ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยแว่ เอ้ย! ว่า เอ้ย! ถูกแล้ว 5555นี่ไม่ใช่กระทู้รีวิวหรือแนะนำการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
เพราะคาดว่ากระทู้นี้น่าจะไม่มีสาระให้ตามรอยเหมือนกระทู้อื่น
แต่แบบว่าอยากมาเล่ามาเม้าท์ประสบการณ์ที่เราพบเจอให้ฟังเป็นอย่างมากกกก 55555
ดังนั้นขอเตือนก่อนเลยแว่ เอ้ย! ว่า เอ้ย! ถูกแล้ว (ยัง ยังจะเล่นอีก
ไปเล่นตรงนู้นไปปปป - -)
โปรดอย่าคาดหวังสาระจากกระทู้เรา และอีกอย่างการถ่ายภาพของพวกเราอาจจะขัดตาช่างภาพมืออาชีพหลายๆท่าน
เพราะเส้นนงเส้นนำสายตาอะไร เราไม่เคยสัมผัส ไม่เคยจะมีเหมือนคนอื่นเค้า (พูดแล้วก็เศร้าใจ )
ภาพเราจึงไม่เอียงซ้ายก็เอียงขวา ขาดๆเกินๆ ยังไงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่า ...
คณะผู้จัดทำ ><”
บอกอีกหน่อย เราสองคนเป็นชะนีไทย แบบออริจินอล ไม่มีเชื้อสายจีนเกาหลีใดๆ ปลอมปน
เพราะฉะนั้นเวลาไปไหนหน้าบอกยี่ห้อไทยแลนด์มาแต่ไกล แต่ก็มีบ้างที่คิดว่าเป็นอินโด (เอ๊ะ! ทำไม?) 55555
!!!! กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกด้วยเลยตั้งใจเขียนแบบมาเล่าให้เพื่อนฟัง อะไรที่หยาบคายไป หรือมุกไหนไม่ฮาก็อย่าด่าแม่เค้าเลย ข้ามๆไปเถอะ T^T
ทำไมต้องสิงคโปร์???? เพราะเปิด AEC? เพราะเมอร์ไลอ้อน? เพราะข้าวมันไก่?
เพราะ Temasek? เพราะCharle & Keith? เพราะ…? พออออออ!!!
เอาจริงๆเลย เหตุผลที่ไปสิงคโปร์นั้น ป้อจาย ล้วนๆเลย ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ ลีกวนยู!!!!!
ล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น เอาจริงๆเลยนะ ที่ไปสิงคโปร์น่ะ เพราะป้อจายจริงๆ ที่ไม่อิงลีกวนยู
สืบเนื่องมาจากเมื่อกลางปีที่แล้วเราสองคนได้เที่ยวเกาหลีใต้กัน ด้วยความหวังที่ว่าจะลากโอปป้ามาฝากแม่ แต่ทำไปทำมา ไหงได้หนุ่มตี๋สิงคโปร์มาซะงั้น (ไม่อยากจะเท้าความเดี๋ยวจะยาว ไว้ว่างๆจะมาเขียนรีวิวทริปเกาหลีละกัน รับรองแซ่บคูณ10 ของสิงคโปร์แน่นอน คริๆ) กลับมาๆ ตอนนี้เรากำลังจะไปสิงคโปร์ 55555
จากการที่ Keep in touch ด้วยภาษาอังกฤษแบบใช้ใจ ผสมแกรมม่ากากๆ มาตลอดหลายเดือน คุยๆ หายๆ แบบพอกรุบกริบๆ บวกกับตั๋วเครื่องบินราคาโดนใจ เอาวะ ไปเยือนถิ่นมันซักที ไหนๆก็ไม่เคยไปละ ฉลองเปิด AEC
ซะเลย 5555 (ขอไปดูที่อยู่ของลูกในอนาคตล่วงหน้าเลยละกัน หรืออันนี้คือเหตุผลจริงๆวะ 55555)
เข้าเรื่องๆ เกริ่นมาซะไกล จากโซลยันสิงคโปร์เลย ตามชื่อกระทู้เลย พวกเราโดดเรียนค่ะ จริงๆวันที่ไปเปิดเทอมวันแรกพอดี แต่พวกเรายังไม่พร้อมเรียนขอพักอีกหน่อยละกัน 5555 (อย่าเพิ่งด่า อาทิตย์แรกแค่แจก course syllabus ค่า) เรามาเริ่ม วันแรกในสิงคโปร์กันเลยละกัน เนื่องจากได้โปรถูก เวลาเลยโหดหน่อย มาถึงสิงคโปร์ก็ปาไปเกือบสามทุ่มแล้ว กว่าจะหาซื้อซิม เชคอินโรงแรม เสร็จเรียบร้อยก็ห้าทุ่มกว่า แต่โชคดีโรงแรมที่เราพักอยู่ย่านไชน่า ทาวน์ ทำเลดีมากกกก ใกล้MRT ใกล้แหล่งอาหาร ทำให้ทริปนี้ดึกแค่ไหนก็เพิ่มน้ำหนักให้เราทั้งคู่ได้ตลอด 5555
ภาพนี้เอามาจากในเว็บนะคะ เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะไม่คิดว่าจะมาเขียนพันทิป แหะๆ
พวกเราพักที่ Porcelain Hotel ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเรา เพราะปกติทุกทริปที่ผ่านมานอนแต่โฮสเทลเป็นส่วนใหญ่ แต่แบบทริปนี้บอกเลย ขอสวย ขอแพง เผื่อหนุ่มถาม 5555 (แล้วก็คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกที่นี่ เจองานดีตั้งแต่หน้าเคาเตอร์กันเลยทีเดียว) เอาเป็นที่นี่แนะนำค่ะ ถ้าจะหาที่พักทำเลดี เดินทางง่าย หาของกินสะดวก ใกล้วัดแขก วัดพระเขี้ยวแก้วด้วย แถมสวยและบริการดีอีก ถือว่าคุ้มค่าค่ะ ลองดูๆ
คืนแรกด้วยความคึกคักและกระหายใคร่รู้ของเราสองคน ซึ่งต่อให้ดึกแค่ไหนก็คงนอนไม่หลับกันอยู่ดี ถือคติไม่เข้มข้นเราไม่นอน 555 เลยขอสำรวจ night life ของสิงคโปร์ซะหน่อย เอาเลยค่าาา เราเริ่มเดินสำรวจกันเลย ย้ำค่ะ เราเดินค่ะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็เดินค่ะ ถือเป็นการชมบรรยากาศยามค่ำคืน เดินชิลๆ แถมยังได้เห็นอีกมุมมอง ได้หลง ได้เรียนรู้ มันก็สนุกไปอีกแบบ 5555 (เวลาหลงนี่เพลงของพี่ชาติลอยเข้ามาเลยคะ การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ - - )
คืนนั้นสองชะนีไทยเดินจากโรงแรมที่ไชน่าทาวน์ ไปคลากคีย์(Clarke Quay) เดิน
ข้ามเขตกันเลยทีเดียวแต่ไปไม่ยากค่ะ เดยตรงไปเรื่อยๆก็ถึง เราถือคติขาไม่เป็นกล้าม เราไม่กลับไทย 5555 (ทีเดิน Skywalk จากสยามไปเซนทรัลเวิล์ด ทำเป็นบ่น 555) เดินกันจนหน้าเยิ้มในสุดเราก็ถึงค่ะ
แท่น แทน แท้นนนนน เงียบมากกกก!! นี่หรือคลากคีย์ - -” สิ่งที่ฉันคิด กับสิ่งที่ฉันเห็นทำไมมันต่างกันเช่นนี้ คลากคีย์ที่เราอ่านเจอมาเป็นย่านสถานบันเทิงที่มีทั้งผับและร้านนั่งชิลล์ สุดชิคของนักท่องเที่ยวและคนที่นี่แต่วันที่เราไปร้านมันเปิดน้อยมาก ดูมืดๆ ไม่สดใส อย่างในจินตนาการเลย (- -) มารู้ทีหลังวันจันทร์คืนที่เราไป คนที่นี่เค้าไม่นิยมเที่ยวกัน แง่วววว คืนแรกก็แห้วซะงั้น T^T แต่ถ้าวันพุธจะเป็น Lady Night ผู้หญิงจะเข้าผับที่นี่ฟรี (เจอกันแน่วันพุธ 5555) วันนั้นสองชะนีไทยใจเลยห่อเหี่ยว อุตสาห์จะมาเปรี้ยวที่นี่ซะหน่อย 55555 เลยได้แต่สำรวจลู่ทางไว้ก่อน คืนนั้นจึงจบลงด้วยข้าวกล่องร้าน Cheer เบาๆ ก่อนเข้านอน
วันที่สองของเรา หลังจากไปเดินช็อปที่ Orchardให้เสียตังและปวดเท้าเล่น เมื่อเดินห้างจนเบื่อก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศไปดูมุมธรรมชาติของสิงคโปร์กันที่ Macritchie reservoir (เห็นอย่างงี้สายธรรมชาติก็มานะคะ) ^^
ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไร แต่พอไปถึง บรรยากาศดีมากกกก อาหารตาก็ดี เพราะมีเด็กมัธยมไปฝึกพายเรือกันอย่างขมักเขม้น เชื่อแล้วว่าคนประเทศนี้เค้าทำอะไรจริงจัง จริงๆ พายเรือไม่ได้เพื่อความสนุกสนาน เฮฮาแต่อย่างใด พายกันเพื่อเหรียญทองโอลิมปิกล้วนๆ 5555555 โค้ชอย่างโหด
ถ้าถามว่าเราสองคนไปหาเจ้าสิงโตพ่นน้ำมั้ย แน่นอนว่าไปค่ะ มุมมหาชนซะขนาดนั้น แต่ฟ้ากลั่นแกล้งเราอีกแล้ว เพราะมันไม่พ่นน้ำช่วงนั้นพอดี เหมือนกำลังซ่อมหรืออะไรซักอย่าง เห็นอย่างนั้นเราจึงสะบัดบ็อบใส่ อย่าได้แคร์ค่ะ สิงโตพ่นน้ำหรือจะสู้พญานาคพ่นไฟ ไว้กลับมารอดูบ้านเราตอน15ค่ำเดือน11ละกัน
เย็นนั้นเราก็เลยเดินเล่น ถ่ายรูป แล้วก็ดูแสงสีเสียงอะไรสักอย่างจากตึก Marina Bay Sand (จากใจเลยนะไม่มีอะไรเลย คล้ายๆ Symphony of light ของฮ่องกง แต่ที่ฮ่องกงดีกว่าเยอะ) เราเลยกลับมาอะไรกินแถวไชน่า ทาวน์
คืนนั้นจริงๆตั้งใจจะไป Zouk Club ค่ะ แต่จากการเปิดmapหาข้อมูลแล้ว ต้องนั่งแท็กซี่ไปเท่านั้นนน สองชะนีไทยเลยป๊อดค่ะ เนื่องจากเคยอ่านกระทู้จากpantipนี่แหละ เค้าบอกไว้ว่าค่าแท็กซี่ของสิงคโปร์ราคามหาโหด จะเดินไปเกรงใจกล้ามที่ขา กว่าจะถึงหน้าคงเยิ้ม คงทอดไข่ได้พอดี คืนนั้นเราเลยเดินเล่นแถวที่พัก พร้อมเข้านอนด้วยหัวใจอันกระสับกระส่าย เพราะยังไม่ถึงเวลานอนค่ะ 5555
[CR] เมื่อชะนีสายเกรียน หนีเรียน ตามหารัก เพิ่มน้ำหนัก แวะเที่ยวผับ ที่สิงคโปร์!!! (ชื่อกระทู้จะยาวไปไหนน)
เพราะคาดว่ากระทู้นี้น่าจะไม่มีสาระให้ตามรอยเหมือนกระทู้อื่น
แต่แบบว่าอยากมาเล่ามาเม้าท์ประสบการณ์ที่เราพบเจอให้ฟังเป็นอย่างมากกกก 55555
โปรดอย่าคาดหวังสาระจากกระทู้เรา และอีกอย่างการถ่ายภาพของพวกเราอาจจะขัดตาช่างภาพมืออาชีพหลายๆท่าน
เพราะเส้นนงเส้นนำสายตาอะไร เราไม่เคยสัมผัส ไม่เคยจะมีเหมือนคนอื่นเค้า (พูดแล้วก็เศร้าใจ )
ภาพเราจึงไม่เอียงซ้ายก็เอียงขวา ขาดๆเกินๆ ยังไงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่า ...
เพราะฉะนั้นเวลาไปไหนหน้าบอกยี่ห้อไทยแลนด์มาแต่ไกล แต่ก็มีบ้างที่คิดว่าเป็นอินโด (เอ๊ะ! ทำไม?) 55555
เพราะ Temasek? เพราะCharle & Keith? เพราะ…? พออออออ!!!
ล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น เอาจริงๆเลยนะ ที่ไปสิงคโปร์น่ะ เพราะป้อจายจริงๆ ที่ไม่อิงลีกวนยู
ภาพนี้เอามาจากในเว็บนะคะ เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะไม่คิดว่าจะมาเขียนพันทิป แหะๆ
พวกเราพักที่ Porcelain Hotel ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเรา เพราะปกติทุกทริปที่ผ่านมานอนแต่โฮสเทลเป็นส่วนใหญ่ แต่แบบทริปนี้บอกเลย ขอสวย ขอแพง เผื่อหนุ่มถาม 5555 (แล้วก็คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกที่นี่ เจองานดีตั้งแต่หน้าเคาเตอร์กันเลยทีเดียว) เอาเป็นที่นี่แนะนำค่ะ ถ้าจะหาที่พักทำเลดี เดินทางง่าย หาของกินสะดวก ใกล้วัดแขก วัดพระเขี้ยวแก้วด้วย แถมสวยและบริการดีอีก ถือว่าคุ้มค่าค่ะ ลองดูๆ
คืนแรกด้วยความคึกคักและกระหายใคร่รู้ของเราสองคน ซึ่งต่อให้ดึกแค่ไหนก็คงนอนไม่หลับกันอยู่ดี ถือคติไม่เข้มข้นเราไม่นอน 555 เลยขอสำรวจ night life ของสิงคโปร์ซะหน่อย เอาเลยค่าาา เราเริ่มเดินสำรวจกันเลย ย้ำค่ะ เราเดินค่ะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็เดินค่ะ ถือเป็นการชมบรรยากาศยามค่ำคืน เดินชิลๆ แถมยังได้เห็นอีกมุมมอง ได้หลง ได้เรียนรู้ มันก็สนุกไปอีกแบบ 5555 (เวลาหลงนี่เพลงของพี่ชาติลอยเข้ามาเลยคะ การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ - - )
คืนนั้นสองชะนีไทยเดินจากโรงแรมที่ไชน่าทาวน์ ไปคลากคีย์(Clarke Quay) เดินข้ามเขตกันเลยทีเดียวแต่ไปไม่ยากค่ะ เดยตรงไปเรื่อยๆก็ถึง เราถือคติขาไม่เป็นกล้าม เราไม่กลับไทย 5555 (ทีเดิน Skywalk จากสยามไปเซนทรัลเวิล์ด ทำเป็นบ่น 555) เดินกันจนหน้าเยิ้มในสุดเราก็ถึงค่ะ
แท่น แทน แท้นนนนน เงียบมากกกก!! นี่หรือคลากคีย์ - -” สิ่งที่ฉันคิด กับสิ่งที่ฉันเห็นทำไมมันต่างกันเช่นนี้ คลากคีย์ที่เราอ่านเจอมาเป็นย่านสถานบันเทิงที่มีทั้งผับและร้านนั่งชิลล์ สุดชิคของนักท่องเที่ยวและคนที่นี่แต่วันที่เราไปร้านมันเปิดน้อยมาก ดูมืดๆ ไม่สดใส อย่างในจินตนาการเลย (- -) มารู้ทีหลังวันจันทร์คืนที่เราไป คนที่นี่เค้าไม่นิยมเที่ยวกัน แง่วววว คืนแรกก็แห้วซะงั้น T^T แต่ถ้าวันพุธจะเป็น Lady Night ผู้หญิงจะเข้าผับที่นี่ฟรี (เจอกันแน่วันพุธ 5555) วันนั้นสองชะนีไทยใจเลยห่อเหี่ยว อุตสาห์จะมาเปรี้ยวที่นี่ซะหน่อย 55555 เลยได้แต่สำรวจลู่ทางไว้ก่อน คืนนั้นจึงจบลงด้วยข้าวกล่องร้าน Cheer เบาๆ ก่อนเข้านอน
วันที่สองของเรา หลังจากไปเดินช็อปที่ Orchardให้เสียตังและปวดเท้าเล่น เมื่อเดินห้างจนเบื่อก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศไปดูมุมธรรมชาติของสิงคโปร์กันที่ Macritchie reservoir (เห็นอย่างงี้สายธรรมชาติก็มานะคะ) ^^
ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไร แต่พอไปถึง บรรยากาศดีมากกกก อาหารตาก็ดี เพราะมีเด็กมัธยมไปฝึกพายเรือกันอย่างขมักเขม้น เชื่อแล้วว่าคนประเทศนี้เค้าทำอะไรจริงจัง จริงๆ พายเรือไม่ได้เพื่อความสนุกสนาน เฮฮาแต่อย่างใด พายกันเพื่อเหรียญทองโอลิมปิกล้วนๆ 5555555 โค้ชอย่างโหด
ถ้าถามว่าเราสองคนไปหาเจ้าสิงโตพ่นน้ำมั้ย แน่นอนว่าไปค่ะ มุมมหาชนซะขนาดนั้น แต่ฟ้ากลั่นแกล้งเราอีกแล้ว เพราะมันไม่พ่นน้ำช่วงนั้นพอดี เหมือนกำลังซ่อมหรืออะไรซักอย่าง เห็นอย่างนั้นเราจึงสะบัดบ็อบใส่ อย่าได้แคร์ค่ะ สิงโตพ่นน้ำหรือจะสู้พญานาคพ่นไฟ ไว้กลับมารอดูบ้านเราตอน15ค่ำเดือน11ละกัน
เย็นนั้นเราก็เลยเดินเล่น ถ่ายรูป แล้วก็ดูแสงสีเสียงอะไรสักอย่างจากตึก Marina Bay Sand (จากใจเลยนะไม่มีอะไรเลย คล้ายๆ Symphony of light ของฮ่องกง แต่ที่ฮ่องกงดีกว่าเยอะ) เราเลยกลับมาอะไรกินแถวไชน่า ทาวน์
คืนนั้นจริงๆตั้งใจจะไป Zouk Club ค่ะ แต่จากการเปิดmapหาข้อมูลแล้ว ต้องนั่งแท็กซี่ไปเท่านั้นนน สองชะนีไทยเลยป๊อดค่ะ เนื่องจากเคยอ่านกระทู้จากpantipนี่แหละ เค้าบอกไว้ว่าค่าแท็กซี่ของสิงคโปร์ราคามหาโหด จะเดินไปเกรงใจกล้ามที่ขา กว่าจะถึงหน้าคงเยิ้ม คงทอดไข่ได้พอดี คืนนั้นเราเลยเดินเล่นแถวที่พัก พร้อมเข้านอนด้วยหัวใจอันกระสับกระส่าย เพราะยังไม่ถึงเวลานอนค่ะ 5555