ผมเคยตั้งกระทู้ไป 2-3 ครั้งเรื่องภรรยาผมก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องภรรยาเป็นคนโกรธง่าย เมื่อโกรธไม่ได้โวยวายนะครับ แต่จะทำหน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จา ทำให้บรรยากาศในบ้านอึดอัดมาก แต่ละครั้งผมจะเครียด เพราะหลาย ๆ ครั้งที่เค้าโกรธ ผมจะไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร และบางเรื่องที่รู้ในความคิดผมมันไร้สาระมากครับ ผมจะยกตัวอย่างสัก 2-3 กรณี(เป็นกรณีใหม่ที่เพิ่มจากเคยโพสในกระทู้เก่านะครับ) เช่น
-ปกติผมจะชอบทำอาหาร วันนั้นผมทำอาหารแล้วโพสลง Facebook เพื่อนเห็นเข้า เลยทักมาว่ายังมีไหม มื้อเย็นจะมาทานด้วย ผมก็บอกว่าเพื่อนอยากจะมาทานมื้อเย็นด้วย เชื่อไหมครับ เธอมีอาการเลย หน้าบึ้งทันที
-ทะเลาะเพราะผมจำวันพระผิด ธรรมดาวันพระเราก็จะไหว้ผลไม้ ขนม หน้าพระ แต่วันนั้นผมจำวันผิด แล้วเธอก็ทักขึ้นมา ผมก็บอกว่าจำวันผิด เธอก็บอกอย่างนั้นเดือนนี้ดูผิดทั้งเดือนแน่ ผมก็เปิดดูปฏิทิน (ตอนนั้นเราคุยกันทางไลน์ อยู่คนละที่กัน) ก็เห็นว่าผมจำผิดแค่สัปดาห์นี้ ไม่รู้ไปดูจากที่ไหนแล้วจำผิดมา ก็บอกเธอไปว่าผิดแค่สัปดาห์นี้ เชื่อไหมครับ กลับบ้านเธอหน้าหงิก หน้างอ ไม่คุยกัน
-ทะเลาะกันเพราะข้อเสนอที่เธอให้มาในการแก้ปัญหามันไม่ใช่ลำดับต้น ๆ ที่ต้องทำ คือ มีลูกค้าให้ผมจัดทริปทัวร์และดำเนินการให้ และผมได้นัดเวลากับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่เกิดมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเวลา โดยลูกค้าต้องเดินทางก่อนกำหนด ถ้าลูกค้าช้าก็จะไม่สามารถไปทริปได้ จะโดนทิ้งเพราะเป็นแบบ join ผมก็โทรหาลูกค้าแต่ติดต่อไม่ได้ ภรรยาผมได้ยินก็บอกว่าส่ง e-mail ไปสิ (ในความคิดผมคือ e-mail เป็นขั้นตอนหลัง ๆ เพราะพรุ่งนี้ลูกค้าจะออกทริปแต่เช้าแล้ว และขณะนี้ก็ 2 ทุ่มกว่า โอกาสยากมากที่ลูกค้าจะมาเปิด e-mail) ก็เลยข้ามขั้นนี้ไปก่อน โดยไปเช็คกับทางโรงแรมว่าลูกค้าพักห้องไหน เพื่อจะได้แจ้งลูกค้า แต่กลายเป็นลูกค้าใช้ชื่อเพื่อนอีกคน Check in (ลูกค้าจองห้องพักเอง ทำให้ผมไม่ทราบว่าลูกค้าพักห้องไหน) ทำให้ทางโรงแรมไม่สามารถต่อเข้าห้องได้ เพราะไม่รู้ห้องไหน, เธอก็ทักขึ้นมาอีก ส่ง e-mail สิ ผมก็อือ ๆ ส่งละ ๆ แล้วก็เปิดเมล์ส่ง (ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงผมเป็นอย่างไรเพราะผมเครียดกลัวลูกค้าไม่ได้ไปทริป) จากนั้นผมก็มาใช้วิธีส่ง SMS, หา facebook ลูกค้าจากชื่อว่ามีไหม ฯลฯ หมดทุกทางที่ผมคิดออก พอเสร็จหันมาอีกที มาแล้วอาการหน้าหงิก หน้างอ (โกรธผมเรื่องอะไร???)
-ล่าสุด มีรุ่นน้องที่เธอสนิทมาก มาพักที่บ้านด้วย โดยระหว่างที่มาพักเธอจะไปนอนอยู่กับเพื่อน ให้ผมนอนคนเดียว ผมก็ไม่ว่าอะไร, พากันไปเที่ยว ไปช๊อป โดยไม่เคยชวนผมเลย ผมก็ไม่ว่าอะไร แล้วมาวันนึง ผมไปออกกำลังกาย กลับมาบ้านก่อนแล้วก็นั่งทำงาน (ผมทำทั้งเป็นพนักงานออฟฟิส และมีกิจการของตัวเองที่ให้บริการทั้งทางเวปและ Facebook ทั้งทางไลน์ เค้ากับเพื่อนกลับมาทีหลังก็บ่นหิว ๆ แล้วก็ไปห้องครัวกับเพื่อนเค้าทำโน่นทำนี่ ผมก็เห็นว่าสาว ๆ อยู่กันก็ไม่อยากไปยุ่ง พอเสร็จเค้ายกของกันมา ภรรยาผมก็พูดประชด เป็นคุณชายไม่ยอมช่วยกันยกเลย (ผมไม่รู้เลยว่าเธอๆ ทำอะไรกันบ้าง มากน้อยแค่ไหน แค่บอกว่ามาช่วยกันยกผมก็ไปแน่นอน) ผมก็ไปช่วยหลังจากเธอพูด แล้วหลังจากนั้นเธอก็ออกอาการเลย หน้าหงิก ไม่พูดไม่จาอยู่ 2 วัน แล้วก็กลับมาดี ทีนี้สามีของรุ่นน้องมาเพื่อมารับรุ่นน้องกลับ ก่อนวันที่รุ่นน้องจะกลับภรรยาผมก็ชวนผมพรุ่งนี้ไปกินข้าวเช้ากัน พอตอนเช้าก็มาบอกผมว่าให้ผมให้ผมขับรถไปอีกคัน เพราะกินเสร็จเค้าจะไปเที่ยวกันต่อ (ไม่มีแม้แต่จะถามว่าผมจะไปด้วยไหม อยากไปไหม) ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ ก็ไปกิน จอดรถเสร็จเตรียมเงินว่าต้องถูกให้จ่ายค่าอาหารเช้าแน่ พอกินเสร็จ มีไลน์เข้า ผมก็ก้มพิมพ์ ๆ เงยหน้ามาเค้าจ่ายตังก์กันแล้ว ภรรยาผมก็ติเลยไม่ทำหน้าที่เจ้าบ้านเลย ให้คนอื่นจ่าย (ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เห็นเลยครับว่าตอนนั้นพนักงานเก็บเงินมาแล้ว) จากนั้นผมก็กลับมาที่บ้านล๊อคประตู เข้าห้องน้ำ เสร็จก็มานั่งตอบ E-mail จากลูกค้า เค้าเที่ยวเสร็จก็กลับกันมา ไข ๆ ประตูที่ผมล๊อค เปิดเสร็จคำพูดแรกที่ภรรยาผมพูด นั่งเป็นคุณชาย ไม่ขยับเลยนะ (เชี่ย ตรูนั่งทำงานอยู่นะเฟ้ย คุณ ๆ ไปเที่ยวกันกลับมา ผมต้องไปเปิดประตูด้วยเหรอ) แล้วเค้าก็ไปทำอะไรกันในสวนไม่รุ เพราะผมก็ทำงานติดพัน มาเห็นอีกทีก็ตอนเค้าเอาหน่อกล้วยใส่ถุงละ(เค้าไปขุดหน่อกล้วยไปปลูกที่บ้านรุ่นน้องกัน) เสร็จผมก็มาส่งหน้าบ้าน แล้วจากนั้นผมกับภรรยาก็ไม่ได้คุยกันเลย 2 วันแล้ว ถ้าผมเดาเอาเธอคงโกรธที่ผมเหมือนไม่สนใจเพื่อน ๆ เธอ แต่ถ้าตอบจากมุมของผม ระหว่างที่เพื่อนรุ่นน้องเค้าอยู่ ก็ไม่เห็นจะสนใจให้ผมไปร่วมทำกิจกรรมอะไรด้วยเลย ไปไหนก็ไม่ถาม ไม่ชวน ผมก็ให้เค้าได้เที่ยวไม่ว่า ได้แฮปปี้ตามประสาสาว ๆ เพราะไม่ค่อยได้เจอกัน โดยพยายามไม่ไปยุ่ง (เวลาเพื่อนผมมา ผมจะพาภรรยาไปด้วยตลอด ถ้าไม่ได้พาคือเค้าปฏิเสธเอง ผมจะชวนตลอด) แต่กลับกลายเป็นผมถูกโกรธ !!!
-ก่อนแต่งงานผมตั้งใจมากครับว่าเราจะอยู่กันจนแก่ เดินไปไหนมาไหนจับมือกันข้ามถนน ตากะยาย
-แต่งงานมาผมขอเธอว่าถ้าโกรธอะไรก็พูดก็บอก อย่าทำหน้าบูด หน้าหงิก ไม่พูดไม่จา ผมไม่ชอบ ผมเครียด ถ้าผมทนไม่ไหวคงได้ผูกคอตาย หรือเส้นเลือดในสมองแตกตายแน่ (เวลาเธอมีอาการอย่างนี้ผมเครียดมากครับ), ถึงขนาดเคยบอกว่าถ้าเธอมีอาการอย่างนี้เธอคือคนที่ผมไม่รู้จัก ผมไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า เพราะผู้หญิงหน้าหงิก ๆ คนนี้เป็นใครก็ไม่รู้
-ช่วงแรก ๆ เวลาเธอหายโกรธแล้วผมจะถามว่าโกรธเรื่องอะไร เธอจะตอบว่าเพราะผมนั่นแหละ !!! โดยผมก็จะไม่รู้ต่อไปว่าเธอโกรธเพราะอะไร
ตอนนี้ผมมักจะคิดว่าเธอเป็นพวกควบคุมอารมณ์ไม่ได้ (แต่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง) เป็นประมาณชั้นไม่พอใจ ชั้นจะโกรธ ชั้นไม่สน ถามเพื่อน ๆ สาว ๆ บางคนก็บอกไม่เข้าใจเหมือนกัน บางคนก็บอกนี่แหละผู้หญิง (ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็อยากจะทำตัวตามใจ แล้วบอกนี่แหละผู้ชายบ้างเหมือนกัน)
ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับพยายามประคับประคอง สานฝันครอบครัวแสนสุข(เรายังไม่มีลูกด้วยกัน) หรือให้มันจบ ๆ ดี เพราะถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ผมเครียด ไม่รุจะเป็นไงต่อ สุขภาพจิตก็แย่ ถ้าน๊อตหลุดจะกลายเป็นรุนแรงไปอีก
โดยรวม ๆ ถ้าเธอไม่มีอาการหน้าหงิกหน้างอ หน้าบูด เราก็มีความสุขกันดีครับ หยอกล้อกัน หัวเราะได้เรื่อย ๆ (เราอยู่บ้านกันแค่ 2 คน) แต่พออาการออก บ้านไม่น่าอยู่เลยครับ
เมื่อมีความคิดอยากเลิกกับภรรยา
-ปกติผมจะชอบทำอาหาร วันนั้นผมทำอาหารแล้วโพสลง Facebook เพื่อนเห็นเข้า เลยทักมาว่ายังมีไหม มื้อเย็นจะมาทานด้วย ผมก็บอกว่าเพื่อนอยากจะมาทานมื้อเย็นด้วย เชื่อไหมครับ เธอมีอาการเลย หน้าบึ้งทันที
-ทะเลาะเพราะผมจำวันพระผิด ธรรมดาวันพระเราก็จะไหว้ผลไม้ ขนม หน้าพระ แต่วันนั้นผมจำวันผิด แล้วเธอก็ทักขึ้นมา ผมก็บอกว่าจำวันผิด เธอก็บอกอย่างนั้นเดือนนี้ดูผิดทั้งเดือนแน่ ผมก็เปิดดูปฏิทิน (ตอนนั้นเราคุยกันทางไลน์ อยู่คนละที่กัน) ก็เห็นว่าผมจำผิดแค่สัปดาห์นี้ ไม่รู้ไปดูจากที่ไหนแล้วจำผิดมา ก็บอกเธอไปว่าผิดแค่สัปดาห์นี้ เชื่อไหมครับ กลับบ้านเธอหน้าหงิก หน้างอ ไม่คุยกัน
-ทะเลาะกันเพราะข้อเสนอที่เธอให้มาในการแก้ปัญหามันไม่ใช่ลำดับต้น ๆ ที่ต้องทำ คือ มีลูกค้าให้ผมจัดทริปทัวร์และดำเนินการให้ และผมได้นัดเวลากับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่เกิดมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเวลา โดยลูกค้าต้องเดินทางก่อนกำหนด ถ้าลูกค้าช้าก็จะไม่สามารถไปทริปได้ จะโดนทิ้งเพราะเป็นแบบ join ผมก็โทรหาลูกค้าแต่ติดต่อไม่ได้ ภรรยาผมได้ยินก็บอกว่าส่ง e-mail ไปสิ (ในความคิดผมคือ e-mail เป็นขั้นตอนหลัง ๆ เพราะพรุ่งนี้ลูกค้าจะออกทริปแต่เช้าแล้ว และขณะนี้ก็ 2 ทุ่มกว่า โอกาสยากมากที่ลูกค้าจะมาเปิด e-mail) ก็เลยข้ามขั้นนี้ไปก่อน โดยไปเช็คกับทางโรงแรมว่าลูกค้าพักห้องไหน เพื่อจะได้แจ้งลูกค้า แต่กลายเป็นลูกค้าใช้ชื่อเพื่อนอีกคน Check in (ลูกค้าจองห้องพักเอง ทำให้ผมไม่ทราบว่าลูกค้าพักห้องไหน) ทำให้ทางโรงแรมไม่สามารถต่อเข้าห้องได้ เพราะไม่รู้ห้องไหน, เธอก็ทักขึ้นมาอีก ส่ง e-mail สิ ผมก็อือ ๆ ส่งละ ๆ แล้วก็เปิดเมล์ส่ง (ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงผมเป็นอย่างไรเพราะผมเครียดกลัวลูกค้าไม่ได้ไปทริป) จากนั้นผมก็มาใช้วิธีส่ง SMS, หา facebook ลูกค้าจากชื่อว่ามีไหม ฯลฯ หมดทุกทางที่ผมคิดออก พอเสร็จหันมาอีกที มาแล้วอาการหน้าหงิก หน้างอ (โกรธผมเรื่องอะไร???)
-ล่าสุด มีรุ่นน้องที่เธอสนิทมาก มาพักที่บ้านด้วย โดยระหว่างที่มาพักเธอจะไปนอนอยู่กับเพื่อน ให้ผมนอนคนเดียว ผมก็ไม่ว่าอะไร, พากันไปเที่ยว ไปช๊อป โดยไม่เคยชวนผมเลย ผมก็ไม่ว่าอะไร แล้วมาวันนึง ผมไปออกกำลังกาย กลับมาบ้านก่อนแล้วก็นั่งทำงาน (ผมทำทั้งเป็นพนักงานออฟฟิส และมีกิจการของตัวเองที่ให้บริการทั้งทางเวปและ Facebook ทั้งทางไลน์ เค้ากับเพื่อนกลับมาทีหลังก็บ่นหิว ๆ แล้วก็ไปห้องครัวกับเพื่อนเค้าทำโน่นทำนี่ ผมก็เห็นว่าสาว ๆ อยู่กันก็ไม่อยากไปยุ่ง พอเสร็จเค้ายกของกันมา ภรรยาผมก็พูดประชด เป็นคุณชายไม่ยอมช่วยกันยกเลย (ผมไม่รู้เลยว่าเธอๆ ทำอะไรกันบ้าง มากน้อยแค่ไหน แค่บอกว่ามาช่วยกันยกผมก็ไปแน่นอน) ผมก็ไปช่วยหลังจากเธอพูด แล้วหลังจากนั้นเธอก็ออกอาการเลย หน้าหงิก ไม่พูดไม่จาอยู่ 2 วัน แล้วก็กลับมาดี ทีนี้สามีของรุ่นน้องมาเพื่อมารับรุ่นน้องกลับ ก่อนวันที่รุ่นน้องจะกลับภรรยาผมก็ชวนผมพรุ่งนี้ไปกินข้าวเช้ากัน พอตอนเช้าก็มาบอกผมว่าให้ผมให้ผมขับรถไปอีกคัน เพราะกินเสร็จเค้าจะไปเที่ยวกันต่อ (ไม่มีแม้แต่จะถามว่าผมจะไปด้วยไหม อยากไปไหม) ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ ก็ไปกิน จอดรถเสร็จเตรียมเงินว่าต้องถูกให้จ่ายค่าอาหารเช้าแน่ พอกินเสร็จ มีไลน์เข้า ผมก็ก้มพิมพ์ ๆ เงยหน้ามาเค้าจ่ายตังก์กันแล้ว ภรรยาผมก็ติเลยไม่ทำหน้าที่เจ้าบ้านเลย ให้คนอื่นจ่าย (ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เห็นเลยครับว่าตอนนั้นพนักงานเก็บเงินมาแล้ว) จากนั้นผมก็กลับมาที่บ้านล๊อคประตู เข้าห้องน้ำ เสร็จก็มานั่งตอบ E-mail จากลูกค้า เค้าเที่ยวเสร็จก็กลับกันมา ไข ๆ ประตูที่ผมล๊อค เปิดเสร็จคำพูดแรกที่ภรรยาผมพูด นั่งเป็นคุณชาย ไม่ขยับเลยนะ (เชี่ย ตรูนั่งทำงานอยู่นะเฟ้ย คุณ ๆ ไปเที่ยวกันกลับมา ผมต้องไปเปิดประตูด้วยเหรอ) แล้วเค้าก็ไปทำอะไรกันในสวนไม่รุ เพราะผมก็ทำงานติดพัน มาเห็นอีกทีก็ตอนเค้าเอาหน่อกล้วยใส่ถุงละ(เค้าไปขุดหน่อกล้วยไปปลูกที่บ้านรุ่นน้องกัน) เสร็จผมก็มาส่งหน้าบ้าน แล้วจากนั้นผมกับภรรยาก็ไม่ได้คุยกันเลย 2 วันแล้ว ถ้าผมเดาเอาเธอคงโกรธที่ผมเหมือนไม่สนใจเพื่อน ๆ เธอ แต่ถ้าตอบจากมุมของผม ระหว่างที่เพื่อนรุ่นน้องเค้าอยู่ ก็ไม่เห็นจะสนใจให้ผมไปร่วมทำกิจกรรมอะไรด้วยเลย ไปไหนก็ไม่ถาม ไม่ชวน ผมก็ให้เค้าได้เที่ยวไม่ว่า ได้แฮปปี้ตามประสาสาว ๆ เพราะไม่ค่อยได้เจอกัน โดยพยายามไม่ไปยุ่ง (เวลาเพื่อนผมมา ผมจะพาภรรยาไปด้วยตลอด ถ้าไม่ได้พาคือเค้าปฏิเสธเอง ผมจะชวนตลอด) แต่กลับกลายเป็นผมถูกโกรธ !!!
-ก่อนแต่งงานผมตั้งใจมากครับว่าเราจะอยู่กันจนแก่ เดินไปไหนมาไหนจับมือกันข้ามถนน ตากะยาย
-แต่งงานมาผมขอเธอว่าถ้าโกรธอะไรก็พูดก็บอก อย่าทำหน้าบูด หน้าหงิก ไม่พูดไม่จา ผมไม่ชอบ ผมเครียด ถ้าผมทนไม่ไหวคงได้ผูกคอตาย หรือเส้นเลือดในสมองแตกตายแน่ (เวลาเธอมีอาการอย่างนี้ผมเครียดมากครับ), ถึงขนาดเคยบอกว่าถ้าเธอมีอาการอย่างนี้เธอคือคนที่ผมไม่รู้จัก ผมไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า เพราะผู้หญิงหน้าหงิก ๆ คนนี้เป็นใครก็ไม่รู้
-ช่วงแรก ๆ เวลาเธอหายโกรธแล้วผมจะถามว่าโกรธเรื่องอะไร เธอจะตอบว่าเพราะผมนั่นแหละ !!! โดยผมก็จะไม่รู้ต่อไปว่าเธอโกรธเพราะอะไร
ตอนนี้ผมมักจะคิดว่าเธอเป็นพวกควบคุมอารมณ์ไม่ได้ (แต่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง) เป็นประมาณชั้นไม่พอใจ ชั้นจะโกรธ ชั้นไม่สน ถามเพื่อน ๆ สาว ๆ บางคนก็บอกไม่เข้าใจเหมือนกัน บางคนก็บอกนี่แหละผู้หญิง (ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็อยากจะทำตัวตามใจ แล้วบอกนี่แหละผู้ชายบ้างเหมือนกัน)
ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับพยายามประคับประคอง สานฝันครอบครัวแสนสุข(เรายังไม่มีลูกด้วยกัน) หรือให้มันจบ ๆ ดี เพราะถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ผมเครียด ไม่รุจะเป็นไงต่อ สุขภาพจิตก็แย่ ถ้าน๊อตหลุดจะกลายเป็นรุนแรงไปอีก
โดยรวม ๆ ถ้าเธอไม่มีอาการหน้าหงิกหน้างอ หน้าบูด เราก็มีความสุขกันดีครับ หยอกล้อกัน หัวเราะได้เรื่อย ๆ (เราอยู่บ้านกันแค่ 2 คน) แต่พออาการออก บ้านไม่น่าอยู่เลยครับ