คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ผมไม่ชอบไหว้ใครซี้ซั้ว เพราะเป็นคนจำหน้าคนไม่ได้ ถ้าไหว้ถูกศัตรูหรือคนไม่ชอบหน้าด้วยละก็ มีหน้าแหกยับเยิน
อย่าว่าแต่ ไหว้ไปแล้วหนึ่งครั้ง คุณมีภาระผูกพันต้องไหว้ไปตลอดชีวิต จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ถ้าคุณยกมือไหว้แล้ว คราถัดไปเจอหน้ากัน เผลอไม่ไหว้เมื่อไหร่ คราวหน้าเขาจะมองคุณเป็นศัตรูทันที
ลองนึกดูว่า ไปไหว้ใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีพระคุณหรือพูดคุยกันมาก่อน วันหลังเดินสวนบนถนนกันโดยไม่พูดอะไร ก็ต้องยกมือไหว้ สองวัน,สามวัน,สี่วัน,เดือนหนึ่ง,ปีหนึ่ง จำเป็นต้องมีหน้าที่ ยกมือไหว้คนที่ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับเราหรือเปล่า?
พนักงานแบงค์,แคชเชียร์ห้าง ที่ยกมือไหว้คุณทุกครั้งที่คุณไปใช้บริการ เวลาคุณเดินสวนเขา/เจ้าหล่อนกลางถนน เขาจะยกมือไหว้คุณเหมือนในธนาคารหรือในห้างหรือไม่?
การไหว้ ถือเป็นการแสดงตัวว่าเราต่ำต้อยกว่า OK ถ้าไหว้ผู้มีพระคุณนี่จะไม่รู้สึกอึดอัดอะไร พ่อแม่,ครูบาอาจารย์,พระภิกษุสงฆ์,หมอที่รักษาเรา,ลูกค้าที่อุดหนุนเราประจำ,ทนายที่ช่วยให้เราชนะคดี ฯลฯ คนพวกนี้ผมเต็มใจไหว้ เพราะถือเป็นผู้มีพระคุณ
แต่ให้ไปไหว้ใครก็ไม่รู้ นี่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปเพื่ออะไร?
ยิ่งเราไหว้ไปแล้วด้วย อีกฝ่ายไม่รับ หรือไม่มอง แย่หน่อยก็หันหน้าหนีไปเลย หรือเบาหน่อยก็รับแบบเสียไม่ได้ เช่นหยีตาหรือพยักหน้าแบบไปที (อาจารย์ผมบางคนก็เป็นแบบนี้ ดูทีเดียวก็รู้) มันเหมือนเราไปไหว้ขอความเมตตาให้เขาสนใจเลยฟ่ะ.... กูไม่ได้ติดหนี้อะไรเมิงเลยนะเฟ้ย ลดตัวอ่อนน้อมขนาดนี้ ยังไม่สนใจอีก
ส่วนตัว ผมถือว่าเสียมารยาทมาก ถ้าเจอแบบนี้สักสองสามครั้ง ผมจะไม่ไปไหว้มันอีกเลย
เพราะถือว่าเราให้เกียรติแล้ว ดันไม่รับ ก็อย่าหวังว่าจะได้เกียรติจากเราอีกเลยฟ่ะ
อย่าว่าแต่ ไหว้ไปแล้วหนึ่งครั้ง คุณมีภาระผูกพันต้องไหว้ไปตลอดชีวิต จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ถ้าคุณยกมือไหว้แล้ว คราถัดไปเจอหน้ากัน เผลอไม่ไหว้เมื่อไหร่ คราวหน้าเขาจะมองคุณเป็นศัตรูทันที
ลองนึกดูว่า ไปไหว้ใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีพระคุณหรือพูดคุยกันมาก่อน วันหลังเดินสวนบนถนนกันโดยไม่พูดอะไร ก็ต้องยกมือไหว้ สองวัน,สามวัน,สี่วัน,เดือนหนึ่ง,ปีหนึ่ง จำเป็นต้องมีหน้าที่ ยกมือไหว้คนที่ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับเราหรือเปล่า?
พนักงานแบงค์,แคชเชียร์ห้าง ที่ยกมือไหว้คุณทุกครั้งที่คุณไปใช้บริการ เวลาคุณเดินสวนเขา/เจ้าหล่อนกลางถนน เขาจะยกมือไหว้คุณเหมือนในธนาคารหรือในห้างหรือไม่?
การไหว้ ถือเป็นการแสดงตัวว่าเราต่ำต้อยกว่า OK ถ้าไหว้ผู้มีพระคุณนี่จะไม่รู้สึกอึดอัดอะไร พ่อแม่,ครูบาอาจารย์,พระภิกษุสงฆ์,หมอที่รักษาเรา,ลูกค้าที่อุดหนุนเราประจำ,ทนายที่ช่วยให้เราชนะคดี ฯลฯ คนพวกนี้ผมเต็มใจไหว้ เพราะถือเป็นผู้มีพระคุณ
แต่ให้ไปไหว้ใครก็ไม่รู้ นี่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปเพื่ออะไร?
ยิ่งเราไหว้ไปแล้วด้วย อีกฝ่ายไม่รับ หรือไม่มอง แย่หน่อยก็หันหน้าหนีไปเลย หรือเบาหน่อยก็รับแบบเสียไม่ได้ เช่นหยีตาหรือพยักหน้าแบบไปที (อาจารย์ผมบางคนก็เป็นแบบนี้ ดูทีเดียวก็รู้) มันเหมือนเราไปไหว้ขอความเมตตาให้เขาสนใจเลยฟ่ะ.... กูไม่ได้ติดหนี้อะไรเมิงเลยนะเฟ้ย ลดตัวอ่อนน้อมขนาดนี้ ยังไม่สนใจอีก
ส่วนตัว ผมถือว่าเสียมารยาทมาก ถ้าเจอแบบนี้สักสองสามครั้ง ผมจะไม่ไปไหว้มันอีกเลย
เพราะถือว่าเราให้เกียรติแล้ว ดันไม่รับ ก็อย่าหวังว่าจะได้เกียรติจากเราอีกเลยฟ่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
หลายคนที่บ่น บอกเบื่อที่ต้องไหว้ อยากไปอยู่ประเทศอื่น ก็ขอยกบทความให้อ่านเล่นกันดูนะคับ
อังกฤษ
มารยาททางสังคม : การพบปะและทักทาย
มารยาททางสังคมเริ่มจากเมื่อแรกพบ คนอังกฤษเมื่อพบกันจะใช้วิธียื่นมือขวาจับกันและเขย่ามือเล็กน้อย พร้อมพูด How do you do? หรือ Nice (Please) to meet you, my name is... ซึ่งอีกฝ่ายควรพูดตอบเช่นกัน จากนั้นเริ่มบทสนทนาด้วยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น เช่น หน้าที่การงาน สิ่งที่เขาเรียน สิ่งสวยงามในประเทศของเขา
สำหรับคนที่สนิทกัน ผู้ชายจะจับมือแล้วโน้มตัวใกล้กันคล้ายกอดแบบหลวมๆ ส่วนผู้หญิงกับผู้หญิง หรือผู้หญิงกับผู้ชาย กอดเบาๆ เอาแก้มซ้ายชนกันก่อนแก้มขวา ทำปากเหมือนจูบอากาศ หากต้องการหลีกเลี่ยงการกอด ให้รีบยื่นมือเป็นการแสดงความจำนงว่าขอจับมือทักทาย
ถ้าคนสองคนมีโอกาสได้พบกันได้บ่อยๆ ก็พูดคุยทักทายกันได้เลย คนที่อังกฤษชอบเริ่มด้วยเรื่องเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยและมีผลกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยตรง ส่วนการสนทนาต่อไป ก็ให้เข้าใจว่า คนส่วนใหญ่จะรู้สึกสบายๆ ที่จะพูดเรื่องใกล้ตัว เรื่องที่อยู่ในความสนใจ ความถนัด ความชอบ แต่พึงระวังว่า การถามต้องเป็นไปในลักษณะสุภาพ มีความพอดี ไม่เซ้าซี้ ซอกแซก ไม่ทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด ลำบากใจที่จะตอบ หรือคิดว่าเราเป็นพวกชอบสอดรู้สอดเห็น
ยามต้องจากลา ในการจบบทสนทนาและปลีกตัวไป ทุกครั้งควรใช้คำว่า Sorry หรือ Excuse me แล้วตามด้วยเหตุผลของการลาจาก เช่น I have to go... I have to จะทำให้บทลาจากนุ่มนวล ราบรื่น และจบบทสนทนาด้วย Nice talking to you., See you again., Take care, Bye bye โดยอาจพูดคำลาพร้อมกับจับมืออีกครั้ง (ผู้ชายกับผู้ชาย) ถ้าสนิทกันมากอาจโอบและตบไหล่ 2-3 ครั้ง หรือโอบกันแล้วแก้มชนแก้ม จูบอากาศซ้ายขวา ถ้าจะไม่ได้พบกันอีกเป็นเวลานาน แต่หากพบกันบ่อยแล้วอาจจะพบกันอีก พูดบอกลาเฉยๆ ก็เพียงพอ
อเมริกาก็จะเหมือนของอังกฤษ
การทักทายของคนอเมริกันเป็นแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตรองมากนัก คุณควรยิ้มทักทายและบอกชื่อจริง (First name) ในการพบเจอกันครั้งแรก และถ้าเป็นการพบกันหลายคน ก็อย่าลืมแนะนำเพื่อนในวงสนทนาให้รู้จักกันอย่างทั่วถึงด้วย การจับมือและพูดทักทายง่ายๆ ด้วยคำว่า Hello มักถูกใช้บ่อยครั้งในการเริ่มต้นบทสนทนา คนอเมริกันส่วนใหญ่จะพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการหยาบคายหรือเสียมารยาท พวกเขาแค่ต้องการพูดอะไรให้ตรงจุด เข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายความให้ยืดยาว
และตอนนี้ การจับมือเป็นที่แพร่หลายใน "จีน สิงคโปร์" อีกด้วย
และขอเยอรมันก็ยังซับซ้อนอีกด้วย กล่าวคือ....
ชาวเยอรมันถือเรื่องการจับมือ อย่างน้อยในการทักทายควรยื่นมือขวาให้อีกฝ่ายหนึ่งจับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ต้องคิดว่าจะเป็นการแต๊ะอั๋ง เพราะไม่มีใครคิดอย่างนั้นกัน ถ้าไม่ยอมจับมือจะเป็นการแสดงความรังเกียจอีกฝ่าย เวลาจับมือให้บีบแรงพอสมควร อย่าเกรงใจจนไม่ออกแรงบีบมือเลย เพราะคนเยอรมันจะถือว่าเหมือนกับเราไม่พอใจจะจับมือเขา แต่ก็อย่าบีบแรงเกินไปจนอีกฝ่ายหนึ่งเจ็บ
ญี่ปุ่น
การโค้งในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “Rei” (れい/เร) หรือ “Ojigi” (/おじぎ/โอจิกิ) ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมไหว้แบบคนไทย หรือจับมือแบบฝรั่ง แต่จะนิยมโค้งแทนในเวลาที่พบหรือลา ประเพณีการโค้งของคนญี่ปุ่นนับว่าซับซ้อนพอควร เช่น การโค้งควรจะต่ำเพียงไรและโค้งได้นานเท่าไร หรือโค้งเป็นจำนวนกี่ครั้ง และโค้งในโอกาสอะไร เช่น ผู้อาวุโสก้มให้ลึก แต่ถ้าระดับเท่ากันโค้งพองาม นอกจากโค้งเวลาพบกันหรืออำลาจากกันแล้ว สามารถโค้งเมื่อต้องการขอบคุณ
การโค้งทักทาย (Eshaku/えしゃく/ อิชิคุ) คือ การทักทายกับผู้ที่สนิทแบบเป็นกันเอง วิธีการคือ ก้มตัวทำมุมประมาณ 15 องศา
การโค้งเคารพแบบธรรมดา (Futsuu Rei/ふつう/ ฟุสึยุ) คือ การทักทายกับผู้ที่เรารู้จัก หรือพนักงานขายกับลูกค้า วิธีการคือ ก้มตัวประมาณ 30 องศา
การโค้งเคารพแบบนอบน้อม (Saikei Rei/さつうれい/ ซาอิเครอิ เรอิ) คือ การให้ความเคารพกับผู้ใหญ่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า หรือเจ้านายที่มีตำแหน่งสูง วิธีการคือ ก้มตัวประมาร 45 องศา กับแนวเส้นตรง
ยกตัวอย่างแค่นี้ก็พอละ
สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน มารยาททางสังคม ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าคิดว่าจะไม่ทักทายคนอื่นเลย ก็แปลงร่างเป็นฮิกกี้อยู่แต่ในบ้านไปเถอะคับ
อังกฤษ
มารยาททางสังคม : การพบปะและทักทาย
มารยาททางสังคมเริ่มจากเมื่อแรกพบ คนอังกฤษเมื่อพบกันจะใช้วิธียื่นมือขวาจับกันและเขย่ามือเล็กน้อย พร้อมพูด How do you do? หรือ Nice (Please) to meet you, my name is... ซึ่งอีกฝ่ายควรพูดตอบเช่นกัน จากนั้นเริ่มบทสนทนาด้วยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น เช่น หน้าที่การงาน สิ่งที่เขาเรียน สิ่งสวยงามในประเทศของเขา
สำหรับคนที่สนิทกัน ผู้ชายจะจับมือแล้วโน้มตัวใกล้กันคล้ายกอดแบบหลวมๆ ส่วนผู้หญิงกับผู้หญิง หรือผู้หญิงกับผู้ชาย กอดเบาๆ เอาแก้มซ้ายชนกันก่อนแก้มขวา ทำปากเหมือนจูบอากาศ หากต้องการหลีกเลี่ยงการกอด ให้รีบยื่นมือเป็นการแสดงความจำนงว่าขอจับมือทักทาย
ถ้าคนสองคนมีโอกาสได้พบกันได้บ่อยๆ ก็พูดคุยทักทายกันได้เลย คนที่อังกฤษชอบเริ่มด้วยเรื่องเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยและมีผลกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยตรง ส่วนการสนทนาต่อไป ก็ให้เข้าใจว่า คนส่วนใหญ่จะรู้สึกสบายๆ ที่จะพูดเรื่องใกล้ตัว เรื่องที่อยู่ในความสนใจ ความถนัด ความชอบ แต่พึงระวังว่า การถามต้องเป็นไปในลักษณะสุภาพ มีความพอดี ไม่เซ้าซี้ ซอกแซก ไม่ทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด ลำบากใจที่จะตอบ หรือคิดว่าเราเป็นพวกชอบสอดรู้สอดเห็น
ยามต้องจากลา ในการจบบทสนทนาและปลีกตัวไป ทุกครั้งควรใช้คำว่า Sorry หรือ Excuse me แล้วตามด้วยเหตุผลของการลาจาก เช่น I have to go... I have to จะทำให้บทลาจากนุ่มนวล ราบรื่น และจบบทสนทนาด้วย Nice talking to you., See you again., Take care, Bye bye โดยอาจพูดคำลาพร้อมกับจับมืออีกครั้ง (ผู้ชายกับผู้ชาย) ถ้าสนิทกันมากอาจโอบและตบไหล่ 2-3 ครั้ง หรือโอบกันแล้วแก้มชนแก้ม จูบอากาศซ้ายขวา ถ้าจะไม่ได้พบกันอีกเป็นเวลานาน แต่หากพบกันบ่อยแล้วอาจจะพบกันอีก พูดบอกลาเฉยๆ ก็เพียงพอ
อเมริกาก็จะเหมือนของอังกฤษ
การทักทายของคนอเมริกันเป็นแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตรองมากนัก คุณควรยิ้มทักทายและบอกชื่อจริง (First name) ในการพบเจอกันครั้งแรก และถ้าเป็นการพบกันหลายคน ก็อย่าลืมแนะนำเพื่อนในวงสนทนาให้รู้จักกันอย่างทั่วถึงด้วย การจับมือและพูดทักทายง่ายๆ ด้วยคำว่า Hello มักถูกใช้บ่อยครั้งในการเริ่มต้นบทสนทนา คนอเมริกันส่วนใหญ่จะพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการหยาบคายหรือเสียมารยาท พวกเขาแค่ต้องการพูดอะไรให้ตรงจุด เข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายความให้ยืดยาว
และตอนนี้ การจับมือเป็นที่แพร่หลายใน "จีน สิงคโปร์" อีกด้วย
และขอเยอรมันก็ยังซับซ้อนอีกด้วย กล่าวคือ....
ชาวเยอรมันถือเรื่องการจับมือ อย่างน้อยในการทักทายควรยื่นมือขวาให้อีกฝ่ายหนึ่งจับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ต้องคิดว่าจะเป็นการแต๊ะอั๋ง เพราะไม่มีใครคิดอย่างนั้นกัน ถ้าไม่ยอมจับมือจะเป็นการแสดงความรังเกียจอีกฝ่าย เวลาจับมือให้บีบแรงพอสมควร อย่าเกรงใจจนไม่ออกแรงบีบมือเลย เพราะคนเยอรมันจะถือว่าเหมือนกับเราไม่พอใจจะจับมือเขา แต่ก็อย่าบีบแรงเกินไปจนอีกฝ่ายหนึ่งเจ็บ
ญี่ปุ่น
การโค้งในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “Rei” (れい/เร) หรือ “Ojigi” (/おじぎ/โอจิกิ) ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมไหว้แบบคนไทย หรือจับมือแบบฝรั่ง แต่จะนิยมโค้งแทนในเวลาที่พบหรือลา ประเพณีการโค้งของคนญี่ปุ่นนับว่าซับซ้อนพอควร เช่น การโค้งควรจะต่ำเพียงไรและโค้งได้นานเท่าไร หรือโค้งเป็นจำนวนกี่ครั้ง และโค้งในโอกาสอะไร เช่น ผู้อาวุโสก้มให้ลึก แต่ถ้าระดับเท่ากันโค้งพองาม นอกจากโค้งเวลาพบกันหรืออำลาจากกันแล้ว สามารถโค้งเมื่อต้องการขอบคุณ
การโค้งทักทาย (Eshaku/えしゃく/ อิชิคุ) คือ การทักทายกับผู้ที่สนิทแบบเป็นกันเอง วิธีการคือ ก้มตัวทำมุมประมาณ 15 องศา
การโค้งเคารพแบบธรรมดา (Futsuu Rei/ふつう/ ฟุสึยุ) คือ การทักทายกับผู้ที่เรารู้จัก หรือพนักงานขายกับลูกค้า วิธีการคือ ก้มตัวประมาณ 30 องศา
การโค้งเคารพแบบนอบน้อม (Saikei Rei/さつうれい/ ซาอิเครอิ เรอิ) คือ การให้ความเคารพกับผู้ใหญ่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า หรือเจ้านายที่มีตำแหน่งสูง วิธีการคือ ก้มตัวประมาร 45 องศา กับแนวเส้นตรง
ยกตัวอย่างแค่นี้ก็พอละ
สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน มารยาททางสังคม ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าคิดว่าจะไม่ทักทายคนอื่นเลย ก็แปลงร่างเป็นฮิกกี้อยู่แต่ในบ้านไปเถอะคับ
ความคิดเห็นที่ 14
เราตีค่าการไหว้เท่ากับการทักทายทั่วไป เหมือนเวลาเจอฝรั่งแล้วทักฮัลโหล หรือจับมือ
คนไทยบางคนชอบคิดมากกับการไหว้ เพราะคนไทยเอาการทักทายไปรวมกับการเคารพ
เนื่องจากท่ามันคล้ายการไหว้พระ เลยตะขิดตะขวงใจว่าเอ...ทำไมต้องไหว้คนที่ไม่เคารพด้วย
คุณก็คงเป็นแบบนั้น เราเข้าใจ
แต่เราชอบไหว้ เพราะเราถือว่าเป็นการทักทาย การทักทายคนอื่นที่เจอเป็นมารยาทอย่างนึง
เป็นการให้เกียรติคนนั้นและเห็นว่าเค้ามีตัวตน เช่นเราไหว้ช่างที่มาทำก่อสร้างต่อเติมบ้านเราทุกคน
เรารู้สึกแปลก ๆ ที่จะเดินมาเฉย ๆ ทั้ง ๆ คนก็นั่งทำงานอยู่หัวโด่ ประมาณว่าชั้นไม่ได้อยากจะคุยกับเธอ
แถมเป็นเสน่ห์ของเราด้วย ที่เจอกันปุ๊บสวัสดีพร้อมกับจ้องตาเค้าด้วยตอนพูดสวัสดีค่า ให้เค้าเห็นว่าเรายิ้มและเต็มใจที่สวัสดีเค้า
เราเดาว่าที่คนข้างบ้านเค้าหลบ ๆ ไม่อยากให้คุณไหว้ เพราะเค้าดูออกว่าคุณไม่เต็มใจไหว้ คนโต ๆ เค้าดูตาก็รู้แล้ว เค้าคงอึดอัดแทนคุณ
ตอนอยู่ต่างประเทศ เราไปกินร้านอาหารไทยเจ้าประจำเรา เดินเข้าไปสวัสดีคนในร้าน พ่อครัวแม่ครัวหมด
ไหว้ไปยิ้มไป ทักทาย แซว ประกอบด้วย ตอนแรกเค้าชะงักรับไหว้ไม่ทันเพราะไม่เคยเจอ
แต่วันต่อมา เดินเข้าปุ๊บ เค้ายกมือรับไหว้กันทั้งร้าน
คนไทยบางคนชอบคิดมากกับการไหว้ เพราะคนไทยเอาการทักทายไปรวมกับการเคารพ
เนื่องจากท่ามันคล้ายการไหว้พระ เลยตะขิดตะขวงใจว่าเอ...ทำไมต้องไหว้คนที่ไม่เคารพด้วย
คุณก็คงเป็นแบบนั้น เราเข้าใจ
แต่เราชอบไหว้ เพราะเราถือว่าเป็นการทักทาย การทักทายคนอื่นที่เจอเป็นมารยาทอย่างนึง
เป็นการให้เกียรติคนนั้นและเห็นว่าเค้ามีตัวตน เช่นเราไหว้ช่างที่มาทำก่อสร้างต่อเติมบ้านเราทุกคน
เรารู้สึกแปลก ๆ ที่จะเดินมาเฉย ๆ ทั้ง ๆ คนก็นั่งทำงานอยู่หัวโด่ ประมาณว่าชั้นไม่ได้อยากจะคุยกับเธอ
แถมเป็นเสน่ห์ของเราด้วย ที่เจอกันปุ๊บสวัสดีพร้อมกับจ้องตาเค้าด้วยตอนพูดสวัสดีค่า ให้เค้าเห็นว่าเรายิ้มและเต็มใจที่สวัสดีเค้า
เราเดาว่าที่คนข้างบ้านเค้าหลบ ๆ ไม่อยากให้คุณไหว้ เพราะเค้าดูออกว่าคุณไม่เต็มใจไหว้ คนโต ๆ เค้าดูตาก็รู้แล้ว เค้าคงอึดอัดแทนคุณ
ตอนอยู่ต่างประเทศ เราไปกินร้านอาหารไทยเจ้าประจำเรา เดินเข้าไปสวัสดีคนในร้าน พ่อครัวแม่ครัวหมด
ไหว้ไปยิ้มไป ทักทาย แซว ประกอบด้วย ตอนแรกเค้าชะงักรับไหว้ไม่ทันเพราะไม่เคยเจอ
แต่วันต่อมา เดินเข้าปุ๊บ เค้ายกมือรับไหว้กันทั้งร้าน
แสดงความคิดเห็น
ทำไมต้องไหว้ผู้ใหญ่ทุกครั้งที่เจอคะ?
เราย้ายมาอยู่บ้านยายได้สัก 4-5ปีแล้ว มีอยู่บ้านหนึ่งซึ่งเขารู้จักกับแม่ สนิทกันหรือเปล่าไม่รู้
แต่เวลาเดินกับแม่ผ่านบ้านเขา แม่ก็จะทักทายตลอด แล้วแม่ก็บอกว่าเวลาเจอให้ยกมือไหว้สวัสดีลุงกับป้าเขาด้วย
ตอนแรกๆเราก็ไหว้บ้างไม่ไหว้บ้าง รู้สึกแปลกๆเกร็งๆ ส่วนมากเลยไม่ได้ไหว้
มีพี่สาวอยู่ที่นี่มาก่อนเรา บางทีเวลาเราออกไปด้วยกันเดินผ่านพี่ก็ไหวตลอด
คือเราก็เดินมาด้วยกันแต่เราไม่ได้ไหว้ พี่ก็บอกว่าให้ไหว้สวัสดีเดี๋ยวเขาจะหาว่ามือไม้แข็ง?
จากนั้นมาเราก็เลยต้องไหว้ลุงป้าบ้านนี้ทุกวันที่เดินผ่าน คือเราก็รู้สึกอึดอัด
คนไม่ได้เคยคุยกัน ไม่สนิทกัน ส่วนตัวเรากับลุงป้าก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันจะทำเพื่ออะไร
บางทีก็เขาก็เหมือนขี้เกียจรับไหว้เราด้วย หลบๆบ้าง เดาว่าคงเบื่อมากๆที่ต้องมาคอยรับไหว้แล้วล่ะ
ถ้าเราไม่สวัสดีจะเป็นอะไรไหมมันจะดูไม่ดี ไม่เหมาะสมหรอ
อีกคนคือญาติห่างๆ(แต่จริงๆเราก็ไม่รู้ว่าเป็นญาติห่างหรือเพื่อนบ้านกันแน่)
มากินอาหารที่ร้านแม่ นานๆเราจะเจอ เราก็ไม่ได้ยกมือไหว้ไม่สนใจ สำหรับเราคือคนทั่วไป
พอตอนเย็นแม่ปิดร้าน แม่ก็ว่าเราเลยว่าทำไมไม่ยกมือไหว้ น้าเขาบอกแม่ว่า
เราไม่ไหว้เขาเลย(นี่ฟ้องใช่ไหม55555) เราก็บอกว่า หนูไม่รู้ก็นึกว่าลูกค้าทั่วๆไปที่มากินตามปกติ
ถึงว่าทำไมเขาจ้องหนูแปลกๆ เขาดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ
หลังจากนั้นน้าคนนั้นมากินอีก เราต้องรีบไหว้สวัสดีเลย
มันปกติไหมอะ เราผิดหรือเปล่าคะ เรารู้สึดอึดอัด ดูเฟคๆยังไงก็ไม่รู้55555
**ขอบคุณพี่ๆพันทิพทุกคนที่ให้คำแนะนำและสอนให้นะคะ
ผล.หนูไม่มีอคติอะไรพร้อมยกมือไหว้เสมอ แต่อย่างคุณลุงในซอยเจอทุกวัน
กลัวเขาจะรำคาญ และนี้คือสิ่งที่ทำให้รู้สึกอึดอัดค่ะ กับคนอื่นก็ปกติ5555+
เห็นคห.นึงบอกว่าเหมือนกับการที่ทักทายด้วยคำถามว่า"กินข้าวหรือยัง"
สำหรับหนูคิดว่าไม่เหมือนนะ เวลาถามคำนี้คือถามจริงๆอยากรู้จริงๆด้วยความเป็นห่วง
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะุ