เห็นหลายๆกระทู้คุยกันเรื่องการขาดทุนของ PTTEP บ้างก็ว่าแค่ขาดทุนทางบัญชี ไม่มีผลอะไรกับบริษัทฯ บ้างก็ว่าเหมือนการถือหุ้นไว้แล้วราคาลงต่ำกว่าที่ซื้อ ถ้าคิดว่าไม่ขาดทุนก็คือการปลอบใจตัวเอง
การจะเข้าใจว่าขาดทุนจากการด้อยค่าคืออะไร ต้องเข้าใจหลักการบัญชีสักนิดนึงก่อนว่าการด้อยค่าของทรัพย์สินหรือ impairment นั้นคือการไปลงทุนอะไรสักอย่าง แล้วสิ่งที่ลงทุนไปเกิดมีมูลค่าลดลง ทางกฎหมายบังคับให้บริษัทจดทะเบียนต้องรับรู้มูลค่าที่ลดลงนั้นตามความเป็นจริง จึงเกิดการบันทึกการด้อยค่าลงในงบกำไรขาดทุน (Income Statement) และในขณะเดียวกันก็บันทึกมูลค่าสินทรัพย์ตัวนั้นที่ราคาใหม่ลงในงบดุล (Balance Sheet) ด้วย
ในกรณีของ PTTEP ที่ขาดทุนมโหฬารเพราะตัดสินใจรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าหลายๆโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ สิ่งที่ต้องศึกษาต่อคือบริษัทฯตั้งด้อยค่าที่ราคาน้ำมันดูไบเท่าไหร่ เช่นที่ 50 USD/Barrel หรือเท่าไหร่กันแน่ สมมุติว่าอ้างอิงที่ 50 ต่อมาราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นไปซื้อขายกันอยู่ที่ 60-70 USD บริษัทฯก็อาจมีบันทึกกลับรายการด้อยค่ามาเป็นกำไรเช่นกัน แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากการตั้งด้อยค่าตอนนี้ก็คือ สำหรับโครงการต่างๆที่ตั้งด้อยค่าไปแล้วและกำลังขายน้ำมันหรือแก๊สอยู่ ค่าเสื่อมราคาที่ถูกหักเป็นต้นทุนในไตรมาสต่อๆไปจะลดลง มีผลทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
แต่อย่าลืมว่าที่ราคาน้ำมันต่ำๆ รายได้ของบริษัทฯก็จะต่ำเช่นกัน ถึงกำไรขั้นต้นจะดีขึ้น แต่ก็อยู่บนฐานรายได้ที่ต่ำ นอกจากนี้การขาดทุนที่ 11 บาทกว่าต่อหุ้น ก็จะทำให้ Book Value ลดลงมาตามกันด้วย จนเหลือ 90 กว่าๆ
สิ่งที่ท่านที่ติดตัวนี้อยู่ต้องไปทำการบ้านคือ ที่ราคาน้ำมันดิบที่เท่าไหร่ บริษัทฯจะทำกำไรต่อหุ้นได้ที่เท่าไหร่ แล้วค่อยมาประเมินว่าจะคัทหรือถัวดี แต่ถ้าท่านคำนวณหากำไรไม่ได้ ก็เหมือนท่านเล่นอยู่บนพื้นฐานของการเดา เดาถูกก็กำไร เดาผิดก็ขาดทุน การลงทุนไม่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเดา แต่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ครับ
ด้วยความหวังดี และขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ
อธิบายการขาดทุนของ PTTEP
การจะเข้าใจว่าขาดทุนจากการด้อยค่าคืออะไร ต้องเข้าใจหลักการบัญชีสักนิดนึงก่อนว่าการด้อยค่าของทรัพย์สินหรือ impairment นั้นคือการไปลงทุนอะไรสักอย่าง แล้วสิ่งที่ลงทุนไปเกิดมีมูลค่าลดลง ทางกฎหมายบังคับให้บริษัทจดทะเบียนต้องรับรู้มูลค่าที่ลดลงนั้นตามความเป็นจริง จึงเกิดการบันทึกการด้อยค่าลงในงบกำไรขาดทุน (Income Statement) และในขณะเดียวกันก็บันทึกมูลค่าสินทรัพย์ตัวนั้นที่ราคาใหม่ลงในงบดุล (Balance Sheet) ด้วย
ในกรณีของ PTTEP ที่ขาดทุนมโหฬารเพราะตัดสินใจรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าหลายๆโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ สิ่งที่ต้องศึกษาต่อคือบริษัทฯตั้งด้อยค่าที่ราคาน้ำมันดูไบเท่าไหร่ เช่นที่ 50 USD/Barrel หรือเท่าไหร่กันแน่ สมมุติว่าอ้างอิงที่ 50 ต่อมาราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นไปซื้อขายกันอยู่ที่ 60-70 USD บริษัทฯก็อาจมีบันทึกกลับรายการด้อยค่ามาเป็นกำไรเช่นกัน แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากการตั้งด้อยค่าตอนนี้ก็คือ สำหรับโครงการต่างๆที่ตั้งด้อยค่าไปแล้วและกำลังขายน้ำมันหรือแก๊สอยู่ ค่าเสื่อมราคาที่ถูกหักเป็นต้นทุนในไตรมาสต่อๆไปจะลดลง มีผลทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
แต่อย่าลืมว่าที่ราคาน้ำมันต่ำๆ รายได้ของบริษัทฯก็จะต่ำเช่นกัน ถึงกำไรขั้นต้นจะดีขึ้น แต่ก็อยู่บนฐานรายได้ที่ต่ำ นอกจากนี้การขาดทุนที่ 11 บาทกว่าต่อหุ้น ก็จะทำให้ Book Value ลดลงมาตามกันด้วย จนเหลือ 90 กว่าๆ
สิ่งที่ท่านที่ติดตัวนี้อยู่ต้องไปทำการบ้านคือ ที่ราคาน้ำมันดิบที่เท่าไหร่ บริษัทฯจะทำกำไรต่อหุ้นได้ที่เท่าไหร่ แล้วค่อยมาประเมินว่าจะคัทหรือถัวดี แต่ถ้าท่านคำนวณหากำไรไม่ได้ ก็เหมือนท่านเล่นอยู่บนพื้นฐานของการเดา เดาถูกก็กำไร เดาผิดก็ขาดทุน การลงทุนไม่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเดา แต่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ครับ
ด้วยความหวังดี และขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ