สวัสดีค่ะเนื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของเราเอง
เราเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นแต่พูดเป็นแต่ภาษาไทยเพราะอยู่แต่ในเมืองไทยพ่อเราเป็นวิศวะของประเทศญี่ปุ่นเลยไม่มีเวลาดูแลเรา
ท่านเลยให้เราอยู่ในเมืองไทย
แม่เราส่งเราให้เข้าไปในรร.แห่งหนึ่งเข้าไปเป็นที่แน่ว่าทุกคนจะไม่มีเพื่อนโดยปกติ
จนเราได้พบบี(นามสมมุติ) บีเป็นคนมึน เย็นชา พูดตรง และเอาแต่ใจมาก
เรารู้จักกับบีครั้งแรกบีดีกับเรามากจนเรารู้สึกเกินเลยกับบีตอนซัมเมอร์เรากับบีสนิทดันมากก
รู้ใจกันทุกอย่างจนคนรอบข้างมองว่าเรากับบีเป็นคู่เบี้ยนกัน555
แต่พอเปิดเทอมบีเปลี่ยนไป. บีคบกับเพื่อนคนอื่นไม่ค่อยมาคุยกับเราเราเสียใจมาก
นั่งร้องไห้กับเพื่อนร่วมห้องที่เรารู้จักชื่อ เอ(นามสมมุติ)เอโกรธมากจนไปโวยวายกับบี
บีโทรมาหาเราคุยสักพักบีก็ร้องไห้เราสงสารบีเราเลยยอมๆไปสรุปคืนนั้นก็ดีกัน
พอสักสองสามเดือนทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเราคุยกับบีบ้างทะเลาะกันบ้างง้องอนกันบ้าง
แต่จะเน้นการโทรคุยกันมากกว่าเพราะอยู่รร.เราจะต่างคนต่างอยู่เคยมีทะเลาะกันหนักๆบีก็จะง้อเราตลอด
ต่อสักช่วงเดือนที่แล้วเรามีธุระกับสถานทูตเยอะเพราะพาสเราหายเลยต้องทำเล่มใหม่
จึงไม่ได้ไปเรียน1เดือนพ่อเราเลยให้ดรอปเรียนไปก่อนเนื่องจากตามงานไม่ทัน
แต่เรากับบีก็ยังคุยกันเหมือนเดิมบีชวนเราไปดูหนังเราจึงตอบตกลง.....หลังจากนั้นบีก็หายไป
เราจึงมารู้ที่หลังว่าบีมีแฟนไปแล้ว...ตอนนั้นเราแทบบ้า นั่งซึม เหม่อ
จนแม่เข้ามาถามว่าเราอยากจะไปญี่ปุ่นไหมเราตอบตกลงทันที
ปัจจุบันเราเรียนภาษาอยู่เพื่อเตรียมไปเรียนต่อเรามีสขภาพจิตที่ดีขึ้นแต่ก็ยังคิดถึงบีเสมอ
บีเป็นคนแรกที่เราไม่เคยลบออกจากใจเลย
นี่เป็นกระทู้แรกของเราอาจจะมีผิดพลาดหรืองงนิดหน่อยนะคะ
รู้สึกดีกับเพื่อนผู้หญิง
เราเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นแต่พูดเป็นแต่ภาษาไทยเพราะอยู่แต่ในเมืองไทยพ่อเราเป็นวิศวะของประเทศญี่ปุ่นเลยไม่มีเวลาดูแลเรา
ท่านเลยให้เราอยู่ในเมืองไทย
แม่เราส่งเราให้เข้าไปในรร.แห่งหนึ่งเข้าไปเป็นที่แน่ว่าทุกคนจะไม่มีเพื่อนโดยปกติ
จนเราได้พบบี(นามสมมุติ) บีเป็นคนมึน เย็นชา พูดตรง และเอาแต่ใจมาก
เรารู้จักกับบีครั้งแรกบีดีกับเรามากจนเรารู้สึกเกินเลยกับบีตอนซัมเมอร์เรากับบีสนิทดันมากก
รู้ใจกันทุกอย่างจนคนรอบข้างมองว่าเรากับบีเป็นคู่เบี้ยนกัน555
แต่พอเปิดเทอมบีเปลี่ยนไป. บีคบกับเพื่อนคนอื่นไม่ค่อยมาคุยกับเราเราเสียใจมาก
นั่งร้องไห้กับเพื่อนร่วมห้องที่เรารู้จักชื่อ เอ(นามสมมุติ)เอโกรธมากจนไปโวยวายกับบี
บีโทรมาหาเราคุยสักพักบีก็ร้องไห้เราสงสารบีเราเลยยอมๆไปสรุปคืนนั้นก็ดีกัน
พอสักสองสามเดือนทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเราคุยกับบีบ้างทะเลาะกันบ้างง้องอนกันบ้าง
แต่จะเน้นการโทรคุยกันมากกว่าเพราะอยู่รร.เราจะต่างคนต่างอยู่เคยมีทะเลาะกันหนักๆบีก็จะง้อเราตลอด
ต่อสักช่วงเดือนที่แล้วเรามีธุระกับสถานทูตเยอะเพราะพาสเราหายเลยต้องทำเล่มใหม่
จึงไม่ได้ไปเรียน1เดือนพ่อเราเลยให้ดรอปเรียนไปก่อนเนื่องจากตามงานไม่ทัน
แต่เรากับบีก็ยังคุยกันเหมือนเดิมบีชวนเราไปดูหนังเราจึงตอบตกลง.....หลังจากนั้นบีก็หายไป
เราจึงมารู้ที่หลังว่าบีมีแฟนไปแล้ว...ตอนนั้นเราแทบบ้า นั่งซึม เหม่อ
จนแม่เข้ามาถามว่าเราอยากจะไปญี่ปุ่นไหมเราตอบตกลงทันที
ปัจจุบันเราเรียนภาษาอยู่เพื่อเตรียมไปเรียนต่อเรามีสขภาพจิตที่ดีขึ้นแต่ก็ยังคิดถึงบีเสมอ
บีเป็นคนแรกที่เราไม่เคยลบออกจากใจเลย
นี่เป็นกระทู้แรกของเราอาจจะมีผิดพลาดหรืองงนิดหน่อยนะคะ