[CR] สวัสดี...เบตง

สวัสดีค่ะ  

ขอออกตัวก่อนนะคะว่า เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกค่ะ อยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทริปนี้ใช้กล้องมือถือถ่าย และรูปที่ได้มา ส่วนมากจะเป็นรูปถ่ายผ่านกระจกรถตู้มาอีกทีค่ะ เพราะระยะเวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน และภาระงานที่ต้องดำเนินการค่อนข้างมาก คนต่างถิ่นอย่างเราเลยได้เก็บภาพได้เท่านี้ เริ่มกันเลยเนอะ



วันที่ 11 มีนาคม 2558 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปสนามบินหาดใหญ่รอบ 6:30 น.
ครั้งแรกของชีวิตในการเดินทางไปจังหวัดสงขลาก่อนเดินทางค่อนข้างกังวลเล็กน้อย แต่เอาเข้าจริง ๆ การเดินทางจากหาดใหญ่ถึง อ.เมืองสงขลา ราบรื่นดี ไม่มีอะไรน่ากลัวแบบที่คิดจินตนาเอาไว้ เมืองเป็นเมืองปกติเหมือนจังหวัดอื่นๆ ที่เคยไปเยือน จะต่างบ้างก็ตรงที่มีมัสยิส หรือสิ่งก่อสร้างรูปทรงตามวัฒนธรรมภาคใต้ สำนักงานที่ไปทำงานอยู่ใกล้ชายทะเล บรรยากาศดีเชียว เข้าทำงานตามเป้าที่ตั้งไว้ ช่วงเย็นก่อนไปกินข้าว ก็ได้มีโอกาสเดินเล่นหน้าโรงแรมที่พัก

เนื่องจากทะเลสงขลา เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทย น้ำทะเลก็ไม่ใสสวยเท่าฝั่งอันดามัน หาดสิมิหลา ยาวสุดลูกหูลูกตา มีถุงบิ๊กแบคกั้นที่ชายหายยาวเป็นช่วงๆ เหตุเพราะน้ำทะเลซัดจนหาดพัง ได้คุยกับคนในพื้นที่เล่าว่า เพราะการสร้างท่าเรือน้ำลึก ก็เลยทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนทิศจนซัดฝั่งมากขนาดนี้ จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ


พี่เจ้าถิ่นที่เดินทางไปรับที่สนามบินชี้บอกว่า "โน่นๆๆ เกาะหนู เกาะแมว" ในหัวคิดเลยว่า "นี่เหรอ นิทานปรัมปราที่ฉันเคยได้อ่านสมัยเรียน" เกาะที่ดูแทบไม่ออกว่าหนูแมวเป็นตัวยังไง



หลังจากกินลมชมวิวสักพัก ก็ได้ไปกินข้าว คราวนี้เห็นเต็มตาเลย "เกาะหนู เกาะแมว" อืมมม เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาละ


ครอบครัวพากันเดินเล่น


บรรยากาศแถวร้านอาหาร


ค่ำคืนนี้จบที่เตียงนอน เพื่อตื่นมาเดินทางไปทำงานที่เบตง ซึ่งเป็นที่ ๆ อยากไปมาก ๆ และกังวลมาก ๆ อีกเช่นกัน

ตื่นเช้ามาบอกลาสงขลา แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปเบตง จังหวัดนี้ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมาย สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยทำ คือ "จับนมนางเงือก" ซึ่งทุกๆ คนก็บอกว่า "ถ้าไม่ได้จับมาไม่ถึงสงขลา" ก็คงจะจริง ฮ่าๆๆ เอาไว้มาใหม่ละกันเนอะ ขออำลาสงขลาด้วยภาพนี้ที่ได้จากการถ่ายผ่านกระจกรถตู้ก็แล้วค่ะ


12 มีนาคม 2558ประหลาดใจ

แอบตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปเมืองที่ไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี้จะได้ไปเหยียบที่นั่น ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่เคยได้ฟัง ได้อ่านในข่าวมากมาย ว่าพื้นที่แถบนั้นน่ากลัว หรือน่ากังวลในการเดินทางเข้าไป การเดินทางครั้งนี้จึงเลือกเดินทางเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงภัยโดยการออกนอกประเทศทางด่านสะเดา จ.สงขลา แล้วใช้เส้นทางของประเทศมาเลเซีย เพื่อเดินทางไปกลับเข้าประเทศอีกครั้ง ณ ด่านเบตง จ.ยะลา เราออกเดินทางจากตัวเมืองสงขลา เวลา 7.00 น. เดินทางถึง อ.เบตง ประมาณ 12.30 น. ถือว่าก็เดินทางยาวนานอยู่พอสมควร

ระหว่างทางได้พบเห็นอะไรแปลกใหม่ และความแตกต่างของสองประเทศชัดเจน ทั้งสภาพของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีความ สะอาด เป็นระเบียบ ระบบ ทันสมัย แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว วัดเบื้องต้นแค่เพียงห้องน้ำของสองประเทศที่จุดพักรถ หรือด่าน ตม. (ได้เห็นบ้านเมืองมาเลเซียแค่นั่งรถผ่านไม่ได้ลงจากรถหรือเที่ยวในประเทศเขาเลย) ห้องน้ำที่มาเลเซีย ดูสะอาด และน่าใช้บริการกว่าเยอะมากกก แถมฟรีอีกด้วย แต่ ตม.ไทยเหรอ ? ตรงกันข้ามมากกกกกก แถมเก็บเงินด้วย เจ๊เจ้าของห้องน้ำแกโทษ(คน)แขกทำสกปรก เลยไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี หมดคำจะเอ่ย
ระแนงไม้ข้างห้องละหมาด @มาเลเซีย


ประตูห้องน้ำ @มาเลเซีย


ทางหลวงของที่นี่ เก็บเงินค่าผ่านมาตลอดทาง มีด่านเก็บค่าผ่านทางแบบมอเตอร์เวย์บ้านเรา และจะพบเห็นรถซ่อมถนนได้เป็นช่วงๆ เพื่อให้ได้ใช้ถนนที่ดีอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน ระหว่างทางก็ได้เห็นต้นไม้ ดอกไม้ข้างทาง บางต้นก็เหมือนบ้านเรา อาชีพข้างถนน มีทั้งเกษตรและค้าขาย เห็นผืนนาที่มีรอยรถเกี่ยวข้าว เหมือนบ้านเรา และร้านขายผลไม้ข้างทาง เช่น แตงโม ตลาดนัด เหมือนในบ้านเรา และสิ่งหนึ่งที่เหมือนบ้านเราอีก แต่ดูหลอนๆ หน่อยก็คือ "ฮวงซุ้ย" หรือ "สุสานจีน" ที่อยู่ตรงเนินข้างถนน กลางคืนคงจะหลอนพิลึก


มีป้ายจราจร และป้ายบอกทางรูปแบบ และรูปภาพ แปลกๆ น่ารัก หลายรูป เช่น ป้ายเตือนทางข้าม รูปหญิงชายจูงกัน หญิงใส่กระโปรงพริ้วๆ หรือป้ายกลุ่มเด็ก ตรงหน้าโรงเรียน มอเตอร์ไซต์คันใหญ่ๆ(เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน) ป้ายสัญลักษณ์จราจรแปลกๆ เป็นต้น

บ้านเมืองก็มีบ้านรูปทรงน่ารัก ๆ และรถที่ใช้ก็คันเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตหรูหราไฮโซเงาวับ วิบวิ้งแบบบ้านเราเลย คิดว่าคงใช้รถเป็น"สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต" มากกว่าใช้รถเป็น "เจ้านาย" เหมือนบ้านเรา

สิ่งที่พบเห็นอีกอย่างก็คือ "ทางรถไฟ" ทางบ้านเขาดูสะอาด โล่ง ไม่มีต้นอ้อ กกธูปฤษี แบบทางรถไฟบ้านเรา เห็นแล้วก็ดูน่าอิจฉา ในความเป็นระเบียบงามตาในข้อนี้






แต่ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่ได้พบเห็นคือส่วนหนึ่งที่เห็นจากการนั่งรถเพื่อเดินทางผ่านเท่านั้น จริงๆ แล้ว บ้านเมืองเขาอาจจะไม่ได้น่าอยู่ ดี หรือ แย่ ไปแบบที่เราเห็นเพียงชั่วครู่ก็ได้

เมื่อเดินทางเข้าด่านเบตง ความตื่นตาตื่นใจมาเยือนอีกครั้ง เมืองที่เคยได้เห็นในหนัง "โอเค...เบตง" อยากจะไปมานานแล้ว มันจะสวยเหมือนในหนังมั้ย ? พอเห็นแล้ว ก็หลงเลย เมืองเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา มันดูสวยงาม สงบ มากๆ


กินข้าวเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ก็ลุยงานต่อไป ทำงานเสร็จแล้วเลยได้เดินมาถ่ายรูป มัสยิดกลางเบตง  สวยดีนะ ท้องฟ้าสดใส เลยจัดรูปมาชุดหนึ่ง



ช่วงเย็นก่อนกินข้าว เจ้าถิ่นพาไปถ่ายรูปจุดต่างๆ ของเบตง สวย ประทับใจมากๆ หลงรักเลยเบตง เอาใจฉันไปเต็มๆ ไม่ว่าจะมุมไหน วิวไหนน่าหลงไหล ค้นหา อากาศดี บ้านเมืองไม่ใช่ตึกใหม่อะไร แต่มีสเน่ห์มากๆ


ตู้ไปรษณีย์เก่าแก่ที่สุดในเบตง



วิวทิวทัศน์จากมุมสูงของห้องพักโรงแรมที่เบตง


วัดพุทธที่เบตง




เบตงยามค่ำคืน ใช่ว่าจะหลับไหล แม้เมืองจะเงียบ แต่ก็ยังมีสเน่ห์ ชีวิตของนกนางแอ่นตัวน้อยๆ นับหมื่นตัว เกาะนอนหลับพักปีก ณ สายไฟฟ้า วงเวียนหอนาฬิกาเบตง ที่พื้นมีรอยเปื้อนขี้นกตลอดทาง สเน่ห์และเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบตง

อุโมงค์ @เบตง


มาว่ากันเรื่องอาหาร ใครๆ ก็ว่ามาเบตง "ไก่เบตง" นี่สิอร่อย มันไม่ใช่ของกินหาง่ายเลยนะ ขนาดเดินทางไปกับผู้ใหญ่ ยังได้กินแค่ไก่พื้นเมืองอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไก่เบตงเลย น่าจะหายากพอๆ กับ "ทุเรียนนนท์" ประมาณนั้นแหละ แต่ก็ยังมีอาหารแปลกๆ อร่อยๆ ให้สนใจมากกว่าไก่เบตง ที่ไม่ได้เห็นและลิ้มลอง






ตื่นเช้ามาพบกับพระอาทิตย์ที่รอต้อนรับที่ริมหน้าต่าง อากาศดี๊ดี สดชื่น และวิวสวยมากกก


เจ้าถิ่นที่ร่วมเดินทางก็อารมณ์ดีเหลือเกิน พอไม่รู้จะตอบคำถามว่ามันคือต้นอะไร ดอกอะไร หรือสัตว์พันธุ์อะไร ก็จะบอกและตอบว่า "ต้นเบตง" "ดอกเบตง" "กบเบตง" "ผักเบตง" ทุกอย่าง "เบตง" หมด มันเป็นสีสันของการสนทนาระหว่างเดินทางไกลครั้งนี้

เสร็จภารกิจได้เวลาอำลาเบตง @ชายแดนเบตง - มาเลเซีย


เบตงทำให้หลุดคำพูดว่า "สวยมาก" "หลงเลย" "มีความสุข" ออกมาได้แบบไม่รู้ตัวตั้งหลายครั้ง ขอบคุณนะคะสำหรับการเดินทางครั้งนี้ ทั้งงานที่ราบรื่น บรรลุตามเป้าหมาย และการได้พบได้เห็นสิ่งต่าง ๆ พร้อมเรื่องเล่าคำบรรยายระหว่างเดินทาง ขอบคุณโอกาสที่มอบให้และการดูแล อำนวยความสะดวกในทุกๆ เรื่อง ซาบซึ้งใจมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาส อยากไปเยือนอีกสักครั้ง เพราะการเดินทางครั้งนี้มันยิ่งตอกย้ำเลยว่า

" (มัน)โอเค(เลยนะ)เบตง"



ปล. ภาพและเรื่องราวนี้เคยเขียนเป็นกระทู้ถามตอบแล้วครั้งนึงค่ะ
ชื่อสินค้า:   เบตง ใต้สุดแดนสยาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่