แนะนำตัวกันซักนิดนะจ๊ะ นุ้ยกับโจ๊ก เป็นคู่รักที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่โจ๊กเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 5/6/2558 แน่นอนว่านุ้ยเสียใจมากๆ เสียใจถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างๆ นุ้ยต้องเข็มแข็งเพื่อครอบครัวของทั้งสองฝ่าย นุ้ยกับโจ๊กเป็นคนชอบท่องเที่ยวมากๆๆว่างเป็นต้องหาทริปและเรามีแผนจะทำอะไรด้วยกันหลายอย่าง แต่ ณ ตอนนี้ความฝันมันหยุดลง ความเป็นจริงของชีวิตและความไม่แน่นอนของโชคชะตาที่พรากความรักของเรา ยิ่งอยู่คนเดียวยิ่งจมปรักยิ่งเศร้า นุ้ยจึงเริ่มออกเดินทางไปยังที่ๆๆไม่เคยไป เพื่อรักษาจิตใจตัวเอง ไปพูดคุยกับผู้คนมองคนที่เค้าทุกข์กว่า ให้กำลังใจตัวเองแข็งแรงขึ้น ความกล้าที่จะเดินทางโดยไม่มีคนปกป้องดูแลนั้น กว่านุ้ยจะเริ่มต้นได้ก็ต้องใช้พลังใจมากๆๆเหมือนกัน แนะนำตัวกันเท่านี้เข้าประเด็นหลักกันเรยดีกว่า หากท่านใดอยากรู้รายละเอียดของนุ้ยกับโจ๊กมากกว่านี้ สามารถติดตามเป็นแฟนเพจกันได้ที่
https://www.facebook.com/Nui-Joke-True-love-really-exists-1072829049412167/?ref=hl
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ one day trip ตอน lost in Charoen Krung
-------------------------------------------------------------------------------------------
เป้าหมายที่คิดไว้ในใจวันนี้จะไปโบสถ์อัสสัมชัญ (Assumption Church) ศาสนาสถานของคริสต์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก สร้างครั้งแรกเมื่อปี 2352 (นับถึงปีนี้ 206 ปีเชียวนะ) ไม่ได้เป็นศาสนิกชนแล้วจะอยากไปทำไม..??
นุ้ยกับโจ๊กมีความคิดเหมือนกันนะ แม้ว่าเราจะเป็นพุทธ ทำพิธีกรรมในวัดพุทธเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสกับศาสนาอื่นๆนะ ทุกศาสนาก็สอนให้เราเป็นคนดีทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ศาสนาสถานเกือบทุกแห่งเปิดให้เราท่องเที่ยวและชื่นชมศิลปวัฒนธรรมเป็นความรู้อยู่แล้ว เราเองต่างหากเมื่อคิดจะไปเที่ยวก็ต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของแต่ละที่ กิริยามารยาทสำรวมแต่งกายให้เรียบร้อย และเมื่อตอนวันเกิดของนุ้ย ในปี 2557 นุ้ยกับโจ๊กไปเที่ยวอาสนวิหารแม่พระบังเกิด อ.บางคนที จ.สมุทรสาคร เราสองคนก็จับมือสัญญาว่าจะรักและดูแลกันตลอดไปต่อหน้าพระแม่มารี และทุกปีในวันคล้ายวันเกิดนุ้ยกลับโจ๊กจะกลับไป ณ ที่ๆเราสัญญากันไว้ แม้ว่าวันคล้ายวันเกิดของนุ้ยในปีนี้ โจ๊กจะไม่อยู่แล้ว นุ้ยก็ยังกลับไป ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน แล้วเวลาที่นุ้ยเห็นโบสถ์คริสต์สวยๆ นุ้ยก็จะอยากเข้าไปทันที แน่นอนโบสถ์คริสต์เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ โบสถ์อัสสัมชัญก็เป็นโบสถ์ที่สวยงาม เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาก ด้วยความที่โบสถ์นี้ทำการบูรณะปรับปรุงใช้เวลาซ่อมแซมยาวนานถึง 3 ปี ทราบข่าวว่าตอนนี้ถอดโครงเหล็กด้านนอกออกแล้ว นุ้ยจึงเตรียมตัวจะไปถ่ายรูปสวยๆๆหล่ะ แบกกล้องโจ๊กไปด้วย โจ๊กเป็นคนชอบถ่ายภาพและรักล้องมากๆๆ การเอากล้องของโจ๊กออกเดินทาง บางครั้งนุ้ยก็รู้สึกว่าโจ๊กอยู่ด้วยตลอดเวลานะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางสไตล์นุ้ยกับโจ๊ก ที่เราชอบทำด้วยกันคือ กำหนดเป้าหมายหลักไว้เพียงสถานที่เดียว ส่วนเวลาของวันนั้นที่เหลือก็คือ ปล่อยใจไหลไปกับความสุขรายทางที่พบเจอ สนใจตรงไหนแวะตรงนั้น ทำแบบนี้สนุกดีไม่ต้องกำหนดตัวเองให้อยู่ในกรอบจนเกินไป เคยเที่ยวแบบชะโงกทัวร์กันมั้ย แบบโห!! ไหว้พระ 9 วัดนะ ไปหลายที่เรยนะ คนชอบสถิติคงสนุก แต่เราไม่ชอบเอาซะเรย..มันเหนื่อย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Start --จะไปโบสถ์คริสต์ต้องไปสายหน่อยเพราะตอนเช้าคริสต์ศาสนิกชนเค้าจะทำพิธีกรรมตามศาสนากัน เราไม่ควรไปเกะกะรบกวนเค้า
--ออกเดินทาง 11.00 น. แวะกินข้าวเอาแรงก่อน ก็ร้านในซอยใกล้บ้านตามสั่ง จัดไปเมนูนี้ กระเพราทะเลรวมมิตรไข่ดาวไม่สุกจานนี้ 53 บาท ราคาค่าครองชีพสูงปรี๊ด..!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
bts สะดวกสุด ขึ้นจากพญาไท ไปลงสถานีสะพานตากสิน 42 บาท ออกช่องทาง1-2 ตาม plan แล้วลง bts ต้องเดินออกซ้ายไปโบสถ์ แต่หันไปด้านขวาเป็นวัดพุทธหลังคาโบสถ์อย่างสวยเรย ใกล้ด้วย งั้นแวะวัดไปทำบุญให้ที่รักหน่อยดีกว่า
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เดินไปทางขวาประมาณ 20 ก้าว ป้ายทางเข้าเขียนว่า วัดยานนาวา oh my god วัดนี้ใหญ่มาก เริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ เหลือบไปมองเห็นกระดิ่งที่ไว้ใช้แขวนรอบอุโบสถ งั้นทำบุญแขวนกระดิ่งอธิษฐานให้เสียงกริ่งนำทางความรักของเราไป ให้ได้ยินทุกชั้นฟ้า ให้เทวดาได้ยินเสียงใคร่ครวญอ้อนวอนถึงความรักของนุ้ยกับโจ๊ก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
100 บาท หยอดตู้ทำบุญไป จากนั้นเดินเล่นบริเวณวัด มีอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 1 และด้านหลังท่านเป็นเรือสำเภา บนเรือสำเภานี่เราขึ้นได้นะ มีพระพุทธรูปให้สักการะขอพรด้านบน
เดินทะลุไปด้านหลังเป็นอุโบสถหลังเก่า เข้าไปไหว้พระประธาน จากนั้นเดินทะลุไปท่าน้ำ เป็นเขตอภัยทานเราสามารถซื้อขนมปังอาหารเม็ดเลี้ยงปลาได้
เดินกลับออกมาแวะขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ มีหลวงพ่อโสธรสีชมพูด้วย
กราบพระเสร็จแล้วไปกันต่อดีกว่า เลี้ยวซ้ายจากวัด 10 ก้าว หิวน้ำแฮะ แวะร้านเครื่องดื่มริมทางซะหน่อย ชื่อร้านคิงกุฉะ ชื่อร้านแปลกดี แปลว่าอะไรไม่รู้เหมือนกันลืมถามมา สั่งชาแดงแอปเปิ้ล 40 บาท เปรี้ยวๆๆหวานๆ ชื่นใจดี
นั่งพักพอแล้วเดินต่อดีกว่า เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆๆผ่านใต้ สถานี BTS ไป ไปดูกันซิ่จะเจออะไรบ้างน้อ และแล้วตาก็สะดุดกับซุ้มประตูวัดสวนพลูสวยงามมาก ถ้างั้นต้องเข้าไปดูกันหน่อยมีอะไรน่าสนใจบ้าง
อ้าว..!!โบสถ์ปิดนะคับพี่น้อง มีศาลาเล็กๆๆอยู่ด้วย เดินเข้าไปถึงรู้ว่าเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธรูป เป็นศาลาเล็กๆมีเสาปูนแช่อยู่ในบ่อน้ำ ไหว้พระแล้วชะโงกลงไป ตกใจกับปลาพันธุ์อะไรไม่รู้ตัวใหญ่จัง
ดูปลาว่ายไปว่ายมาเพลินๆๆดีเหมือนกัน ไปต่อดีกว่า ตรอกที่เดินออกมาเราสังเกตว่าเรือนไทยเก่าๆๆนี่ทำเป็นเกสต์เฮาต์แล้วเก๋ดีแฮะ
เดินออกมานิดเดียวแยกไฟแดงบางรัก ตรงข้ามตึก State Tower Bangkok ทางนี้ก็เดินทะลุโรงเรียนอัสสัมชันไปโบสถ์อัสสัมชัญเป้าหมายของเราได้ mini bus สาย 1 ถนนตก ท่าเตียน ก็ผ่านด้วยแฮะ แต่ส่วนตัวไม่ชอบขึ้นรถเมล์นะ ช้า เบื่อรถติดเสียเวลา แล้วท่าได้ยืนด้วยยิ่งหนักเรย บ่นมัยนี่ !!
เดินไปโบสถ์อัสสัมชันดีกว่า เดินมาทางโรงเรียนอัสสัมชัญจะมีประตูทะลุมาด้านข้างโบสถ์ แวบแรกที่มองเห็นนะ oh ho เหมือนอยู่ในอิตาลี่เรยอ่ะ ใหญ่มาก มีคนอยู่บนหลังคาด้วย สงสัยยังซ่อมไม่เสร็จบางส่วน เดินไปทางด้านหน้าเรยดีกว่า
น่านงัย..!!!!!!!!!! ช่างเพียบเรย คนงานก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ แนวกั้นเทปูน น่านงัย..!!! อุตส่าห์แบกกล้องใหญ่มา เค้ายังซ่อมไม่เสร็จนะคับพี่น้อง เค้าถอดโครงเหล็กแล้วก็จริง แต่ข้างในเค้าก็กำลังทำอยู่นะฮับ !! ไหนๆก็มาแล้ว ถ่ายมันทั้งอย่างนี้แหล่ะ ขออนุญาตผู้ดูแลเข้าไปข้างใน พี่เค้าแจ้งว่าโบสถ์จะเปิดทำพิธีเดือนธันวาคมนี้ เดินเข้าไปพี่ๆๆคนงานมองเป็นตาเดียว..555 พระแม่มารีอยู่ในสุด เค้าเอาพลาสติคห่อท่านไว้ เดินเข้าไปที่แท่นพิธีแล้วทำความเคารพท่าน ถ่ายรูป 2-3 ภาพ ฝุ่นปูนคลุ้งมาก รองเท้าเปื้อนผงปูนเต็มเรย ออกมาถ่ายรูปด้านนอก โบสถ์หลังใหม่นี้สร้างเมื่อปี 2452 และเสียหายจากระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย ศิลปะเรอเนอซองส์ หินอ่อนและกระจกสีสวยๆสั่งมาจากฝรั่งเศสและอิตาลี
มีนักท่องเที่ยวไต้หวันผู้ชายเดินมาพอดี เราเรยผลัดกันถ่ายรูปให้กัน คุยกับเค้าหน่อยเราเป็นเจ้าบ้านที่ดีนี่นา ด้วยภาษาอังกฤษอันฮ่วยแตก ไก่กา อาราเร่ของเรา นึกศัพท์คำไหนไม่ออกก็ชี้มือชี้ไม้ไป อย่าได้แคร์ คุยกันคร่าวๆได้ความว่า เค้าก็มาท่องเที่ยวคนเดียว ที่คอเสื้อเค้าห้อยไม้กางเขนออกมาด้านนอกเสื้อ เค้าบอกประมาณว่าเค้าเดินทางไปทั่วโลก ไปวัดคริสต์ที่สวยงามในแต่ละประเทศ ประมาณนั้น มีรูปโชว์ในกล้องให้ดูด้วย น่าชื่นชมในศรัทธานี้จริงๆ ยกนิ้วกดไลค์ให้ไป 2 โป้ง..555 เค้าถามเราต่อพร้อมกางแผนที่ว่าจะไปหัวลำโพง ใบ้กินซิ่ครัช!! อะฮั้น!! คนไทยยังหลงอยู่เรยนี่วันนี้ โชคช่วยคุณครูเดินออกมาจากโรงเรียนพอดี เรยเรียกครูให้ช่วยบอกทางหน่อย (รู้ได้ไงว่าเป็นครูบุคลิกครูน่ะชัดเจนจะตาย เสื้อโปโลปักโลโก้โรงเรียน ใส่แว่นร้อยสายลูกปัด มือหอบถุงหนักๆ การบ้านนักเรียนชัวร์ พูดจามีความรู้..ครูแน่นอน !! ) แล้วครูก็จะเดินไปทางป้ายรถเมล์พอดี ชายไต้หวันคนนั้นเรยเดินไปพร้อมกับครู เค้าหันมา Goodbye
กับเราด้วย เออ..สนุกดีแฮะวันนี้ และแล้วก็มีเด็กกลุ่มนึงสาวสวย 4 คน แต่งหน้าจัดเต็ม จนดูแก่เกินวัย ในชุดครุยของสถาบันนึง พร้อมช่างภาพ อุปกรณ์พร้อม พวกหล่อนนี่คงมาถ่ายรูปโลเคชั่นสวยๆๆที่นี่ ไปดีกว่าเรา ปล่อยให้พวกหล่อนโพสต์ท่ากันไป เด๋วกลับมาใหม่เดือนธันวาคม บูรณะเสร็จแล้วต้องสวยมากๆๆแน่ๆๆเรย เดินกลับออกมาทางเดิม เดินต่อไปเรื่อยๆๆดิ๊แถวนี้มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง สมองนักสำรวจทำงาน
เดินมาตามทางเห็นร้านตัดเสื้อปิด แต่ตู้กระจกใช้ผ้าคลุมหุ่นไว้ ต๊กกะใจหมดเรย นี่ถ้ามากลางคืนหลอนเรยนะเนี่ย
เดินตรงมาถึง O.P. Garden Bangkok คืออัลไร..???
อ่อ ร้านอาหารดูดเงินชาวต่างชาติ ไม่มีใครเรยแฮะ สงสัยเค้ามากันค่ำๆๆมั้ง เดินต่อไป เห็นมุสลิมเดินมา I get หล่ะ แถวนี้ต้องเป็นชุมชนมุสลิม เมื่อเป็นชุมชนก็ต้องมีมัสยิด ล้าน% อย่างนี้ต้องไปพิสูจน์ เดินเข้าซอยมา อุ่ต๊ะ !! สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
อาคารทรงกล่องๆๆแปลก ด้านขวาตรงข้ามสถานทูตเป็นตรอกทางเข้า ป้ายเขียนว่า มัสยิดฮารูณ (มัสยิดวัดม่วงแค) เดินเข้าไปตามตรอกก็เจอมัสยิด
..จบแค่นี้ก่อน ข้อความที่พิมพ์เกิน เด๋วลงต่อ part 2
[CR] เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 1 one day trip lost in Charoen Krung
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ one day trip ตอน lost in Charoen Krung
-------------------------------------------------------------------------------------------
เป้าหมายที่คิดไว้ในใจวันนี้จะไปโบสถ์อัสสัมชัญ (Assumption Church) ศาสนาสถานของคริสต์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก สร้างครั้งแรกเมื่อปี 2352 (นับถึงปีนี้ 206 ปีเชียวนะ) ไม่ได้เป็นศาสนิกชนแล้วจะอยากไปทำไม..??
นุ้ยกับโจ๊กมีความคิดเหมือนกันนะ แม้ว่าเราจะเป็นพุทธ ทำพิธีกรรมในวัดพุทธเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสกับศาสนาอื่นๆนะ ทุกศาสนาก็สอนให้เราเป็นคนดีทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ศาสนาสถานเกือบทุกแห่งเปิดให้เราท่องเที่ยวและชื่นชมศิลปวัฒนธรรมเป็นความรู้อยู่แล้ว เราเองต่างหากเมื่อคิดจะไปเที่ยวก็ต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของแต่ละที่ กิริยามารยาทสำรวมแต่งกายให้เรียบร้อย และเมื่อตอนวันเกิดของนุ้ย ในปี 2557 นุ้ยกับโจ๊กไปเที่ยวอาสนวิหารแม่พระบังเกิด อ.บางคนที จ.สมุทรสาคร เราสองคนก็จับมือสัญญาว่าจะรักและดูแลกันตลอดไปต่อหน้าพระแม่มารี และทุกปีในวันคล้ายวันเกิดนุ้ยกลับโจ๊กจะกลับไป ณ ที่ๆเราสัญญากันไว้ แม้ว่าวันคล้ายวันเกิดของนุ้ยในปีนี้ โจ๊กจะไม่อยู่แล้ว นุ้ยก็ยังกลับไป ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน แล้วเวลาที่นุ้ยเห็นโบสถ์คริสต์สวยๆ นุ้ยก็จะอยากเข้าไปทันที แน่นอนโบสถ์คริสต์เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ โบสถ์อัสสัมชัญก็เป็นโบสถ์ที่สวยงาม เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาก ด้วยความที่โบสถ์นี้ทำการบูรณะปรับปรุงใช้เวลาซ่อมแซมยาวนานถึง 3 ปี ทราบข่าวว่าตอนนี้ถอดโครงเหล็กด้านนอกออกแล้ว นุ้ยจึงเตรียมตัวจะไปถ่ายรูปสวยๆๆหล่ะ แบกกล้องโจ๊กไปด้วย โจ๊กเป็นคนชอบถ่ายภาพและรักล้องมากๆๆ การเอากล้องของโจ๊กออกเดินทาง บางครั้งนุ้ยก็รู้สึกว่าโจ๊กอยู่ด้วยตลอดเวลานะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางสไตล์นุ้ยกับโจ๊ก ที่เราชอบทำด้วยกันคือ กำหนดเป้าหมายหลักไว้เพียงสถานที่เดียว ส่วนเวลาของวันนั้นที่เหลือก็คือ ปล่อยใจไหลไปกับความสุขรายทางที่พบเจอ สนใจตรงไหนแวะตรงนั้น ทำแบบนี้สนุกดีไม่ต้องกำหนดตัวเองให้อยู่ในกรอบจนเกินไป เคยเที่ยวแบบชะโงกทัวร์กันมั้ย แบบโห!! ไหว้พระ 9 วัดนะ ไปหลายที่เรยนะ คนชอบสถิติคงสนุก แต่เราไม่ชอบเอาซะเรย..มันเหนื่อย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Start --จะไปโบสถ์คริสต์ต้องไปสายหน่อยเพราะตอนเช้าคริสต์ศาสนิกชนเค้าจะทำพิธีกรรมตามศาสนากัน เราไม่ควรไปเกะกะรบกวนเค้า
--ออกเดินทาง 11.00 น. แวะกินข้าวเอาแรงก่อน ก็ร้านในซอยใกล้บ้านตามสั่ง จัดไปเมนูนี้ กระเพราทะเลรวมมิตรไข่ดาวไม่สุกจานนี้ 53 บาท ราคาค่าครองชีพสูงปรี๊ด..!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
bts สะดวกสุด ขึ้นจากพญาไท ไปลงสถานีสะพานตากสิน 42 บาท ออกช่องทาง1-2 ตาม plan แล้วลง bts ต้องเดินออกซ้ายไปโบสถ์ แต่หันไปด้านขวาเป็นวัดพุทธหลังคาโบสถ์อย่างสวยเรย ใกล้ด้วย งั้นแวะวัดไปทำบุญให้ที่รักหน่อยดีกว่า
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เดินไปทางขวาประมาณ 20 ก้าว ป้ายทางเข้าเขียนว่า วัดยานนาวา oh my god วัดนี้ใหญ่มาก เริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ เหลือบไปมองเห็นกระดิ่งที่ไว้ใช้แขวนรอบอุโบสถ งั้นทำบุญแขวนกระดิ่งอธิษฐานให้เสียงกริ่งนำทางความรักของเราไป ให้ได้ยินทุกชั้นฟ้า ให้เทวดาได้ยินเสียงใคร่ครวญอ้อนวอนถึงความรักของนุ้ยกับโจ๊ก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
100 บาท หยอดตู้ทำบุญไป จากนั้นเดินเล่นบริเวณวัด มีอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 1 และด้านหลังท่านเป็นเรือสำเภา บนเรือสำเภานี่เราขึ้นได้นะ มีพระพุทธรูปให้สักการะขอพรด้านบน
เดินทะลุไปด้านหลังเป็นอุโบสถหลังเก่า เข้าไปไหว้พระประธาน จากนั้นเดินทะลุไปท่าน้ำ เป็นเขตอภัยทานเราสามารถซื้อขนมปังอาหารเม็ดเลี้ยงปลาได้
เดินกลับออกมาแวะขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ มีหลวงพ่อโสธรสีชมพูด้วย
กราบพระเสร็จแล้วไปกันต่อดีกว่า เลี้ยวซ้ายจากวัด 10 ก้าว หิวน้ำแฮะ แวะร้านเครื่องดื่มริมทางซะหน่อย ชื่อร้านคิงกุฉะ ชื่อร้านแปลกดี แปลว่าอะไรไม่รู้เหมือนกันลืมถามมา สั่งชาแดงแอปเปิ้ล 40 บาท เปรี้ยวๆๆหวานๆ ชื่นใจดี
นั่งพักพอแล้วเดินต่อดีกว่า เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆๆผ่านใต้ สถานี BTS ไป ไปดูกันซิ่จะเจออะไรบ้างน้อ และแล้วตาก็สะดุดกับซุ้มประตูวัดสวนพลูสวยงามมาก ถ้างั้นต้องเข้าไปดูกันหน่อยมีอะไรน่าสนใจบ้าง
อ้าว..!!โบสถ์ปิดนะคับพี่น้อง มีศาลาเล็กๆๆอยู่ด้วย เดินเข้าไปถึงรู้ว่าเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธรูป เป็นศาลาเล็กๆมีเสาปูนแช่อยู่ในบ่อน้ำ ไหว้พระแล้วชะโงกลงไป ตกใจกับปลาพันธุ์อะไรไม่รู้ตัวใหญ่จัง
ดูปลาว่ายไปว่ายมาเพลินๆๆดีเหมือนกัน ไปต่อดีกว่า ตรอกที่เดินออกมาเราสังเกตว่าเรือนไทยเก่าๆๆนี่ทำเป็นเกสต์เฮาต์แล้วเก๋ดีแฮะ
เดินออกมานิดเดียวแยกไฟแดงบางรัก ตรงข้ามตึก State Tower Bangkok ทางนี้ก็เดินทะลุโรงเรียนอัสสัมชันไปโบสถ์อัสสัมชัญเป้าหมายของเราได้ mini bus สาย 1 ถนนตก ท่าเตียน ก็ผ่านด้วยแฮะ แต่ส่วนตัวไม่ชอบขึ้นรถเมล์นะ ช้า เบื่อรถติดเสียเวลา แล้วท่าได้ยืนด้วยยิ่งหนักเรย บ่นมัยนี่ !!
เดินไปโบสถ์อัสสัมชันดีกว่า เดินมาทางโรงเรียนอัสสัมชัญจะมีประตูทะลุมาด้านข้างโบสถ์ แวบแรกที่มองเห็นนะ oh ho เหมือนอยู่ในอิตาลี่เรยอ่ะ ใหญ่มาก มีคนอยู่บนหลังคาด้วย สงสัยยังซ่อมไม่เสร็จบางส่วน เดินไปทางด้านหน้าเรยดีกว่า
น่านงัย..!!!!!!!!!! ช่างเพียบเรย คนงานก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ แนวกั้นเทปูน น่านงัย..!!! อุตส่าห์แบกกล้องใหญ่มา เค้ายังซ่อมไม่เสร็จนะคับพี่น้อง เค้าถอดโครงเหล็กแล้วก็จริง แต่ข้างในเค้าก็กำลังทำอยู่นะฮับ !! ไหนๆก็มาแล้ว ถ่ายมันทั้งอย่างนี้แหล่ะ ขออนุญาตผู้ดูแลเข้าไปข้างใน พี่เค้าแจ้งว่าโบสถ์จะเปิดทำพิธีเดือนธันวาคมนี้ เดินเข้าไปพี่ๆๆคนงานมองเป็นตาเดียว..555 พระแม่มารีอยู่ในสุด เค้าเอาพลาสติคห่อท่านไว้ เดินเข้าไปที่แท่นพิธีแล้วทำความเคารพท่าน ถ่ายรูป 2-3 ภาพ ฝุ่นปูนคลุ้งมาก รองเท้าเปื้อนผงปูนเต็มเรย ออกมาถ่ายรูปด้านนอก โบสถ์หลังใหม่นี้สร้างเมื่อปี 2452 และเสียหายจากระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย ศิลปะเรอเนอซองส์ หินอ่อนและกระจกสีสวยๆสั่งมาจากฝรั่งเศสและอิตาลี
มีนักท่องเที่ยวไต้หวันผู้ชายเดินมาพอดี เราเรยผลัดกันถ่ายรูปให้กัน คุยกับเค้าหน่อยเราเป็นเจ้าบ้านที่ดีนี่นา ด้วยภาษาอังกฤษอันฮ่วยแตก ไก่กา อาราเร่ของเรา นึกศัพท์คำไหนไม่ออกก็ชี้มือชี้ไม้ไป อย่าได้แคร์ คุยกันคร่าวๆได้ความว่า เค้าก็มาท่องเที่ยวคนเดียว ที่คอเสื้อเค้าห้อยไม้กางเขนออกมาด้านนอกเสื้อ เค้าบอกประมาณว่าเค้าเดินทางไปทั่วโลก ไปวัดคริสต์ที่สวยงามในแต่ละประเทศ ประมาณนั้น มีรูปโชว์ในกล้องให้ดูด้วย น่าชื่นชมในศรัทธานี้จริงๆ ยกนิ้วกดไลค์ให้ไป 2 โป้ง..555 เค้าถามเราต่อพร้อมกางแผนที่ว่าจะไปหัวลำโพง ใบ้กินซิ่ครัช!! อะฮั้น!! คนไทยยังหลงอยู่เรยนี่วันนี้ โชคช่วยคุณครูเดินออกมาจากโรงเรียนพอดี เรยเรียกครูให้ช่วยบอกทางหน่อย (รู้ได้ไงว่าเป็นครูบุคลิกครูน่ะชัดเจนจะตาย เสื้อโปโลปักโลโก้โรงเรียน ใส่แว่นร้อยสายลูกปัด มือหอบถุงหนักๆ การบ้านนักเรียนชัวร์ พูดจามีความรู้..ครูแน่นอน !! ) แล้วครูก็จะเดินไปทางป้ายรถเมล์พอดี ชายไต้หวันคนนั้นเรยเดินไปพร้อมกับครู เค้าหันมา Goodbye กับเราด้วย เออ..สนุกดีแฮะวันนี้ และแล้วก็มีเด็กกลุ่มนึงสาวสวย 4 คน แต่งหน้าจัดเต็ม จนดูแก่เกินวัย ในชุดครุยของสถาบันนึง พร้อมช่างภาพ อุปกรณ์พร้อม พวกหล่อนนี่คงมาถ่ายรูปโลเคชั่นสวยๆๆที่นี่ ไปดีกว่าเรา ปล่อยให้พวกหล่อนโพสต์ท่ากันไป เด๋วกลับมาใหม่เดือนธันวาคม บูรณะเสร็จแล้วต้องสวยมากๆๆแน่ๆๆเรย เดินกลับออกมาทางเดิม เดินต่อไปเรื่อยๆๆดิ๊แถวนี้มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง สมองนักสำรวจทำงาน
เดินมาตามทางเห็นร้านตัดเสื้อปิด แต่ตู้กระจกใช้ผ้าคลุมหุ่นไว้ ต๊กกะใจหมดเรย นี่ถ้ามากลางคืนหลอนเรยนะเนี่ย
เดินตรงมาถึง O.P. Garden Bangkok คืออัลไร..???
อ่อ ร้านอาหารดูดเงินชาวต่างชาติ ไม่มีใครเรยแฮะ สงสัยเค้ามากันค่ำๆๆมั้ง เดินต่อไป เห็นมุสลิมเดินมา I get หล่ะ แถวนี้ต้องเป็นชุมชนมุสลิม เมื่อเป็นชุมชนก็ต้องมีมัสยิด ล้าน% อย่างนี้ต้องไปพิสูจน์ เดินเข้าซอยมา อุ่ต๊ะ !! สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
อาคารทรงกล่องๆๆแปลก ด้านขวาตรงข้ามสถานทูตเป็นตรอกทางเข้า ป้ายเขียนว่า มัสยิดฮารูณ (มัสยิดวัดม่วงแค) เดินเข้าไปตามตรอกก็เจอมัสยิด
..จบแค่นี้ก่อน ข้อความที่พิมพ์เกิน เด๋วลงต่อ part 2