คุก20ปี'หมอการเวก'ทำเสน่ห์-หลอกชำเราเหยื่อ



  พิพากษาจำคุก 'ฉ้อโกง 7 กระทง - พ.ร.บ.อาวุธปืน' 22 ปี 8 เดือน 'หมอการเวก' ทำเสน่ห์ หลอกกระทำชำเรา ขณะที่รวมโทษแล้วให้จำคุกสูงสุด ตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี

                      13 ต.ค. 58  เมื่อเวลา 09.30 น.  ศาลอ่านคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ อ.1494/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธนวรรษ อัศวพลสุวรรณ หรือ อาจารย์การเวก เทพหน้าทอง ซึ่งตั้งสำนักทรงเจ้า รับทำพิธีเสน่ห์ , นางจุฑาทิพย์ อัศวพลสุวรรณ ภรรยา , น.ส.สุมิตรา นฤบดินทร์ , น.ส.ศติยาพร เชื้ออาษา และ น.ส.ตรีสุคนธุ์ สวัสดีโสม เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 , 343 และมีอาวุธปืน เครื่องปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7 , 8 , 72

                      โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 57 และบรรยายพฤติการณ์ความผิด ความว่า ระหว่างเดือน มิ.ย. 53 - 14 มี.ค. 57 เวลากลางวัน จำเลยทั้งห้า ร่วมกันเปิดโฆษณาทางเว็บไซต์ ชื่อ “ akaravak ” ชักชวนให้คนมาทำคุณไสย โดยเปิดสำนักทำการอยู่หมู่บ้าน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และฉ้อโกงผู้เสียหาย โดยหลอกให้มีเพศสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 ก่อนทำพิธีกรรม และจำเลยที่ 1 ยังมีปืนลูกซองยาว ที่มีทะเบียน ซึ่งเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาต และปืนพกไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียน มีกระสุนลูกซองเบอร์ 12 รวม 83 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 94 นัด กระสุนปืน .357 จำนวน 11 นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 2 มีปืนพกสั้น ขนาด .38 ที่มีหมายเลขทะเบียน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จึงขอให้พิพากษาจำเลยทั้งห้าตามความผิด และให้จำเลยร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหายด้วย ซึ่งในชั้นพิจารณาจำเลยทั้ง 5 ราย ให้การปฏิเสธ

                      ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า โจทก์ มีผู้เสียหาย 7 ราย มาเบิกความสอดคล้องกันว่า ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักผ่านเว็บไซต์ของจำเลยที่ 1 ที่มีภาพจำเลยประกอบด้วย ระบุว่า มีความสามารถในการทำเสน่ห์ ไสยศาสตร์ สามารถทำให้คนกลับมารักได้ และเมื่อได้ไปที่สำนักของจำเลยที่ 1 จะมีจำเลยที่ 2 - 3 อยู่เพื่อให้คำแนะนำ และบอกรายละเอียดการเข้าพบ พร้อมทั้งมีการให้พานดอกไม้ ซึ่งต้องชำระค่าครูด้วย และเมื่อได้พบจำเลยที่ 1 ก็จะให้ผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงถอดเสื้อผ้าทั้งหมดแล้วให้นอนบนแท่นพิธีกรรมที่จำเลยที่ 1 อ้าง ซึ่งจะมีการทาน้ำมันที่ร่างกายของผู้เสียหายและระหว่างนั้นจำเลยที่ 1 ยังได้กระทำชำเราผู้เสียหายอีก ในกรณีที่ผู้เสียหายเดินทางมากับผู้ชาย จำเลยที่ 1 ก็จะให้ผู้เสียหายและเพื่อนชายร่วมประเวณีต่อหน้าจำเลย หรือให้จำเลยที่ 3 - 5 ทาน้ำมัน ลูบอวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์แล้วร่วมประเวณี โดยจำเลยที่ 1 อ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรม แต่เมื่อดำเนินการแล้วกลับไม่ได้ผล แล้วเมื่อกลับไปหาจำเลยที่ 1 ก็จะทำเช่นเดิมซ้ำอีก โดยจะมีเงินปั้นรูปตุ๊กตาเพื่อทำเสน่ห์เพิ่มด้วย

                      ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างว่า เรียนวิชาด้านการทำเสน่ห์ แต่ทางนำสืบจำเลยไม่มีพยานที่จะอ้างได้ถึงวิชาด้านไสยศาสตร์ หรือการทำเสน่ห์ รวมทั้งไม่มีตำราที่อ้างมาแสดงได้ ส่วนอาวุธปืนนั้น ก็พบอาวุธและเครื่องกระสุนในกระเป๋าของจำเลยที่ 2 ภายในบ้านพักจำเลยที่ 1 พยานหลักฐานของจำเลย ไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้

                      ศาลจึงพิพากษาว่า นายธนวรรษ หรือ หมอการเวก จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 341 , 343 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 7 , 72 วรรคหนึ่งถึงวรรคสาม ส่วนนางจุฑาทิพย์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 341 , 343 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 , 72 วรรคสาม ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้ จำคุก นายธนวรรษ หรือ หมอการเวก จำเลยที่ 1 ฐานฉ้อโกงประชาชน 7 กระทงๆ ละ 3 ปี รวม 21 ปี , ฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี , ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน และฐานมีเครื่องกระสุนปืน ให้ปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 22 ปี 8 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกสูงสุด ตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ก็ให้กักขังตามประมวลอาญา มาตรา 29 และ 30

                      ส่วน นางจุฑาทิพย์ จำเลยที่ 2 ให้จำคุก 4 กระทงๆ ละ 1 ปี รวม 4 ปี และฐานมีอาวุธปืน ให้จำคุก 8 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 8 เดือน สำหรับ น.ส.สุมิตรา จำเลยที่ 3 มีความผิด มาตรา 341 และ 343 ให้จำคุก 7 กระทงๆ ละ 3 ปี รวม 21 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว ให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี ขณะที่ น.ส.ศติยาพร และ น.ส.ตรีสุคนธุ์ จำเลยที่ 4 - 5 ให้จำคุกคนละ 1 ปี และให้ริบอาวุธปืนของกลาง

                      นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้นายธนวรรษ หรือ หมอการเวก จำเลยที่ 1 และ น.ส.สุมิตรา จำเลยที่ 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายทั้ง 7 รายด้วย เป็นเงิน 1,882,070 บาท และให้นางจุฑาทิพย์ จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายรวม 4 ราย เป็นเงิน 1,507,000 บาท

Cr : คมชัดลึก ออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่