กระทู้ Review " SINGAPORE " เดินมันส์ ทะลุเมือง เหนื่อยชิล ฟินเว่อร์....
ตอนที่ 2 ตามได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34354531
ตอนที่ 3 ตามได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34392270
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ... ทริปครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากการชักชวนของเพื่อนคนหนึ่ง และเราเองก็อยากลอง Backpack ไปต่างบ้านต่างเมืองกันเองดูสักครั้ง พอเพื่อนชวนปุ๊บจึงรีบหาข้อมูลใน Google ทันทีเลยค่ะ ก็ได้เพื่อนๆ ที่ตั้งกระทู้รีวิวในพันทิปหลายต่อหลายคนนี่ล่ะค่ะเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยมให้กับเรา ขอยกมือพนมมา ณ ที่ตรงนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ... แต่สรุปเพื่อนที่ชวนเที่ยวตอนแรกกลับไม่ได้ไปอ่ะสิ ส่วนไอเราก็ไฟจุดติดแล้วไง.... ก็เลยเอาวะ!!! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เตรียมตัวมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองดูกันสักตั้ง!!!!
ประกอบกับที่ Central World จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ครบรอบ 50 ปี มีบูธตั๋วเครื่องบินราคาถูก แพคเกจห้องพัก แพคเกจบัตรเข้าชมต่างๆ เราเลยจัดตั๋วของ Jetstar airline มาตกคนละ 3,400 บาท และซื้อโหลดกระเป๋าเพิ่มในงาน 20 กก.อีก 475 บาท แถมกลัวน้ำหนักไม่พอมาซื้อเพิ่มหน้าเว็บอีก 20 กก. เสียไป 675 บาท... คิดไปคิดมาอีกทีนี่ก็ไม่ได้ถูกอะไรเลยนะ (แต่ซื้อไปแล้วไงทำไงได้ล่ะ) และซื้อบัตร universal studio กับ garden by the bays ที่นี่พร้อมกัน... ที่งานมีบัตร Easy link แจกให้ตามจำนวนตั๋วเครื่องบินที่ซื้อภายในงานด้วยนะคะ มีเงินในบัตรให้ใบละ 5 SGD
เราออกเดินทางไปสิงคโปร์ในวันที่ 12-15 Oct' 2015 ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออก 9:25 am. ถึงสิงคโปร์ 12:50 pm. เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชม. นะยู๊ว... อย่าลืมปรับนาฬิกากันด้วยนะจ๊ะ
ก่อนที่จะมาสิงคโปร์ครั้งนี้ มีการเกิดปัญหาหมอกควันจากไฟป่าอินโดนีเซียอย่างแรง ตอนอ่านข่าวใจเรานี่แป้วไปแล้วกลัวจะต้องเสียตั๋วฟรีรึปล่าวนะ จุดธูปอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเลยทีเดียว 555555... เราโชคดีมากที่วันที่มาเที่ยวไม่เจอหมอกควันเท่าไหร่ วัดได้ค่าเฉลี่ย PSI 60-80 อาจจะมีเลขเกินมาตรฐานปกตินิดหน่อย แต่ไม่มีปัญหาอะไรมาหยุดยั้งการท่องโลกของเราไปได้คร่า มีเห็นคนสิงคโปร์อยู่ 2 คนที่ใส่หน้ากากอนามัย นอกนั้นก็ปกติธรรมดาทั่วไป แสงสว่างส่องลงมาถึง ถ่ายรูปออกมาสวย
ลิงค์เช็คค่ามลพิษทางอากาศที่สิงคโปร์
http://www.haze.gov.sg/haze-updates/psi
ตอนนั่งเครื่องจะมีแอร์โฮสเตสสาวสวยแจกใบผ่าน ตม. สิงคโปร์ให้ค่ะ รอบนี้มีซองสีเขียวเป็นซิมการ์ดของ StarHab แต่ต้องไปแลกที่เคาน์เตอร์ UOB นะ แต่เราไม่ได้ไปแลก
ฟิ้วววววววว.... ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับผม สักแชะกับทุเรียนลูกโต๊โตกลางสนามบิน Changi... ส่วนการผ่านด่าน ตม. ของกรุ๊ปเราเป็นอะไรที่ง่ายมากอาจเป็นเพราะมีเด็กๆ ไปด้วยก็เป็นได้ จนท.จะมองหน้าและเรียกชื่อเรา เราก็ทวนซ้ำแค่นั้นเองค่ะ ผ่าน!!!!!!!!
เครื่องลงจอดที่ Terminal 3 นะคะต้องขึ้นรถไฟไปลง Terminal 2 ก่อนถึงจะได้นั่ง MRT ต่อเข้าเมืองได้ค่ะ... เดินตามป้ายโลดดดด Skytrain to T2 มีป้ายบอกตลอดทาง ไม่ก็เดินตามคนเยอะๆ มานั่นล่ะคะเดี๋ยวก็ถึง
พอถึง Terminal 2 ก็เดินตามป้าย Train to City (MRT) ลงบันไดเลื่อนมาปุ๊บก็จะถึงที่หมายแล้วค่ะ เราเลี้ยวซ้ายย้อนมานิดนึงเพื่อเติมเงินลงบัตร Easy link กันก่อน รอบนี้เติมไปคนละ $20 ทั้งหมด 6 ใบ ไปที่เคาน์เตอร์ให้ จนท. จัดการให้เลยค่ะ เพราะต้องแลกเงินก่อนด้วย ตอนแลกจากไทยมามีแต่แบงค์ 100 กับ 50 SGD ไม่มีแบงค์ย่อยเลย... เติมขั้นต่ำ 10 SGD นะคะ
..... อย่าลืมขอแผนที่การเดินรถไฟ MRT จาก Ticket Office มาด้วยนะคะ ของจำเป็นจริงๆ !!!!!
แผนที่การเดินรถไฟ MRT คล้ายๆ บ้านเราค่ะ แต่ของที่สิงคโปร์จะมี 5 เส้นทาง ต้องดูกันให้ดีไม่งั้นอาจจะสับสนลงผิดได้ (ซึ่งเป็นมาแล้ว) สถานีหลักๆ ที่ใช้บ่อย คือสายสีน้ำเงินที่จะไป chinatown และ Bayfront , สายสีม่วงที่จะไป HarbourFront , สายสีเขียวที่มาจากสนามบิน ที่พัก และไปต่อยังเส้นทางอื่น สรุป... นอน Chinatown สะดวกที่สุดสำหรับการ Backpack ค่ะ เชื่อขนมกินเถอะ!!!!!!
เติมเงิน easy link เสร็จเรียบร้อยก็แปะบัตรเข้าสถานีโลดค่ะ เราพักกันที่ V Hotel Lavender โดยจองห้อง Triple Room ไว้ 2 ห้องจากเว็บ Agoda ค่ะ มีสัญญาณ wifi ให้ห้องละ 1 Password แต่เน็ตกากมากต่อแทบไม่กระดิกเลยค่ะ (อันนี้แฟนลองต่อ)... จากสถานี Changi ต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tanah Merah ก่อนแล้วต่อรถไฟอีกต่อนึงซึ่งสายสีเขียวเหมือนกันนี่ล่ะ แต่คนละฝั่งลงที่สถานี Lavender เดินขึ้นไปอีกนิดก็เจอโรงแรมแล้วค่ะ สะดวกดี ใกล้สถานีรถไฟ ใกล้จุดจอดรถประจำทาง มีของกินให้เลือกเยอะ McDonald ก็มี
....
แต่เป็นไปได้เราขอแนะนำให้พักแถว Chinatown หรือ Bugis ดีกว่าค่ะเพราะไม่ว่ายังไงก็ต้องลงมาเปลี่ยนสายรถไฟกันที่นี่อยู่ดี แล้วทางเดินในสถานีแต่ละที่ไม่ใช่ใกล้นะคะ เดี๋ยวขึ้นบันไดเดี๋ยวลงบันได ที่เดินขาลากกันมันส์เพราะเปลี่ยนสถานีนี่ล่ะค่ะ บอกเลยว่าเหนื่อยกับการเดินเปลี่ยนเส้นทางมากกกกกกกก
.... เราแพลนไว้ว่าวันไหนจะไปเที่ยวอะไร ไปยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่ไว้คร่าวๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็นั่งรถไฟ mrt ไปนี่ล่ะ แต่ถ้านั่งรถเมล์ได้ สบายกว่าเยอะค่ะ ไม่ต้องเดินอะไรมากมายเลยจริงๆ จะมีแผ่นกระดาษติดให้ทุกจุดจอดรถเมล์เลยค่ะ ว่ารถเมล์สายไหนไปทางไหนบ้าง ผ่านถนนอะไร... เปิด Google Map ดูด้วยยิ่งดี เพราะไม่งั้นมีหลงแบบเรา คือก็ยังไม่ได้หลงหรอก แต่มันขับอ้อมโลกไปไกลแค่นั้นเอง 55555
วันที่ 12 Oct' 2015 : Changi Airport - V Hotel Lavender - Chinatown - People' Park Centre - Sentosa - Merlion Tower - Luge - Wings of Times.
ตอนแรกแพลนไว้ว่าพอเก็บกระเป๋าที่โรงแรมเสร็จจะไป Bugis เพื่อหม่ำขนมหวานทุเรียนที่ร้าน Ji De Chi กับถ่ายรูปที่ Haji Lane แต่ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทันเลยตัดโปรแกรมนี้ออกไป (ยังแอบเสียดายอยู่เลย อยากกินขนมหวาน T-T ) เลยมานั่งทานข้าวใน Kopitiam แถวโรงแรมแทน อาหารมื้อแรกในสิงคโปร์คือ ข้าวมันไก่ไหหลำ... ซึ่งพอกินได้อยู่ค่ะ แต่จะมีอาหารอย่างอื่นอร่อยกว่ามาแนะนำในวันสุดท้าย ^^
.... เริ่มต้นไปกันที่ไชน่าทาวน์ เพื่อหาซื้อตั๋วเพิ่มที่ Sea Wheel Travel @ People' Park Centre ย้ำๆๆๆๆๆๆ ว่า "Centre" นะคะ
การเดินทาง ขึ้นรถไฟสายสีเขียวมาลงที่สถานี Bugis เพื่อต่อสายสีน้ำเงินไปยังสถานี Chinatown ทางออก D จะมีป้ายคอยบอกให้ตลอดเส้นทางค่ะ
.... พอถึงร้านแล้ว จะมี พนง. สอบถามว่าเราจะซื้อตั๋วอะไรบ้าง กี่ใบ และคำนวณจำนวนเงินให้ แต่ จขกท. ได้เขียนเอาไว้แล้วว่าจะซื้อบัตรอะไรกี่ใบก็ยื่นข้อมูลให้เค้าแค่นั้น เค้าก็จัดการให้เรียบร้อยค่ะซึ่ง พนง. พอจะพูดไทยได้นะคะสื่อสารกันพอรู้เรื่องอยู่ ได้บัตรมาปุ๊บก็จะให้ตรวจเช็คนับจำนวนบัตรทันทีเลยว่าถูกต้องครบรึปล่าว ขาดเหลืออะไรตรงไหนก็บอกเค้าได้เลยค่ะ ส่วนราคาของที่นี่จะถูกกว่าซื้อหน้างานหลายบาทอยู่นะ ลองคำนวณคร่าวๆ ก็ประหยัดไปเป็นพันบาทเหมือนกัน
เราบังเอิญไปเจอคุณพี่คนไทยที่รู้จักกันซึ่งอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ด้วยค่ะ เดี๋ยวพี่คนนี้จะพาไปกินอาหารไทยแซ่บๆ ในวันพรุ่งนี้ จะไปที่ไหนติดตามนะคะ
อ้อ!!!! เราได้ซื้อซิมการ์ดตรงร้านขายโทรศัพท์แถวๆ Sea Wheel นี่ล่ะคะ โดยที่ตอนแรกเรากะว่าจะมาชื่นชมสักหน่อย เพราะไม่ต้องเดินตามหาซิมกันที่เซเว่นให้เหนื่อย บางเซเว่นก็ไม่มีขายซิมไงคะ แต่ที่ไหนได้.................
ร้านนี้เลยค่ะ อุตส่าห์ถ่ายมาว่าจะบอกหนทางเพื่อนๆ ว่าที่นี่ก็มีซิมขาย ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล แต่เรากลับโดนโกง!!!!!!!!!!!!!!!
จขกท. ชี้บอกว่าจะซื้อซิม Singtel 15 SGD ซึ่งจะใช้ได้ 18 SGD... เราขอซื้อ 2 ซิม ทางร้านก็เอาพาสปอร์ตเราไปทำเรื่อง แล้วไปใส่ซิมกันอยู่หลังร้าน เสร็จก็มาถามเราว่าจะอยู่กี่วัน ก็บอกไปว่า 4 วัน ทางเค้าจึงสมัครแพจเกจ 7days 1GB = $7 โดยทางร้านเก็บเงินเราไป $30... ไอเราก็ถามว่าแล้วเงินที่เหลือล่ะจะสมัครเพิ่มเติมยังไง แต่ด้วยความที่คุยกันไม่เข้าใจจึงสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เราก็เข้าใจมาตลอดว่าซิมที่เราซื้อเป็นแบบ $15 จนมาเอะใจทีหลังว่าทำไมถึงเติมเงินสมัครต่อไม่ได้ จึงได้ขูดสติ๊กเกอร์ออกดู อ๋อ!!!! เก็ทแระ.....
.... สรุปด้วยความโมโห จึงไปซื้อซิมอีกอันมาเพิ่มซึ่งร้าน Cheer ข้างโรงแรมที่พักขายอยู่นี่เอง รู้สึกโง่จังนิ!! ไม่เป็นไรถือว่าเป็นบทเรียนเสียค่าโง่กันไป แต่ได้รูปและหลักฐานมาให้คนไทยได้ดูก็โอเค ^^
.... วิธีการสมัครแพคเกจก็ไม่ยากเลย กดหมายเลขที่ต้องการไปเรื่อยๆ อยากได้แพคเกจไหนก็กด พอเสร็จเดี๋ยวจะมี sms มาให้อัตโนมัติเองค่ะ เรียบร้อยเสียเงินแล้วสบายใจ 55555
ออกเดินทางสถานีต่อไป... จาก Chinatown นั่งสายสีม่วงไปสถานี Harbourfront จะออกใต้ห้าง Vivo City เลยค่ะ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนสุด ตามป้ายบอกทางไป Sentosa Express ไปเรื่อยๆ ค่ะ พอถึงแล้วก็ใช้บัตร Easy link แปะโลดดดดดดด
.... เรามาลงกันที่สถานี Imbiah Station เป็นที่ตั้งของ merlion ตัวพ่อซึ่งเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ค่ะ
ลงสถานีเดินมาไม่ไกล ก็จะเจอ Merlion เลยแต่ก่อนที่จะขึ้นเรามีร้านไอติมมาแนะนำคร้า อร่อยมากเลย... ตอนเช็คอินในเฟสเห็นมีเด้งว่าที่สยามพารากอนบ้านเรามีขายด้วย ที่นี่ตกแท่งละ $5*25.5 = 127.50 บาท ไม่รู้ว่าเมืองไทยจะขายเท่าไหร่ ราคาพอกันรึปล่าว
กินติมเสร็จ ก็ขึ้น Merlion Tower กันค่ะ เข้าไปจะมีหนังฉายให้ดูก่อนเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของประเทศสิงคโปร์ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางปากสิงโตจะมีช่างคอยถ่ายรูปอยู่ เราไปสั่นกระดิ่งอย่างเดียวแล้วก็ไปทางขวาขึ้นหัวสิงโตดีกว่าค่ะ วิวเจ๋งกว่าเยอะ
[img]http://f.ptcdn.inf
[CR] " S.I.N.G.A.P.O.R.E "... เดินมันส์ ทะลุเมือง เหนื่อยชิล ฟินเว่อร์ 4 วัน 3 คืน (^o^ )
ตอนที่ 2 ตามได้ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/34354531
ตอนที่ 3 ตามได้ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/34392270
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ... ทริปครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากการชักชวนของเพื่อนคนหนึ่ง และเราเองก็อยากลอง Backpack ไปต่างบ้านต่างเมืองกันเองดูสักครั้ง พอเพื่อนชวนปุ๊บจึงรีบหาข้อมูลใน Google ทันทีเลยค่ะ ก็ได้เพื่อนๆ ที่ตั้งกระทู้รีวิวในพันทิปหลายต่อหลายคนนี่ล่ะค่ะเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยมให้กับเรา ขอยกมือพนมมา ณ ที่ตรงนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ... แต่สรุปเพื่อนที่ชวนเที่ยวตอนแรกกลับไม่ได้ไปอ่ะสิ ส่วนไอเราก็ไฟจุดติดแล้วไง.... ก็เลยเอาวะ!!! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เตรียมตัวมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองดูกันสักตั้ง!!!!
ประกอบกับที่ Central World จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ครบรอบ 50 ปี มีบูธตั๋วเครื่องบินราคาถูก แพคเกจห้องพัก แพคเกจบัตรเข้าชมต่างๆ เราเลยจัดตั๋วของ Jetstar airline มาตกคนละ 3,400 บาท และซื้อโหลดกระเป๋าเพิ่มในงาน 20 กก.อีก 475 บาท แถมกลัวน้ำหนักไม่พอมาซื้อเพิ่มหน้าเว็บอีก 20 กก. เสียไป 675 บาท... คิดไปคิดมาอีกทีนี่ก็ไม่ได้ถูกอะไรเลยนะ (แต่ซื้อไปแล้วไงทำไงได้ล่ะ) และซื้อบัตร universal studio กับ garden by the bays ที่นี่พร้อมกัน... ที่งานมีบัตร Easy link แจกให้ตามจำนวนตั๋วเครื่องบินที่ซื้อภายในงานด้วยนะคะ มีเงินในบัตรให้ใบละ 5 SGD
เราออกเดินทางไปสิงคโปร์ในวันที่ 12-15 Oct' 2015 ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออก 9:25 am. ถึงสิงคโปร์ 12:50 pm. เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชม. นะยู๊ว... อย่าลืมปรับนาฬิกากันด้วยนะจ๊ะ
ก่อนที่จะมาสิงคโปร์ครั้งนี้ มีการเกิดปัญหาหมอกควันจากไฟป่าอินโดนีเซียอย่างแรง ตอนอ่านข่าวใจเรานี่แป้วไปแล้วกลัวจะต้องเสียตั๋วฟรีรึปล่าวนะ จุดธูปอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเลยทีเดียว 555555... เราโชคดีมากที่วันที่มาเที่ยวไม่เจอหมอกควันเท่าไหร่ วัดได้ค่าเฉลี่ย PSI 60-80 อาจจะมีเลขเกินมาตรฐานปกตินิดหน่อย แต่ไม่มีปัญหาอะไรมาหยุดยั้งการท่องโลกของเราไปได้คร่า มีเห็นคนสิงคโปร์อยู่ 2 คนที่ใส่หน้ากากอนามัย นอกนั้นก็ปกติธรรมดาทั่วไป แสงสว่างส่องลงมาถึง ถ่ายรูปออกมาสวย
ลิงค์เช็คค่ามลพิษทางอากาศที่สิงคโปร์
http://www.haze.gov.sg/haze-updates/psi
ตอนนั่งเครื่องจะมีแอร์โฮสเตสสาวสวยแจกใบผ่าน ตม. สิงคโปร์ให้ค่ะ รอบนี้มีซองสีเขียวเป็นซิมการ์ดของ StarHab แต่ต้องไปแลกที่เคาน์เตอร์ UOB นะ แต่เราไม่ได้ไปแลก
ฟิ้วววววววว.... ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับผม สักแชะกับทุเรียนลูกโต๊โตกลางสนามบิน Changi... ส่วนการผ่านด่าน ตม. ของกรุ๊ปเราเป็นอะไรที่ง่ายมากอาจเป็นเพราะมีเด็กๆ ไปด้วยก็เป็นได้ จนท.จะมองหน้าและเรียกชื่อเรา เราก็ทวนซ้ำแค่นั้นเองค่ะ ผ่าน!!!!!!!!
เครื่องลงจอดที่ Terminal 3 นะคะต้องขึ้นรถไฟไปลง Terminal 2 ก่อนถึงจะได้นั่ง MRT ต่อเข้าเมืองได้ค่ะ... เดินตามป้ายโลดดดด Skytrain to T2 มีป้ายบอกตลอดทาง ไม่ก็เดินตามคนเยอะๆ มานั่นล่ะคะเดี๋ยวก็ถึง
พอถึง Terminal 2 ก็เดินตามป้าย Train to City (MRT) ลงบันไดเลื่อนมาปุ๊บก็จะถึงที่หมายแล้วค่ะ เราเลี้ยวซ้ายย้อนมานิดนึงเพื่อเติมเงินลงบัตร Easy link กันก่อน รอบนี้เติมไปคนละ $20 ทั้งหมด 6 ใบ ไปที่เคาน์เตอร์ให้ จนท. จัดการให้เลยค่ะ เพราะต้องแลกเงินก่อนด้วย ตอนแลกจากไทยมามีแต่แบงค์ 100 กับ 50 SGD ไม่มีแบงค์ย่อยเลย... เติมขั้นต่ำ 10 SGD นะคะ
..... อย่าลืมขอแผนที่การเดินรถไฟ MRT จาก Ticket Office มาด้วยนะคะ ของจำเป็นจริงๆ !!!!!
แผนที่การเดินรถไฟ MRT คล้ายๆ บ้านเราค่ะ แต่ของที่สิงคโปร์จะมี 5 เส้นทาง ต้องดูกันให้ดีไม่งั้นอาจจะสับสนลงผิดได้ (ซึ่งเป็นมาแล้ว) สถานีหลักๆ ที่ใช้บ่อย คือสายสีน้ำเงินที่จะไป chinatown และ Bayfront , สายสีม่วงที่จะไป HarbourFront , สายสีเขียวที่มาจากสนามบิน ที่พัก และไปต่อยังเส้นทางอื่น สรุป... นอน Chinatown สะดวกที่สุดสำหรับการ Backpack ค่ะ เชื่อขนมกินเถอะ!!!!!!
เติมเงิน easy link เสร็จเรียบร้อยก็แปะบัตรเข้าสถานีโลดค่ะ เราพักกันที่ V Hotel Lavender โดยจองห้อง Triple Room ไว้ 2 ห้องจากเว็บ Agoda ค่ะ มีสัญญาณ wifi ให้ห้องละ 1 Password แต่เน็ตกากมากต่อแทบไม่กระดิกเลยค่ะ (อันนี้แฟนลองต่อ)... จากสถานี Changi ต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tanah Merah ก่อนแล้วต่อรถไฟอีกต่อนึงซึ่งสายสีเขียวเหมือนกันนี่ล่ะ แต่คนละฝั่งลงที่สถานี Lavender เดินขึ้นไปอีกนิดก็เจอโรงแรมแล้วค่ะ สะดวกดี ใกล้สถานีรถไฟ ใกล้จุดจอดรถประจำทาง มีของกินให้เลือกเยอะ McDonald ก็มี
.... แต่เป็นไปได้เราขอแนะนำให้พักแถว Chinatown หรือ Bugis ดีกว่าค่ะเพราะไม่ว่ายังไงก็ต้องลงมาเปลี่ยนสายรถไฟกันที่นี่อยู่ดี แล้วทางเดินในสถานีแต่ละที่ไม่ใช่ใกล้นะคะ เดี๋ยวขึ้นบันไดเดี๋ยวลงบันได ที่เดินขาลากกันมันส์เพราะเปลี่ยนสถานีนี่ล่ะค่ะ บอกเลยว่าเหนื่อยกับการเดินเปลี่ยนเส้นทางมากกกกกกกก
.... เราแพลนไว้ว่าวันไหนจะไปเที่ยวอะไร ไปยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่ไว้คร่าวๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็นั่งรถไฟ mrt ไปนี่ล่ะ แต่ถ้านั่งรถเมล์ได้ สบายกว่าเยอะค่ะ ไม่ต้องเดินอะไรมากมายเลยจริงๆ จะมีแผ่นกระดาษติดให้ทุกจุดจอดรถเมล์เลยค่ะ ว่ารถเมล์สายไหนไปทางไหนบ้าง ผ่านถนนอะไร... เปิด Google Map ดูด้วยยิ่งดี เพราะไม่งั้นมีหลงแบบเรา คือก็ยังไม่ได้หลงหรอก แต่มันขับอ้อมโลกไปไกลแค่นั้นเอง 55555
วันที่ 12 Oct' 2015 : Changi Airport - V Hotel Lavender - Chinatown - People' Park Centre - Sentosa - Merlion Tower - Luge - Wings of Times.
ตอนแรกแพลนไว้ว่าพอเก็บกระเป๋าที่โรงแรมเสร็จจะไป Bugis เพื่อหม่ำขนมหวานทุเรียนที่ร้าน Ji De Chi กับถ่ายรูปที่ Haji Lane แต่ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทันเลยตัดโปรแกรมนี้ออกไป (ยังแอบเสียดายอยู่เลย อยากกินขนมหวาน T-T ) เลยมานั่งทานข้าวใน Kopitiam แถวโรงแรมแทน อาหารมื้อแรกในสิงคโปร์คือ ข้าวมันไก่ไหหลำ... ซึ่งพอกินได้อยู่ค่ะ แต่จะมีอาหารอย่างอื่นอร่อยกว่ามาแนะนำในวันสุดท้าย ^^
.... เริ่มต้นไปกันที่ไชน่าทาวน์ เพื่อหาซื้อตั๋วเพิ่มที่ Sea Wheel Travel @ People' Park Centre ย้ำๆๆๆๆๆๆ ว่า "Centre" นะคะ
การเดินทาง ขึ้นรถไฟสายสีเขียวมาลงที่สถานี Bugis เพื่อต่อสายสีน้ำเงินไปยังสถานี Chinatown ทางออก D จะมีป้ายคอยบอกให้ตลอดเส้นทางค่ะ
.... พอถึงร้านแล้ว จะมี พนง. สอบถามว่าเราจะซื้อตั๋วอะไรบ้าง กี่ใบ และคำนวณจำนวนเงินให้ แต่ จขกท. ได้เขียนเอาไว้แล้วว่าจะซื้อบัตรอะไรกี่ใบก็ยื่นข้อมูลให้เค้าแค่นั้น เค้าก็จัดการให้เรียบร้อยค่ะซึ่ง พนง. พอจะพูดไทยได้นะคะสื่อสารกันพอรู้เรื่องอยู่ ได้บัตรมาปุ๊บก็จะให้ตรวจเช็คนับจำนวนบัตรทันทีเลยว่าถูกต้องครบรึปล่าว ขาดเหลืออะไรตรงไหนก็บอกเค้าได้เลยค่ะ ส่วนราคาของที่นี่จะถูกกว่าซื้อหน้างานหลายบาทอยู่นะ ลองคำนวณคร่าวๆ ก็ประหยัดไปเป็นพันบาทเหมือนกัน
เราบังเอิญไปเจอคุณพี่คนไทยที่รู้จักกันซึ่งอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ด้วยค่ะ เดี๋ยวพี่คนนี้จะพาไปกินอาหารไทยแซ่บๆ ในวันพรุ่งนี้ จะไปที่ไหนติดตามนะคะ
อ้อ!!!! เราได้ซื้อซิมการ์ดตรงร้านขายโทรศัพท์แถวๆ Sea Wheel นี่ล่ะคะ โดยที่ตอนแรกเรากะว่าจะมาชื่นชมสักหน่อย เพราะไม่ต้องเดินตามหาซิมกันที่เซเว่นให้เหนื่อย บางเซเว่นก็ไม่มีขายซิมไงคะ แต่ที่ไหนได้.................
ร้านนี้เลยค่ะ อุตส่าห์ถ่ายมาว่าจะบอกหนทางเพื่อนๆ ว่าที่นี่ก็มีซิมขาย ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล แต่เรากลับโดนโกง!!!!!!!!!!!!!!!
จขกท. ชี้บอกว่าจะซื้อซิม Singtel 15 SGD ซึ่งจะใช้ได้ 18 SGD... เราขอซื้อ 2 ซิม ทางร้านก็เอาพาสปอร์ตเราไปทำเรื่อง แล้วไปใส่ซิมกันอยู่หลังร้าน เสร็จก็มาถามเราว่าจะอยู่กี่วัน ก็บอกไปว่า 4 วัน ทางเค้าจึงสมัครแพจเกจ 7days 1GB = $7 โดยทางร้านเก็บเงินเราไป $30... ไอเราก็ถามว่าแล้วเงินที่เหลือล่ะจะสมัครเพิ่มเติมยังไง แต่ด้วยความที่คุยกันไม่เข้าใจจึงสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เราก็เข้าใจมาตลอดว่าซิมที่เราซื้อเป็นแบบ $15 จนมาเอะใจทีหลังว่าทำไมถึงเติมเงินสมัครต่อไม่ได้ จึงได้ขูดสติ๊กเกอร์ออกดู อ๋อ!!!! เก็ทแระ.....
.... สรุปด้วยความโมโห จึงไปซื้อซิมอีกอันมาเพิ่มซึ่งร้าน Cheer ข้างโรงแรมที่พักขายอยู่นี่เอง รู้สึกโง่จังนิ!! ไม่เป็นไรถือว่าเป็นบทเรียนเสียค่าโง่กันไป แต่ได้รูปและหลักฐานมาให้คนไทยได้ดูก็โอเค ^^
.... วิธีการสมัครแพคเกจก็ไม่ยากเลย กดหมายเลขที่ต้องการไปเรื่อยๆ อยากได้แพคเกจไหนก็กด พอเสร็จเดี๋ยวจะมี sms มาให้อัตโนมัติเองค่ะ เรียบร้อยเสียเงินแล้วสบายใจ 55555
ออกเดินทางสถานีต่อไป... จาก Chinatown นั่งสายสีม่วงไปสถานี Harbourfront จะออกใต้ห้าง Vivo City เลยค่ะ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนสุด ตามป้ายบอกทางไป Sentosa Express ไปเรื่อยๆ ค่ะ พอถึงแล้วก็ใช้บัตร Easy link แปะโลดดดดดดด
.... เรามาลงกันที่สถานี Imbiah Station เป็นที่ตั้งของ merlion ตัวพ่อซึ่งเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ค่ะ
ลงสถานีเดินมาไม่ไกล ก็จะเจอ Merlion เลยแต่ก่อนที่จะขึ้นเรามีร้านไอติมมาแนะนำคร้า อร่อยมากเลย... ตอนเช็คอินในเฟสเห็นมีเด้งว่าที่สยามพารากอนบ้านเรามีขายด้วย ที่นี่ตกแท่งละ $5*25.5 = 127.50 บาท ไม่รู้ว่าเมืองไทยจะขายเท่าไหร่ ราคาพอกันรึปล่าว
กินติมเสร็จ ก็ขึ้น Merlion Tower กันค่ะ เข้าไปจะมีหนังฉายให้ดูก่อนเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของประเทศสิงคโปร์ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางปากสิงโตจะมีช่างคอยถ่ายรูปอยู่ เราไปสั่นกระดิ่งอย่างเดียวแล้วก็ไปทางขวาขึ้นหัวสิงโตดีกว่าค่ะ วิวเจ๋งกว่าเยอะ
[img]http://f.ptcdn.inf
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น