราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษ รสเผ็ดเปรี้ยวแบบนวล ๆ ที่คลุกเคล้ามากับมะเขือเปราะสไลด์บาง น้ำยำซึมเข้าทั้งตัวกุ้งและมะเขือกินด้วยกันก็เป็นเมนูที่แซ่บดีครับ


แซลมอนนอนแพ – 149 บาท
เป็นเนื้อแซลมอนสด ๆ มาหั่นเป็นแท่ง ๆ วางบนกระเจี๊ยบลวกจากนั้นราดด้วยซอสโชยุที่ปรุงมาตามสูตรของร้าน จะได้กลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นเล็กน้อย เป็นเมนูกินเล่นได้ แต่ไม่เป็นกับข้าว รสชาติอ่อนไปสักหน่อย ต้องตักน้ำราดมากินคู่กับปลาถึงจะได้รสชาติครับ


ซุปทะเลทอง – 189 บาท
เป็นซุปข้นสีเหลืองทอง ที่ได้จากการเคี่ยวฟังทองแล้วกรองละเอียด ได้เนื้อซุปที่ข้นเนียน ไม่มีเส้นใยปน ได้ความหวานของฟักทองมาเต็ม ๆ ผสมกับซุปที่ได้จากการเตรียมอาหารทะเล จึงมีความกลมกล่อมของความหวานจากฟังทองและความเค็มของอาหารทะเล ตัดรสชาติอีกนิดหน่อยด้วยเต้าหู้ไข่ทำให้รสชาตินุ่มนวลขึ้น




ปลาหมึกทอดสมุนไพร – 149 บาท
ปลาหมึกนำไปชุปแป้งทอด ข้างนอกกรอบ ด้านในเนื้อสัมผัสของปลาหมึกยังคงหยุ่น ๆ หนึบ ๆ อยู่ แล้วจากนั้นก็นำไปคลุกเคล้ากับกระเทียมเจียวและเครื่องสมุนไพรต่าง ๆ ในกระทะปรุงรสชาติให้อร่อย รสชาติจะออกหวาน ๆ เค็ม ๆ แต่ผมว่าถ้าปรุงให้เค็มนำหวานกว่านี้สักนิดจะโอเคมาก กินเล่นได้เพลิน ๆ หรือกินแกล้มเบียร์ก็คงฟินไม่เบา



หมูพิโรธ – 99 บาท
ใช้หมูส่วนสันนอกมาหมักแล้วนำไปทอดจากนั้นก็นำไปคลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรที่ส่วนผสมคล้าย ๆ กับปลาหมึกทอดสมุนไพร แต่เมนูนี้รสชาติจะกลมกล่อมกว่า รสหวานจะจางกว่ารสเค็ม และได้ความหอมจากกระเทียมเจียวที่เจียวกันสด ๆ จึงทำให้กินเป็นกับข้าวได้อย่างอร่อยเลยครับ



ข้าวกล้องสีนิล ผัดปูผงกระหรี่ – 99 บาท
หน้าตาดูไม่น่าอร่อยเลย ดูแล้วเหมือนเมนูโบราณ ๆ แต่พอลองชิมแล้ว มันเลิศครับ ข้าวที่ผัดมานั้นนุ่มนวลมาก กำลังดีมาก ๆ ผัดมากับผงกระหรี่กลิ่นหอมคล้ายข้าวผัดสับปะรดที่ไม่มีสับปะรด มีไข่และเนื้อปู เพิ่มรสสัมผัสของเมนูนี้ให้อร่อยยิ่งขึ้น ใครจะกินคลุกกับเครื่องต่าง ๆ ในจานก็ได้ มีทั้ง มะม่วงซอย หอมแดงซอย พริก และถั่ว ก็จะให้ความรู้สึกครบเครื่องไปอีกแบบ



ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูราดซอสมันปู – 99 บาท
เมนูนี้ผมว่าสุดคุ้มจริง ๆ สำหรับเมนูขึ้นเหลาแบบนี้กับราคาแค่ 99 บาท และก็รสชาติอร่อยมากด้วยครับ เส้นใหญ่ที่ผัดกับไข่มามีกลิ่นหอมนิดหน่อย แต่ยังไม่หอมที่สุด แต่พอกินกับซี่โครงหมูนุ่ม ๆ และซอสมันปูที่ข้นหอม และกลมกล่อมแล้ว ทุกอย่างมันเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นเมนูที่น่าลองมาก ๆ ครับ



น้ำผึ้งอัญชันโซดา – 35 บาท
เป็นน้ำสมุนไหรสีสันจัดจ้านเลย ได้ประโยชน์จากน้ำผึ้งแท้ และอัญชัน ตัดรสหวานของน้ำผึ้งด้วยมะนาวและโซดาก็ทำให้เครื่องดื่มแก้วนี้ดื่มได้เพลินมาก ๆ ครับ รสชาติดีด้วย

สรุป ร้าน Waterfront ก็เป็นร้านอาหารไทยที่ทำรสชาติออกมาใช้ได้ครับ ในเรื่องเมนูผมดูแล้วอาจจะไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นร้านอาหารซีฟู๊ดโดยแท้เท่าไหร่ ผมเลยอยากให้เข้าใจกันว่าเป็นร้านอาหารไทยที่ใช้วัตถุดิบหลัก ๆ เป็นพวกซีฟู๊ดแล้วกันครับ เมนูมีหลากหลาย บางเมนูก็ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เป็นการคิดค้นสูตรของทางร้านเอง ก็ถือว่าน่าสนใจ แต่รสชาติในบางเมนูจะติดหวานไปหน่อย ถ้าลดหวานลงได้จะกลมกล่อมขึ้นครับ เรื่องราคาก็ถือว่ากลาง ๆ ค่อนข้างไปทางราคาถูกคุ้มค่า ตอนนี้เห็นมีโปรปลากะพงทอดน้ำปลาราคาตัวละ 199 บาทเอง แต่วันที่ผมไป ปลาหมดครับ เลยไม่ได้ลอง ใครที่ได้ไปลองก็มาแชร์กันหน่อยครับ และก็ยังมีกิจกรรมท้ากินจุอีกด้วยเห็นเมนูที่ท้ากันก็มีข้าวผัดสามสีราดซอสมันปู และคาโบนาร่าจานยักษ์ครับ ติดตามจากเพจของร้านได้เลยครับ https://www.facebook.com/WaterfrontAtSiamParagon/?fref=ts เรื่องบรรยากาศก็กลาง ๆ เป็นร้านที่ครอบครัวมาได้ นักศึกษา คนทั่วไปมาดีครับ การบริการก็กลาง ๆ ยังไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าไหร่ แต่ดีที่น้อง ๆ ยังยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ ถือว่าโดยรวมโอเคครับ ใครอยู่แถว ๆ ละแวกนั้นก็ไปลองกันได้คัรบ