สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอัดอั้นใจ อยากหาใครสักคนรับฟัง จะช่วยด่า ช่วยบอก ช่วยสอน หรืออะไรก็ได้........
เราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยในกทม.แห่งหนึ่ง เราจะสบายๆ ง่ายๆ ตัวเราเองเป็นคนอ่อน ๆ แบบออกแนวมองโลกในแง่ดี ใครมีปัญหาอะไรก็มักจะมาถามความเห็นจากเราก่อน เราจะชอบตอบแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคิดค่ะ ไม่ใช่ว่าแตกแยกหรืออะไรนะค่ะ เราแค่รู่สึกว่ามีอีกหลาย ๆ มุม ที่ยังไม่รู้แน่ชัด ทำไมต้องตัดสินว่าดีหรือไม่ดีแล้ว อีกอย่างก็คือให้ความสับสนแก่ชาวบ้านนั่นเองค่ะ 555555555 เราเห็นคนที่มั่นใจในความคิดตัวเองแบบมั่นใจมาก ๆ เราก็จะถามจะแสดงว่ารู้สึก ความเห็นส่วนตัวไป คนส่วนใหญ่จะชอบนะค่ะ เพราะเหมือนมีประเด็นให้ถกเถียงกันดี เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ..... เราคุยกับคน ๆ นึง ขอแทนว่า “หนึ่ง”นะค่ะ เราศึกษาดูใจกันมาเป็นปี แต่ปัญหาของเราก็คือ หนึ่งเขาเป็นคนไม่ยอมคนค่ะ หนึ่งไม่ชอบให้เราเถียงหรือคิดต่างจากเขา พอเราแสดงความคิดเห็นและพยายามอธิบาย เหตุการณ์จะกลายเป็นหนึ่งเริ่มเสียงดังขึนเรื่อย ๆ สีหน้าเริ่มออกว่าไม่พอใจและหนึ่งก็จะตัดบทเองตลอดว่า “เงียบ ๆ ฟังไอนะ........” แล้วเราก็ต้องเงียบเขาค่ะ พอหนึ่งพูดจบเราก็แสดงความเห็นเรา หนึ่งก็จะหงุดหงิดแล้วแสดงท่าทางคล้าย ๆ รำคาญ แล้วก็จะพูดทำนองว่า “ยูไม่เข้าใจอ้ะ พอ ๆ” แล้วตอนจบของเรื่องคือเราทั้งคู่จะเงียบใส่กันประมาณ10นาที เป็นแบบนี้มาตลอดปีที่คุยกันค่ะ มีหลายครั้งนะค่ะที่มันเป็นความรุนแรงถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์ แต่หนึ่งก็จะง้อตลอด บอกจะแก้ไขปรับปรุงส่วนที่ชอบขึ้นเสียงแสดงท่าทางไม่ดีใส่เรา เราก็ใจอ่อนตลอดค่ะ เราไม่ได้จะบอกว่าหนึ่งผิดแล้วเราถูก หรือเราผิดแต่หนึ่งถูก คือมันลึกซึ้งกว่านั้นเพราะเราทะเลาะกันเพราะท่าทางแบบนั้นบ่อยตลอดปีค่ะ ตอนแรกเราจะไม่ค่อยพูด ง้อแปปเดียวเราก็หาย แต่พอนาน ๆ ไปเราเริ่มไม่ไหว เหมือนโดนจำกัดความคิดว่าต้องเหมือนหนึ่งนะ ไม่เหมือนคือไม่ถูกนะ เราจึงตระหนักได้แล้วว่าอย่าถือสา อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ หนึ่งเป็นแบบนี้ตลอดและคงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เราแก้ที่ความรู้สึกตัวเองน่าจะเวริกกว่า แล้วเราก็พยายามไม่ถือสาหนึ่งค่ะ เราพยายามไม่เถียงเขาให้ยืดยาว เมื่อไหร่ที่ท่าทางหนึ่งเริ่มออกเราจะหยุดพูดทันที จนมาถึงเหตุการณล่าสุดค่ะ เรานั่งทานข้านกันเป็นกลุ่ม แล้วหนึ่งพูดบางอย่างขึ้นมาประเด็นหนึง ทุกคนฟังค่ะ พอพูดจบเราก็แสดงความเห็นว่าอาจจะเป็นแบบนี้แบบนั้นก็ได้นะ แล้วหนึ่งก็จะบอกแบบเริ่มมีอารมณ์ ประมาณว่าหนึ่งเคยเห็นเคยเจอเคยฟังมา เราก็ตอบประมาณอาจจะไม่ใช่ก็ได้ มันก็เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่ คราวนี้หนึ่งโมโหใส่เราค่ะ บอกว่าเราโลกสวย พูดอะไรไม่ฟัง หนึ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ ๆ แล้วเราก็เริ่มรู้สึกแย่ค่ะ เพราะมันต่อหน้าเพื่อนสนิทเรา หนึ่งก็บ่นว่าเราชอบเถียง ไม่รู้อะไรแล้วชอบเถียง เราเริ่มจะร้องไห้เลยทำเป็นตักอาหารค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาหารให้ตักบนโต๊ะแล้ว เพื่อนก็ขำท่าทางเรา เลยแซวว่า ที่หลังห้ามเถียง ห้ามคิดต่าง เพราะเราผิดที่พูดออกมา เงียบปากไปเลยทีหลัง แล้วก็ขำกันทั้งโต๊ะค่ะ ยกเว้นเรากับหนึ่ง พอแยกย้ายกันกลับบ้านเรารู้สึกเลยว่าจุกอกมากค่ะ เหมือนคิดว่ายอมรับได้แล้วนะ แต่ทำไมยังรู้สึกแย่อยู่อีก มันจุกมาก ๆ ค่ะ แล้วพอตอนเรากลับบ้าน เราก็มีปากเสียงกับหนึ่งอีก หนึ่งบอกว่าเราทำให้เพื่อน ๆ มองหนึ่งไม่ดี ทำให้มองหนึ่งเป็นคนไม่ฟังคนอื่น ณ จุด ๆ นี้ เราน้ำตาแตกเลยค่ะ เราแอบร้องไห้ เราไม่รู้จะพูดยังไง เราคุยกับหนึ่งหลายรอบมาก ๆ แล้ว หนึ่งบอกจะปรับปรุงตัวเอง เราสัญญากันทุกครั้ง ครั้งนี้ถ้าเราพูดหนึ่งก็คงจะพูดแบบเดิม เรากลัวเราจะรู้สึกแย่ค่ะ เราพยายามเปลี่ยนมุมมอง เรารู้ว่าหนึ่งไม่ยอมใคร หนึ่งจะย้อนเราตลอด หนึ่งย้อนเราได้ทุกเรื่อง ทะเลาะกันหนึ่งจะไม่ยอมผิดคนเดียว ตอนจบแล้วเราจะต้องมีส่วนผิดด้วยเสมอ สิ่งที่เรารู้สึกตกใจมากคือ ทุกครั้งที่เราเคลียร์ปัญหากัน หนึ่งจะมองข้ามสิ่งที่ตัวเองทำ ข้ามแบบข้ามไปเลย เหมือนหนึ่งไม่เคยทำในเหตุการณตอนนั้น หนึ่งจะจำได้แค่รีแอคแย่ ๆ ของเรา ซึ่งเราจะฟูมฟายหลังจากฟังหนึ่งพูดถึงเราจบว่าทำไมลืมเรื่องของตัวเองไปหมด ทำไม ทำไมมันกลายเป็นคนล้ะประเด็นกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ คำถามเต็มหัวเรา หนึ่งจะเริ่มอ่อนลงเมื่อเราร้องไห้แบบไม่ไหวแล้วกับเขา หนึ่งจะเริ่มคิดได้ว่าได้ทำแบบนี่กับเรานะ แล้วมันก็จะวนเป็นวงกลม เราดีกันสัญญากัน แล้วก็เป็นอีก เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหม เราไม่อยากคบใครหลาย ๆ คน เราอยากพยายามต่อไป เรารู้ว่าเรายังไหว แต่เรากลัวว่าหนึ่งจะไม่ใช่คนในอนาคตของเราจริง ๆ ค่ะ ......
ที่เป็นอยู่คือ "ความรัก" หรือ "ความอดทน"
เราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยในกทม.แห่งหนึ่ง เราจะสบายๆ ง่ายๆ ตัวเราเองเป็นคนอ่อน ๆ แบบออกแนวมองโลกในแง่ดี ใครมีปัญหาอะไรก็มักจะมาถามความเห็นจากเราก่อน เราจะชอบตอบแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคิดค่ะ ไม่ใช่ว่าแตกแยกหรืออะไรนะค่ะ เราแค่รู่สึกว่ามีอีกหลาย ๆ มุม ที่ยังไม่รู้แน่ชัด ทำไมต้องตัดสินว่าดีหรือไม่ดีแล้ว อีกอย่างก็คือให้ความสับสนแก่ชาวบ้านนั่นเองค่ะ 555555555 เราเห็นคนที่มั่นใจในความคิดตัวเองแบบมั่นใจมาก ๆ เราก็จะถามจะแสดงว่ารู้สึก ความเห็นส่วนตัวไป คนส่วนใหญ่จะชอบนะค่ะ เพราะเหมือนมีประเด็นให้ถกเถียงกันดี เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ..... เราคุยกับคน ๆ นึง ขอแทนว่า “หนึ่ง”นะค่ะ เราศึกษาดูใจกันมาเป็นปี แต่ปัญหาของเราก็คือ หนึ่งเขาเป็นคนไม่ยอมคนค่ะ หนึ่งไม่ชอบให้เราเถียงหรือคิดต่างจากเขา พอเราแสดงความคิดเห็นและพยายามอธิบาย เหตุการณ์จะกลายเป็นหนึ่งเริ่มเสียงดังขึนเรื่อย ๆ สีหน้าเริ่มออกว่าไม่พอใจและหนึ่งก็จะตัดบทเองตลอดว่า “เงียบ ๆ ฟังไอนะ........” แล้วเราก็ต้องเงียบเขาค่ะ พอหนึ่งพูดจบเราก็แสดงความเห็นเรา หนึ่งก็จะหงุดหงิดแล้วแสดงท่าทางคล้าย ๆ รำคาญ แล้วก็จะพูดทำนองว่า “ยูไม่เข้าใจอ้ะ พอ ๆ” แล้วตอนจบของเรื่องคือเราทั้งคู่จะเงียบใส่กันประมาณ10นาที เป็นแบบนี้มาตลอดปีที่คุยกันค่ะ มีหลายครั้งนะค่ะที่มันเป็นความรุนแรงถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์ แต่หนึ่งก็จะง้อตลอด บอกจะแก้ไขปรับปรุงส่วนที่ชอบขึ้นเสียงแสดงท่าทางไม่ดีใส่เรา เราก็ใจอ่อนตลอดค่ะ เราไม่ได้จะบอกว่าหนึ่งผิดแล้วเราถูก หรือเราผิดแต่หนึ่งถูก คือมันลึกซึ้งกว่านั้นเพราะเราทะเลาะกันเพราะท่าทางแบบนั้นบ่อยตลอดปีค่ะ ตอนแรกเราจะไม่ค่อยพูด ง้อแปปเดียวเราก็หาย แต่พอนาน ๆ ไปเราเริ่มไม่ไหว เหมือนโดนจำกัดความคิดว่าต้องเหมือนหนึ่งนะ ไม่เหมือนคือไม่ถูกนะ เราจึงตระหนักได้แล้วว่าอย่าถือสา อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ หนึ่งเป็นแบบนี้ตลอดและคงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เราแก้ที่ความรู้สึกตัวเองน่าจะเวริกกว่า แล้วเราก็พยายามไม่ถือสาหนึ่งค่ะ เราพยายามไม่เถียงเขาให้ยืดยาว เมื่อไหร่ที่ท่าทางหนึ่งเริ่มออกเราจะหยุดพูดทันที จนมาถึงเหตุการณล่าสุดค่ะ เรานั่งทานข้านกันเป็นกลุ่ม แล้วหนึ่งพูดบางอย่างขึ้นมาประเด็นหนึง ทุกคนฟังค่ะ พอพูดจบเราก็แสดงความเห็นว่าอาจจะเป็นแบบนี้แบบนั้นก็ได้นะ แล้วหนึ่งก็จะบอกแบบเริ่มมีอารมณ์ ประมาณว่าหนึ่งเคยเห็นเคยเจอเคยฟังมา เราก็ตอบประมาณอาจจะไม่ใช่ก็ได้ มันก็เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่ คราวนี้หนึ่งโมโหใส่เราค่ะ บอกว่าเราโลกสวย พูดอะไรไม่ฟัง หนึ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ ๆ แล้วเราก็เริ่มรู้สึกแย่ค่ะ เพราะมันต่อหน้าเพื่อนสนิทเรา หนึ่งก็บ่นว่าเราชอบเถียง ไม่รู้อะไรแล้วชอบเถียง เราเริ่มจะร้องไห้เลยทำเป็นตักอาหารค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาหารให้ตักบนโต๊ะแล้ว เพื่อนก็ขำท่าทางเรา เลยแซวว่า ที่หลังห้ามเถียง ห้ามคิดต่าง เพราะเราผิดที่พูดออกมา เงียบปากไปเลยทีหลัง แล้วก็ขำกันทั้งโต๊ะค่ะ ยกเว้นเรากับหนึ่ง พอแยกย้ายกันกลับบ้านเรารู้สึกเลยว่าจุกอกมากค่ะ เหมือนคิดว่ายอมรับได้แล้วนะ แต่ทำไมยังรู้สึกแย่อยู่อีก มันจุกมาก ๆ ค่ะ แล้วพอตอนเรากลับบ้าน เราก็มีปากเสียงกับหนึ่งอีก หนึ่งบอกว่าเราทำให้เพื่อน ๆ มองหนึ่งไม่ดี ทำให้มองหนึ่งเป็นคนไม่ฟังคนอื่น ณ จุด ๆ นี้ เราน้ำตาแตกเลยค่ะ เราแอบร้องไห้ เราไม่รู้จะพูดยังไง เราคุยกับหนึ่งหลายรอบมาก ๆ แล้ว หนึ่งบอกจะปรับปรุงตัวเอง เราสัญญากันทุกครั้ง ครั้งนี้ถ้าเราพูดหนึ่งก็คงจะพูดแบบเดิม เรากลัวเราจะรู้สึกแย่ค่ะ เราพยายามเปลี่ยนมุมมอง เรารู้ว่าหนึ่งไม่ยอมใคร หนึ่งจะย้อนเราตลอด หนึ่งย้อนเราได้ทุกเรื่อง ทะเลาะกันหนึ่งจะไม่ยอมผิดคนเดียว ตอนจบแล้วเราจะต้องมีส่วนผิดด้วยเสมอ สิ่งที่เรารู้สึกตกใจมากคือ ทุกครั้งที่เราเคลียร์ปัญหากัน หนึ่งจะมองข้ามสิ่งที่ตัวเองทำ ข้ามแบบข้ามไปเลย เหมือนหนึ่งไม่เคยทำในเหตุการณตอนนั้น หนึ่งจะจำได้แค่รีแอคแย่ ๆ ของเรา ซึ่งเราจะฟูมฟายหลังจากฟังหนึ่งพูดถึงเราจบว่าทำไมลืมเรื่องของตัวเองไปหมด ทำไม ทำไมมันกลายเป็นคนล้ะประเด็นกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ คำถามเต็มหัวเรา หนึ่งจะเริ่มอ่อนลงเมื่อเราร้องไห้แบบไม่ไหวแล้วกับเขา หนึ่งจะเริ่มคิดได้ว่าได้ทำแบบนี่กับเรานะ แล้วมันก็จะวนเป็นวงกลม เราดีกันสัญญากัน แล้วก็เป็นอีก เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหม เราไม่อยากคบใครหลาย ๆ คน เราอยากพยายามต่อไป เรารู้ว่าเรายังไหว แต่เรากลัวว่าหนึ่งจะไม่ใช่คนในอนาคตของเราจริง ๆ ค่ะ ......