ใครจะไปรู้ว่าแค่วางกระเป๋าทิ้งไว้ที่ต่างประเทศ จะเป็นเรื่องขนาดนี้ (15+)

ใครจะไปรู้ว่าแค่วางกระเป๋าทิ้งไว้ที่ต่างประเทศ จะเป็นเรื่องขนาดนี้

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัว ตอนไปตะลุยต่างแดน ที่ประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง
ที่โฮจิมินห์ เวียดนามค่ะ แต่จะไม่มีการรีวิวที่เที่ยวใดๆทั้งสื้นนะคะ เน้นเรื่องผู้ชายค่ะ 55555

แค่อยากแชร์เรื่องราว ไม่ได้รีวิวเที่ยว ถ้าไม่ถูกจริตใครเราขออภัยไว้ก่อนเลยน้า ยิ้ม
อาจจะสงสัยว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการวางกระเป๋า .. เอาจริงๆมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เองค่ะ
แท็กบลูแพลนเน็ตด้วยเพราะเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ต่างประเทศเนอะ

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่าเราเรียนจบแล้วค่ะ มีงานทำแล้วด้วย ไม่ใช่เด็กแล้ว
ก่อนหน้านี้เราก็เคยเดทกะหนุ่มอังกฤษค่ะ แต่เป็นช่วงสั้นๆ บางคนอาจมองว่าเราแรง 5555 ไม่ว่ากันค่ะ ก็แล้วแต่มุมมองเนอะ
ส่วนตัวเราก่อนหน้านี้จะปลื้มหนุ่มๆทางฝั่งยุโรปมากกว่าเมกาค่ะ เพราะเคยมีเพื่อนมาจากทั้งสองฝั่ง
รู้สึกว่าหนุ่มยุโรป(โดยเฉพาะอังกฤษ)นี่โรแมนติกสุดๆแล้ว ส่วนหนุ่มเมกาเราเฉยๆค่ะ รู้สึกว่าพูดห้วนไปหน่อย
ไม่ค่อยปากหวานเท่าหนุ่มอังกฤษ 5555 ส่วนหนุ่มไทยนี่ก็มีมาบ้างค่ะ แต่เราค่อนข้างอคติกะผู้ชายไทยแล้ว
เพราะพวกนี้ชอบไซโคว่าเราอ้วนค่ะ แทบทุกคนที่เราคุยเลย (เราสูง 16x หนัก 5x)
ซึ่งเพื่อนฝรั่งเค้าจะหัวเสียมากเวลาเราบอกว่าเราอ้วน อารมณ์เหมือนเราเห็นชะนีตัวผอมๆ ชอบลงแคปชั่นว่าตัวเองอ้วนนั่นแหละค่ะ 55555
ผู้ชายไทยซีเรียสเรื่องภายนอกเกินไป เราเลยบายค่ะ .. แต่ถ้ามีคนดีๆมาเราก็ไม่ปิดตัวเองนะ

เกริ่นเรื่องตัวเองเยอะแล้ว มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ทริปนี้เราไปกะแม่ค่ะ แต่ก็จะแยกกันบ้างช่วงค่ำๆ แม่เรานอนเร็ว
เราเลยชอบออกไปเดินดูนั่นนี่ เราก็ไม่ใช่เด็กแล้วอ่ะเนอะ แม่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร วันแรกที่เราไปถึงก็ค่อนข้างเย็นแล้ว
ก็เช็คอินโรงแรมแล้วก็ออกไปทานข้าวเย็นกับแม่ค่ะ ระหว่างเดินก็เริ่มสังเกตว่า เออ แถวนี้ฝรั่งเยอะแฮะ ร้านกาแฟนี่ฝรั่งเต็มร้าน
พอกินข้าวเสร็จ กลับมาที่โรงแรม เลยลองเล่น app Tinder ดู (ฝรั่งเล่นกันเยอะ) ปรากฏว่ามีฝรั่งเยอะมากจริงๆ
แล้วก็มีประมาณ 4-5 คนมาทักเรา ถามว่าเราพักแถวไหน ชวนเราออกไปเที่ยวบ้าง เราก็ไม่ไปค่ะ กลัว 5555
เห็นติ่งฝรั่งแบบนี้แต่ก็มีความกลัวนะเออ ส่วนคนคุยดีๆก็มีค่ะ เขาก็แนะนำที่เที่ยว วิธีต่อราคาตอนช็อปไรงี้ 5555
ใครไปเที่ยว ตปท แล้วอยากหาเพื่อนเที่ยว ลองดูแอพนี้ก็ได้นะคะ แต่ต้องดูดีๆนะ

ส่วนพระเอกของเรา ไม่ได้อยู่ในแอพนี้หรอกค่ะ (อ้าว แล้วจะเกริ่นเพื่อ -.-)

พอวันต่อมาเราก็ไปถ่ายรูปที่โบสถ์ กะไปรษณีย์กลาง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่
เสร็จแล้วก็ไปเดินตลาดต่อ  แล้วมานั่งพักที่คาเฟ่ใกล้ๆตลาด ซึ่งทั้งร้านมีแต่ฝรั่ง.. จุดเริ่มต้นของเราก็เริ่มตรงนี้แหละค่า ><

เรานั่งตรงเค้าท์เตอร์บาร์คนเดียว แล้วก็ชาร์จมือถือไว้เพราะแบตใกล้หมด แล้วเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วใส่มือถือไว้ในกระเป๋า
พอกลับมาก็มีฝรั่งคนนึงมานั่งข้างๆ ที่นั่งเรา พอเราดึงเก้าอี้ออกมานั่งฮีก็แอบหันมามอง
เราเลยยิ้มให้ ฮีก็อมยิ้มตอบ (หล่อจังพ่อคุณ หน้าตาเหมือน Daniel Sharman ที่เล่นซีรี่ย์ Teen Wolf น่ะค่ะ แต่คนนี้ตาสีฟ้าเลย *-*)
แอบเสียดายที่ฮีไม่ทักไม่อะไร เราหญิงไทยก็ป๊อดเกินกว่าจะชวนคุยก่อน พอเรานั่งปุ๊บ เตรียมเสียบหูฟัง อยู่ๆฮีก็ทักขึ้นมา
"Hey" ว้ายยยย คุณคะ เค้าทักชั้นแล้ว เยส! กรี๊ดในใจดังมาก เราเลยทักกลับ "Hi"
"ยูรู้ป่ะ ว่ายูไม่ควรวางกระเป๋าไว้ตรงนี้นะ ที่นี่ขโมยเยอะแถมน่ากลัวมาก"
เราก็หืมมม อะไร อยู่ๆมาเป็นชุด -..- เลยตอบฮีว่าไอไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวไงยูวว ในนี้ก็น่าจะปลอดภัยนะ
ฮีก็บอกว่าอยู่นี่อันตรายมากนะ เราไม่ควรพายกระเป๋าแบบนี้ด้วยซ้ำ โทรศัพท์ก็เหมือนกัน ห้ามเอาออกมา เดี๋ยวหาย
ไอโฟนหกฮีเพิ่งหายเหมือนกัน บลาๆ .. ขี้บ่นจังเว้ยเฮ้ย แต่ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเถียงค่ะ ไม่ชอบยอมง่ายๆ 5555
เราก็บอกไปว่าไม่ได้หรอก เราต้องใช้โทรศัพท์ดูทางตลอดเวลาไง ฮีเลย อ่ออ ยูมาเที่ยวหรอ จะไปไหนล่ะ
แล้วเปิดแผนที่ในโทรศัพท์ตัวเองให้ดู แล้วก็บอกว่าย่านไหนน่าเที่ยวบ้าง
จังหวะนี้ฮีเอาโทรศัพท์มาวางหน้าเรา แล้วยืนหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ .. ฟีลนิยายแจ่มใสก็มาาา ใกล้ไปป่าวว -////-
แต่เราก็ไม่ได้ใสซื่อ(บื้อ)แบบนางเอกนิยายหรอกค่ะ กร้ากกก ก็แอบแย้บๆไป
"แล้วไอไปเดินคนเดียวมันปลอดภัยมั้ยอ่ะแถวนั้น?"
ฮีบอกว่าก็ปลอดภัยนะ แต่ถ้าวันนี้ฮีว่าง ให้ฮีพาเดินเที่ยวมั้ย .. นี่แหนะ ตบเข่าดังฉาด! (ในใจ) เข้าทางชั้นซะแล้วววว หึหึ
เราคิดว่าอย่างน้อยฮีก็น่าจะไว้ใจได้กว่าพวกใน Tinder แหละ
เราเลยบอกนางไปว่า "ดีเลยย โชคดีจัง ขอบคุณยูมากนะ .. ไอขอวอทแอพยูไว้ได้มั้ยย *-*"
นั่นล่ะค่ะท่านผู้ชม เลยได้วอทแอพกะชื่อฮีมา แล้วก็ถามเทือกเขาเหล่ากอ มาจากไหน มาทำอะไรที่นี่

ได้ความว่าฮีเป็นคนอเมริกาค่ะ มาจากบอสตัน เมื่อก่อนเป็นเอ็นจิเนียร์ แต่งานหนักเลยออกมาเป็นครูสอนภาษาที่นี่
ก่อนมาทำงานที่นี่ฮีก็เคยมาเที่ยวไทยด้วยนะ ไปมาตั้งหลายที่ ยิ้ม แล้วบังเอิญเราก็ทำงานสายเดียวกะฮีค่ะ เลยคุยกันเรื่องงานสนุกเลย

ด้วยความที่ฮีแก่กว่าเราห้าปี เราเลยเรียกฮีว่าอปป้าค่ะ เพี่อความฟรุ้งฟริ้ง 5555
อปป้าเป็นคนร่าเริง มุกเยอะ หรือเราเส้นตื้นก็ไม่รู้ -.- ฮีทำตัวเด็กกว่าอายุเยอะเลยค่ะ หน้าก็เด็กมากก
ตอนแรกนึกว่าฮีเป็นนักศึกษา (ส่วนอปป้าก็บอกว่าเราหน้าเหมือนเด็กไฮสคูล .. ใครๆก็ทักอ่ะยูววว เราหน้าเด็กจริงๆแหละ
//เบะปากหมั่นไส้ได้ค่ะ 5555)

ร้านกาแฟที่เรานั่งเนี่ย กาแฟรสชาติแย่มาก T_T เราสั่งกาแฟเย็น อปป้าสั่งชา เราเลยบ่นๆกะฮีว่ากาแฟร้านนี้ห่วยมากเลย
ฮีเลยเอาแก้วเราไปชิมเฉย แล้วก็บอกว่า เออ แปลกๆจริงๆ .. เฮ้ย นี่ยูกินกาแฟของคนที่เพิ่งเจอกันเนี่ยนะ? เป็นผู้ชายที่ casual ดีจัง
(เอ๊ะ หรือนางทำเนียน? 5555) ชะนีไทยแถวนี้นี่มโนเลยค่ะ กรี๊ดดด นี่มันจูบทางอ้อมมม
แล้วฮีก็เอาชามาให้เราชิมมั่งค่ะ สรุปของฮีอร่อยกว่า เราเลยชิมไปเยอะเลย ฮี่ๆ -..-

พอฝนเริ่มเบาลง (ฝนตกตอนไหนฟะ? ขออภัยที่เล่ารวบไปหน่อยค่ะ -..-) อปป้าก็ขอตัวไปเตรียมสอนค่ะ ฮีมีสอนตอนเย็น
เราเลยก็โอเค งั้นเดี๋ยวเราเรียกแท็กซี่กลับโรงแรมละ ฮีเลยอาสาออกมาเรียกให้
ก่อนเรียกแท็กซี่พี่แกก็หันมาบอก "ไหนไอขอกอดลาหน่อยซิ"
กรี๊ดดดด(ในใจ) มันก็ปกติของฝรั่งป่ะวะ แต่ถ้าเธอไม่หล่อชั้นก็คงเฉยๆนะ ><
จังหวะตอนกอด เราต้องเขย่งเท้าสุดฤทธิ์ ยูตัวสูงขนาดนี้เลยหรออปป้าาา
(เพลงของ Taylor Swift ลอยมาเลยค่ะ .. He’s so tall and handsome as he**)
ตัวหอมด้วย หอมแบบขึ้นแท็กซี่แล้วกลิ่นยังติดจมูก -..- (น่ากลัวจังชะนีสมัยนี้)
อ้อ ก่อนขึ้นแท็กซี่ฮีก็บอกว่าเดี๋ยวเลิกงานจะ text หา .. เดี๋ยวนะ นี่มันคือชวนเดทใช่มั้ย ว้ายยย เขิน ตื่นเต้น (เรื่องเว่อร์ขอให้บอกเราค่ะ 5555)

พอตอนเย็นเราออกไปทานข้าวกะแม่ ก็ทานไปน้อยมาก เพระาก้างปลาทิ่มปากค่ะ TT
พอค่ำๆ หน่อย อปป้าก็วอทแอพมา บอกสถานที่ว่าให้ไปรอตรงไหน
(เราไม่กล้านั่งมอไซค์กะฮีค่ะ เพราะการจราจรประเทศนี้น่ากลัวเหลือเกิน)
แล้วเราก็บอกแท็กซี่ให้ไปจอดแถวที่ฮีบอก แต่เหมือนแท็กซี่ปล่อยเราลงไกลไปหน่อย พอเราบอกพิกัด ฮีก็ตอบมาว่า
"แย่ละ เดี๋ยวไอรีบไปลากยูมาเลย"
แล้วพอฮีเดินมาถึง ก็ลากคอเราออกไปจริงๆค่ะ ล็อกคอออกไปเลย 55555
ฮีบอกว่าแถวนั้นมันอันตราย แต่ก็แปลกนะที่ยูไม่เจออะไร ... อ้าว นี่ด่ากันรึเปล่าอปป้า -_-

แล้วเราก็รีเควสขอร้านดริ๊งก์ชิลๆค่ะ มาไนท์เอ๊าท์ทั้งที ขอเมานิดนึงแล้วกันจะได้สนุก
แต่ดันท้องว่างมา ก็เลยเมาเกินเลยคำว่านิดนึงไปหน่อย 55555
พอดริ๊งก์หมดก็ไปเดินเล่นย่านนั้นกัน อารมณ์ก็ประมาณข้าวสารเลยค่ะ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย แอบวุ่นวายนิดๆ
อปป้าเกือบโดนรถเฉี่ยว เราดึงแขนฮีออกมาก่อน หลังจากนั้นฮีเลยกุมมือเราไว้ตลอดเลยค่ะ ><
เราเขินเลยต้องแกล้งมองเสาไฟ มองนั่นนี่ไป ฮีก็เลยก้มลงมาถาม
"feeling like home now?"
แหม คนบ้าา เขินนะเว้ยยย เราเลยตอบ(แบบไม่หันไปมอง)ไปว่า "probably.. " นางก็หัวเราะชอบใจใหญ่เลย .. ขำไรของเอ็ง -..-
แล้วนางก็หันหน้ามาจุ๊บเราค่อยๆ .. โลกมันหมุนหนักกว่าตอนยกวอดก้าอีกค่ะคุณผู้ชมมมม -//////-  รู้สึกได้ว่าหูร้อนมากกกกก

คืนนั้นก็เดินไปคุยไปทั้งคืนค่ะ อารมณ์เหมือนเรื่อง before sunrise (หนังเก่ามาก มีใครเคยดูมั้ย)
แต่เราป๊อดเกินกว่าจะถามฮีเรื่องเราสองคนค่ะ ไม่อยากให้ฮีรู้ด้วยมั้งว่าเราตกหลุมไปแล้ววว เศร้า
แค่แอบถามเปรยๆ ว่าถ้ามารอบหน้าไอจะได้เจอยูอีกป่าว ฮีก็บอกว่าได้เจอสิ แต่ยูต้องรีบมานะ เพราะไอจะอยู่อีกไม่กี่เดือน
ฮีบอกว่าหลังจากนั้นฮีจะไปเที่ยวที่อื่นต่อค่ะ
พอฮีถามเราคืนว่าถ้าฮีไปไทย เราจะไปหามั้ย เราก็รับปากไปอย่างรวดเร็ว สงสัยเมา 55555
ฮีก็พอใจใหญ่เลย ชัวร์แล้วนะ งั้นเดี๋ยวไอไป .. แหม่ นี่เธออย่ามาให้ความหวังชั้นนะ ไม่รู้หรอว่าชะนีไทยเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดไปเอง 55555

พอเดินทั่วแล้ว แถมเมาหนักมากแล้ว เราก็ชวนฮีมานั่งสตาร์บัคค่ะ ขอดึงสติก่อนกลับโรงแรม
ปรากฏว่า .. เราหลับในสตาร์บัคค่ะ ฮีบอกว่าเราหลับไปเกือบชั่วโมง T^T ไม่เมาจริงทำไม่ได้นะ น้ำลายหกใส่เสื้อเขารึเปล่านั่น
ฮีบอกว่ากำลังจับเวลา ถ้าเราไม่ตื่นจะอุ้มไปที่บ้าน โอ้ ขอบคุณพระเจ้า ตื่นทันเวลาพอดี
เสร็จแล้วฮีก็เรียกแท็กซี่ให้เราค่ะ แถมกู๊ดไนท์คิส(ตอนเกือบเช้า)ให้อีกทีนึง -////////-

ส่วนวันถัดมา ... ไม่ได้เจอกันค่ะ (อ้าวววว)

อปป้าทำงาน ส่วนตอนเย็นเราก็ไปกับทัวร์ ขอตัดภาพไปคืนสุดท้ายก่อนกลับเลยนะคะ

คืนวันสุดท้าย อปป้ามารับเราไปทานข้าวตอนเย็นค่ะ หลังจากที่เรานอนซมเป็นไข้ทั้งวัน เพราะตากฝนวันที่ไปกะทัวร์
ร้านที่ฮีพาไปวันนี้อยู่อีกย่านนึง ห่างจากโรงแรมเราหน่อยนึง เลยต้องแว้นมอไซค์ไปกัน (สนิทกันแล้ว กล้าซ้อนท้ายฮีแล้ว อิอิ)
อปป้าเราแว้นเก่งมากค่ะคุณ เรานี่หลับตาปี๋ เกาะเอวฮีแน่นตลอดทาง (ยังมิวายแต๊ะอั๋ง ฮะฮะฮ่าาา)

ร้านที่ฮีพามากินข้าว เป็นร้านอาหารเวียดนามที่อยู่บนดาดฟ้าของตึกเล็กๆตึกนึง บรรยากาศโรแมนติกมากกก
จำไม่ผิดชื่อร้าน secret garden ค่ะ ชอบประเทศนี้ตรงอาหารอร่อยๆ ร้านดีๆ นี่ไม่แพงเลย
เราทานน้อย ฮีก็บังคับกิน จับป้อน จับยัดปาก ดูแลกันอย่างexclusive เลยทีเดียว -.-

พออิ่มแล้ว ก็หาที่ไปนั่งชิลกันต่อ ฮีถามเราว่าเคยไปตึกที่สูงสุดในโฮจิมินมารึยัง เคยไปแลนด์มาร์คตรงนั้นตรงนี้รึยัง
คำตอบคือยังหมดเลยค่ะ -.- พอมันไกลเราก็ขี้เกียจเดิน แถมวันนี้มาป่วย แพลนตอนกลางวันเลยล่มหมดเลย
ฮีเลยอาสาจะพาไปทัวร์ค่ะ แว้นมอไซค์กันไปนี่แหละ

ฮีพาขับรอบเมือง แล้วก็จอดตามจุดต่างๆ ตอนกลางคืนที่นี่เค้าจะเปิดไฟทั้งเมืองเลยค่ะ ตึกก็ประดับไฟเยอะมาก สวยมาก ><
แต่เรากลัวโดนขโมยโทรศัพท์ค่ะ อปป้าฮีก็เตือนนักหนา ว่าให้กอดกระเป๋าแน่นๆ เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย เสียดาย เศร้า

พอทัวร์รอบเมืองเสร็จ ฮีก็พามาที่สกายบาร์บนโรงแรมนึง เราลืมชื่อไปแล้ว T^T
"ไอพายูดูรอบเมืองหมดไม่ไหว แต่ขึ้นมาบนนี้ก็เห็นเกือบทั้งเมืองนะ"
หูยยยย โรแมนติกไปละค่ะคุณ แฟนเก่าๆ ของชั้นยังไม่มีใครโรแมนติกขนาดนี้เล้ย ><
พอถึงโรงแรมก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุด ตอนอยู่ในลิฟท์กันสองคน ซีนแบบในหนังก็มา
-//////- อยู่ๆ อปป้าก็ดึงเราเข้าไปชิด แล้วก็ยิ้มเขินๆ เหมือนเป็นกันให้สัญญาณ อืมม โลกหมุนตั้งแต่ยังไม่ดื่มเลยย บ้าจริงพี่ชาย ><
แต่พอปากแตะกันได้แป๊บเดียวเราก็รีบผละออกค่ะ กลัวลิฟท์เปิด ฮีก็ล้อใหญ่เลยว่าเราขี้กลัว -.-


- พอใกล้จะจบ ตัวอักษรหมดซะงั้น ต่อเม้นท์ข้างล่างนะคะ ^^ -

//แก้ไขอินโทรด้านบนนิดนึงค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่