ช่วงเวลานี้เมื่อ 3 ปีก่อนผมได้มีโอกาสไปชมบั้งไฟพญานาค (
http://ppantip.com/topic/31137600) เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ยินมาบ้างประปราย จนได้บังเอิญมาเจอกระทู้ของคุณสมภพ เจ้าเก่า (หากระทู้นั้นไม่เจอเอา
กระทู้นี้แทนละกันครับ ขอปีต่อมา) และได้เกิดความสงสัยว่า สิ่งที่คุณสมภพเจอมานั้น เป็นจริงหรือไม่จนเป็นที่มาขอการเดินทางไปชมในปีแรกนั่นเอง ซึ่งบทสรุปก็คือ ไม่มีลูกไฟฯลูกไหนขึ้นจากฝั่งไทย หรือจากกลางน้ำเลย
อย่างไรก็ตามในปีต่อมาผมก็ได้มีโอกาสไปอีกเป็นปีที่สอง ซึ่งได้ทำงานร่วมกับกองถ่ายสารคดีกองนึง บันทึกภาพวิดีโอจากฝั่งลาว แต่น่าเสียดายวิดีโอเหล่านั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ผมจึงไม่สามารถนำมาลงได้ (และจนตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าทำไมเขายังตัดต่อไม่เสร็จกัน 555) แต่ปีที่สองก็ยังคงเหมือนเดิม ก็คือไม่สามารถบันทึกภาพสิ่งที่คนเชื่อกันว่าเป็นบั้งไฟฯ นั้นมาจากกลางน้ำ หรือฝั่งไทยได้เลยแม้แต่ลูกเดียว
ปีถัดมาอีกผมไม่ได้ไปเนื่องจากตดิดภารกิจอื่น แต่ในปี้นี้ผมได้มีโอกาสไปอีกครั้งเป็นปีที่ 3 ในรอบ 4 ปี ซึ่งครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์จากฝั่งไทยโดยตรง ต่างจากที่ผ่านมาสองปีที่อยู่ฝั่งลาวถ่ายมาฝั่งไทย จึงนับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจพอสมควร
สำหรับปีนี้แบ่งเป็นสองวันครับ วันแรกวันที่ 27 ผมแยกกับคุณสมภพเป็นสองทีม ทีมผมจะอยู่ที่ อ. ปากคาด จ. บึงกาฬ ส่วนคุณสมภพจะไปฉายเดี่ยวที่บ้านหนองแก้ว อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ครับ
(คำอธิบายรูป อยู่ด้านล่างของรูป)
เริ่มแรก คุณสมภพไปลงที่บ้านหนองแก้วก่อนเพื่อเอานั่งร้านลง ไปถึงประมาณสักบ่ายสองครึ่ง แดดร้อนพอสมควร มีชาวบ้านเริ่มมาตั้งร้านขายของกันแล้ว
มีศาลาด้วย คาดว่าตอนกลางคืนคงคนเต็ม
หันไปอีกด้าน คนยังไม่ค่อยเยอะ แต่ช่วงเย็นๆ จะมีคนมาตั้งร้านเป็นแถวยาวไปไกลเลยครับ
หันหน้าไปฝั่งโน้นซึ่งเป็นฝั่งลาว คาดว่าตรงนี้น่าจะมีระยะไม่เกิน 1km เห็นไกลๆ มีเรือกำลังข้ามมาด้วย ผมไม่แน่ใจว่าเขามีกฏระเบียบยังไงในการข้าม แต่เห็นข้ามไปมาแม้ในตอนกลางคืน
มองเข้าไปดูในศาลาบ้าง ชาวบ้านมานั่งพักกัน 8-9 คน
มองไปทางขวา สังเกตฝั่งลาวจะไม่ค่อยมีบ้านเรือนมากเท่าไหร่
มองไปทางซ้าย เรือที่เห็นตะกี้ใกล้เข้ามาฝั่งไทยแล้ว
วิวรอบๆ
สำรวจเพลินๆ หันมาดูอีกทีคุณสมภพเริ่มตั้งร้านกันแล้วครับ
หลังจากลงน่งร้านเสร็จแล้วคุณสมภพก็พาผมไปส่งที่อำเภอปากคาด ซึ่งจุดชมบั้งไฟพญานาคจุดนี้เป็นจุดที่มีคนมาเยอะแยะมากมายเลยครับ แตกต่างจากที่หนองแก้วที่ไปก่อนหน้านี้มาก
(จากตรงนี้ไป คำอธิบายรูปจะอยู่ด้านบนก่อนรูปนะครับ)
ลานตรงนี้ตอนกลางคืนจะมีคนมารอดูบั้งไฟพญานาคเต็มเลยครับ
มองไปเห็นเวทีอยู่ไกลๆ ตอนกลางคืนเหมือนจะมีประกวดอะไรสักอย่าง แล้วก็มีหมอลำมาแสดงด้วย
จุดชมวิวจุดนี้เป็นทางโค้งของแม่น้ำพอดี ช่วงนี้น้ำแห้งลงเยอะ
สอบถามจากแม่ค้าบอกว่า ตรงนี้ตอนหัวค่ำจะมีพิธีบวงสรวงพญานาคกัน
ก็คือสามารถเอานั่งร้านลงตรงไหนก็ได้ ยกเว้นตรงบริเวณนี้ เราเลยย้ายไปมุมๆ สุดทางเดินโน้นกัน
เริ่มตั้งร้านกันแล้วครับ
พอตั้งร้านเสร็จ คุณสมภพก็กลับไปประจำการที่บ้านหนองแก้ว ทิ้งผมกับเพื่อนไว้ที่ปากคาด
ตัดภาพมาตอนกลางคืน จะเห็นว่ามีผู้คนมารอดูบั้งไฟฯกันเยอะมาก ตรงลานก่อนหน้านี้คนเต็มเลย
ภาพจากกล้องมือถือหมดแล้วนะครับ ต่อไปเป็นภาพจากกล้องหลักผม
ช่วงหัวค่ำ คนเริ่มมาจับจองพื้นที่กันเยอะไม่ว่าจะเป็นด้านบนตรงลาน และด้านล่างก็มีคนไปปูเสื่อรอชมบั้งไฟพญานาคกันมากมายครับ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้ดูบั้งไฟพญานาคกันแล้วครับ
มองไปตรงข้าม จะเห็นเป็นฝั่งลาว ตรงนี้เดี๋ยวผมจะมาอธิบายจุดที่บั้งไฟขึ้นอีกทีนะครับ
ประมาณสักทุ่มนึง ก็เริ่มพิธีบวงสรวงกัน
ช่วงนี้คงเริ่มมากันเยอะแล้ว เป็นช่วงเวลาก่อนบั้งไฟจะขึ้นไม่ถึง 30 นาที
ภาพดูสว่างนิดๆ นะครับ จริงๆ มันมืดมากๆ แต่ถ่ายมาแล้วดึงความสว่างขึ้นเยอะหน่อย เดี๋ยวจะมืดไปมองไม่เห็นรายละเอียด
หมดช่วงภาพถ่ายแล้ว มาเข้าเรื่องกันต่อเลย ช่วงเวลาประมาณทุ่ม ถึงทุ่มครึ่ง ช่วงนี้เริ่มมีบั้งไฟขึ้นมาบ้างแล้วครับ ตอนแรกผมก็มองไม่เห็น พยายามมองยังไงก็มองไม่เห็น ไม่รู้ชาวบ้านร้องอะไรกัน จนสักพัก ผมเริ่มสังเกตเห็นว่ามันมีบั้งไฟขึ้นอยู่ไกลมากๆ (ผมสายตาสั้นนิดหน่อย ถ้ามองไกลจะเบลอๆ โดยเฉพาะหากเป็นลูกไฟเล็กๆ จะมองยาก) ถ้าไม่เพ่งให้ดีจะไม่เห็นเลย ที่ผมสังเกตเห็นได้เพราะมันเคลื่อนที่ขึ้นไปข้างบน เป็นจุดสีชมพูออกแดงนิดๆ ลอยขึ้นไป ช่วงนี้เพื่อนผม (เขาไม่เคยเห็นมาก่อน) ก็มองไม่เห็นเหมือนกัน
ผ่านไปสักพัก ประมาณ 15 นาที มีขึ้นอีกแล้ว แต่เป็นใกล้เข้ามาหน่อย เห็นชัดเจนครับ เป็นลูกสีชมพูออกแดงนิดๆ ขึ้นมาหลายลูก ช่วงหลังๆ นี่รัวเป็นปืนอาก้าได้เลย ซึ่งตรงนี้แหละครับที่เสียดายมากๆ เพราะกล้องผมถ่ายไม่ติด! เนื่องจากผมตั้งค่าโหมด interval ผิดพลาด เลยทำให้มันหยุดถ่ายไปก่อน เอาเป็นว่าวันแรกฟังบรรยายไปก่อนละกันครับ 555
สิ่งที่ชาวบ้าน และคนที่มาดูโห่ร้องชื่นชมกันนั้น เป็นลักษณะคล้ายกับทุกปีที่เคยไปดู และถ่ายได้ครับ ก็คือเป็นลูกสีชมพู ออกแดงๆ พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เอียงบ้าง ตั้งตรงบ้าง ทุกลูกจะขึ้นจากฝั่งลาว เราจะสังเกตเห็นแสงของมันได้เมื่อพ้นจากพื้นดินประมาณ 5-15 เมตร และพอขึ้นไปประมาณสัก 100-150 เมตรก็จะหายไป (กะจากระยะสายตา)
จุดที่เป็นวงกลมสีแดง จุดนี้คือจุดที่มีบั้งไฟขึ้นครับ แต่ตอนมันขึ้น เราจะไม่เห็นแสงมันตั้งแต่ยอดต้นไม้นะครับ มันจะเริ่มเห็นหลังจากพ้นยอดต้นไม้มาสัก 5-10 เมตรก่อน
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ น่าจะเกือบครึ่งชั่วโมง มันจะมาขึ้นฝั่งขวามือแทน ผมก็ถ่ายไม่ติดอีก เนื่องจากกล้องมีปัญหาตามที่บอกไปข้างบน ตอนนี้ขึ้นแบบรัวมาก คือครั้งนึง 4-5 ลูก แล้วเว้นระยะห่างอีกไม่ถึงนาที แล้วก็ขึ้นอีก 4-5 ลูก เป็นแนวเอียงนิดๆ จากตรงจุดสีแดงที่ระบุในรูปด้านล่าง
เท่าที่ผมสังเกตก็คือ ถ้าขึ้นจากซ้าย ก็จะไม่ขึ้นจากขวา ถ้าขึ้นจากขวา ก็จะไม่ขึ้นจากซ้าย กล่าวคือขึ้นได้แค่ทีละจุดครับ พอตอนหลังย้ายมาขึ้นทางขวา ก็ไม่ขึ้นทางซ้ายอีกเลยจนถึงสักสามทุ่มครึ่งถึงสี่ทุ่มก็ไม่ขึ้นแล้ว ก็เลยแยกย้ายกันกลับ
เดี๋ยวมาต่อวันที่สองครับ ทีเด็ดอยู่วันที่สอง ถ่ายภาพติดครับ จัดการเรื่อง interval mode ได้แล้ว 555
บั้งไฟพญานาค: สิ่งที่เห็นนั้นเป็นของจริง แต่ไม่ใช่ความจริง
อย่างไรก็ตามในปีต่อมาผมก็ได้มีโอกาสไปอีกเป็นปีที่สอง ซึ่งได้ทำงานร่วมกับกองถ่ายสารคดีกองนึง บันทึกภาพวิดีโอจากฝั่งลาว แต่น่าเสียดายวิดีโอเหล่านั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ผมจึงไม่สามารถนำมาลงได้ (และจนตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าทำไมเขายังตัดต่อไม่เสร็จกัน 555) แต่ปีที่สองก็ยังคงเหมือนเดิม ก็คือไม่สามารถบันทึกภาพสิ่งที่คนเชื่อกันว่าเป็นบั้งไฟฯ นั้นมาจากกลางน้ำ หรือฝั่งไทยได้เลยแม้แต่ลูกเดียว
ปีถัดมาอีกผมไม่ได้ไปเนื่องจากตดิดภารกิจอื่น แต่ในปี้นี้ผมได้มีโอกาสไปอีกครั้งเป็นปีที่ 3 ในรอบ 4 ปี ซึ่งครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์จากฝั่งไทยโดยตรง ต่างจากที่ผ่านมาสองปีที่อยู่ฝั่งลาวถ่ายมาฝั่งไทย จึงนับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจพอสมควร
สำหรับปีนี้แบ่งเป็นสองวันครับ วันแรกวันที่ 27 ผมแยกกับคุณสมภพเป็นสองทีม ทีมผมจะอยู่ที่ อ. ปากคาด จ. บึงกาฬ ส่วนคุณสมภพจะไปฉายเดี่ยวที่บ้านหนองแก้ว อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ครับ
(คำอธิบายรูป อยู่ด้านล่างของรูป)
เริ่มแรก คุณสมภพไปลงที่บ้านหนองแก้วก่อนเพื่อเอานั่งร้านลง ไปถึงประมาณสักบ่ายสองครึ่ง แดดร้อนพอสมควร มีชาวบ้านเริ่มมาตั้งร้านขายของกันแล้ว
มีศาลาด้วย คาดว่าตอนกลางคืนคงคนเต็ม
หันไปอีกด้าน คนยังไม่ค่อยเยอะ แต่ช่วงเย็นๆ จะมีคนมาตั้งร้านเป็นแถวยาวไปไกลเลยครับ
หันหน้าไปฝั่งโน้นซึ่งเป็นฝั่งลาว คาดว่าตรงนี้น่าจะมีระยะไม่เกิน 1km เห็นไกลๆ มีเรือกำลังข้ามมาด้วย ผมไม่แน่ใจว่าเขามีกฏระเบียบยังไงในการข้าม แต่เห็นข้ามไปมาแม้ในตอนกลางคืน
มองเข้าไปดูในศาลาบ้าง ชาวบ้านมานั่งพักกัน 8-9 คน
มองไปทางขวา สังเกตฝั่งลาวจะไม่ค่อยมีบ้านเรือนมากเท่าไหร่
มองไปทางซ้าย เรือที่เห็นตะกี้ใกล้เข้ามาฝั่งไทยแล้ว
วิวรอบๆ
สำรวจเพลินๆ หันมาดูอีกทีคุณสมภพเริ่มตั้งร้านกันแล้วครับ
หลังจากลงน่งร้านเสร็จแล้วคุณสมภพก็พาผมไปส่งที่อำเภอปากคาด ซึ่งจุดชมบั้งไฟพญานาคจุดนี้เป็นจุดที่มีคนมาเยอะแยะมากมายเลยครับ แตกต่างจากที่หนองแก้วที่ไปก่อนหน้านี้มาก
(จากตรงนี้ไป คำอธิบายรูปจะอยู่ด้านบนก่อนรูปนะครับ)
ลานตรงนี้ตอนกลางคืนจะมีคนมารอดูบั้งไฟพญานาคเต็มเลยครับ
มองไปเห็นเวทีอยู่ไกลๆ ตอนกลางคืนเหมือนจะมีประกวดอะไรสักอย่าง แล้วก็มีหมอลำมาแสดงด้วย
จุดชมวิวจุดนี้เป็นทางโค้งของแม่น้ำพอดี ช่วงนี้น้ำแห้งลงเยอะ
สอบถามจากแม่ค้าบอกว่า ตรงนี้ตอนหัวค่ำจะมีพิธีบวงสรวงพญานาคกัน
ก็คือสามารถเอานั่งร้านลงตรงไหนก็ได้ ยกเว้นตรงบริเวณนี้ เราเลยย้ายไปมุมๆ สุดทางเดินโน้นกัน
เริ่มตั้งร้านกันแล้วครับ
พอตั้งร้านเสร็จ คุณสมภพก็กลับไปประจำการที่บ้านหนองแก้ว ทิ้งผมกับเพื่อนไว้ที่ปากคาด
ตัดภาพมาตอนกลางคืน จะเห็นว่ามีผู้คนมารอดูบั้งไฟฯกันเยอะมาก ตรงลานก่อนหน้านี้คนเต็มเลย
ภาพจากกล้องมือถือหมดแล้วนะครับ ต่อไปเป็นภาพจากกล้องหลักผม
ช่วงหัวค่ำ คนเริ่มมาจับจองพื้นที่กันเยอะไม่ว่าจะเป็นด้านบนตรงลาน และด้านล่างก็มีคนไปปูเสื่อรอชมบั้งไฟพญานาคกันมากมายครับ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้ดูบั้งไฟพญานาคกันแล้วครับ
มองไปตรงข้าม จะเห็นเป็นฝั่งลาว ตรงนี้เดี๋ยวผมจะมาอธิบายจุดที่บั้งไฟขึ้นอีกทีนะครับ
ประมาณสักทุ่มนึง ก็เริ่มพิธีบวงสรวงกัน
ช่วงนี้คงเริ่มมากันเยอะแล้ว เป็นช่วงเวลาก่อนบั้งไฟจะขึ้นไม่ถึง 30 นาที
ภาพดูสว่างนิดๆ นะครับ จริงๆ มันมืดมากๆ แต่ถ่ายมาแล้วดึงความสว่างขึ้นเยอะหน่อย เดี๋ยวจะมืดไปมองไม่เห็นรายละเอียด
หมดช่วงภาพถ่ายแล้ว มาเข้าเรื่องกันต่อเลย ช่วงเวลาประมาณทุ่ม ถึงทุ่มครึ่ง ช่วงนี้เริ่มมีบั้งไฟขึ้นมาบ้างแล้วครับ ตอนแรกผมก็มองไม่เห็น พยายามมองยังไงก็มองไม่เห็น ไม่รู้ชาวบ้านร้องอะไรกัน จนสักพัก ผมเริ่มสังเกตเห็นว่ามันมีบั้งไฟขึ้นอยู่ไกลมากๆ (ผมสายตาสั้นนิดหน่อย ถ้ามองไกลจะเบลอๆ โดยเฉพาะหากเป็นลูกไฟเล็กๆ จะมองยาก) ถ้าไม่เพ่งให้ดีจะไม่เห็นเลย ที่ผมสังเกตเห็นได้เพราะมันเคลื่อนที่ขึ้นไปข้างบน เป็นจุดสีชมพูออกแดงนิดๆ ลอยขึ้นไป ช่วงนี้เพื่อนผม (เขาไม่เคยเห็นมาก่อน) ก็มองไม่เห็นเหมือนกัน
ผ่านไปสักพัก ประมาณ 15 นาที มีขึ้นอีกแล้ว แต่เป็นใกล้เข้ามาหน่อย เห็นชัดเจนครับ เป็นลูกสีชมพูออกแดงนิดๆ ขึ้นมาหลายลูก ช่วงหลังๆ นี่รัวเป็นปืนอาก้าได้เลย ซึ่งตรงนี้แหละครับที่เสียดายมากๆ เพราะกล้องผมถ่ายไม่ติด! เนื่องจากผมตั้งค่าโหมด interval ผิดพลาด เลยทำให้มันหยุดถ่ายไปก่อน เอาเป็นว่าวันแรกฟังบรรยายไปก่อนละกันครับ 555
สิ่งที่ชาวบ้าน และคนที่มาดูโห่ร้องชื่นชมกันนั้น เป็นลักษณะคล้ายกับทุกปีที่เคยไปดู และถ่ายได้ครับ ก็คือเป็นลูกสีชมพู ออกแดงๆ พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เอียงบ้าง ตั้งตรงบ้าง ทุกลูกจะขึ้นจากฝั่งลาว เราจะสังเกตเห็นแสงของมันได้เมื่อพ้นจากพื้นดินประมาณ 5-15 เมตร และพอขึ้นไปประมาณสัก 100-150 เมตรก็จะหายไป (กะจากระยะสายตา)
จุดที่เป็นวงกลมสีแดง จุดนี้คือจุดที่มีบั้งไฟขึ้นครับ แต่ตอนมันขึ้น เราจะไม่เห็นแสงมันตั้งแต่ยอดต้นไม้นะครับ มันจะเริ่มเห็นหลังจากพ้นยอดต้นไม้มาสัก 5-10 เมตรก่อน
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ น่าจะเกือบครึ่งชั่วโมง มันจะมาขึ้นฝั่งขวามือแทน ผมก็ถ่ายไม่ติดอีก เนื่องจากกล้องมีปัญหาตามที่บอกไปข้างบน ตอนนี้ขึ้นแบบรัวมาก คือครั้งนึง 4-5 ลูก แล้วเว้นระยะห่างอีกไม่ถึงนาที แล้วก็ขึ้นอีก 4-5 ลูก เป็นแนวเอียงนิดๆ จากตรงจุดสีแดงที่ระบุในรูปด้านล่าง
เท่าที่ผมสังเกตก็คือ ถ้าขึ้นจากซ้าย ก็จะไม่ขึ้นจากขวา ถ้าขึ้นจากขวา ก็จะไม่ขึ้นจากซ้าย กล่าวคือขึ้นได้แค่ทีละจุดครับ พอตอนหลังย้ายมาขึ้นทางขวา ก็ไม่ขึ้นทางซ้ายอีกเลยจนถึงสักสามทุ่มครึ่งถึงสี่ทุ่มก็ไม่ขึ้นแล้ว ก็เลยแยกย้ายกันกลับ
เดี๋ยวมาต่อวันที่สองครับ ทีเด็ดอยู่วันที่สอง ถ่ายภาพติดครับ จัดการเรื่อง interval mode ได้แล้ว 555