สาขาที่เราไปใช้บริการคือสาขาที่หัวมุมตึกหอพักแวนด้าเพลส หน้ามอรังสิต
คือเริ่มแรกที่เข้าไปก็พบว่าพนักงานนั่งหัวเราะคิกคักกันอยู่
ก็เข้าใจมันดึกแล้ว ตี่สี่สี่สิบกว่า ๆ แล้ว คนคงร้างมากจริง ๆ
ก็เข้าไปเลือกสินค้าในส่วนของของกินในชั้นแช่เย็น
ปรากฎว่าป้ายราคาไม่ตรงกับสินค้าเยอะมาก ไม่ใช่แค่ครั้งนี้นะ
แต่หลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้คือมั่วเยอะเลยอ่ะ
อย่างไส้กรอกมาอยู่ตรงราคาโบโลน่า
เราหยิบไส้กรอกชีสมา พยายามหาราคาจากป้ายที่แขวนอยู่ป้ายอื่น
ปรากฎว่าไม่มีป้ายราคาสินค้านี้อยู่ที่ชั้นแช่ด้วยซ้ำ
เราเลยเอาไส้กรอกไปเช็คราคากับพนักงานผู้หญิงคนหนึ่ง
แล้วก็กลับมาดูที่หน้าชั้น ก็บอกเขาว่า "พี่คะ? ป้ายสินค้ามันไม่ตรงกับ..." หันไปมองหน้าพี่เขา นึกคำไม่ออก "ป้ายไม่ตรงกับสินค้าค่ะ"
เขาก็บอกว่าค่ะ เขาก็เช็คให้
พนักงานอีกคนถามว่า "เขาซื้อเหรอ?"
พนักงานคนแรกบอก "เปล่า เขามาเช็คราคา"
พนักงานคนที่สองหัวเราะทันที
คือในโมเมนท์นะตอนนั้นมันประหลาดมาก
เหมือนเขาไม่พอใจที่เราคอมเมนท์
แล้วเขาใช้วิธีถามเพื่อนตัวเองเหมือนเสียดสีเรายังไงไม่รู้
ประมาณว่าเราดันมาออกความคิดเห็นทั้งที่ไม่ซื้ออะไรอย่างนี้
แต่เราอาจจะคิดไปเองก็ได้
(ไส้กรอกเราซื้อนะ เราอยากกิน ๕๕๕๕)
มีกระดาษเด้ง ๆ มาแนะนำสินค้าเกี๊ยว แต่วางวุ้นไว้
เราเห็นว่าวุ้นน่ากิน เลยลองมองหาป้ายราคาสินค้าของวุ้น ก็หาราคาไม่เจออีก
คือวุ้นก็ไม่มีแม้แต่ป้ายราคาในแถวชั้นวางอีกเลยเหมือนกัน
เราก็ต้องไปให้พนักงานเช็คราคาอีก
สรุปวุ้นแพงไปนิด 29 บาท เลยไม่ซื้อ
แล้วมาพีคเอาตรงคิดเงิน คือเราซื้อนมแลคตาซอยยกแพ็คเว่ย
เห็นว่าป้ายราคามันไม่ได้ซ้อนกับป้ายอื่น ๆ คิดในใจว่ามันคงไม่ใส่ป้ายผิด
ไม่ได้เช็คดูให้ดี ป้ายใต้แพ็คแลคตาซอยติดราคาว่า 50 บาท
แต่พอไปคิดราคาที่เคาท์เตอร์มัน 59 บาท
แต่เราก็ซื้อด้วยนะ เพราะพกแบ็งพันไป
ยังคิดเลยว่าถ้าคนที่เตรียมเงินไปจำกัด ขาดอีก 9 บาทอย่างเงี้ยะ
แล้วอยากได้นม ก็คงต้องไปเสียเวลาเลือกใหม่ หรือไม่อาจต้องคืนของบางอย่าง
ถ้าจะเอานมไว้
คือที่เซเว่นก็เคยเจอนะ แต่นาน ๆ ที แล้วน้อยมาก
แต่ที่แฟมิลี่มาร์ทคือเราเจอตลอดอ่ะ แล้วเจอเยอะด้วย
เพราะเราชอบเปรียบเทียบราคาของ ไม่ทราบเหมือนกันว่าแค่สาขานี้รึเปล่า
และนี่คือ "เหตุผลหนึ่งที่ไม่เข้าแฟมิลี่มาร์ททั้ง ๆ ที่ชอบของหลายอย่างในนั้น"
มีปัญหากับป้ายราคาสินค้าใน familymart ตลอดเลย
คือเริ่มแรกที่เข้าไปก็พบว่าพนักงานนั่งหัวเราะคิกคักกันอยู่
ก็เข้าใจมันดึกแล้ว ตี่สี่สี่สิบกว่า ๆ แล้ว คนคงร้างมากจริง ๆ
ก็เข้าไปเลือกสินค้าในส่วนของของกินในชั้นแช่เย็น
ปรากฎว่าป้ายราคาไม่ตรงกับสินค้าเยอะมาก ไม่ใช่แค่ครั้งนี้นะ
แต่หลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้คือมั่วเยอะเลยอ่ะ
อย่างไส้กรอกมาอยู่ตรงราคาโบโลน่า
เราหยิบไส้กรอกชีสมา พยายามหาราคาจากป้ายที่แขวนอยู่ป้ายอื่น
ปรากฎว่าไม่มีป้ายราคาสินค้านี้อยู่ที่ชั้นแช่ด้วยซ้ำ
เราเลยเอาไส้กรอกไปเช็คราคากับพนักงานผู้หญิงคนหนึ่ง
แล้วก็กลับมาดูที่หน้าชั้น ก็บอกเขาว่า "พี่คะ? ป้ายสินค้ามันไม่ตรงกับ..." หันไปมองหน้าพี่เขา นึกคำไม่ออก "ป้ายไม่ตรงกับสินค้าค่ะ"
เขาก็บอกว่าค่ะ เขาก็เช็คให้
พนักงานอีกคนถามว่า "เขาซื้อเหรอ?"
พนักงานคนแรกบอก "เปล่า เขามาเช็คราคา"
พนักงานคนที่สองหัวเราะทันที
คือในโมเมนท์นะตอนนั้นมันประหลาดมาก
เหมือนเขาไม่พอใจที่เราคอมเมนท์
แล้วเขาใช้วิธีถามเพื่อนตัวเองเหมือนเสียดสีเรายังไงไม่รู้
ประมาณว่าเราดันมาออกความคิดเห็นทั้งที่ไม่ซื้ออะไรอย่างนี้
แต่เราอาจจะคิดไปเองก็ได้
(ไส้กรอกเราซื้อนะ เราอยากกิน ๕๕๕๕)
มีกระดาษเด้ง ๆ มาแนะนำสินค้าเกี๊ยว แต่วางวุ้นไว้
เราเห็นว่าวุ้นน่ากิน เลยลองมองหาป้ายราคาสินค้าของวุ้น ก็หาราคาไม่เจออีก
คือวุ้นก็ไม่มีแม้แต่ป้ายราคาในแถวชั้นวางอีกเลยเหมือนกัน
เราก็ต้องไปให้พนักงานเช็คราคาอีก
สรุปวุ้นแพงไปนิด 29 บาท เลยไม่ซื้อ
แล้วมาพีคเอาตรงคิดเงิน คือเราซื้อนมแลคตาซอยยกแพ็คเว่ย
เห็นว่าป้ายราคามันไม่ได้ซ้อนกับป้ายอื่น ๆ คิดในใจว่ามันคงไม่ใส่ป้ายผิด
ไม่ได้เช็คดูให้ดี ป้ายใต้แพ็คแลคตาซอยติดราคาว่า 50 บาท
แต่พอไปคิดราคาที่เคาท์เตอร์มัน 59 บาท
แต่เราก็ซื้อด้วยนะ เพราะพกแบ็งพันไป
ยังคิดเลยว่าถ้าคนที่เตรียมเงินไปจำกัด ขาดอีก 9 บาทอย่างเงี้ยะ
แล้วอยากได้นม ก็คงต้องไปเสียเวลาเลือกใหม่ หรือไม่อาจต้องคืนของบางอย่าง
ถ้าจะเอานมไว้
คือที่เซเว่นก็เคยเจอนะ แต่นาน ๆ ที แล้วน้อยมาก
แต่ที่แฟมิลี่มาร์ทคือเราเจอตลอดอ่ะ แล้วเจอเยอะด้วย
เพราะเราชอบเปรียบเทียบราคาของ ไม่ทราบเหมือนกันว่าแค่สาขานี้รึเปล่า
และนี่คือ "เหตุผลหนึ่งที่ไม่เข้าแฟมิลี่มาร์ททั้ง ๆ ที่ชอบของหลายอย่างในนั้น"