สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิพทุกท่าน นี่เป็นการเดินทางไปเที่ยวที่ "เขาสก" หรือ "เขื่อนรัชชประภา" ครั้งที่ 2 ของเรานะคะ แต่ครั้งนี้เดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ไปลงที่ จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็ติดต่อรถตู้ของบริษัทพันทิพ ที่บริเวณสนามบิน ไปส่งที่ท่าเรือ คนละ 200 บาท ขากลับก็โทร.ให้เขามารับที่ท่าเรือได้เลยค่ะ
เนื่องจากเป็นการไปเที่ยวครั้งที่ 2 ครั้งนี้เลยมีเวลาอยู่ที่ที่พักค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราเลือกพักที่ "แพภูตะวัน" โดยซื้อแพ็คเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืนในราคา 4000 บาท/คน เมื่อไปถึงท่าเรือก็จะมีเรือของรีสอร์ทมารับค่ะ เมื่อเรือแล่นออกจากท่า เราไม่รอช้าที่จะขอสูดออกซิเจน พร้อมอากาศดีๆ ให้เต็มปอด เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยเวิ้งน้ำ ท้องฟ้า และทิวเขาสลับซับซ้อนที่สวยงาม ประมาณเกือบชั่วโมง เราก็มาถึงทีพักแล้วค่ะ
มาดูข้างในกันค่ะ กว้างขวาง สามารถนอนได้ 4 คนสบายๆ แต่ต้องทำใจเรื่องอากาศร้อนนิดนึงนะคะ เพราะที่นี่จะมีไฟฟ้าให้ใช้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงประมาณตี 5 เท่า่นั้นค่ะ กลางวัน คนส่วนมากจึงแช่ตัวอยู่แต่ในน้ำหน้าบ้านพักเนี่ยแหละค่ะ
วันนี้ทางรีสอร์ทพานั่งเรือเที่ยวชมบริเวณรอบๆ มาดูบรรยากาศยามเย็นของที่นี่กันค่ะ
ปิดท้ายวันนี้ด้วยอาหารเย็นสุดอลัง
วันรุ่งขึ้น โปรแกรมของวันนี้คือการไปชม "เขาสามเกลอ" หรือที่รู้จักกันในนามของกุ้ยหลินเมืองไทย ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพมาให้ชม เพราะไม่ได้ถ่ายมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างถ่ายภาพักนอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความหวาดกลัวของเรา เพราะเรือโคลงเคลงตลอดเวลา เราเลยตัดใจ ไม่ถ่ายละกัน
อันนี้เป็นภาพของถ้ำปะการัง ซึ่งต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าไปชม ภายในถ้ำค่อนข้างมืด แต่ก็มีความสวยงามไม่ใช่น้อย (ขอโทษที่ไม่มีภาพมาให้ชมอีก)
นักท่องเที่ยวต่างชาติตัวน้อยที่ร่วมเดินทางไปกับเราด้วยค่า กำลังน่ารัก น่าเอ็นดูเลยค่า
วันสุดท้ายของการเดินทางแล้วค่ะ เก็บบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทมาให้ชมกันแบบเต็มอิ่มเลยจ้า
และการเดินทางครั้งนี้ก็ทำให้เรารู้ว่า โลกนี้ยังมีอะไรสวยๆ น่าค้นหารอเราอยู่อีกมากมาย เพียงแค่เราออกไปสัมผัสมันดู...สักครั้ง
"รักเธอนะ...ประเทศไทย"
ในวันที่รอบตัวมีแต่เวิ้งน้ำ ท้องฟ้า และอากาศดีๆ ณ "แพภูตะวัน" เขื่อนเชี่ยวหลาน
เนื่องจากเป็นการไปเที่ยวครั้งที่ 2 ครั้งนี้เลยมีเวลาอยู่ที่ที่พักค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราเลือกพักที่ "แพภูตะวัน" โดยซื้อแพ็คเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืนในราคา 4000 บาท/คน เมื่อไปถึงท่าเรือก็จะมีเรือของรีสอร์ทมารับค่ะ เมื่อเรือแล่นออกจากท่า เราไม่รอช้าที่จะขอสูดออกซิเจน พร้อมอากาศดีๆ ให้เต็มปอด เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยเวิ้งน้ำ ท้องฟ้า และทิวเขาสลับซับซ้อนที่สวยงาม ประมาณเกือบชั่วโมง เราก็มาถึงทีพักแล้วค่ะ
มาดูข้างในกันค่ะ กว้างขวาง สามารถนอนได้ 4 คนสบายๆ แต่ต้องทำใจเรื่องอากาศร้อนนิดนึงนะคะ เพราะที่นี่จะมีไฟฟ้าให้ใช้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงประมาณตี 5 เท่า่นั้นค่ะ กลางวัน คนส่วนมากจึงแช่ตัวอยู่แต่ในน้ำหน้าบ้านพักเนี่ยแหละค่ะ
วันนี้ทางรีสอร์ทพานั่งเรือเที่ยวชมบริเวณรอบๆ มาดูบรรยากาศยามเย็นของที่นี่กันค่ะ
ปิดท้ายวันนี้ด้วยอาหารเย็นสุดอลัง
วันรุ่งขึ้น โปรแกรมของวันนี้คือการไปชม "เขาสามเกลอ" หรือที่รู้จักกันในนามของกุ้ยหลินเมืองไทย ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพมาให้ชม เพราะไม่ได้ถ่ายมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างถ่ายภาพักนอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความหวาดกลัวของเรา เพราะเรือโคลงเคลงตลอดเวลา เราเลยตัดใจ ไม่ถ่ายละกัน
อันนี้เป็นภาพของถ้ำปะการัง ซึ่งต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าไปชม ภายในถ้ำค่อนข้างมืด แต่ก็มีความสวยงามไม่ใช่น้อย (ขอโทษที่ไม่มีภาพมาให้ชมอีก)
นักท่องเที่ยวต่างชาติตัวน้อยที่ร่วมเดินทางไปกับเราด้วยค่า กำลังน่ารัก น่าเอ็นดูเลยค่า
วันสุดท้ายของการเดินทางแล้วค่ะ เก็บบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทมาให้ชมกันแบบเต็มอิ่มเลยจ้า
และการเดินทางครั้งนี้ก็ทำให้เรารู้ว่า โลกนี้ยังมีอะไรสวยๆ น่าค้นหารอเราอยู่อีกมากมาย เพียงแค่เราออกไปสัมผัสมันดู...สักครั้ง
"รักเธอนะ...ประเทศไทย"