พ่อแม่ที่หวงลูกตัวเองเกินเหตุ เค้าคิดอะไรกันอยู่เหรอคะจากมุมองผู้ใหญ่

สวัสดีค่ะ  นี่เป็นกระทู้แรกของหนู  ผิดพลาดประการใดหนูเองก็ขอโทษด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะหนูชื่อเกตค่ะ ตอนนี้อยู่ ม5 อายุ 16 ย่าง 17 ปีค่ะ
ที่หนูตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ก็น่าจะเป็นเพราะหนู เริ่มรู้สึกไม่เข้าใจแม่ของตัวเอง ว่าทำไมถึงหวงลูกสาวนักหนา หลายๆครัง  หนูก็พยายามพูดให้แม่เข้าใจ  แต่แม่ก็จะว่ากลับมาทุกครั้งว่าหนูก็ไม่เข้าใจแม่  ถ้าไม่มีลูกหนูก็ไม่รู้หรอก ตลอดมาหนูก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับแม่นักเลย  อย่างแรก หนูไม่อยากทะเลาะเพราะหนูกลัวแม่เหนื่อยค่ะ ถ้าหนูเถียงแม่ไปแม่จะยิ่งโกรธหนู หนูไม่อยากให้แม่มาเหนื่อยกับหนูเลยค่ะ  มันบาปด้วย หนูไม่อยากให้บุพการีมามีปัญหาเพราะลูก เค้ามีบุญคุณเราหลีกเลี่ยงการทะเลาะไรได้ก็อยากหลีกเลี่ยง แต่ถึงยังงั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะน้อยใจบ้างงอนบ้าง ที่จริงก็ไม่อยากหงุดหงิดใส่แม่เลยค่ะ หนูรู้ว่ามันไม่ดี

เรื่องเริ่มมาจากว่า แม่เป็นคนที่หวงและห่วงเกตมากค่ะ  เกตมีพี่ชายอยู่คนนึง  อายุ19 เรียนอยู่อเมริกา แม่เค้าก็ไม่ค่อยห่วง  ให้เหตุผลว่าเป็นผู้ชายอยากทำไรก็ได้   อ้อ เวลาเกตบอกว่าแม่หวงนี่หลายคนอาจจะคิดว่าก็คงแค่กันผู้ชายรึเปล่า  ไม่ให้ไปเที่ยวกลางคนกลางคืนรึเปล่า อ๋อ ไม่ใช่เลยค่ะ  แม่หวงในเรื่องธรรมดาๆจนทำให้หนูลำบากใจมากๆค่ะ

1) เรื่องของการไปไหนมาไหน
แม่จะเป็นคนที่ไม่ยอมให้เกตไปไหนมาไหนคนเดียวเลยค่ะ แม้แต่ขึ้นบีทีเอสสักสองสถานีก็ห้ามแล้ว ถ้าเกตอยากจะเข้าโรงหนัง  เกตต้องาพ่อแม่พี่ชายหรือเพื่อนไปด้วยเท่านั้น  แม่บอกว่าพวกห้างมันอันตราย ลูกเพื่อนแม่เคยโดนฉกโทรศัพท์และก็ชอบมีข่าวโปะยาสลบ  แม่เลยไม่อยากให้หนูไปคนเดียวเพราะอยู่แค่ม5 ยังไม่ถึงวัย ซึ่งอันนี้หนูก็ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ  หนูมีเพื่อนหลายคนที่เป็นลูกสาวคนเดียว  ถามว่าพ่อแม่หวงมั้ย  เค้าก็หวงนะ แต่แค่ให้ขึ้นบีทีเอส ดูหนังคนเดียว ไปไหนมาไหนได้บ้าง  พ่อแม่เค้าก็ให้ค่ะ แต่แม่หนูก็ยืนยันว่า  แม่ไม่เชื่อหรอก มีไหมพ่อแม่ที่ปล่ยลูกสาวงี้ (หนูคิดว่าเด็กม5นี่ควรปล่อยได้บ้างละนะคะแต่แม่บอกหนูไม่มีเหตุผล) T_T แม่บอกยังไงๆก็ยังไม่ถึงวัย

หนูพยายามบอกแม่ว่า  แม่คะ  เกตเข้าใจนะว่าแม่เป็นห่วง  เกตก็ไม่ได้จะไปขึ้นแท๊กซี่คนเดียวตอนสองสามทุ่ม ถ้าแม่ห่วงอย่างงั้นเกตเข้าใจเพราะมันอันตรายจริงๆ อต่ตอนนี้บ่ายโมงละแทนที่เกตจะให้แม่มารับถึงสยามซึ่งรถติดมาก เกตนั่งไปบางหว้าละให้แม่สอยก็ได้ แต่แม่บอกว่าไม่มีวันหรอก หรือถ้าเกตจะไปดูหนังคนเดียว แม่ก็ยืนกรานว่ามันไม่ดีและไม่อนุญาตให้ไปคนเดียวต้องมีคนไปด้วยเท่านั้น

2) การไปเรียนต่อต่างประเทศ
เกตเป็นคนที่เรียนเก่งมากและโปรไฟล์ค่อนข้างดีค่ะ เกตอยากไปเรียนต่อที่เมืองนอกเหมือนพี่ชาย (พี่ชายไปตอนม5 ไปอยู่ที่นั่นคนเดียวเลย แม่ก็ให้) แต่แม่บอกว่า  แม่ไม่ได้ห้ามไป แต่ถ้าเกตไป แม่จะย้ายบ้านไปอยู่ที่ตปท. แม่ไม่ได้ขู่ แม่บอกว่าแม่พูดจริงๆ แม่ไม่ปล่อยให้เกตไปอยู่ที่นั่นคนเดียวหรอก

เกตพอมหาลัยเอง  เกตก็ฝันอยากจะมีชีวิตวัยรุ่นสนุกๆบ้าง อยากยู่คนเดียว ทำอะไรกับเพื่อนฝูงโดยไม่ต้องมีแม่ไปตามคุมอยู่ใกล้ๆ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่เกตยกเลิกการยื่นใบสมัครสอบที่ตปท ทั้งๆที่เกตได้ไปถึงรอบสัมภาษณ์ของโรงเรียนดังมากๆในประเทศอังกฤษ แม่ก็บอกว่าดีแล้วล่ะ ไม่ต้องไปหรอก อยู่กับแม่ดีแล้วแม่ห่วง ยังเด็กอยู่ อันนี้เราก็พยายามเข้าใจแม่ค่ะ

3) ความรักในวัยเรียน
เกตเป็นเด็กกิจกรรมที่เรียนได้ดีมากมาตลอด ได้ทุนมาเยอะ และก็มีผู้ชายเข้ามาจีบบ้างค่ะ  ทั้งชีวิตนี่แค่สามคนเอง แต่พอปีที่แล้ว มีรุ่นพี่ห่างกันสามปีมาจีบเกต เกตรู้จักพี่คนนี้มาได้เก้าปีละค่ะเพราะเป็นคนรู้จักพี่ชายตั้งแต่พี่ชายเด็กๆ แม่เราก็รู้จักกับพี่คนนี้ดีมาตลอด รู้ด้วยว่าพี่เค้าเรียนดีละนิสัยดีขนาดไหน เรารู้สึกว่าความรักในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องเสียหายละเรากับพี่อามก็ช่วยกันเรียนด้วย ตั้งแต่พี่เค้ามาจีบ (ปีนึงละค่ะ) เกรดเกตก็ไม่เคยตก ละเกรดก็ไม่เคยวอกแวกหรือเสียการเรียนเลยค่ะ

แม่เค้ารู้นะคะว่าพี่เค้ามาจีบ เกตบอกพี่อามแต่ต้นแล้วว่าแม่ไม่โอเคนะพี่ คงไม่ให้ใแฟนไปอีกนาน แต่พี่อามเชื่อว่าเค้ารอได้ละเค้าจะพยายามเข้าหาแม่อย่าจริงใจสุดๆเพราะพี่เค้ายืนยันว่าชอบเกตมากจริงๆ (เกตดันเป็นรักแรกเค้าด้วย) เกตชอบเค้าค่ะ เค้าก็รู้ดี เราเป็นคนที่ช่วยกันในด้านการเรียน ในด้านจิตใจ พี่เค้าก็คอยดูแลเรามีไรเค้าก็อยู่กับเราตลอดแม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน (อาทิตย์ละครึ่งชม) แต่แน่นอนแม่เกตก็ไม่ยอมหรอกค่ะ ซึ่งเกตเข้าใจว่าผู้ใหญ่ไม่ชอบให้เด็กมีความรักเพราะว่าจะเสียการเรียนไม่ก็พากันไปมั่วสุมหรือทำไรไม่ดีกัน เกตเลยคิดว่าเกตไม่ควรจะปิดแม่และควรเปิดอกเพื่อให้แม่ไว้ใจมากกว่า

แต่เกตคิดผิดค่ะ แม่ก็ยิ่งไม่ไว้ใจพี่เค้าเลยทั้งๆที่แม่รู่จักพี่เค้ามานานละตะก่อนแม่ก็ชอบละชมพี่เค้านักหนา ว่าทั้งน่ารักทั้งเก่งแค่พอรู้ว่าพี่เค้าชอบเกตขึ้นมา ทุกอย่างก็จบเห่ แต่พี่อามเค้าก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ พี่อามหลายครั้งก็จะพยายามมาหาที่บ้าน(แม่ห้ามให้ไปไหนกัยพี่อามเลย ถ้าเจอพี่อามได้คือต้องพาพี่เค้ามาบ้าน) พี่เค้าก็จะพยายามคุยกับพ่อแม่ มากินข้าวด้วย มาติวหนังสือ แม่ก็รู้เห็นหมดทุกอย่างไม่มีอะไรน่าเกลียด แต่ถึงตอนนี้พี่เค้าจีบมาปีนึงแม่ยังห้ามให้ไปเดินในที่สาธารณะกันสองคนเลยค่ะ ถ้าจะไปต้องมีคนตามไปด้วย ซึ่งเกตว่ามันค่อนข้างไม่วมเหตุสมผลสักเท่าไหร่เพราะเกตพยายามเปิดอกไม่ปิดบังไรแม่แต่แม่กลับไม่ให้ความไว้วางใจกลับมา พี่เค้าบอกว่าเค้าจะพยายามเรื่อยๆแหละ จะอีกสักสองสามปีจะเป็นไรไป พี่อามยังไงก็ขอพยายามไปอย่างงี้ สักวันแม่ยอมรับพี่ละพี่จะไปขอเกตเป็นแฟนนะ (เกตไม่รู้จะพูดยังไง พี่อามเป็นคนดีมาก เค้ารักใครละรักจริงด้วย เป็นคนที่ให้เกียรติเรามากๆไม่เคยล่วงเกินไร)

แม่รู้ แม่เห็นว่าพี่เค้าดีมาก แม่เห็นว่าเกตการเรียนไม่เคยตก แม่เห็นละรู้ว่าเกตไม่ปิดบังไรแม่เลย พยายามให้อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด แต่แม่เกตไม่เชื่อใจเกตในเรื่องนี้เลย ในขณะที่พ่อแม่เพื่อนเกตหลายคนจะโอเคกับการที่ลูกมีแฟน ลูกเค้าเลยกล้าที่จะเล่าจะปรึกษาเลยไม่ต้องแอบๆซ่อนๆ มีครั้งนึงเกตแอบออกไปหาพี่เค้าเหมือนกันโกหกว่าไปกับเพื่อน สุดท้ายเกตนั่งร้องไห้เพราะเกตโกหกแม่ไป เกตรู้ว่าเกตไม่ควร แต่เป็นเพราะว่าแม่ห้าม เกตเลยจำเป็นต้องแอบไป ถ้าแม่ให้เกต เกตคงบอกแม่ทุกอย่างละแม่น่าจะสบายกว่านี้แต่แม่ก็ไม่ฟัง

4)การแต่งกาย
แม่เกตห้ามเรื่องการแต่งกายหลายอย่างเช่นการใส่ขาสั้นที่สั้นกว่าหัวเข่า ทั้งชีวิต เกตใส่แต่กางเกงของพี่ชายที่ใหญ่โคร่งละไม่เคนได้ใส่กางเกงขาสั้นแบบใครๆเค้า คำว่าขาสั้นของเกตคือขึ้นมาจากเข่าแค่คืบนะคะ ไม่ใช่สั้นเสมอหูแบบที่วัยรุ่นนิยมใส่ แม่บอกว่าชอบเหรอ โชว์ขาอ่อนให้ผู้ชายมาทำไรง่ายๆ เราบอกแม่ไปว่าแม่พารานอยด์เกินไป แม่บอกว่าอยากโชว์มากนักหรือไง เราไม่เข้าใจเลย ถ้าเราใส่สั้นกว่าเข่าละจะมีผชมามอง งั้นผญสมัยนี้มิวายโดนจับข่มขืนไปหมดแล้วเหรอ? กางเกงขาสั้นที่เกตอยากใส่ไม่ได้โป๊อะไรเลย สมัยนี้มันสั้นกว่านี้เยอะแยะ แต่แม่ก็จะบอกว่า ใครใส่อะไรจำเป็นมั้ยที่เราต้องใส่โชว์ตามเค้า? โอย เกตนี่เครียดมากๆเลยค่ะ เพราะเกตไม่คิดว่ามันสั้นเลย หลายครั้งแม่พยายามยัดเยียกให้ใส่กางเกงขายาวแต่เกตบอกว่ามันร้อนแม่ก็เลยบอกว่าแม่ก็ใส่ขายาว ไม่เห็นร้อน เกตอย่ามาเว่อร์ ซึ่งเกตไม่ได้เวอร์ละเกตก็ไม่ได้อยากโชว์ด้วย .__. ที่แปลกอย่างนึงคือแม่อนุญาตให้ใส่กระโปรงได้ ขอแม้เหมือนเดิมคือยาวกว่าเข่า แต่เกตก็งง เพราะที่จริงกระโปรงควรจะโป๊กว่ากางเกงขาสั้นสิ

... ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะที่เกตอยากมาถามผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่มีลูกอายุไล่เลี่ยกับเกต เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดารึเปล่า แม่ของเกตเกินไปมั้ย หรือมันเป็นที่เกตเอง

อ๋อ ถ้าสงสัยว่าพ่อไปไหน พ่อเกตสนิทกับเกตค่ะ พ่อจะสมเหตุสมผลแต่ตอนนั้นพ่อเคยให้เกตนั่วบีทีเอสไปรอพ่อคนเดียวที่ห้าง แม่รู้แม่อาละวาดละว่าพ่อเลย พ่อไม่ค่อยมีสิทธิ์ไปต่อล้อต่อเถียงกับแม่มากหรอกค่ะ เลยกลายเป็นว่า เกตก็เป็นงี้ต่อไป

ถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าเกตควรคุยกับแม่อย่างไรดีให้ท่านเข้าใจโดยท่านไม่ต้องเหนื่อยกับเกตคะ ละมีพ่อแม่คนไหนมั้ยที่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรืองปกติ น่าจะผิดที่เกตที่เรียกร้องหลายอย่างมากไป (แม่เกตบอกว่าเกตจะเรียกร้องไรนักหนา :/) เกตอยากรู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ค่ะ

แต่ถึงยังไงเกตก็รักแม่มากนะคะ เกตโชคดีมาก เกิดมาในครอบครัวที่อบอ่น แม่ไม่เคยบังคับให้เกตเป็นอะไรเลย ไม่ค้องเป็นหมอเป็นวิศวะ เป็นไรก็ได้ที่เกตชอบ ละก็คอยอยู่กับเกตมาตลอด เกตทราบดีค่ะว่าเกตโชคดีมากแค่ไหนที่มีพ่อแม่คอยดูแล ดีกว่าพ่อแม่ไม่รักละปล่อยทิ้ง

เกตแค่อยากรู้เฉยๆค่ะว่าพ่อแม่ี่หวงลูกขนาดนี้เค้าคิดอะไรอยู่ ละทำไมถึงทำอย่างงี้กับลูกคะ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
สรุปง่ายๆ

อ่านรวมๆแล้ว แม่คุณเยอะกว่าแม่คนอื่นๆ บางเรื่องที่ควรปล่อยก็ไม่ปล่อย
เลี้ยงแบบนี้จะมีปัญหาในอนาคต เช่น คุณอาจจะตามคนไม่ทัน รู้จักคนน้อย
สังคมแคบ  ในกรณีนี้ผมไม่เห็นที่จะตามแม่ เพียงเพราะเป็นแม่ ให้แม่สบายใจ
เพราะผลเสียมันตามมาอีก เช่น การเรียนเมืองนอก ภาษีอะไรได้กว่า ได้ภาษา
คุณจะสบายเลยเมื่อทำงาน ใช้ชีวิตคนเดียว ดูแลตัวเองเป็น  หรืออย่างการขึ้น
ขนส่งสาธารณะจะมำให้คุณไปไหนมาไหนเป็น แม้ไม่มีรถส่วนตัว รู้ว่าขึ้น
ฺรถเมล์สายไหนไปไหน บีทีเอสสายไหนไปไหน มันทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเยอะ
ผลดีที่ตามมามันเยอะกว่าที่คุณทำตามแม่

อีกอย่างที่ผมสังเกตจากการอ่านบทความของคุณคือ คุณเป็นเด็กหัวอ่อน เรียบร้อย เรียนดี
ไม่เคยเถียง เหมือนไข่ในหิน แล้วลักษณะเด็กแบบคุณมักจะอ่อนต่อโลก ซึ่งมันเกิดจากการ
เลี้ยงดู บวกกับอุปนิสัยของคุณ ทำให้แม่คุณกังวลที่คุณจะออกไปเจอโลกภายนอก
ก็เพราะแม่คุณเลี้ยงมาแบบนี้

ถ้าเป็นผม(กลายเป็น ผญ) ผมเถียงยับไปล่ะ ชีวิตผม ทางเดินผม ผมเลือกเอง เลี้ยงแบบนี้
เมื่อไหร่จะโต โตแบบทางที่ตัวเองเลือก วันๆเกาะติดกับแม่ ห่วงนั่นห่วงนี่ แม่ตายไปผมก็
ต้องอยู่คนเดียวอยู่ดี ทำไมต้องมาบงการด้วย(กรณีแม่คุณผมเรียกว่าเข้ามาควบคุมชีวิต
อย่างมากเลยล่ะ)


อยากมีชีวิตที่เลือกเดินเองก็ต้องสู้ครับ ถ้ามัวแต่ตามคนอื่น ยอมหัวอ่อนก็ไม่มีทางที่คุณ
จะทำในสิ่งที่คุณต้องการได้ล่ะครับ

ขอให้โชคดีล่ะกันครับ

-------------------------------------------

เพิ่มสักหน่อยผมอ่านหลายความเห็นบอกให้เชื่อฟังแม่(แบบหลับหูหลับตาทำๆไป) แต่ผมอยากให้คุณ ใช้สมองวิเคราะห์นะ
คุณเป็นคนมีความคิด ที่ผมเห็นอย่างนึงคือรู้จักตั้งคำถามดีแล้ว กับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมขอชื่นชม
ไม่ใช่ใครบอกอะไรแล้วหลับหูหลับตาทำตาม สุภาษิตโบราณถึงจะมีคำว่า
อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่อย่าลืมว่าก็มีคำว่า พ่อแม่รังแกฉันเหมือนกัน
ขอให้คุณแยกให้ออกระหว่างอันไหนที่แม่คุณสอนเปรียบเสมือนอาบน้ำร้อนมาก่อน
อันไหนเปรียบเสมือนพ่อแม่รังแกฉัน ผู้ใหญ่ไม่ได้ถูกเสมอไป
วิเคราะห์แล้วดื้ออย่างที่ผมบอกไปให้ถูก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่