ปั่นจักรยานเที่ยวคนเดียวแบบค่ำไหนนอนนั่นจากหนองคาย รู้ตัวอีกทีไปถึงปาย Part 2

ลิ้ง Part 1 http://ppantip.com/topic/34318684
ลิ้ง Part 3 http://ppantip.com/topic/34325069
ลิ้ง Part 4 http://ppantip.com/topic/34343708
แฟนเพจ https://www.facebook.com/Two-Wheeled-Animal-1711013355795532/

ออกเดินทางกันต่อวันที่สองจากกระทู้ที่แล้ว หลังจากประกอบสัมภาระเข้ากับรถอีกรอบก็ปั่นออกจากหมู่บ้านที่ผมพักแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็เข้าเขตจังหวัดเลย ก่อนเข้าจังหวัดเลยนิดเดียวแวะถ่ายป้ายกับหนองปลาบึก ตรงนี้ว่ากันว่าๆ เป็นที่ๆ ปลาบึกชุกชุมมาก ปั่นไปตามถนนเส้นเลียบแม่น้โขงไปเรื่อยๆ อากาศดีมาก   ปั่นไปนานๆ ทีก็เจอหมู่บ้านระหว่างไกล้ๆ เที่ยงข้าวเหนียวที่ใส่มาเต็มท้องเริ่มอันตรธานหายไปเพราะต้องใช้แรงในการปั่นจักรยานอันหนักอึ้งของผม ผมจอดจักรยานเอาเสบียงที่พี่ลัดดาฝากมาให้ ฟาดคำใหญ่ๆ หลายคำเอาแรง กินไปก็รับลมจากแม่นฃ้ำโขงไปคลายร้อน ตรงจุดที่ผมหยุดนี้แม่น้ำโขงกว้างมาก อิ่มแล้วก็ปั่นต่อ เส้นทางวันนี้ยังคงเลียบแม้น้ำโขงเช่นเคยมันชั่งอลังการจริงๆ บางช่วงก็เจอท้องนาสลับกับสาวนยางแวะถ่ายภาพหลักกิโลเป็นที่ระลึก ผ่านไปเจอข้างทางเหมือนจะเป็นศาลาหมู่บ้านอะไรสักอย่าง มีธงของสิบประเทศอาเซียนอยู่ด้วย เลยแวะแชะภาพอีชมพู่อีกสักหน่อย   ถนนเส้นที่มันเงียบดีจริงๆ รถแทบไม่มี ปั่นต่อไปแวะที่ร้านกาแฟร้านนึงในอำเภอปากชม จังหวัดเลย แวะพักเอาแรง นี้น่าจะเป็นแค่ร้านกาแฟร้านเดียวที่ผมเจอตลอดเส้นทางวันนี้ มีเรื่องนึงที่ผมเจอคือตั้งแต่เมื่อวานที่บ้านพี่ลัดดาโทรศัพท์ผมไม่มีสัณญานพอมาสังเกตดีๆ ลองโทรดูปรากฎว่าเป็นกลายเป็นสัญญานโทรศัพท์ของฝั่งลาวไปแล้วงงมาก โทรไปคนรับสายเป็นเสียงรับอัตโนมัตลาว พอปั่นผ่านตัวเมืองอำเภอปากชมจึงแวะที่ร้านโทรศัพท์ให้ร้านแก้ให้ ปรากฎว่าผมไปเปิดโรมมิ่งทิ้งไว้ โทรศัพท์ดีแทคของผมก็กลับมาใช้ได้ตามปกติอีกครั้ง ปั่นต่อไปจนเข้าเขตอำเภอเชียงคาน ได้เป๊ปเดียวฝนก็เทลงมาอย่างหนัก โชคดีที่ปั่นมาถึงศาลาวัดข้างทางพอดี จึงแวะหลบฝนและพักเหนื่อย เพื่อรอให้ฝนซาวันนี้ผมตั้งใจจะไปนอนที่เชียงคาน
เหลืออีกราวสามสิบโลเห็นจะได้ พอฝนซาก็ออกปั่นต่อตอนนี้หิวมากเพราะไม่เจอร้านขายของอะไรที่กินได้มาพักใหญ่แล้ว เส้นทางบางช่วงก็เริ่มเป็นหลุมเป็นบ่อ
แต่สุดท้ายนสวรรค์ก็มาโปรดผมปั่นมาเจอหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีร้านอาหารตามสั่งและลูกชิ้นทอดเลยจัดเต็มแบบไม่ยั้ง กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ฮาๆๆ




อิ่มท้องแล้วเลยออกปั่นต่อ เหลืออีกไม่ถึง 20 กิโลก็จะถึงอำเภอเชียงคานแล้ว สู้อีกหน่อย สุดท้ายประมาณสี่โมงครึ่งผมก็มาถึงที่จะพักคืนนี้เชียงคาน อำเภอเชียงคานจังหวัดเลยเป็นจุดสุดท้ายที่แม่น้ำโขงจะหายเข้าสไปในดินแดนประเทศลาว บ๊ายบาย แม่น้ำโขง มาถึงก็แวะพักผ่อน และไปถามหาว่ามีรีสอร์ตไหนบ้างที่พอจะมีที่ว่างให้ผมกางเต็นท์ได้บ้าง เพราะอยากประหยัดและเปลี่ยนบรรยากาศ ผมปั่นไล่ไปจนสุดถนนชุมชนร้อยปีก็ไม่พบที่ไหนที่อนุญาตให้กางเต็นท์ มีบางที่จะเปิดให้กางเฉพาะหลังเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ผมเลยใช้ไม้ตายสุดท้ายคือปั่นไป ตชด ที่ติดกับที่ว่าการอำเภอเพราะมีชาวบ้านบอกว่าที่นั้นกางเต็นท์ได้ ไปถึงปุ๊บก็ขอพี่ ตชด กางเต็นท์ พี่ๆ ที่นี้น่ารักมาก บอกผมตามสบาย ชี้ห้องน้ำให้เสร็จสรรพ แถมบอกผมไม่ต้องกางที่สนามหญ้ามากางใต้อาคารเพราะเดี๋ยวฝนตกจะลำบาก สภาพที่นอนคืนนี้กางเต็นท์เสร็จอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้มันสบายตัว ก็ได้เวลาปั่นไปกชมเมืองเชียงคานยามเย็นหาอะไรอร่อยๆ กิน ไปชมภาพบรรยากาศกันเลย  
มีนักเรียนรำถวายอีชมพู่ด้วย ฮาๆ

ถ่ายกับมุมสุดฮิต ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่เชียงคานยังไม่เยอะเท่าไหร่ ซึ่งผมชอบมาก สักพักผมเลือกปั่นไปทางถนนที่เลียบแม่น้ำโขงไปเจอร้านเล็กๆ ที่บรรยากาศสุดชิล ไปถึงก็มีกลุ่มลูกค้าที่นั่งอยู่ก่อนทักทายถามถึงจักรยานผม และชวนนั่งด้วย วันมีเพื่อนคุยแล้ว ฮาๆๆ นั่งคุยเลยรู้ว่ากลุ่มนี้เขาก็เพิ่งรู้จักกันบนรถทัวร์ที่นั่งมาเชียงคานจาก กทม เหมือนกัน  ผมสั่งเบียร์ลาวกินให้เข้าบรรยากาศแม่น้ำโขงหน่อย คุยกับคนที่เพิ่งรู้จักทำให้ทราบว่าหนึ่งในนั้นนางเป็นแอดมินเพจท่องเที่ยวใต้หวันเพจนึง ซึ่งเป็นประเทศที่ผมอยากไปปั่นจักรยานมากๆ ด้วย โชคดีจริงๆ นางก็มาเที่ยวเชียงคานคนเดียวเหมือนกัน วันนี้เลยบได้ข้อมูลเพียบ พี่อีกคนก็อาสาเลี้ยงเบียร์ผม โอ้ ชีวิตดี๊ดี ฮาๆๆ กินกันสักพักจนเริ่มกึ่มๆ ก็หิวอออกจากร้านไปหาอะไรกิน ได้ลองข้าวจี่เชียงคานด้วยไม้มหึมา 10 บาทเองอร่อยอิ่ม
ซื้อของกินเสร็จไปนั่งกินเบียร์ต่ออีกหน่อยที่รีสอร์ตของพี่ที่ผมเพิ่งจะรู้จักที่ร้านเมื่อกี้  ข้อดีของการเที่ยวคนเดียวทำให้เราได้เพื่อนใหม่เต็มไปหมด บางทีสถานที่ๆ เราไปไม่สำคัญเท่ากับผู้คนที่เราได้เจอระหว่างทาง ถ่ายภาพเพื่อนใหม่เป็นที่ระลึก กินจนเกือบจะเมา ฮาๆๆ  ผมก็ปั่นจักรยานกลับมาที่พักคืนนี้หลับสบาย
ตื่นเช้ามาเก็บสัมภาระต่างๆ เสร็จก็ไปบอกลาพี่ๆ ตชด ขอบคุณสำหรับที่พักพร้อมกรอกน้ำจากตู้กดจนเต็มทุกขวดเตรียมพร้อมเดินทางไกลต่อ ปั่นเลียบถนนเลียบโขงจาก ตชด แวะถ่ายภาพกับที่ว่าการอำเภอ ปั่นต่อมาได้นิดเดียวก็มาเจอลานกิจกรรมที่จะมีขบวนผู้ว่ามาเปิดงานปั่นจักรยานของเชียงคานพอดี ที่นี้เขาส่งเสริมการปั่นจักรยานกันอย่างจริงจัง ผมปั่นผ่านไปจอดดูพี่ๆ ในงานบอกน้องลงมากินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ก่อน ผมมีหรือจะรอกำลังหิวพอดี เลยลงไปจัดชุดใหญ่ของฟรี  สักพักขบวนจักรยานผู้ว่าก็มา
ผมก็ไปยืนตบมือต้อนรับสักหน่อย ไหนๆ ก็มากินขนมเขาไปแล้ว พี่เขาให้ผมไปลงทะเบียนด้วยร่วมงานฟังผู้ว่าพูดด้วย แต่ผมต้องขอตัวเพราะต้องปั่นอีกไกลวันนี้ ออกจากเชียงคานผมปั่นเข้าอำเภอเมืองเลยเพื่อจะต่อไปภูเรือซึ่งผมตั้งใจจะไปพักที่นั้นคืนนี้ แต่ระหว่างทางฝนตกลงมาอย่างหนักปั่นฝ่าฝนไปสักพักสู้ไม่ไหวเลยแวะข้างทางที่บ้านคน รอไปสักพักก็ปั่นออกไปอีกและฝนก็ถล่มอีก ก็แวะบ้านคนไปเรื่อยๆ
เช็คสภาพอากาศในโทรศัพท์ปรากฎว่าจะมีพายุเข้าที่ภาคอีสานและภาคเหนือในวันที่ 4-6 ตุลา เชี่ย โดนเราเต็มๆ สุดท้ายก็ปั่นลุยฝนต่อไปอีก ปั่นจนมือซีดเลย T T

ก่อนถึงตัวเมืองเลยก็รู้สึกหิวจนตาลายเลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้อนๆ อร่อยสุดๆ ทั้งเปียกทั้งหนาวได้กินอะไรร้อนๆ แบบนี้ฟิน
คุณป้าที่ขายบอกผมกินเก่งมากเป๊ปเดียวหมดชามจะแถมให้ผมฟรีๆ อีกชามผมบอกไม่เป็นไรครับอิ่มแล้ว  น่ารักที่ซู้ดคนที่นี้ ป้าบอกเหห็นคนกินได้แล้วมีความสุข : ) อิ่มแล้วออกปั่นต่อ ผมถามชาวบ้านเขาบอกว่าระยะทางจากอำเภอเมืองเลยไปภูเรือภูเขาเยอะมากให้ปั่นระวังๆ ผมไม่กลัวเขาเท่ากับกลัวมืดระหว่างทาง ช่วงบ่ายฝนหยุดลงไปแล้ว แต่คราวนี้มาสู้กับภูเขาแทน แต่ของบอกว่าถนนสายจากอำเภอเมืองเลยไปภูเรือสวยมาก ส่วนใหญ่เป็นป่า สลับกับทุ่งนา และภูเขา สวรรค์ฃัดๆ แต่ก็เหนื่อยสุดๆ บางลูกนี้หัวใจแทบจะออกมาเต้นข้างนอกเลย ไปชมภาพกันเลยครับ  
เข้าเขตอำเภอภูเรือแล้ว และก็ไกล้ค่ำด้วยเช่นกัน เริ่มกังวลแล้วว่า จะถึงก่อนค่ำมั๊ยนะ เพราะเขาเยอะเหลือเกินผมปั่นได้ช้ามากๆ วันนี้
สุดท้ายก็มาถึงตัวอำเภอก่อนค่ำ เกือบไปแล้วถ้ามืดตอนอยู่บนเขานี้เแย่เลย อุณหภูมิที่ภูเรือวันนี้ 20  เอง มาถึงก็ไปหาของกินหิวมากๆ ช่วงนี้ภูเรือแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลยเงียบมาก ผมปั่นจักรยานหาที่พักทุกที่เงียบมาก ผมถามหาที่กางเต็นท์สองสามที่ตัดสินใจเลือกทีนี้เพราะถูกที่สุด เจ้าของคิดผมแค่ 50 บาทเท่านั้นเจ้าของน่ารักมาก เอาผ้าเช็ดตัวและลางสาดมาให้ผมกินและมานั่งคุยเป็นเพื่อนผมตั้งนาน อย่างกะได้พักฟรี เดินทางเที่ยวนี้ผมได้เจอแต่คนดีๆ เต็มไปหมด ได้ที่พักผมก็จัดการกางเต็นท์ เพราะกลัวฝนจะลงมาอีกเลยเลือกกางในใต้หลังคา อากาศดีสุดๆ ไปเลย ใครมาเที่ยวภูเรือลองพักทีนี้นะครับเจ้าของใจดีมากๆ บรรยากาศตอนเช้าเห็นหมอกและวิวด้วยเพราะที่พักผมอยู่บนเนินตรงทางเข้าอุทยาน หลังจากนั้นผมเก็บเต็นท์ออกเดินทางต่อวันนี้จะปั่นไปนอนที่จังหวัดพิษณุโลก บ๊ายบ่ายภูเรือ แวะเติมพลังแต่เช้าก่อนลุยต่อ
ออกจากภูเรือได้ไม่นาน แม่เจ้าสิ่งที่เจอ ไปต่อกัน Part 3 เลยจ้าลิ้งด้านบน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่