เมื่อมนุษย์เงินเดือน อยากมีช่วงเวลา Luxuriuos Time เลิกงานปุ๊ปตรงดิ่งไปดูหนัง ตัดสินใจกดบัตรสุดแพงปั๊ป
มาดูกัน ว่าราคาคู่ละ 1800 บาท จะฟินอย่างที่คิดไหม
หลังจากพาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้างดังอย่าง Emquartier ครั้งแรกในชีวิต เดินงงๆอยู่หน้าห้างสักพัก เห็นคนเดินเข้าไปในอาคารฝั่งขวามือ(มารู้ทีหลัง ว่ามีชื่อเรียกว่า Glass Quartier) ก็เดินตามเค้าเข้าไปเลย พอผ่านประตูแสกนก็เลี้ยวขวาตามคนอื่นไปอีก เจอลิฟต์ที่จะสามารถพาเราไปยังชั้นโรงหนัง(Quartier CineArt) บอกกับพนักงานคุมลิฟต์เลยว่า "ชั้นโรงหนังค่ะ" ลิฟต์จะพาคุณมายังชั้น 4 เดินออกจากลิฟต์เจอลานโล่งๆ ไม่สนใจคะ เดินตรงไปหาประตูกระจกบานใหญ่ ผลักเข้าไปเลยคะ จะพบกับโถงขนาดใหญ่ มีทั้งตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ และที่ขายป๊อปคอร์น ที่นี้ไม่มีเคาร์เตอร์ขาย สำหรับเงินควรเตรียมให้พอดีแต่ไม่ต้องห่วงคะ มีพนักงานยืนให้บริการแลกเงินอยู่บริเวณตู้ ถ้าจ่ายกับบัตรเครดิตหรือเดบิตก็จะสะดวกมากขึ้น ของเราไม่เรื่องมากตั้งใจมาดูโรง AEON อยู่แล้ว ตามโปรแกรมมีเรื่อง PAN เวลา 18:20 น.


ตอนแรกตั้งใจจะไปซื้อตั๋วใน Lounge แต่ไม่มีพนักงานบริการเลยออกมาซื้อด้านนอก หลังจากเสร็จ ก็เดินไปรอชมภาพยนต์ ภายใน AEON Lounge มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และที่ชอบที่สุดห้องน้ำ คือเป็นส่วนตัวมาก สำหรับอาหารจะเป็นพวกทานเล่น เลือกได้ 3 ชนิดต่อคน เครื่องดื่มมี ไวน์แดง ไวน์ขาว สาเก น้ำผลไม้ อนุญาตให้ดื่มที่ Lounge เท่าน้ัน ไม่สามารถนำเข้าไปในโรงหนังได้คะ
ห้องน้ำ ชอบอันนี้ที่ที่สุด เป็นสิ่งที่เราฟินมากกก ไฟสวยมาก(เซลฟี่ไปสามร้อยล้านรูป

) แยกเป็นห้องชัดเจน โถส้วมเป็นระบบอัตโนมัติ มีปุ่มควบคุมติดด้านข้าง หลังจากทำธุระเสร็จ ชักโครกจะทำงานเองอัตโนมัติ ไม่ต้องตามหาที่กดให้วุ่นวาย และไม่ต้องกลัวลืมกด สบู่ล้างมือกลิ่นดีงามมาก ฟินนนนนน
อาหาร อย่างที่บอกไปว่าเลือกได้คนละ 3 ชนิด (เราไปเข้าห้องน้ำ ออกมาเลือกเสร็จแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายเมนูมาให้ดู) เรากินเบอร์เกอร์ไปนิดนึง รสชาติไม่แย่แต่ก็ไม่ดี ที่เห็นเสียบไม้เป็น แซลมอนกับหอยเซลล์ย่าง แล้วก็สีขาวๆเป็นแป้งแล้วมีชอสเนื้อทาด้านใน เครื่องดิ่มเลือกเป็นไวน์ขาวทั้งสองคนคะ
เข้ามาในโรงหนังแล้วว ที่นั่งเป็นเบาะคู่ มีฉากกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ละแถวจะมี 5 คู่ มีหมอน+ผ้าห่มให้ เราเปิดแฟลชถ่ายเพราะโรงหนังไม่ได้เปิดไฟตอนเราเข้ามา เป็นการดูหนังในโรงที่คนน้อยที่สุด แต่สบายที่สุด เราสั่งป็อปคอร์นมาทานเพิ่มราคา 120 บาท รสเห็ดทรัฟเฟิลและคาราเมล(อันนี้อร่อยมากโดยเฉาะรสทรัฟเฟิล) พนักงานเอาชาเขียวแบบขวดมาเสริฟ ให้ทานในโรงหนัง จอฉายระบบ Premium Laser Projector ภาพคมชัดมากสมราคาคุย เราเคยไปดู Blue Ribbon ที่พารากอน มีกลิ่นอับๆ แต่ที่นี้ไม่มี ฟินมากกกกกก
ดูหนังจบขอเข้าห้องน้ำอีกรอบติดใจมาก เราให้คะแนน 8/10 หักเรื่องรสชาติอาหารและบริการในตอนแรกเล็กน้อย แต่ถ้ามีโอกาสและเงินในกระเป๋าคงไปใช้บริการอีก ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ
[CR] เดินออกจากออฟฟิตแล้วพาตัวเองไปดูหนังที่ AEON Theatre at EmQuartier
หลังจากพาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้างดังอย่าง Emquartier ครั้งแรกในชีวิต เดินงงๆอยู่หน้าห้างสักพัก เห็นคนเดินเข้าไปในอาคารฝั่งขวามือ(มารู้ทีหลัง ว่ามีชื่อเรียกว่า Glass Quartier) ก็เดินตามเค้าเข้าไปเลย พอผ่านประตูแสกนก็เลี้ยวขวาตามคนอื่นไปอีก เจอลิฟต์ที่จะสามารถพาเราไปยังชั้นโรงหนัง(Quartier CineArt) บอกกับพนักงานคุมลิฟต์เลยว่า "ชั้นโรงหนังค่ะ" ลิฟต์จะพาคุณมายังชั้น 4 เดินออกจากลิฟต์เจอลานโล่งๆ ไม่สนใจคะ เดินตรงไปหาประตูกระจกบานใหญ่ ผลักเข้าไปเลยคะ จะพบกับโถงขนาดใหญ่ มีทั้งตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ และที่ขายป๊อปคอร์น ที่นี้ไม่มีเคาร์เตอร์ขาย สำหรับเงินควรเตรียมให้พอดีแต่ไม่ต้องห่วงคะ มีพนักงานยืนให้บริการแลกเงินอยู่บริเวณตู้ ถ้าจ่ายกับบัตรเครดิตหรือเดบิตก็จะสะดวกมากขึ้น ของเราไม่เรื่องมากตั้งใจมาดูโรง AEON อยู่แล้ว ตามโปรแกรมมีเรื่อง PAN เวลา 18:20 น.
ตอนแรกตั้งใจจะไปซื้อตั๋วใน Lounge แต่ไม่มีพนักงานบริการเลยออกมาซื้อด้านนอก หลังจากเสร็จ ก็เดินไปรอชมภาพยนต์ ภายใน AEON Lounge มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และที่ชอบที่สุดห้องน้ำ คือเป็นส่วนตัวมาก สำหรับอาหารจะเป็นพวกทานเล่น เลือกได้ 3 ชนิดต่อคน เครื่องดื่มมี ไวน์แดง ไวน์ขาว สาเก น้ำผลไม้ อนุญาตให้ดื่มที่ Lounge เท่าน้ัน ไม่สามารถนำเข้าไปในโรงหนังได้คะ
ห้องน้ำ ชอบอันนี้ที่ที่สุด เป็นสิ่งที่เราฟินมากกก ไฟสวยมาก(เซลฟี่ไปสามร้อยล้านรูป
อาหาร อย่างที่บอกไปว่าเลือกได้คนละ 3 ชนิด (เราไปเข้าห้องน้ำ ออกมาเลือกเสร็จแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายเมนูมาให้ดู) เรากินเบอร์เกอร์ไปนิดนึง รสชาติไม่แย่แต่ก็ไม่ดี ที่เห็นเสียบไม้เป็น แซลมอนกับหอยเซลล์ย่าง แล้วก็สีขาวๆเป็นแป้งแล้วมีชอสเนื้อทาด้านใน เครื่องดิ่มเลือกเป็นไวน์ขาวทั้งสองคนคะ
เข้ามาในโรงหนังแล้วว ที่นั่งเป็นเบาะคู่ มีฉากกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ละแถวจะมี 5 คู่ มีหมอน+ผ้าห่มให้ เราเปิดแฟลชถ่ายเพราะโรงหนังไม่ได้เปิดไฟตอนเราเข้ามา เป็นการดูหนังในโรงที่คนน้อยที่สุด แต่สบายที่สุด เราสั่งป็อปคอร์นมาทานเพิ่มราคา 120 บาท รสเห็ดทรัฟเฟิลและคาราเมล(อันนี้อร่อยมากโดยเฉาะรสทรัฟเฟิล) พนักงานเอาชาเขียวแบบขวดมาเสริฟ ให้ทานในโรงหนัง จอฉายระบบ Premium Laser Projector ภาพคมชัดมากสมราคาคุย เราเคยไปดู Blue Ribbon ที่พารากอน มีกลิ่นอับๆ แต่ที่นี้ไม่มี ฟินมากกกกกก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น