เรื่องนี้ค่อนข้างยาว ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันอ่านนะคะ
เราคบกับแฟนมา 6 ปีกว่าแล้วค่ะ ตอนแรกที่เราคบกันเรารู้สึกว่าเรารักเขามากกก ต่างคนต่างเทคแคร์กันดี ในช่วงปีแรกๆ เราจะเติมเต็มสิ่งดีๆให้กันอยู่เสมอ
จนมีอยู่ครั้งนึง เราทะเลาะกับแฟนเรา เพราะแฟนเราเข้าใจเราผิด หาว่าเราไปชอบเพื่อนของเขา แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ จนเราคุยและปรับความเข้าใจกัน แต่เราสองคนแปลก ยิ่งทะเลาะกันมากเท่าไหร่ ยิ่งรักกันมากขึ้น
จนเข้าปีที่ 3 เรากลับต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุด คือเรามีเพื่อนผู้หญิงคนนึง(เรียนห้องเดียวกัน แต่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่) เขาเป็นคนที่ตัวขาวๆ อวบๆ ซึ่งแฟนเรามันก็เคยชมบอกว่าน่ารักดี แต่สู้เราไม่ได้... คือ คำพูดแฟนเราเริ่มแปลกๆจากตะก่อนไม่เคยพูดแบบนี้ แฟนเรากับเพื่อนเราก็เริ่มสนิท จากตะก่อนเพื่อนเราไม่เคยกลับบ้านด้วย แต่พอเริ่มสนิทกับแฟนเรา พักหลังๆก็ขอกลับด้วยตลอดทุกวัน ขอย้ำนะคะว่า “ทุกวัน” แต่ด้วยความเป็นเพื่อนร่วมห้องกันเราจึงไม่คิดอะไรมาก
จนพักหลังๆ มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆก็คือ วันนั้นเรามีธุระด่วนที่ต้องรีบกลับบ้าน เราก็บอกกับแฟนว่า “เห้ย แกวันนี้เขารีบกลับบ้านนะ กลับบ้านกันก่อนเหอะ” เราก็เห็นแฟนเรามันเงียบๆ แล้วก็คอยดูโทรศัพท์ตลอด ซักพักก็มีโทรศัพท์เข้าแล้วเขาก็คุยซักพัก แล้วก็หันมาบอกเราว่า “ตัวเองรอเอก่อนได้มั้ย (เราขอใช้นามสมมุติ เป็นยัย เอ นะ) ” ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็เลยถามแฟนว่า “แล้วยัยเออยู่ไหนแล้ว” แฟนเรามันก็ตอบว่า “กำลังมา รอก่อน เอบอกให้รอก่อน” เราก็รอนะ แต่รู้สึกรอนานมากกว่าจะมา คือออ เข้าใจคนรีบมั้ยค่ะ มันร้อนรนแล้วอ่ะอยากกลับบ้านแล้ว เราก็เลยหันไปบอกแฟนว่า “งั้นเรากลับก่อนดีกว่า รู้สึกนานไปแล้วนะ” แต่แฟนเรามันก็ขอร้องให้อยู่ก่อน เราก็ฉุนนะ เริ่มสงสัยแระว่าทำไมถึงต้องจิงจังในการรอนังเอขนาดนั้น พอยัยเอมา แฟนเรานี่ยิ้มแก้มปริเลยจ้าา แล้วแฟนเรามันก็บอกว่า “งั้นกลับกันได้แระ เอมาแล้ว” ไอเราก็โมโหนะ แต่ยัยเอนี่หน้าไม่สะทบทะท้านอะไรเลย
คือแฟนเราเป็นแบบนี้มาตลอด และก็เริ่มหนักขึ้นก็ตอนที่นังเอ เขาอยากได้แมว เลยมาถามแฟนเราว่า “พอจะหาแมวให้เราได้มั้ย เราอยากเลี้ยง” อีแฟนเราก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลยจ้าาา บอกว่า “เดี๋ยวเราหามาให้นะ” คือตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่เราก็น้อยใจอยู่นะ ว่าเออ...ทำไมตรูอยากได้นู้นนี่ไม่เห็นพูดแบบนี้มั้งเลย... จนวันนั้นแฟนเรามันจะนั่งรถไปส่งเราก่อน แล้วถึงค่อยไปส่งนังเอ เพราะว่าที่รอรถนังเอ มันอยู่ใกล้ๆบ้านอีแฟนเรา วันนั้นเราก็เกิดความสงสัย เพราะปกติอีแฟนเรา เวลามันถึงบ้าน มันจะโทรมาหา แต่วันนั้นมันเงียบผิดปกติ ไม่โทรหาเงียบกริบเลย เราเลยลองโทรไปหลายสายไม่รับ แต่พอซักพักแฟนเรามันรับ เราก็เลยถามด้วยควสมเป็นห่วงว่า “อยู่ไหน ทำไมไม่โทรมา ฝนก็ตก” แต่คำตอบที่เราได้กลับมาก็คือ “จะโทรมาทำไมนักหนาว่ะ คนกำลังยุ่งอยู่แค่นี้นะ” แล้วก็กดสายทิ้ง พอเราโทรไปอีกทีก็ไม่รับ วันนั้นเราเสียใจมากกกก นั่งร้องไห้แบบไม่อายใครเลย ก็คนมันไม่เคยเจอแบบนี้นี่... แล้วเราก็ลองโทรไปหาอีกรอบ คราวนี้รับนะ แล้วก็คุยกับเราแบบเย็นชาอ่ะ เราก็เลยถามว่าอยู่ไหน มันก็ตอบว่า“อยู่บางใหญ่” ซึ่งแถวนั้นเป็นที่ๆนังเออยู่ เราก็เลยถามว่าไปทำอะไร มันก็ตอบกลับมาว่า“มาหาพี่” ซึ่งตอนนั้นเย็นมากแล้วอ่ะ เราไม่เชื่อก็เลยหลับหูหลับตาเชื่อไป...
แต่สุดท้ายอีแฟนเรามันโกหกค่ะ จริงๆมันไม่ได้ไปหาพี่มัน แต่มันไปส่งนังเอ ถึงที่บ้านเพราะมันบอกว่า เอาแมวที่นังเอ ให้หาเอาไปส่งถึงที่บ้านพร้อมกับนังเอเลย คือเราโกรธและเสียใจมากกกกก (พิมพ์ไปจะร้องไห้ไป) เพื่อนๆคงนึกภาพออกนะคะ แต่สุดท้ายทั้งนังเอและอีแฟนของเรากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นทำให้เราเริ่มเป็นนางมารร้ายมากขึ้น จากที่ไม่เคยเช็คโทรศัพท์แฟน พอเจอเหตุการณ์นั้นเข้าทำให้เราต้องเป็นแบบนี้เลย พอเราเริ่มเช็คโทรศัพท์แฟน เริ่มถามซ๊อกแซ็ก จู่จี้จุกจิก นางก็เริ่มทำท่าเหมือนอึดอัดอ่ะค่ะ เจอกันทีไรคิ้วขมวดทุกที ทำหน้าเหมือนไม่มีความสุข จนครั้งนึงเราไปเปิดเจอการโทรเข้าโทรออก ก่อนหน้านั้นวันที่เราโทรหาแฟน มันบอกว่ามันอยู่ห้องซ้อมดนตรี ไม่ว่าง เราก็เข้าใจนะ เราก็เลยไม่โทรไป จนมาวันรุ่งขึ้นเราเจออีแฟนเรา เราเลยแกล้งขอทำเป็นเล่นโทสับค่ะ เราลองกดไปดูการโทรเข้าโทรออก ปรากฎว่า.... วันที่เราโทรไปหาอีแฟน หลังจากที่เราวางไม่กี่นาที มีสายโทรออกค่ะ แล้วไม่ได้โทรหาใครนะ มันโทรหานังเอ ซึ่งเราไปดูเวลาที่คุย ปรากฎว่าของเราคุยยังไม่ถึงนาทีเลย แล้วเป็นเราที่โทรไปด้วย แต่โทรออกไปนังเอ เวลาที่คุยปาไป 5 นาทีกว่า เรานี่น้ำตาไหลพรากเลยย แล้วเขาก็ทำเป็นบอกว่า สงสัยกดไปโดน ตอนมันพูดมันไม่สนใจเราเลย ไม่สนตอนที่เราร้องไห้ พอหันมาเห็นเราร้องไห้ มันก็บอกว่า“ถ้าให้ดูแล้วเป็นอบบนี้ วันหลังก็ไม่ต้องดู” เราพูดอะไรไม่ออกเลย... ไดัแต่ร้องไห้ จนน้ำตาไหลแล้วไหลอีก มือเย็นและชา ปากชา ตัวชาไปหมดเลย
แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มหนักขึ้นๆ จนเรามีปัญหากับนังเอ เราเลยไปโพสหน้าเฟสบุ๊กของเราเอง ปรากฎว่ามันก็เอาเราไปด่าในเฟสบุ๊คเหมือนกัน จนมีปันหาหนัก ถึงต้องเลิกคบกันเลย ส่วนอีแฟนเรามันก็ทำเป็นฮีโร่ขึ้นมา บอกว่าไม่อยากให้ทะเลาะกัน เราก็รักแฟนนะคะ เราก็เลยยอมลดละค่ะ สรุปเรากับนังเอก็กลับมาคุยกันอีก พอหลังจากวันนั้นเราจะไปสมัครเข้ามหาลัยกับเพื่อนรักของเรา เราเลยชวนแฟนเราไป แต่แฟนเรามันดันบอกว่า “ไม่ว่าง ขี้เกียจ” เราก็เลยโอเค ไม่เป็นไร เราก็เลยโทรไปหาแฟนเราอีกทีตอนที่เราถึงมหาลัยที่จะสมัครเรียนแล้ว แฟนเรามันบอกว่า“เราอยู่โรงเรียนนะ เราเอาของขวัญมาให้เอ เราอยากให้ตัวเองกับเอได้เข้าใจกันนะ....” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับให้ของขวัญอ่ะ ไอเราก็คิดอ่ะนะ พอเพื่อนเรารู้มันนี่ฉุนแทนเราขึ้นมาทันทีเลย ให้ของขวัญไม่พอนะ มีการไปส่งนังเอที่รอรถ แถมยังให้นังเอนั่งหน้ารถของอีแฟนมันด้วย....
แต่พอเราคุยกับนังเอได้ไม่นาน มันก็เริ่มทำตัวหนักยิ่งกว่าเดิม อย่างเอาโทรศัพท์อีแฟนเราไปถ่ายรูปบ้าง เอาไปเล่นเกมส์บ้างคือ...... ขยาดตรูเป็นแฟน ตรูยังไม่เคยเล่นขนาดนี้เลยนะ จนมีมาวันนึงอีแฟนเรามันขับรถมาโรงเรียน ให้เรานั่งมากับมันด้วยตอนนั้นมันก็เริ่มเปลี่ยนๆตัวแล้วแหละ เริ่มทำตัวมุ้งมิ้งเหมือนเดิมและ ไปถึงโรงเรียนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะปกติดี แต่พอตอนเย็นเรากับอีแฟนกำลังกลับบ้าน ขึ้นบนรถแระ เราเห็นยัยเอเดินมากับเพื่อนมันมันมองเข้ามาในรถอีแฟนเรา แล้วมองตรงที่เรานั่งแบบมองตาขวางใส่ด้วย เราก็สงสัยนะว่าทำไมทำแบบนั้น แต่พอตกเย็นมาเท่านั้นแหละ เราสงสัยกับมันว่สทำไมมองแบบนั้น้ลยกดเข้าไปในเฟสมันปรากฎว่ามันลบเราเป็นเพื่อนในเฟสค่ะ ทั้งมันและเพื่อนมันอีกคนนึง เราก็ไม่เข้าใจกับมันทำไปเพราะอะไร แต่เราก็ตัดสินใจไม่ยุ่งไม่สน ตัดขาดจากมันไปเลยค่ะ
จนหลังจากนนั้นเราก็มีโอกาสได้ไปเข้าค่ายกับโรงเรียนที่ต่างจังหวัด วันนั้นมีกิจกรรมไปดูมงกุฎของนางสาวไทยสมัยเก่า เขาก็แนะนำประมานว่ามงกุฎนี้ตั้งแต่สมันไหน แล้วใครได้มงกุฎนี้ ซักพักคนที่แนะนำเรื่องมงกุฎเขาไปหยิบมงกุฎของนางสาวไทยสมัยเก่ามา แล้วบอกว่า“เขาจะให้มงกุฎนี้ ที่เขาคิดว่าเหมาะที่สุดในงานนี้ คือสิ่งแรกที่เราเห็นคือยัยเอ she ทำเป็นจัดผม ประมานว่าตัวเองต้องได้แน่ แต่นางกลับต้องหน้าแตกเพราะ จู่ๆเขาก็เดินเอามงกุฎมาใส่ที่หัวเรา แล้วบอกว่า“คนนี้แหละที่เหมาะกับมงกุฎนี้ที่สุดแล้ววว หรือเรียกว่าสวยที่สุดนั่นแหละ” ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าเป็นเรานะอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ ตอนที่เราเห็นสีหน้ายัยเอตอนนั้น หน้าเสียมากอ่ะะ ทำได้แต่ปรบมือแปะๆ เท่านั้น....(รู้สึกซะใจอย่างบอกไม่ถูก)
ตอนนั้นเราเจอเหตุการณ์ที่แย่มากค่ะ นี่ส่วนน้อยนะคะที่เล่า มันยังมีอีกเยอะ ที่เล่ายังไงก็คงไม่หมด กับนังเอแล้วก็อีแฟนเราด้วย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเราแทบจะเป็นบ้าอ่ะะะ คือ....ร้องไห้หนักมากกกก ร้องแบบไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อน
จนปัจจุบันพอเราเล่าเรื่องนังเอให้อีแฟนฟังทีไรทำเป็นทนฟังไม่ได้ ทำเป็นสำนึกผิด จนตอนนี้นังแฟนมันบอกว่า มันเหมือนกำลังชดใช้อะไรบางอย่างให้เราอยู่ เพราะมันบอกว่า “ยิ่งเรารักเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่สนใจเรา เราคงต้องชดใช้ในสิ่งที่เราเคยทำแล้วแหละ....” เราพูดตรงๆนะคือออ เราเป็นฝ่ายขอเลิกมันประมาน 2 รอบอ่ะ เพราะอะไรรู้มั้ยค่ะ.... เพราะความงี่เงา ไม่มีเหตุผล ของเขาไง ที่เราเบื่อ แถมไม่เคยให้พื้นที่ส่วนตัวกับเราด้วย เรายอมนับว่าเราเหนื่อยและเบื่อ เพราะว่าเขาทำตัวเหมือนเดิมไม่เคยพัฒนาตัวเอง พอเรายิ่งนึกเรื่องตะก่อนทีไรยิ่งเบื่อ ถึงจะบอกว่าเราไม่สนเรื่องตะก่อนแล้ว แต่จริงๆมันก็มีคิดบ้างอ่ะ...
ถ้าสมมุติเพื่อนๆเป็นแบบเราเพื่อนๆจะทำยังไงกันค่ะ จะเลิกหรือจะคบต่อ แล้วคบต่อจะคบเพราะอะไร เพราะยิ่งคบยิ่งเหนื่อย ยิ่งเบื่อ.... ขอบคุนทุดๆคำตอบนะคะ
ปล.ขอระบายหน่อยค่ะ ยาวนิดนึง แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยกันอ่านน้าาา ^^
คุณเคยเบื่อแฟนคุณ เพราะแฟนคุณเคยทำให้คุณเสียใจมั้ย???
เราคบกับแฟนมา 6 ปีกว่าแล้วค่ะ ตอนแรกที่เราคบกันเรารู้สึกว่าเรารักเขามากกก ต่างคนต่างเทคแคร์กันดี ในช่วงปีแรกๆ เราจะเติมเต็มสิ่งดีๆให้กันอยู่เสมอ
จนมีอยู่ครั้งนึง เราทะเลาะกับแฟนเรา เพราะแฟนเราเข้าใจเราผิด หาว่าเราไปชอบเพื่อนของเขา แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ จนเราคุยและปรับความเข้าใจกัน แต่เราสองคนแปลก ยิ่งทะเลาะกันมากเท่าไหร่ ยิ่งรักกันมากขึ้น
จนเข้าปีที่ 3 เรากลับต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุด คือเรามีเพื่อนผู้หญิงคนนึง(เรียนห้องเดียวกัน แต่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่) เขาเป็นคนที่ตัวขาวๆ อวบๆ ซึ่งแฟนเรามันก็เคยชมบอกว่าน่ารักดี แต่สู้เราไม่ได้... คือ คำพูดแฟนเราเริ่มแปลกๆจากตะก่อนไม่เคยพูดแบบนี้ แฟนเรากับเพื่อนเราก็เริ่มสนิท จากตะก่อนเพื่อนเราไม่เคยกลับบ้านด้วย แต่พอเริ่มสนิทกับแฟนเรา พักหลังๆก็ขอกลับด้วยตลอดทุกวัน ขอย้ำนะคะว่า “ทุกวัน” แต่ด้วยความเป็นเพื่อนร่วมห้องกันเราจึงไม่คิดอะไรมาก
จนพักหลังๆ มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆก็คือ วันนั้นเรามีธุระด่วนที่ต้องรีบกลับบ้าน เราก็บอกกับแฟนว่า “เห้ย แกวันนี้เขารีบกลับบ้านนะ กลับบ้านกันก่อนเหอะ” เราก็เห็นแฟนเรามันเงียบๆ แล้วก็คอยดูโทรศัพท์ตลอด ซักพักก็มีโทรศัพท์เข้าแล้วเขาก็คุยซักพัก แล้วก็หันมาบอกเราว่า “ตัวเองรอเอก่อนได้มั้ย (เราขอใช้นามสมมุติ เป็นยัย เอ นะ) ” ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็เลยถามแฟนว่า “แล้วยัยเออยู่ไหนแล้ว” แฟนเรามันก็ตอบว่า “กำลังมา รอก่อน เอบอกให้รอก่อน” เราก็รอนะ แต่รู้สึกรอนานมากกว่าจะมา คือออ เข้าใจคนรีบมั้ยค่ะ มันร้อนรนแล้วอ่ะอยากกลับบ้านแล้ว เราก็เลยหันไปบอกแฟนว่า “งั้นเรากลับก่อนดีกว่า รู้สึกนานไปแล้วนะ” แต่แฟนเรามันก็ขอร้องให้อยู่ก่อน เราก็ฉุนนะ เริ่มสงสัยแระว่าทำไมถึงต้องจิงจังในการรอนังเอขนาดนั้น พอยัยเอมา แฟนเรานี่ยิ้มแก้มปริเลยจ้าา แล้วแฟนเรามันก็บอกว่า “งั้นกลับกันได้แระ เอมาแล้ว” ไอเราก็โมโหนะ แต่ยัยเอนี่หน้าไม่สะทบทะท้านอะไรเลย
คือแฟนเราเป็นแบบนี้มาตลอด และก็เริ่มหนักขึ้นก็ตอนที่นังเอ เขาอยากได้แมว เลยมาถามแฟนเราว่า “พอจะหาแมวให้เราได้มั้ย เราอยากเลี้ยง” อีแฟนเราก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลยจ้าาา บอกว่า “เดี๋ยวเราหามาให้นะ” คือตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่เราก็น้อยใจอยู่นะ ว่าเออ...ทำไมตรูอยากได้นู้นนี่ไม่เห็นพูดแบบนี้มั้งเลย... จนวันนั้นแฟนเรามันจะนั่งรถไปส่งเราก่อน แล้วถึงค่อยไปส่งนังเอ เพราะว่าที่รอรถนังเอ มันอยู่ใกล้ๆบ้านอีแฟนเรา วันนั้นเราก็เกิดความสงสัย เพราะปกติอีแฟนเรา เวลามันถึงบ้าน มันจะโทรมาหา แต่วันนั้นมันเงียบผิดปกติ ไม่โทรหาเงียบกริบเลย เราเลยลองโทรไปหลายสายไม่รับ แต่พอซักพักแฟนเรามันรับ เราก็เลยถามด้วยควสมเป็นห่วงว่า “อยู่ไหน ทำไมไม่โทรมา ฝนก็ตก” แต่คำตอบที่เราได้กลับมาก็คือ “จะโทรมาทำไมนักหนาว่ะ คนกำลังยุ่งอยู่แค่นี้นะ” แล้วก็กดสายทิ้ง พอเราโทรไปอีกทีก็ไม่รับ วันนั้นเราเสียใจมากกกก นั่งร้องไห้แบบไม่อายใครเลย ก็คนมันไม่เคยเจอแบบนี้นี่... แล้วเราก็ลองโทรไปหาอีกรอบ คราวนี้รับนะ แล้วก็คุยกับเราแบบเย็นชาอ่ะ เราก็เลยถามว่าอยู่ไหน มันก็ตอบว่า“อยู่บางใหญ่” ซึ่งแถวนั้นเป็นที่ๆนังเออยู่ เราก็เลยถามว่าไปทำอะไร มันก็ตอบกลับมาว่า“มาหาพี่” ซึ่งตอนนั้นเย็นมากแล้วอ่ะ เราไม่เชื่อก็เลยหลับหูหลับตาเชื่อไป...
แต่สุดท้ายอีแฟนเรามันโกหกค่ะ จริงๆมันไม่ได้ไปหาพี่มัน แต่มันไปส่งนังเอ ถึงที่บ้านเพราะมันบอกว่า เอาแมวที่นังเอ ให้หาเอาไปส่งถึงที่บ้านพร้อมกับนังเอเลย คือเราโกรธและเสียใจมากกกกก (พิมพ์ไปจะร้องไห้ไป) เพื่อนๆคงนึกภาพออกนะคะ แต่สุดท้ายทั้งนังเอและอีแฟนของเรากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นทำให้เราเริ่มเป็นนางมารร้ายมากขึ้น จากที่ไม่เคยเช็คโทรศัพท์แฟน พอเจอเหตุการณ์นั้นเข้าทำให้เราต้องเป็นแบบนี้เลย พอเราเริ่มเช็คโทรศัพท์แฟน เริ่มถามซ๊อกแซ็ก จู่จี้จุกจิก นางก็เริ่มทำท่าเหมือนอึดอัดอ่ะค่ะ เจอกันทีไรคิ้วขมวดทุกที ทำหน้าเหมือนไม่มีความสุข จนครั้งนึงเราไปเปิดเจอการโทรเข้าโทรออก ก่อนหน้านั้นวันที่เราโทรหาแฟน มันบอกว่ามันอยู่ห้องซ้อมดนตรี ไม่ว่าง เราก็เข้าใจนะ เราก็เลยไม่โทรไป จนมาวันรุ่งขึ้นเราเจออีแฟนเรา เราเลยแกล้งขอทำเป็นเล่นโทสับค่ะ เราลองกดไปดูการโทรเข้าโทรออก ปรากฎว่า.... วันที่เราโทรไปหาอีแฟน หลังจากที่เราวางไม่กี่นาที มีสายโทรออกค่ะ แล้วไม่ได้โทรหาใครนะ มันโทรหานังเอ ซึ่งเราไปดูเวลาที่คุย ปรากฎว่าของเราคุยยังไม่ถึงนาทีเลย แล้วเป็นเราที่โทรไปด้วย แต่โทรออกไปนังเอ เวลาที่คุยปาไป 5 นาทีกว่า เรานี่น้ำตาไหลพรากเลยย แล้วเขาก็ทำเป็นบอกว่า สงสัยกดไปโดน ตอนมันพูดมันไม่สนใจเราเลย ไม่สนตอนที่เราร้องไห้ พอหันมาเห็นเราร้องไห้ มันก็บอกว่า“ถ้าให้ดูแล้วเป็นอบบนี้ วันหลังก็ไม่ต้องดู” เราพูดอะไรไม่ออกเลย... ไดัแต่ร้องไห้ จนน้ำตาไหลแล้วไหลอีก มือเย็นและชา ปากชา ตัวชาไปหมดเลย
แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มหนักขึ้นๆ จนเรามีปัญหากับนังเอ เราเลยไปโพสหน้าเฟสบุ๊กของเราเอง ปรากฎว่ามันก็เอาเราไปด่าในเฟสบุ๊คเหมือนกัน จนมีปันหาหนัก ถึงต้องเลิกคบกันเลย ส่วนอีแฟนเรามันก็ทำเป็นฮีโร่ขึ้นมา บอกว่าไม่อยากให้ทะเลาะกัน เราก็รักแฟนนะคะ เราก็เลยยอมลดละค่ะ สรุปเรากับนังเอก็กลับมาคุยกันอีก พอหลังจากวันนั้นเราจะไปสมัครเข้ามหาลัยกับเพื่อนรักของเรา เราเลยชวนแฟนเราไป แต่แฟนเรามันดันบอกว่า “ไม่ว่าง ขี้เกียจ” เราก็เลยโอเค ไม่เป็นไร เราก็เลยโทรไปหาแฟนเราอีกทีตอนที่เราถึงมหาลัยที่จะสมัครเรียนแล้ว แฟนเรามันบอกว่า“เราอยู่โรงเรียนนะ เราเอาของขวัญมาให้เอ เราอยากให้ตัวเองกับเอได้เข้าใจกันนะ....” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับให้ของขวัญอ่ะ ไอเราก็คิดอ่ะนะ พอเพื่อนเรารู้มันนี่ฉุนแทนเราขึ้นมาทันทีเลย ให้ของขวัญไม่พอนะ มีการไปส่งนังเอที่รอรถ แถมยังให้นังเอนั่งหน้ารถของอีแฟนมันด้วย....
แต่พอเราคุยกับนังเอได้ไม่นาน มันก็เริ่มทำตัวหนักยิ่งกว่าเดิม อย่างเอาโทรศัพท์อีแฟนเราไปถ่ายรูปบ้าง เอาไปเล่นเกมส์บ้างคือ...... ขยาดตรูเป็นแฟน ตรูยังไม่เคยเล่นขนาดนี้เลยนะ จนมีมาวันนึงอีแฟนเรามันขับรถมาโรงเรียน ให้เรานั่งมากับมันด้วยตอนนั้นมันก็เริ่มเปลี่ยนๆตัวแล้วแหละ เริ่มทำตัวมุ้งมิ้งเหมือนเดิมและ ไปถึงโรงเรียนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะปกติดี แต่พอตอนเย็นเรากับอีแฟนกำลังกลับบ้าน ขึ้นบนรถแระ เราเห็นยัยเอเดินมากับเพื่อนมันมันมองเข้ามาในรถอีแฟนเรา แล้วมองตรงที่เรานั่งแบบมองตาขวางใส่ด้วย เราก็สงสัยนะว่าทำไมทำแบบนั้น แต่พอตกเย็นมาเท่านั้นแหละ เราสงสัยกับมันว่สทำไมมองแบบนั้น้ลยกดเข้าไปในเฟสมันปรากฎว่ามันลบเราเป็นเพื่อนในเฟสค่ะ ทั้งมันและเพื่อนมันอีกคนนึง เราก็ไม่เข้าใจกับมันทำไปเพราะอะไร แต่เราก็ตัดสินใจไม่ยุ่งไม่สน ตัดขาดจากมันไปเลยค่ะ
จนหลังจากนนั้นเราก็มีโอกาสได้ไปเข้าค่ายกับโรงเรียนที่ต่างจังหวัด วันนั้นมีกิจกรรมไปดูมงกุฎของนางสาวไทยสมัยเก่า เขาก็แนะนำประมานว่ามงกุฎนี้ตั้งแต่สมันไหน แล้วใครได้มงกุฎนี้ ซักพักคนที่แนะนำเรื่องมงกุฎเขาไปหยิบมงกุฎของนางสาวไทยสมัยเก่ามา แล้วบอกว่า“เขาจะให้มงกุฎนี้ ที่เขาคิดว่าเหมาะที่สุดในงานนี้ คือสิ่งแรกที่เราเห็นคือยัยเอ she ทำเป็นจัดผม ประมานว่าตัวเองต้องได้แน่ แต่นางกลับต้องหน้าแตกเพราะ จู่ๆเขาก็เดินเอามงกุฎมาใส่ที่หัวเรา แล้วบอกว่า“คนนี้แหละที่เหมาะกับมงกุฎนี้ที่สุดแล้ววว หรือเรียกว่าสวยที่สุดนั่นแหละ” ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าเป็นเรานะอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ ตอนที่เราเห็นสีหน้ายัยเอตอนนั้น หน้าเสียมากอ่ะะ ทำได้แต่ปรบมือแปะๆ เท่านั้น....(รู้สึกซะใจอย่างบอกไม่ถูก)
ตอนนั้นเราเจอเหตุการณ์ที่แย่มากค่ะ นี่ส่วนน้อยนะคะที่เล่า มันยังมีอีกเยอะ ที่เล่ายังไงก็คงไม่หมด กับนังเอแล้วก็อีแฟนเราด้วย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเราแทบจะเป็นบ้าอ่ะะะ คือ....ร้องไห้หนักมากกกก ร้องแบบไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อน
จนปัจจุบันพอเราเล่าเรื่องนังเอให้อีแฟนฟังทีไรทำเป็นทนฟังไม่ได้ ทำเป็นสำนึกผิด จนตอนนี้นังแฟนมันบอกว่า มันเหมือนกำลังชดใช้อะไรบางอย่างให้เราอยู่ เพราะมันบอกว่า “ยิ่งเรารักเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่สนใจเรา เราคงต้องชดใช้ในสิ่งที่เราเคยทำแล้วแหละ....” เราพูดตรงๆนะคือออ เราเป็นฝ่ายขอเลิกมันประมาน 2 รอบอ่ะ เพราะอะไรรู้มั้ยค่ะ.... เพราะความงี่เงา ไม่มีเหตุผล ของเขาไง ที่เราเบื่อ แถมไม่เคยให้พื้นที่ส่วนตัวกับเราด้วย เรายอมนับว่าเราเหนื่อยและเบื่อ เพราะว่าเขาทำตัวเหมือนเดิมไม่เคยพัฒนาตัวเอง พอเรายิ่งนึกเรื่องตะก่อนทีไรยิ่งเบื่อ ถึงจะบอกว่าเราไม่สนเรื่องตะก่อนแล้ว แต่จริงๆมันก็มีคิดบ้างอ่ะ...
ถ้าสมมุติเพื่อนๆเป็นแบบเราเพื่อนๆจะทำยังไงกันค่ะ จะเลิกหรือจะคบต่อ แล้วคบต่อจะคบเพราะอะไร เพราะยิ่งคบยิ่งเหนื่อย ยิ่งเบื่อ.... ขอบคุนทุดๆคำตอบนะคะ
ปล.ขอระบายหน่อยค่ะ ยาวนิดนึง แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยกันอ่านน้าาา ^^