ท่ามกลางความเงียบสงบแห่งธรรมชาติรื่นรมณ์ห่างไกลจากรถราเมืองกรุงและความวุ่นวาย บ้านสไตล์ยุโรปขนาดย่อมสีน้ำตาลเคร่งขรึมพาดพันด้วยเถากุหลาบเขียวเข้มออกดอกผลิบานสะพรั่ง สวยงามราวจจ้องมองบ้านในชนบทอังกฤษอย่างไรอย่างนั้น หากในความงดงามดังภาพวาดแม้จะเป็นยามกลางวันก็ปะปนด้วยความเงียบจนน่าสะพรึง วันร้ายคืนร้ายก็ปนความสยองติดมาด้วย สาวน้อยหน้าใสนามเจี่ยนเหยาตัดสินใจมาดูลาดเลาเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องมาสัมภาษณ์งานที่นี่ เธอไม่เคยเกรงกลัวสิ่งอันใดที่อธิบายไม่ได้โดยทางวิทยาศาสตร์ เธอมีทั้งความฉลาดและเฉลียว งานแปลอย่างที่ถนัด ระยะสั้น เงินดี ส่วนงานประจำหลังจบการศึกษาก็มีอยู่แล้ว แล้วจะอยู่ว่าง ๆ ไปเพื่ออะไร ถ้าเวลาว่างเปลี่ยนเป็นมูลค่าได้ก็นับว่ามีโชคแล้ว
แต่ใครจะไปนึกว่า "โชค" อะไรที่ว่านั้นไม่ใช่เพียงเรื่องเงิน
แต่เป็น "คนแปลก ๆ คนนึง" ที่จูบมือเธอและคิดว่าเป็นขา "เต่า"
คนที่พาชีวิตเธอหันเหจากโลกสงบสุขสู่ความแปลกแหวกแนว
และสุดท้าย "เธอ" ก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
ป๋อจิ้นเหยียน คือ นักอาชญวิทยาที่เก่งที่สุด และ อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยวัย 20 ปีปลาย ๆ มีคำว่า ดร. และ ตำแหน่งทางวิชาการระดับ รศ. นำหน้า แต่เจ้าตัวก็ว่า "ผลงานของผมนั้นจริง ๆ แล้วต้องเป็นระดับ ศ. เพียงแต่อายุงานไม่ถึงมันก็เท่านั้น" เราจึงให้เกลียด ผิด ให้เกียรติเรียกเขาว่า "ศจ." ตามระดับคุณภาพของผลงานตามที่ว่า มาถึงตอนนี้คงเห็นกันแล้วว่า ระดับ ego alter-ego self esteem self confidence และ บรรดาคำศัพท์ที่ว่าด้วยความมั่นใจ และ มั่นหน้าของ ศจ. นั้นอยู่ที่ระดับไหน และ ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ธรรมดาจะเป็นอย่างไร
ทายซิว่าใครจะพูดกับนางรู้เรื่อง ?
ก็คงไม่แปลกถ้าจะบอกว่าเพื่อนสนิทของศจ.นั้นมีน้อยคนมาก เพียงแค่นิ้วมือข้างเดียวกับน่าจะนับถ้วนแล้ว และ ถ้าพูดตามภาษาของศจ. ศจ.ก็คงจะบอกกับเราว่า "ถ้าผมจะต้องเป็นเพื่อนกับทุกคนที่อยากเป็นเพื่อนกับผมละก็ ... ผมคงตาย(ห่าน)ไปก่อน" ข่ะ นั่นแหละ ... ศจ. ของเราล่ะ ไม่แคร์เวิร์ลไม่แคร์โลก นอกจากเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของศจ.ที่เป็นนักพัฒนาซอฟท์แวร์ ดูเหมือนคนปกติแต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ประหลาด เพราะ งานอดิเรกของจื่ออวี้เองก็แปลก ๆ ไม่น้อย ทั้ง BB Gun หรือ โดดร่ม อย่างน้อยก็ประดิษฐ์ซอฟท์แวร์ใส่รถให้เพื่อนได้ละกัน
แต่ แต่ แต่ เพื่อนสนิทของศจ. นั้นไม่ได้หมายรวมถึงคนแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ อย่างที่บอกว่าศจ.ตรรกะและระบบคิดพิลึกพิลั่นกว่าคนอื่นเขาหน่อย แต่โดยรวมแล้วศจ.จะโอเคกับ
1. คนที่ไม่ invade โลกส่วนตัวแก
2. invade หน่อยก็ได้นะ ไม่ควรกลัวแกมากเกินไป
3. เชื่อฟังทำตามที่แกบอก
4. อ้อ ... เถียงหน่อยก็ได้ คือไม่ชอบคนโง่น่ะ คือแบบ ... ควรฉลาดอ่ะ พูดรู้เรื่อง โอเคมะ
ดังนั้นไม่ว่า "คน" หรือ "อย่างอื่น" ก็มีสัมพันธ์ในมิติความเป็น "เพื่อน" กะแกได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น "คน" "สัตว์" "สิ่งของ" ศจ.มีเพื่อนหนึ่งคนคือจื่ออวี้ มีเพื่อนหนึ่งตัวชื่อ "เงียบขรึม" เป็นเต่าสีดำตัวโต (วันร้ายคืนร้ายทำไรไม่พอใจก็โดนจับขังนะ ... จะได้กลัวซะมั่ง ศจ.กล่าว (ประเด็นคือเงียบขรึมจะรู้กะแกไหม ? ))
แต่น้องเงียบขรึมในละครคือตัวนี้
แล้วก็มีเพื่อนอีก "หนึ่งคัน" ที่ศจ.แกอุทานว่า "Sexy" รถที่เพื่อนแกยัดซอฟท์แวร์ใส่ให้แล้วมันพูดได้อ่ะนะ ดังนั้น "อะไร" ก็แล้วแต่ที่ผ่านกฎเหล็ก 4 ข้อ ก็สามารถเสวนากะแกได้ทั้งนั้นแหละ ไม่จำเพาะว่าจะต้องเป็น "คน" เรื่องมันมาอลเวงก็เมื่อตอนที่ ศจ. จะมีความรักนั่นล่ะ คือ ต้องเขาใจอยู่อย่างว่าระบบคิดแกไม่เหมือนคนอื่น และ ออกจะรำคาญด้วย ก็เวลาผู้หญิงมาสนใจ เพราะยังไงก็คงต้องละเมิดกฎเหล็ก 4 ข้อของ ศจ. เข้าจนได้ ประสบการณ์ "ความรัก" จึงเท่ากับศูนย์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง ศจ. จะอนาทรร้อนใจ ก็มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรซักหน่อยนี่ เรื่องพวกนี้มันก็เหมือนชวนคนไปกินข้าวอ่ะแหละ "ธรรมดาจะตาย"
ดังนั้นเมื่อเกิดมี "ความรู้สึกรัก" ขึ้นมา ศจ. จึงกลายเป็นแบบนี้
เมื่อเขาจีบคุณ เขาจะพูดว่า : เอาล่ะ ผมเป็นคนไม่ชอบอะไรไร้สาระ แต่ถ้าเธอจูบผมทุกสิบวินาที ผมจะยอมทำเรื่องน่าเบื่อพวกนี้เป็นเพื่อนก็ได้
เมื่อเขาขอคุณเป็นแฟน เขาจะบอกว่า : นี่ .. เธอเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเราอยู่ด้วยกัน ประสิทธิผลต้องดียิ่งขึ้น เรื่องที่ผมไม่สนใจ เธอก็ชอบและถนัด ยิ่งกว่านั้นการทำงานของผมก็จะดียิ่งขึ้น......หรือผลอ้อมๆ ก็คือ เธอจะมีคุณค่ายิ่งขึ้น
เมื่อเขาหึงคุณ เขาก็จะแง้บ ๆ ว่า : ผู้ชายคนนั้นน่ะงั่งกว่าผมตั้งแยะ แต่มีเรื่องเดียวที่เขาไม่โง่ คือเขาก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี
เมื่อเขาขอคุณแต่งงาน เขาก็จะทำท่าประมาณเหมือนพูดเรื่องธรรมดาเยี่ยงชวนคุณกินข้าว พลางเอ่ยว่า : ถ้าจะให้อธิบายเป็นคำพูดก็คงไม่ได้ใจความ แต่หากจะให้สรุปรวบรัด คือ ผมรักเธอด้วยสติปัญญาและชีวิตทั้งหมดที่มีนี่เลย
ภายใต้ท่าทีไม่แคร์โลกและติดจะเย็นชา เข้าใจยากงงเงิบว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่หนังสืออ่านยากมันก็น่าอ่านน้อยอยู่ไม่ใช่หรือ
บางทีเรื่องทั้งหมดอาจจะเริ่มที่เจี่ยนเหยา(เด็กศจ.)ตกปลาเก่งก็ได้
ลึกลับคดีพิศวงขนาดนี้มีใครอยากมาเป็น "กลุ่มเพื่อนศจ. ด้วยกันไหม ?"
他来了,请闭眼 Love Me, If You Dare : CR ท่านศจ. โดยกลุ่มเพื่อน ศจ. (สปอยด์แหลก)
แต่เป็น "คนแปลก ๆ คนนึง" ที่จูบมือเธอและคิดว่าเป็นขา "เต่า"
คนที่พาชีวิตเธอหันเหจากโลกสงบสุขสู่ความแปลกแหวกแนว
และสุดท้าย "เธอ" ก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
ป๋อจิ้นเหยียน คือ นักอาชญวิทยาที่เก่งที่สุด และ อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยวัย 20 ปีปลาย ๆ มีคำว่า ดร. และ ตำแหน่งทางวิชาการระดับ รศ. นำหน้า แต่เจ้าตัวก็ว่า "ผลงานของผมนั้นจริง ๆ แล้วต้องเป็นระดับ ศ. เพียงแต่อายุงานไม่ถึงมันก็เท่านั้น" เราจึงให้เกลียด ผิด ให้เกียรติเรียกเขาว่า "ศจ." ตามระดับคุณภาพของผลงานตามที่ว่า มาถึงตอนนี้คงเห็นกันแล้วว่า ระดับ ego alter-ego self esteem self confidence และ บรรดาคำศัพท์ที่ว่าด้วยความมั่นใจ และ มั่นหน้าของ ศจ. นั้นอยู่ที่ระดับไหน และ ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ธรรมดาจะเป็นอย่างไร
ก็คงไม่แปลกถ้าจะบอกว่าเพื่อนสนิทของศจ.นั้นมีน้อยคนมาก เพียงแค่นิ้วมือข้างเดียวกับน่าจะนับถ้วนแล้ว และ ถ้าพูดตามภาษาของศจ. ศจ.ก็คงจะบอกกับเราว่า "ถ้าผมจะต้องเป็นเพื่อนกับทุกคนที่อยากเป็นเพื่อนกับผมละก็ ... ผมคงตาย(ห่าน)ไปก่อน" ข่ะ นั่นแหละ ... ศจ. ของเราล่ะ ไม่แคร์เวิร์ลไม่แคร์โลก นอกจากเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของศจ.ที่เป็นนักพัฒนาซอฟท์แวร์ ดูเหมือนคนปกติแต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ประหลาด เพราะ งานอดิเรกของจื่ออวี้เองก็แปลก ๆ ไม่น้อย ทั้ง BB Gun หรือ โดดร่ม อย่างน้อยก็ประดิษฐ์ซอฟท์แวร์ใส่รถให้เพื่อนได้ละกัน
แต่ แต่ แต่ เพื่อนสนิทของศจ. นั้นไม่ได้หมายรวมถึงคนแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ อย่างที่บอกว่าศจ.ตรรกะและระบบคิดพิลึกพิลั่นกว่าคนอื่นเขาหน่อย แต่โดยรวมแล้วศจ.จะโอเคกับ
1. คนที่ไม่ invade โลกส่วนตัวแก
2. invade หน่อยก็ได้นะ ไม่ควรกลัวแกมากเกินไป
3. เชื่อฟังทำตามที่แกบอก
4. อ้อ ... เถียงหน่อยก็ได้ คือไม่ชอบคนโง่น่ะ คือแบบ ... ควรฉลาดอ่ะ พูดรู้เรื่อง โอเคมะ
ดังนั้นไม่ว่า "คน" หรือ "อย่างอื่น" ก็มีสัมพันธ์ในมิติความเป็น "เพื่อน" กะแกได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น "คน" "สัตว์" "สิ่งของ" ศจ.มีเพื่อนหนึ่งคนคือจื่ออวี้ มีเพื่อนหนึ่งตัวชื่อ "เงียบขรึม" เป็นเต่าสีดำตัวโต (วันร้ายคืนร้ายทำไรไม่พอใจก็โดนจับขังนะ ... จะได้กลัวซะมั่ง ศจ.กล่าว (ประเด็นคือเงียบขรึมจะรู้กะแกไหม ? ))
แต่น้องเงียบขรึมในละครคือตัวนี้
แล้วก็มีเพื่อนอีก "หนึ่งคัน" ที่ศจ.แกอุทานว่า "Sexy" รถที่เพื่อนแกยัดซอฟท์แวร์ใส่ให้แล้วมันพูดได้อ่ะนะ ดังนั้น "อะไร" ก็แล้วแต่ที่ผ่านกฎเหล็ก 4 ข้อ ก็สามารถเสวนากะแกได้ทั้งนั้นแหละ ไม่จำเพาะว่าจะต้องเป็น "คน" เรื่องมันมาอลเวงก็เมื่อตอนที่ ศจ. จะมีความรักนั่นล่ะ คือ ต้องเขาใจอยู่อย่างว่าระบบคิดแกไม่เหมือนคนอื่น และ ออกจะรำคาญด้วย ก็เวลาผู้หญิงมาสนใจ เพราะยังไงก็คงต้องละเมิดกฎเหล็ก 4 ข้อของ ศจ. เข้าจนได้ ประสบการณ์ "ความรัก" จึงเท่ากับศูนย์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง ศจ. จะอนาทรร้อนใจ ก็มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรซักหน่อยนี่ เรื่องพวกนี้มันก็เหมือนชวนคนไปกินข้าวอ่ะแหละ "ธรรมดาจะตาย"
เมื่อเขาขอคุณเป็นแฟน เขาจะบอกว่า : นี่ .. เธอเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเราอยู่ด้วยกัน ประสิทธิผลต้องดียิ่งขึ้น เรื่องที่ผมไม่สนใจ เธอก็ชอบและถนัด ยิ่งกว่านั้นการทำงานของผมก็จะดียิ่งขึ้น......หรือผลอ้อมๆ ก็คือ เธอจะมีคุณค่ายิ่งขึ้น
เมื่อเขาหึงคุณ เขาก็จะแง้บ ๆ ว่า : ผู้ชายคนนั้นน่ะงั่งกว่าผมตั้งแยะ แต่มีเรื่องเดียวที่เขาไม่โง่ คือเขาก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี
เมื่อเขาขอคุณแต่งงาน เขาก็จะทำท่าประมาณเหมือนพูดเรื่องธรรมดาเยี่ยงชวนคุณกินข้าว พลางเอ่ยว่า : ถ้าจะให้อธิบายเป็นคำพูดก็คงไม่ได้ใจความ แต่หากจะให้สรุปรวบรัด คือ ผมรักเธอด้วยสติปัญญาและชีวิตทั้งหมดที่มีนี่เลย