เข้าประเด็นเลยนะครับ คือ ผมได้เช่ารถ opel corsa จาก rentalcar.com โดยเลือกรถจากศูนย์ Budget
รับรถจากสนามบินมิวนิค ส่งคืนที่สถานีรถไฟมิวนิค ทุกอย่างดูเรียบร้อย แต่..........
1. ตอนรับรถตรวจพบตำหนิ 2 จุด คือหลังคา กับครอบกระจกไฟเลี้ยวขวา
ซึ่ง Budget ไม่ระบุไว้ในใบรับรถ เราก็เลยต้องเดินย้อนไปหาเจ้าหน้าที่ ชี้ให้เค้าดู และลงไว้ในใบรับรถเป็นหลักฐาน..... แต่เค้าเขียนเป็นภาษาเยอรมันนะ อันนี้รอดตัวไป
2.ตอนคืนรถ เจ้าหน้าที่ Budget บอกวางกุญแจแล้วไปได้เลย เราก็งงๆ เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ เรารอจนเค้าว่างแล้วมาตรวจรถเรา
ซึ่งเค้าก็ตรวจทุกอย่างนะ สภาพรถ และน้ำมัน(เงื่อนไขคือน้ำมันต้องต็มถังตอนคืน) ซึ่งเราก็เติมมาเต็มจากปั้มใกล้ๆ วิ่งมาไม่เกิน 10 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วบอกโอเค ให้เราไปได้ เราก็งง เลยถามว่าเอกสารคืนรถล่ะ เค้าบอกไม่มีไปได้เลย เราก็ยืนเก้ๆกังๆ ถามเค้าอีกรอบ เค้าก็บอกคำเดียว ให้ไปได้เลย ซึ่งเราก็ลองมองคนอื่นๆที่มาคืนรถ เค้าก็ไม่ได้เอกสารอะไร เราก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ปรากฎว่า.................
กลับมาไทยได้สักเกือบเดือน บัตรเครดิตเรียกเก็บเงินประมาณ 2800 บาท จากเยอรมัน เราเลยเมลไปถาม rentalcar ว่าเป็นค่าอะไร เค้าตอบมาว่าคือ
1.ค่าคืนรถต่างสถานที่ ประมาณ 300 บาท กรณีนี้ rentalcar ยอมคืนโดยบอกว่าเค้าผิดเองแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งจริงๆแล้วในใบจองแจ้งว่า ฟรี!!!!
2.ค่าน้ำมัน ประมาณ 2500 บาท กรณีตอนคืนรถน้ำมันไม่เต็มถัง!!!!
กรณีนี้ rentalcar ไม่คืนเงิน ซึ่งเราก็บอกเค้าว่าตอนคืนรถเราเติมเต็มแน่นอน ถ้าไม่เต็มยังไงก็ไม่น่าจะขนาดหลักพัน ระยะทางจากปั๊มถึงสถานีรถไฟ ดูจากกูเกิ้ล ประมาณ 6.1 กม. คิดเรา 2500 บาทเราว่าไม่แฟร์
rentalcar เลยบอกงั้นขอใบเสร็จเติมน้ำมัน ซึ่ง........ เวลาผ่านมาเกือบเดือน ประกอบกับเช็คจากบัตรเครดิตแล้ว ทางเยอรมันคืนวงเงินที่รูดกันเงินไว้ให้เราแล้ว ผลคือ เราไม่มีเอกสารใดๆยืนยัน ว่าเราเติมน้ำมันเต็มถังตอนคืน หลังจากนั้นก็ส่งเมลโต้ตอบกับ rentalcar หลายครั้ง(หลังๆเราเริ่มโมโหล่ะ อยากรู้ชื่อคนรับรถ เพราะ เราบอกเค้าว่าเราไม่ได้จะโกงนะเงินแค่นี้ แต่อาจจะเป็นคนรับรถนั่นแหละที่โกง ) จนสุดท้ายเค้าบอกถ้าไม่มีหลักฐานใบเสร็จเติมน้ำมัน เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้
เราเลยส่งเมลไป Budget แต่ มันเป็นเมลแบบส่งออโต้ เวลาส่งเมลหามันก็จะตอบกลับมาว่ารับเรื่องแล้ว ตามโค้ดนู้นนั่นนี่
ซึ่งเวบ Budget เยอรมัน เค้าไม่มีภาษาอังกฤษ ยากในการติดตาม เราก็เลยคิดว่าช่างมันละกันถือซะว่าเสียค่าโง่ไป แต่อยากจะมาเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังกันไว้ด้วยนะค้าบบบบบ
เตือนภัย เช่ารถขับยุโรป
รับรถจากสนามบินมิวนิค ส่งคืนที่สถานีรถไฟมิวนิค ทุกอย่างดูเรียบร้อย แต่..........
1. ตอนรับรถตรวจพบตำหนิ 2 จุด คือหลังคา กับครอบกระจกไฟเลี้ยวขวา
ซึ่ง Budget ไม่ระบุไว้ในใบรับรถ เราก็เลยต้องเดินย้อนไปหาเจ้าหน้าที่ ชี้ให้เค้าดู และลงไว้ในใบรับรถเป็นหลักฐาน..... แต่เค้าเขียนเป็นภาษาเยอรมันนะ อันนี้รอดตัวไป
2.ตอนคืนรถ เจ้าหน้าที่ Budget บอกวางกุญแจแล้วไปได้เลย เราก็งงๆ เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ เรารอจนเค้าว่างแล้วมาตรวจรถเรา
ซึ่งเค้าก็ตรวจทุกอย่างนะ สภาพรถ และน้ำมัน(เงื่อนไขคือน้ำมันต้องต็มถังตอนคืน) ซึ่งเราก็เติมมาเต็มจากปั้มใกล้ๆ วิ่งมาไม่เกิน 10 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วบอกโอเค ให้เราไปได้ เราก็งง เลยถามว่าเอกสารคืนรถล่ะ เค้าบอกไม่มีไปได้เลย เราก็ยืนเก้ๆกังๆ ถามเค้าอีกรอบ เค้าก็บอกคำเดียว ให้ไปได้เลย ซึ่งเราก็ลองมองคนอื่นๆที่มาคืนรถ เค้าก็ไม่ได้เอกสารอะไร เราก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ปรากฎว่า.................
กลับมาไทยได้สักเกือบเดือน บัตรเครดิตเรียกเก็บเงินประมาณ 2800 บาท จากเยอรมัน เราเลยเมลไปถาม rentalcar ว่าเป็นค่าอะไร เค้าตอบมาว่าคือ
1.ค่าคืนรถต่างสถานที่ ประมาณ 300 บาท กรณีนี้ rentalcar ยอมคืนโดยบอกว่าเค้าผิดเองแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งจริงๆแล้วในใบจองแจ้งว่า ฟรี!!!!
2.ค่าน้ำมัน ประมาณ 2500 บาท กรณีตอนคืนรถน้ำมันไม่เต็มถัง!!!!
กรณีนี้ rentalcar ไม่คืนเงิน ซึ่งเราก็บอกเค้าว่าตอนคืนรถเราเติมเต็มแน่นอน ถ้าไม่เต็มยังไงก็ไม่น่าจะขนาดหลักพัน ระยะทางจากปั๊มถึงสถานีรถไฟ ดูจากกูเกิ้ล ประมาณ 6.1 กม. คิดเรา 2500 บาทเราว่าไม่แฟร์
rentalcar เลยบอกงั้นขอใบเสร็จเติมน้ำมัน ซึ่ง........ เวลาผ่านมาเกือบเดือน ประกอบกับเช็คจากบัตรเครดิตแล้ว ทางเยอรมันคืนวงเงินที่รูดกันเงินไว้ให้เราแล้ว ผลคือ เราไม่มีเอกสารใดๆยืนยัน ว่าเราเติมน้ำมันเต็มถังตอนคืน หลังจากนั้นก็ส่งเมลโต้ตอบกับ rentalcar หลายครั้ง(หลังๆเราเริ่มโมโหล่ะ อยากรู้ชื่อคนรับรถ เพราะ เราบอกเค้าว่าเราไม่ได้จะโกงนะเงินแค่นี้ แต่อาจจะเป็นคนรับรถนั่นแหละที่โกง ) จนสุดท้ายเค้าบอกถ้าไม่มีหลักฐานใบเสร็จเติมน้ำมัน เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้
เราเลยส่งเมลไป Budget แต่ มันเป็นเมลแบบส่งออโต้ เวลาส่งเมลหามันก็จะตอบกลับมาว่ารับเรื่องแล้ว ตามโค้ดนู้นนั่นนี่
ซึ่งเวบ Budget เยอรมัน เค้าไม่มีภาษาอังกฤษ ยากในการติดตาม เราก็เลยคิดว่าช่างมันละกันถือซะว่าเสียค่าโง่ไป แต่อยากจะมาเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังกันไว้ด้วยนะค้าบบบบบ