สวัสดี.....นี่ถือว่าเป็นกระทู้เเรกของเราเนอะ วันนี้อากาศครึ้มๆ เบื่อๆ เลยนึกอยากจะเล่าประสบการณ์ที่เราไปเที่ยวมา

เราเป็นคนนึงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวมากๆ เเต่ก็หาโอกาศที่จะได้ออกไปเที่ยวยากมากเหมือนกัน เอาล่ะเข้าเรื่องเลยละกัน

เราเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเลยทางด้านภาษา บอกได้เลยว่ากากมากกกกกก ครั้งเเรกที่ไปออสไปเเบบมีผู้ทำทางไงเลยสบายๆ 555555
เเต่ครั้งที่สองอ่ะดิ ไปคนเดียวเลยจ้าาาา  โซ้ยภาษาอังกฤษคนเดียวเลย ตอบผิดบ้างถูกบ้าง สั่งข้าวบนเครื่องเเบบลุ้นตลอดทริป ตั้งใจฟังเเบบสุดๆว่าแอร์เขาจะเสนอเมนูอะไรมา.....เอาวะ!! ตั้งใจฟังหน่อย!!
พอตั้งใจฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องหรอกว่าเมนูมื้อนี้น่ะคืออะไร ได้ยินเเค่ ฟิช กับ ชิคเก้น ได้ยินเเค่นั้น ตอบไปเลยเเบบมั่นใจ ชิคเก้นพลีสสส
เเค่นั้นเเหละ มื้อนั้นบนเครื่องเราก็รอดตายเเล้วววว

บนเครื่องว่าตื่นเต้นเเล้ว ตอนผ่าน ตม.ตื่นเต้นยิ่งกว่า ถามเยอะมากกกกกกก เเต่ก็พอตอบได้ถูๆไถๆ  บางคำถามที่เจ้าหน้าที่ ตม. ถาม เราก็ดันไปตอบอีกอย่าง จนเจ้าหน้าที่เขาต้องถามซ้ำอีกรอบ 55555 พอถามอีกครั้งเท่านั้นเเหละเราถึงเก็จว่า.... อ๋ออออ เขาถามอะไร... เอาน่ะ!!! ผ่านเข้าเมืองได้ก็ดีใจสุดๆเเล้ว

                                                      .......เข้าเรื่องๆๆ พล่ามหนักเหลือเกิน......

เมืองที่อยากพาไปเที่ยวน่ะเหรอ นี่เลย เมือง Adelaide , South Australia เป็นเมืองเล็กๆเมืองนึง เเละเป็นเมืองเเรกในชีวิตของเราที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศเเละเป็นเมืองที่สองที่ไปต่างประเทศอีกนั่นเเหละ  ช่วงที่เราไปจะตรงกับเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นปลายๆฤดูใบไม้ร่วง อากาศจะเเบบ...ดี๊ดี

คืออากาศเเปรปรวนนนมากกกกกกกกกกกกก นึกจะหนาวก็หนาว นึกจะลมก็ลม นึกจะตกก็ตก ก็ถือว่าโอเค พอไหว ศรีทนได้ ....
อุณหภูมิช่วงนั้นจะประมาณ 12-19 องศา ประมาณนี้ พอที่จะอาบบน้ำไหว

ไปเที่ยวกันเลยดีกว่า สถานที่เเรกเลยที่จะพาเที่ยว คืออออ ในตัวเมือง...


บ้านเมืองเขาดูสะอ้าดดสะอาด ดูมีระเบียบวินัย เรจะสังเกตุจากการข้ามถนนต่างๆ สัญญานไฟต่างๆ ดูปลอดภัย เเต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเเบบนี้ทุกคนนะ
ฝรั่งก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆเหมือนเรานี่เเหละ บางคนก็ไม่ได้ทำตามกฏจราจรเท่าไหร่ เเต่ก้ไม่ได้น่าเกลียดมาก (ดูชื่นชมบ้านเมืองเขาเยอะอ่ะเนอะ..ก็คนไม่เคยไปนี่...)  ต่อๆ
เดินต่ออีกสักหน่อยก็เข้ามาที่ Rundle Mall เป็นเเลนด์มาร์กอีกที่ก็ว่าได้ Rundle Mall เนี่ยจะเป็นถนนที่รวบรวมห้างร้านต่างๆไว้ที่นี่ เช่นห้าง Myer และก็ David Jones จะรวมของเเบรนด์ต่างๆเยอะพอควร อารมณ์ก็เหมือนห้างบ้านเราเเหละ เพียงเเต่เขาจัดสรรให้มาอยู่ที่ steet เดียวกัน ห้ามรถราวิ่งเข้ามา  เดินอย่างเดียวจ้าาา



พอดีวันที่เราเดินอ่ะ จะเป็นวันอาทิตย์ที่มีการเเข่งขันฟุตบอลพอดี ถ้ามองๆไปก็จะมีกลุ่มคนมาเดินเหมือนเดินพาเหรดอ่ะ เหมือนกับว่า หลังจากการเเข่งขันจบลงเเล้วทีมของตัวเองชนะงี้ ก็จะมาเดินชูธง วู้วๆๆๆ ชั้นดีใจนะ ชนะเเล้วนะ ร้องเพลงทีมตัวเองประมาณนี้ ดูเขามีความสุขกันอ่ะ เราก็ได้เเต่โบกมือ ยิ้วๆๆ ชั้นดีใจกับเธอด้วยนะ (คือ...อยากมีส่วนร่วมอ่ะ )

  

เอ้าๆๆๆ ดีใจกะพี่เขาเเล้วเราก็ออกเดินต่อ เดินๆๆ อารมณ์ถนนคนเดินอ่ะ คนเยอะพลุกพล่านดี มีเปิดหมวกด้วยงี้...มันใช่เลยอ่ะ
นี่มันเชียงใหม่ชัดๆ... การไปเมืองนอกเป็นการเปิดโลกทัศน์มากเลยนะ ได้เห็นในสิ่งที่เเบบ... เฮ้ยย มีเเบบบ้านเราด้วยหรอ นุ่นนี่นั่น



..............วันเเรกของการเดินเที่ยวในเมืองก็ยังไม่มีอะไรตื่นตาตื่นใจมากเท่าไหร่ ข้ามไปวันที่สองกันเลยดีกว่าเนาะ..................
วันนี้มีเเพลนไปเที่ยวภูเขาาาาาาา เย่ๆๆๆๆ ชั้นจะไปภูเขา จะไปเก็บสตอเบอร์รี่บนเขา จะไปกินเบียร์ดำบนหมู่บ้านเยอรมันเก่าเเก่หมู่บ้านนึง
ชื่อหมู่บ้าน Hahndorf จะไปทำอะไรนะที่หมู่บ้านเยอรมัน....เยอะเเยะเล๊ยยยย มีทั้งร้านกาเเฟ ร้านเบียร์ดำ ฟาร์มสตอเบอรี่ เยอะเเยะเลย เเพลนว่า
.........วันนี้ทั้งวันชั้นจะพิชิตขุนเขาเเห่ง South Australia ฮ่าาาาา ไปกันๆๆๆๆ........



อยู่ที่นี่การเดินทางสะดวกสบายมาก เเละก็ราคาถูกด้วยนะ ไป-กลับ ก็ประมาน 6 เหรียญ วันนี้เดินทางไปด้วยบัส... รอเลย รอๆๆๆ ....อ่ะๆมาละๆ ขึ้นสิครับ ขึ้นไปกินลมชมวิวไม่นาน...ถึงเเล้ววววว Hahndrof ที่รัก ....



ลงบัสปุ๊บ!!! เฮ้ยยยยย มันใช่อ่ะ ไม่เหมือนอย่างที่คิดเลยอ่ะ อากาศหนาววววววเลยยอ่ะ เท่าที่เช็คอากาศก็ทำให้รู้ว่า 8 องศาเลยทีเดียว สิ่งเเรกที่ทำเลยนะ
......เป่าลมออกจากปาก ฟู่วววส์ เฮ้ยยย มีควันนนน...(บ้านนอกมั้ย...ไม่เป็นไรชั้นไม่เเคร์ไง ฮ่าาา ทำเถอะที่บ้านเราไม่มี) .... นอกจากจะตื่นตัวกับอากาศเเล้วเราก็ตื่นตาตื่นใจไปกับใบไม้สีเเดงงงงงงง สีส้มมมมม สีเหลืองงงงงงง เรามาถูกช่วงพอดี ถ้ามา Hahndrof ช่วงเดือนที่เรามาเหมาะมาก เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี กำลังสวยเลยเเหละ



ถ่ายรูปสักหน่อยเนอะ


พอเเล้วกับการชื่นชมใบไม้ใบหญ้าอันงามงด เราเดินไปต่อ ...ที่หมู่บ้านเเห่งนี้ส่วนมากจะเน้นเป็นร้านอาหาร ร้านกาเเฟ ร้านขายของแฮนเมค ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนมหวาน หลากหลายร้านมาก เเล้วเเต่เราจะเลือกเข้าร้านอะไร



เเต่ที่เราประทับใจมากกกก ก็จะเป็นร้านกาเเฟอารมณ์เชียงใหม่ (เอาอีกละเป็นอะไรกับเชียงใหม่...เปล่าหรอก เราเป็นคนนึงที่หลงรักเชียงใหม่น่ะ)
ร้านนี้ชื่อร้าน Kitchen 2C เป็นร้านที่น่านั่งชิวมากอีกร้าน เข้าไปในร้านค่อนข้างจะอุ่น เพราะเปิดฮีทเตอร์(มั้ง) ดีงามอ่ะ ขอเข้าไปสั่งอะไรอุ่นๆดื่มสักแป๊บนะ



หลังจากนั่งให้หูอุ่นก็เดินต่อเลย เป้าหมายของเราคือฟาร์มสตอเบอรี่ อยากไปเก็บสตอเบรรี่ลูกใหญ่ๆ เดินต่ออีก 900 เมตร เเอบถามเพื่อนร่วมทริป
เราจะไปยังไงดีเเก เดินไปหรือนั่งบัสดี ตั้ง 2 ป้ายเลยนะ ... นางยังไม่ทันได้ตอบคำถามเราหรอก เราพาเดินเลย ไหนๆก็ไหนๆละ ชั้นมาต่างประเทศชั้นต้องเดินๆๆๆๆ กินลมชมวิวสิ!! เดินสักพัก ลมเริ่มมา ฟ้าเริ่มจะครึ้ม ....เอ๊ะะะะ...นั่นโบสถ์ เเวะถ่ายรูปสักพักก่อนนะ


ถ่ายรูปสักพักก็เดินๆต่อเพื่อเป้าหมายฟาร์มสตอเบอรรี่ลูกใหญ่ๆ สัก 5 นาทีเเหละ ฝนจ้าาาาา พรึ่มมมมม!!! จู่ๆก็ตก ตกเเบบไม่บอก ตกมาเลยยย
เป็นไงล่ะ ได้วิ่งหลบฝนเป็นยัยเพิ้ง 2 นาง หลบใต้หลังคาเเถวนั้น ชีวิตน่าสงสารอ่ะ ...นี่ชั้นมาเมืองนอกนะ ชั้นจะเที่ยวนะ  ทำไมพี่ฝนใจร้ายขนาดนี้
เเผนที่วางไว้หายไปหมด สตอเบอร้งสตอเบอรี่ก็ไม่ได้เก็บบบ เฮ้อออออ เบียร์ดำก็ไม่ได้กินนนน พอๆๆๆๆ ตกขนาดนี้กลับๆๆๆๆๆๆ
นั่งบัสไปได้สักพักเเหละ เริ่มเข้ามาในหมู่บ้านนึง คือ....ชอบมากกกกกกกกกกกกก ใบไม้หลากกกกสีเต็มมมไปหมดเลยยยยย ลงบัสเเบบไม่ได้คาดหมายสิครับรออะไร ลงๆๆๆๆ ลงไปถ่ายสักรูปก็ยังดี ...



สวยยยยยยใช่มั้ยย เท่าที่สังเกตุหมู่บ้านชื่อ Stirling Village ซึ่งเเปลเเบบคนที่เก่งภาษาเเบบเราได้ว่า หมู่บ้านสีชมพูววว (ตั้งเองเลย)


เดี๋ยวเรามาอีกนะ เราหิวข้าว 55555 หาอะไรกินก่อนเดี๋ยวมาต่อ