ตอนนี้ขอไม่เกรินมากแล้วกันครับ กำลังโดนงานกดดันหนัก เหนื่อยสุดๆ
เปิดตอน ย้อนกลับมาในช่วงก่อนสร้างเกม เหล่าผู้ออกเงินทุนต่างกำลังประชุมกันถามถึงเหตุผลที่ทำไมโครงการนี้ถึงต้องใช้เงินทุนมหาศาลและทำไมต้องสร้างเป็นเกม เป็นเพียงแค่งบวิจัย ESP ไม่ได้เหรอ แต่บางคนที่ได้ไปเห็นมาแล้วก็เข้าใจและเป็นพยานให้คนอื่นๆได้ ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเองก็มีเด็กคนหนึ่งเผลอเข้ามาในห้อง เหล่าผู้ประชุมเลยต่อว่าเล็กน้อย แต่เด็กคนนี้ก็เป็นลูกชายของใครบางคนในที่ประชุมก็เลยเพียงบอกให้ออกไปเล่นที่อื่นก่อนเท่านั้น
และเหล่าผู้ออกเงินทุนในโครงการนี้ก็คือ "Novus Ordo" กลุ่มเงินทุนขนาดยักษ์ที่มีแหล่งเงินจากหลายประเทศที่ให้เงินทุนกับเฟเดริค ออลสัน และโจนาธาน ทำโครงการ Neo-Universe และมีสายสัมพันธ์กับผู้ที่มี ESP ระดับสูง และในการนำเสนอโครงการทั้งสามคนได้นำเด็กสาวคนหนึ่งที่มี ESP มาแสดงพลังเพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของ ESP ที่มีศักยภาพสูงเป็นครั้งแรก โครงการจึงเริ่มขึ้นได้สำเร็จและเริ่มการรวมรวบผู้ที่มี ESP ระดับสูงทั่วโลกมาเพื่อทำการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับ ESP ผลประโยชน์อันมหาศาลจึงได้เริ่มขึ้นจากโครงการนี้ที่จะก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมาย แต่กระนั้นก็มีเรื่องเดียวที่ Novus Ordo ทำพลาด
กลับมาที่การต่อสู้ของอัษฎากับพัมพ์กิ้น ทั้งคู่ยังคงแลกเลือดกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างโดนการโจมตีของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ แต่ก็เป็นการโจมตีธรรมดาแบบต่อเนื่องยังไม่มีท่าไม้ตายอะไร พอถึงจังหวะหนึ่งพัมพ์กิ้นใช้ยูนิเวอร์แซลโจมตีอัษฎาจากด้านข้างได้ทำให้อัษฎาเกิดช่องว่างดันอัษฎาออกห่างด้วยการโจมตีได้ แม้อัษฎาจะป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมดแต่ก็ทำให้พัมพ์กิ้นสร้างระยะห่างจากตัวอัษฎาได้อีกครั้ง
พอเว้นระยะห่างได้ พัมพ์กิ้นก็เริ่มการโม้ไปเรื่อยๆและคราวนี้ก็ฝ่อยถึงเรื่องฉากในเกมนี้โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในคราวนี้ แต่อัษฎาที่เห็นมาเยอะรู้ดีว่าพัมพ์กิ้นแค่หาเรื่องชวนคุยแล้วจะโจมตีทีเผลอเท่านั้น อัษฎาจึงไม่หลงกลแส้ของพัมพ์กิ้นที่แอบวกอ้อมมาด้านหลังและปัดออกไปได้ทั้งหมดพร้อมทั้งเตือนพัมพ์กิ้นเลยว่าถ้าจะชวนคุยก็หาเรื่องที่มีเป็นเรื่องราวกว่านี้ดีกว่า พัมพ์กิ้นเลยได้แต่พูดแบบจ๋อยๆเท่านั้น แต่ในใจก็คิดอยู่ว่าเมื่อเล่นทีเผลอแบบเดิมๆไม่ได้ผลก็ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้าง
คราวนี้พัมพ์กิ้นใช้แส้ดาวตกแบบเดียวกับที่เคยใช้กับจูเลียน โจมตีอัษฎาจากด้านบนแบบต่อเนื่องราวกับดาวตกหรือจรวดมิสไซล์จนอัษฎาที่คาดไม่ถึงป้องกันไม่ทัน แน่นอนว่าพัมพ์กิ้นยังไม่หมดแค่นี้ ใช้ยูนิเวอร์แซลเข้าโจมตีจากด้านหน้าโดยตรงต่อ แต่การโจมตีนี้กลับกลายเป็นความคิดที่ผิดเมื่ออัษฎาโดดพุ่งเข้ามาและใช้ดาบปัดยูนิเวอร์แซลจากด้านบนดันตัวเองเข้าหาพัมพ์กิ้นพร้อมกับหมุนตัวเตะใส่เต็มๆหน้าของพัมพ์กิ้นทำเอาถึงกับเลือดสาด
ด้านคนดูบางคนสังเกตเห็นเรื่องนี้ยูนิเวอร์แซลพอเจอกับดาบสตาร์บัสเตอร์แล้วเป็นต้องกระเด็นออกทุกที ตอนใช้ท่าไม้ตายยูนิเวอร์แซลก็ป้องกันไว้ไม่ได้ คนดูที่รู้ข้อมูลจึงบอกว่าดาบสตาร์บัสเตอร์มีพลังโจมตีเป็นอันดับสองในหมู่ Event Horizon ดังนั้นเมื่อเทียบพลังโจมตีของอาวุธทั้งสองแล้วจึงต่างกันแบบครึ่งๆเลยทีเดียว และการทำงานของยูนิเวอร์แซลเป็นการพุ่งเฉือนเป้าหมายเป็นหลัก แต่พอเข้าระยะดาบก็เป็นอันโดนปัดออกไปได้ตลอด แต่นั้นก็เพราะฝีมือดาบของอัษฎาด้วยแม้จะไม่เท่ากับเกียร์ก็ตาม ความสามารถดูด MP ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรเพราะสตาร์บัสเตอร์ใช้ MP น้อย บางคนจึงคิดว่าอัษฎาได้เปรียบในด้านอาวุธอย่างเห็นได้ชัด แต่หลายคนก็บอกเลยว่ายังห่างไกลทั้งเลเวลและชั้นเชิง
อัษฎาพยายามใช้กลยุทธ์เข้าประชิดตัวพัมพ์กิ้นตลอด พอพัมพ์กิ้นถอยฉากออกอัษฎาก็ตามต่อ แต่พอถึงจุดหนึ่งขณะที่อัษฎาพุ่งเข้าหาพัมพ์กิ้น พัมพ์กิ้นเปลี่ยนท่าทีจากที่ถอยก็เริ่มโจมตีแบบตรงๆด้วยการใช้แส้แบบพลังสูงโจมตีอัษฎา อัษฎาที่ประมาทเลยโดนเข้าไปเต็มๆจนถึงกับกระเด็นกลิ้งไปหลายตลบ พัมพ์กิ้นบอกเลยอัษฎาโจมตีแบบไม่ให้พักแบบนี้ช่างเดาง่าย เมื่อได้โอกาส พัมพ์กิ้นก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง แต่การรุกของพัมพ์กิ้นคราวนี้เริ่มเอาจริงมากขึ้นด้วยการใช้ไม้ตาย "Pain Slicer" ไม้ตายที่เป็นตาข่ายแส้พุ่งเข้าใส่ศัตรู อัษฎาที่ไม่มีทางหลบได้จึงได้แต่ตั้งการ์ดรับตรงๆเท่านั้นแต่ก็ยังกระเด็นกลิ้งอีกรอบ
ขณะที่อัษฎากลิ้งล้มไปและกำลังจะเริ่มตั้งหลักอีกครั้ง ตอนนี้เองที่อัษฎาเห็นว่าเวลาที่เฝ้ารอมานานได้มาถึงแล้ว เสียงและออร่าบางอย่างเริ่มออกมาจากตัวอัษฎา พัมพ์กิ้นเองก็สังเกตเห็นเช่นเดียวกันจึงหยุดการโจมตีของตัวเองดูท่าทีแต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สำหรับอัษฎาที่พัมพ์กิ้นหยุดการโจมตีเท่ากับถือเป็นโอกาสยิ่งขึ้นไปอีกและเริ่มใช้ทันที นั้นคือ "ดราก้อนแรมเพจ" ด้านพวกเกษมเองพอเห็นเงื่อนไขครบแล้วก็ยิ้มออกได้และคิดว่าที่ลงแรงกันมาไม่เสียเปล่าแล้ว ส่วนมินท์พอเห็นเกษมพูดก็งงๆรีบถามเลยว่าอะไร
อัษฎาชูมือขึ้นและถ่ายพลังไปทีดาบ ทันทีนั้นพลังรูปมังกรขนาดใหญ่ก็ปรากฎในเสี่ยววินาที วินาทีหลังจากนั้นคือภาพที่อัษฎาพุ่งออกจากตัวมังกรมาด้วยความเร็วสูงพร้อมพลังล้อมรอบ พัมพ์กิ้นที่ไม่เคยเจอท่าไม้ตายนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะรีบมือยังไง จะหลบหรือป้องกันดี สุดท้ายก็ใช้วิธีที่เสี่ยงน้อยที่สุดด้วยการ... ใช้ "Invisible Form" สกิลที่ทำให้พัมพ์กิ้นรอดพ้นจากการโจมตีต่างๆได้มาหลายต่อหลายครั้ง
เมื่ออัษฎาพุ่งมาถึงตัวพัมพ์กิ้นวินาทีตัดสินว่าจะใช้ได้ผลไม่ได้ผลมาถึง วินาทีที่ปะทะอัษฎาดันตัวพัมพ์กิ้นไปได้แต่ยังไร้ความเสียหาย แต่เพียงเสี่ยววินาทีค่าความเสียหายของพัมพ์กิ้นก็ปรากฎออกมาราวกับโดนปืนกล แม้ตัวเลขจะอยู่เพียง 20,000 ต้นๆแต่ก็รัวๆเป็นชุดๆ ชุดหนึ่งรวมแล้วไม่ต่ำกว่าแสนและยังโดนเข้าไปอีกหลายชุดต่อเนื่อง กลายเป็นการตัดสินใจผิดของพัมพ์กิ้นที่ไม่หลบจึงโดนดราก้อนแรมเพจที่ฝ่าสกิลอินวิซิเบิลได้
"Dragon Rampage" เป็นสุดยอดไม้ตายสายอาวุธดาบใหญ่ เป็นท่าที่ใช้แล้วจะมีพลังโจมตีประดุจมังกรพุ่งชนกระแทกศัตรู เกิดการโจมตีอัตโนมัติ X6 จากความเร็วการโจมตีปกติจาก เขี้ยว ขาทั้งสี่ และหาง เหยื่อที่โดนจะเหมือนถูกฟันธรรมดา X6 ต่อเนื่อง โดยท่านี้มีผล 15 วินาที
เหล่าคนดูที่ดูตัวเลขดาเมจที่ขึ้นถี่ยิบและคำนวณคราวๆถือล้านอย่างไม่ต้องสงสัย พอถึงช่วงท้ายของไม้ตาย อัษฎาใช้การฟาดดาบอย่างแรงจนพัมพ์กิ้นกระเด็นลอยไปอย่างเร็วจนถึงกับตัวไปอัดติดกำแพงบาเรียของอาณาเขตต่อสู้ที่มองไม้เห็นจนกำแพงร้าวเลยทีเดียว พูดได้เลยว่าโดนเต็มๆจริงๆ มินท์พอเห็นแบบนี้ก็ถามพวกเกษมเลยว่าฝึกได้สำเร็จเห็นๆแต่ทำไมไม่บอกกันเลย เกษมบอกจริงคือพึ่งสำเร็จในระหว่างต่อสู้เลย ทุกคนต่างพึ่งได้เห็นไม้ตายเป็นครั้งแรกกันทั้งนั้น
เหตุผลนั้นคือแม้จะรู้ถึงเงื่อนไขและสกิลที่จำเป็นต้องมี แต่เหลือเพียงเงื่อนไขเดียวที่ยังทำไม่ได้สักทีจนแทบจะถอดใจ คือ การทำให้มังกรอาละวาด โดยเบื้องต้นการไม้ตายนี้จะต้องใส่วิญญาณมังกรเข้าไปในตัว อัษฎาที่ศึกษาท่านี้จึงมีอยู่แล้วโดยไม่ได้สังเกต เมื่อต่อสู้กับศัตรูมีฝีมือสูงมากและบาดเจ็บ มังกรจึงจะเริ่มแสดงเงาออกมา ต่อมาคือต้องสำเร็จวิชาการนำวิญญาณมังกรถ่ายลงในดาบและมีสกิลเบสิค 7 อย่างเพื่อบังคับมังกร เป็นท่าที่ยุ่งยากกว่าเฟืองยักษ์ของเกษมแต่ก็คุ้มค่า แม้ในตอนแรกที่ฝึกกับซอร์ดมาสเตอร์ที่ต่างๆแต่ก็ยังไม่ได้ผล จึงไปเสี่ยงกับบอสสายเลือดมังกรราชันย์แทนจนเกือบมาไม่ทันการแข่ง
แต่ข้อเสียของท่าไม้ตายนี้ก็คือหลังใช้จะติดสถานะชาไปครู่หนึ่งจนอัษฎาขยับตัวไม่ได้ จึงคิดถูกที่อัดพัมพ์กิ้นให้กระเด็นไปไกลๆก่อน และที่เกินคาดของอัษฎาคือโจมตีพัมพ์กิ้นที่ใช้อินวิซิเบิลฟอร์มได้ ถึงจะยังไม่รู้ถึงความลับของสกิลนี้ก็ตาม
จบตอน
ลุยแหลกกันเกือบทั้งตอน แต่พัมพ์กิ้นก็ยังไม่จอด ต้องรอดูกันต่อไป(ถึงน่าจะรู้ๆกันอยู่ก็เถอะ) ตอนหน้าจะอยู่ที่คู่นี้ต่อหรือย้ายไปฝั่งคู่ฮาบ้างคงต้องรอดูกันต่อไป
ภาพเดียวตอนนี้ ยังไงก็ต้องภาพท่าไม้ตายดราก้อนแรมเพจแน่นอน อันนี้เป็นตอนพุ่งเข้าโจมตีแล้ว ภาพมังกรไว้ไปซื้อดูกันเอาแล้วกันนะครับ
[Spoil] EXEcutional - 268 # Enter the Dragon
เปิดตอน ย้อนกลับมาในช่วงก่อนสร้างเกม เหล่าผู้ออกเงินทุนต่างกำลังประชุมกันถามถึงเหตุผลที่ทำไมโครงการนี้ถึงต้องใช้เงินทุนมหาศาลและทำไมต้องสร้างเป็นเกม เป็นเพียงแค่งบวิจัย ESP ไม่ได้เหรอ แต่บางคนที่ได้ไปเห็นมาแล้วก็เข้าใจและเป็นพยานให้คนอื่นๆได้ ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเองก็มีเด็กคนหนึ่งเผลอเข้ามาในห้อง เหล่าผู้ประชุมเลยต่อว่าเล็กน้อย แต่เด็กคนนี้ก็เป็นลูกชายของใครบางคนในที่ประชุมก็เลยเพียงบอกให้ออกไปเล่นที่อื่นก่อนเท่านั้น
และเหล่าผู้ออกเงินทุนในโครงการนี้ก็คือ "Novus Ordo" กลุ่มเงินทุนขนาดยักษ์ที่มีแหล่งเงินจากหลายประเทศที่ให้เงินทุนกับเฟเดริค ออลสัน และโจนาธาน ทำโครงการ Neo-Universe และมีสายสัมพันธ์กับผู้ที่มี ESP ระดับสูง และในการนำเสนอโครงการทั้งสามคนได้นำเด็กสาวคนหนึ่งที่มี ESP มาแสดงพลังเพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของ ESP ที่มีศักยภาพสูงเป็นครั้งแรก โครงการจึงเริ่มขึ้นได้สำเร็จและเริ่มการรวมรวบผู้ที่มี ESP ระดับสูงทั่วโลกมาเพื่อทำการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับ ESP ผลประโยชน์อันมหาศาลจึงได้เริ่มขึ้นจากโครงการนี้ที่จะก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมาย แต่กระนั้นก็มีเรื่องเดียวที่ Novus Ordo ทำพลาด
กลับมาที่การต่อสู้ของอัษฎากับพัมพ์กิ้น ทั้งคู่ยังคงแลกเลือดกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างโดนการโจมตีของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ แต่ก็เป็นการโจมตีธรรมดาแบบต่อเนื่องยังไม่มีท่าไม้ตายอะไร พอถึงจังหวะหนึ่งพัมพ์กิ้นใช้ยูนิเวอร์แซลโจมตีอัษฎาจากด้านข้างได้ทำให้อัษฎาเกิดช่องว่างดันอัษฎาออกห่างด้วยการโจมตีได้ แม้อัษฎาจะป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมดแต่ก็ทำให้พัมพ์กิ้นสร้างระยะห่างจากตัวอัษฎาได้อีกครั้ง
พอเว้นระยะห่างได้ พัมพ์กิ้นก็เริ่มการโม้ไปเรื่อยๆและคราวนี้ก็ฝ่อยถึงเรื่องฉากในเกมนี้โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในคราวนี้ แต่อัษฎาที่เห็นมาเยอะรู้ดีว่าพัมพ์กิ้นแค่หาเรื่องชวนคุยแล้วจะโจมตีทีเผลอเท่านั้น อัษฎาจึงไม่หลงกลแส้ของพัมพ์กิ้นที่แอบวกอ้อมมาด้านหลังและปัดออกไปได้ทั้งหมดพร้อมทั้งเตือนพัมพ์กิ้นเลยว่าถ้าจะชวนคุยก็หาเรื่องที่มีเป็นเรื่องราวกว่านี้ดีกว่า พัมพ์กิ้นเลยได้แต่พูดแบบจ๋อยๆเท่านั้น แต่ในใจก็คิดอยู่ว่าเมื่อเล่นทีเผลอแบบเดิมๆไม่ได้ผลก็ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้าง
คราวนี้พัมพ์กิ้นใช้แส้ดาวตกแบบเดียวกับที่เคยใช้กับจูเลียน โจมตีอัษฎาจากด้านบนแบบต่อเนื่องราวกับดาวตกหรือจรวดมิสไซล์จนอัษฎาที่คาดไม่ถึงป้องกันไม่ทัน แน่นอนว่าพัมพ์กิ้นยังไม่หมดแค่นี้ ใช้ยูนิเวอร์แซลเข้าโจมตีจากด้านหน้าโดยตรงต่อ แต่การโจมตีนี้กลับกลายเป็นความคิดที่ผิดเมื่ออัษฎาโดดพุ่งเข้ามาและใช้ดาบปัดยูนิเวอร์แซลจากด้านบนดันตัวเองเข้าหาพัมพ์กิ้นพร้อมกับหมุนตัวเตะใส่เต็มๆหน้าของพัมพ์กิ้นทำเอาถึงกับเลือดสาด
ด้านคนดูบางคนสังเกตเห็นเรื่องนี้ยูนิเวอร์แซลพอเจอกับดาบสตาร์บัสเตอร์แล้วเป็นต้องกระเด็นออกทุกที ตอนใช้ท่าไม้ตายยูนิเวอร์แซลก็ป้องกันไว้ไม่ได้ คนดูที่รู้ข้อมูลจึงบอกว่าดาบสตาร์บัสเตอร์มีพลังโจมตีเป็นอันดับสองในหมู่ Event Horizon ดังนั้นเมื่อเทียบพลังโจมตีของอาวุธทั้งสองแล้วจึงต่างกันแบบครึ่งๆเลยทีเดียว และการทำงานของยูนิเวอร์แซลเป็นการพุ่งเฉือนเป้าหมายเป็นหลัก แต่พอเข้าระยะดาบก็เป็นอันโดนปัดออกไปได้ตลอด แต่นั้นก็เพราะฝีมือดาบของอัษฎาด้วยแม้จะไม่เท่ากับเกียร์ก็ตาม ความสามารถดูด MP ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรเพราะสตาร์บัสเตอร์ใช้ MP น้อย บางคนจึงคิดว่าอัษฎาได้เปรียบในด้านอาวุธอย่างเห็นได้ชัด แต่หลายคนก็บอกเลยว่ายังห่างไกลทั้งเลเวลและชั้นเชิง
อัษฎาพยายามใช้กลยุทธ์เข้าประชิดตัวพัมพ์กิ้นตลอด พอพัมพ์กิ้นถอยฉากออกอัษฎาก็ตามต่อ แต่พอถึงจุดหนึ่งขณะที่อัษฎาพุ่งเข้าหาพัมพ์กิ้น พัมพ์กิ้นเปลี่ยนท่าทีจากที่ถอยก็เริ่มโจมตีแบบตรงๆด้วยการใช้แส้แบบพลังสูงโจมตีอัษฎา อัษฎาที่ประมาทเลยโดนเข้าไปเต็มๆจนถึงกับกระเด็นกลิ้งไปหลายตลบ พัมพ์กิ้นบอกเลยอัษฎาโจมตีแบบไม่ให้พักแบบนี้ช่างเดาง่าย เมื่อได้โอกาส พัมพ์กิ้นก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง แต่การรุกของพัมพ์กิ้นคราวนี้เริ่มเอาจริงมากขึ้นด้วยการใช้ไม้ตาย "Pain Slicer" ไม้ตายที่เป็นตาข่ายแส้พุ่งเข้าใส่ศัตรู อัษฎาที่ไม่มีทางหลบได้จึงได้แต่ตั้งการ์ดรับตรงๆเท่านั้นแต่ก็ยังกระเด็นกลิ้งอีกรอบ
ขณะที่อัษฎากลิ้งล้มไปและกำลังจะเริ่มตั้งหลักอีกครั้ง ตอนนี้เองที่อัษฎาเห็นว่าเวลาที่เฝ้ารอมานานได้มาถึงแล้ว เสียงและออร่าบางอย่างเริ่มออกมาจากตัวอัษฎา พัมพ์กิ้นเองก็สังเกตเห็นเช่นเดียวกันจึงหยุดการโจมตีของตัวเองดูท่าทีแต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สำหรับอัษฎาที่พัมพ์กิ้นหยุดการโจมตีเท่ากับถือเป็นโอกาสยิ่งขึ้นไปอีกและเริ่มใช้ทันที นั้นคือ "ดราก้อนแรมเพจ" ด้านพวกเกษมเองพอเห็นเงื่อนไขครบแล้วก็ยิ้มออกได้และคิดว่าที่ลงแรงกันมาไม่เสียเปล่าแล้ว ส่วนมินท์พอเห็นเกษมพูดก็งงๆรีบถามเลยว่าอะไร
อัษฎาชูมือขึ้นและถ่ายพลังไปทีดาบ ทันทีนั้นพลังรูปมังกรขนาดใหญ่ก็ปรากฎในเสี่ยววินาที วินาทีหลังจากนั้นคือภาพที่อัษฎาพุ่งออกจากตัวมังกรมาด้วยความเร็วสูงพร้อมพลังล้อมรอบ พัมพ์กิ้นที่ไม่เคยเจอท่าไม้ตายนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะรีบมือยังไง จะหลบหรือป้องกันดี สุดท้ายก็ใช้วิธีที่เสี่ยงน้อยที่สุดด้วยการ... ใช้ "Invisible Form" สกิลที่ทำให้พัมพ์กิ้นรอดพ้นจากการโจมตีต่างๆได้มาหลายต่อหลายครั้ง
เมื่ออัษฎาพุ่งมาถึงตัวพัมพ์กิ้นวินาทีตัดสินว่าจะใช้ได้ผลไม่ได้ผลมาถึง วินาทีที่ปะทะอัษฎาดันตัวพัมพ์กิ้นไปได้แต่ยังไร้ความเสียหาย แต่เพียงเสี่ยววินาทีค่าความเสียหายของพัมพ์กิ้นก็ปรากฎออกมาราวกับโดนปืนกล แม้ตัวเลขจะอยู่เพียง 20,000 ต้นๆแต่ก็รัวๆเป็นชุดๆ ชุดหนึ่งรวมแล้วไม่ต่ำกว่าแสนและยังโดนเข้าไปอีกหลายชุดต่อเนื่อง กลายเป็นการตัดสินใจผิดของพัมพ์กิ้นที่ไม่หลบจึงโดนดราก้อนแรมเพจที่ฝ่าสกิลอินวิซิเบิลได้
"Dragon Rampage" เป็นสุดยอดไม้ตายสายอาวุธดาบใหญ่ เป็นท่าที่ใช้แล้วจะมีพลังโจมตีประดุจมังกรพุ่งชนกระแทกศัตรู เกิดการโจมตีอัตโนมัติ X6 จากความเร็วการโจมตีปกติจาก เขี้ยว ขาทั้งสี่ และหาง เหยื่อที่โดนจะเหมือนถูกฟันธรรมดา X6 ต่อเนื่อง โดยท่านี้มีผล 15 วินาที
เหล่าคนดูที่ดูตัวเลขดาเมจที่ขึ้นถี่ยิบและคำนวณคราวๆถือล้านอย่างไม่ต้องสงสัย พอถึงช่วงท้ายของไม้ตาย อัษฎาใช้การฟาดดาบอย่างแรงจนพัมพ์กิ้นกระเด็นลอยไปอย่างเร็วจนถึงกับตัวไปอัดติดกำแพงบาเรียของอาณาเขตต่อสู้ที่มองไม้เห็นจนกำแพงร้าวเลยทีเดียว พูดได้เลยว่าโดนเต็มๆจริงๆ มินท์พอเห็นแบบนี้ก็ถามพวกเกษมเลยว่าฝึกได้สำเร็จเห็นๆแต่ทำไมไม่บอกกันเลย เกษมบอกจริงคือพึ่งสำเร็จในระหว่างต่อสู้เลย ทุกคนต่างพึ่งได้เห็นไม้ตายเป็นครั้งแรกกันทั้งนั้น
เหตุผลนั้นคือแม้จะรู้ถึงเงื่อนไขและสกิลที่จำเป็นต้องมี แต่เหลือเพียงเงื่อนไขเดียวที่ยังทำไม่ได้สักทีจนแทบจะถอดใจ คือ การทำให้มังกรอาละวาด โดยเบื้องต้นการไม้ตายนี้จะต้องใส่วิญญาณมังกรเข้าไปในตัว อัษฎาที่ศึกษาท่านี้จึงมีอยู่แล้วโดยไม่ได้สังเกต เมื่อต่อสู้กับศัตรูมีฝีมือสูงมากและบาดเจ็บ มังกรจึงจะเริ่มแสดงเงาออกมา ต่อมาคือต้องสำเร็จวิชาการนำวิญญาณมังกรถ่ายลงในดาบและมีสกิลเบสิค 7 อย่างเพื่อบังคับมังกร เป็นท่าที่ยุ่งยากกว่าเฟืองยักษ์ของเกษมแต่ก็คุ้มค่า แม้ในตอนแรกที่ฝึกกับซอร์ดมาสเตอร์ที่ต่างๆแต่ก็ยังไม่ได้ผล จึงไปเสี่ยงกับบอสสายเลือดมังกรราชันย์แทนจนเกือบมาไม่ทันการแข่ง
แต่ข้อเสียของท่าไม้ตายนี้ก็คือหลังใช้จะติดสถานะชาไปครู่หนึ่งจนอัษฎาขยับตัวไม่ได้ จึงคิดถูกที่อัดพัมพ์กิ้นให้กระเด็นไปไกลๆก่อน และที่เกินคาดของอัษฎาคือโจมตีพัมพ์กิ้นที่ใช้อินวิซิเบิลฟอร์มได้ ถึงจะยังไม่รู้ถึงความลับของสกิลนี้ก็ตาม
จบตอน
ลุยแหลกกันเกือบทั้งตอน แต่พัมพ์กิ้นก็ยังไม่จอด ต้องรอดูกันต่อไป(ถึงน่าจะรู้ๆกันอยู่ก็เถอะ) ตอนหน้าจะอยู่ที่คู่นี้ต่อหรือย้ายไปฝั่งคู่ฮาบ้างคงต้องรอดูกันต่อไป
ภาพเดียวตอนนี้ ยังไงก็ต้องภาพท่าไม้ตายดราก้อนแรมเพจแน่นอน อันนี้เป็นตอนพุ่งเข้าโจมตีแล้ว ภาพมังกรไว้ไปซื้อดูกันเอาแล้วกันนะครับ