มีใครอยู่แบบไม่มีสังคมบ้างครับ

ผมเป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่ 2 คน ที่แก่มากแล้ว ไม่ค่อยได้ติดต่อญาติ ทำงานเป็นฟรีแลนด์ที่บ้าน ไม่ค่อยได้ติดต่อกับใคร ติดต่อลูกค้านานๆครั้ง ปกติก็เรียกว่าอยู่คนเดียวแทบทั้งวันอยู่แล้ว แต่ก็มีเพื่อนที่สนิทสองสามคน แต่หลังๆเพื่อนเริ่มติดธุระ ภารกิจมากขึ้นตามอายุ แรกๆก้รู้สึกเหงา แต่ต่อมาก็อาศัยอ่านหนังสือ ดูทีวี ซีรี่ย์ เล่นเกมส์ ทำงาน ออกกำลัง พยายามหาอะไรทำ ตอนนี้รู้สึกชอบชีวิตแบบนี้ซะแล้ว ผมว่าสิ่งของมันไม่ทำให้หงุดหงิดเท่าคนนะ เพื่อนบางทีเราก็ไม่ชอบบางอย่างของเพื่อน คนละพ่อคนละแม่มาอยู่ด้วยกันก็มักมีปัญหาทุกที่ละ และคงเป็นไปไม่ได้ที่นิสัยมันจะตรงกันทุกอย่าง

ผมเลยรู้สึกว่าการอยู่แบบนี้มันก็ดีนะ ปัญหาน้อย สบายใจ ถ้าผมรู้สึกอยากคุยกับใคร ผมจะใช้การสื่อสารผ่านอินเตอร์เนต อย่างไปอ่านแฟนเพจอ่านคอมเมนท์ในแฟนเพจ กดไลค์ความเห็นที่ชอบ เป็นการสื่อสารด้านเดียว หรือบางทีก็ไปคอมเมนท์เองแล้วมีคนมาตอบมากดไลค์ ก็เป็นการสื่อสารที่เราพอใจนะ อยากคุยเมื่อไหร่ก็มีคนพร้อมจะคุยกับเรา

ข้อดีของการคบกับวัตถุคือเราต้องการเค้าเมื่อไหร่ก็ได้ จะเบื่อ จะวางลง เดินหนี เมื่อไหร่ก็ได้ ต้องการเมื่อไหร่เค้าก็วางอยู่ตรงนั้น ถ้าต้องการความสนุกสนานเหมือนเวลาอยู่กับเพื่อน ก็เปิดพวกหนังหรือคลิปหรือแฟนเพจตลกๆ เราก็หัวเราะ สนุกไปกับมันได้เป็นชั่วโมง

ขณะที่คนหรือเพื่อนมีเงื่อนไขเยอะกว่านั้น ไม่ได้อยู่เวลาเราอยากจะคุยจะเจอ ทุกคนดูมีภาระและยุ่ง เกรงใจ คนดูเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เงื่อนไขเยอะ ขณะที่เราหาสิ่งที่ทดแทนได้ เช่นถ้าอยากคุยประเด็นอะไรก็มาคุยในกระทู้อย่างที่ผมทำในตอนนี้ ก็เหมือนเป็นสังคมอีกแบบนึงนะ แต่ผมไม่ต้องไปนัดเจอพวกคุณ ตั้งกระทู้ทิ้งไว้ อยากอ่านอยากตอบเมื่อไหร่ก็เข้ามาตอบ มาอ่าน หรืออยากเฮฮาก็ดูคลิปดูรายการตลกๆ เอาจริงๆผมว่าเพื่อนก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว แฟนไม่ต้องพูดถึงนะครับ ขนาดเพื่อนยังเบื่อ555

ผมเลยอยากถามครับ มีใครป็นแบบนี้บ้างไหม แล้วมันจะมีปัญหาในอนาคตไหม กลัวแก่ๆไปช่วยตัวเองไม่ได้ ตอนเจ็บตอนป่วยจะทำอย่างไร

แท็กศาสนาด้วย เพราะผมว่าสิ่งที่ผมเจอมันคือความเบื่อหน่ายในความไม่เที่ยงของคน แต่ผมมาติดกับสิ่งของแทน แจ่นอนทำให้ทุกข์น้อยกว่าแต่ก็ไม่ใช่ทางหลุดพ้นในทางพุธศาสนา เลยอยากทราบคำแนะนำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นคล้ายคุณค่ะ รู้สึกชีวิตเบาขึ้นแยะ อารมณ์สุข เศร้า เหงาบ้าง คละกันไป แต่โดยรวมมีความสุขมากกว่า เพราะไม่ต้องฝืนทำอะไรหลายอย่างที่เราไม่อยากทำ

ไม่อยากกังวลถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอีกแล้วค่ะ (เหนื่อยกับความรู้สึกนี้มาตลอด) พยายามมีสติอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด เน้นดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงเข้าไว้ ประมาณว่าถึงอายุแปดสิบก็ยังเดินเหินได้สะดวก ถ้าอยู่นานกว่านั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ถ้ามีอันต้องจากโลกนี้ในวันนี้ พรุ่งนี้ ก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมไป

ชื่นชมที่คุณเป็นลูกชายซึ่งอยู่กับแม่เพียงลำพังได้อย่างมีความสุข
ขอให้บุญรักษานะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่