สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
เอาตามตัวอย่าง จขกท.
Taken - เป็นหนังแอ็คชั่นแนวสายลับมีฝีมือหน่อย คนไทยไม่เชื่อว่าประเทศเรามีสายลับฝีมือสูงแบบนี้
ทำไปก็รู้สึกเปรียบเทียบกับฝรั่ง ที่เรารู้อยู่แล้วว่าเก่งกว่า ตำรวจบ้านเรายังขึ้นชื่อเรื่องรีดไถอยู่เลย จะไปเป็นสายลับได้ไง
007 - นอกจากเรื่องสายลับที่คนไทยไม่เชื่อแล้ว การถ่ายทำที่แพงมหาศาล ฉากแอ็คชั่นอลังการ ไปเที่ยวทั่วโลก
หนังต้องลงทุนไปเท่าไหร่ แต่ทำเป็นภาษาไทย ตลาดคนไทยมีกี่แสนคนที่ดูหนังจริงๆ ไม่คุ้มการลงทุนอย่างยิ่ง
Gone Girl - ขนาดบ้านเราเคยทำหนังฆาตกรรมจากเรื่องจริง คนไทยยังไม่ไปดูกันเลย เพราะคนไทยไม่ชอบเรื่องหดหู่
ยิ่งพล็อตเรื่องแต่งแบบ Gone Girl คนไทยจะเอาไปเทียบว่า ฉันก็ดูเรื่องผัวเมียในทีวีอยู่แล้ว จะไปดูในโรงทำไมอีก
ข้อจำกัดบ้านเราเยอะมากครับ เพราะคนไทยที่เสพสื่อหลากหลายจริงก็ยังเป็นแค่คนในเมือง และก็มีจำนวนน้อย
ไม่เหมือนเมืองนอกที่นอกจากตลาดจะใหญ่กว่ามากแล้ว คนยังนิยมเสพงานศิลปะ ดูหนังดูละครเป็นกิจวัตร
อย่างที่เคยไปนิวยอร์ก ละครเวทีธรรมดาๆ โปรดักชั่นเล็กๆ แค่คนมาเล่นบนเวทีกับของประกอบฉากสองสามชิ้น
คนยังไปดูกันเต็มโรงละคร แล้วมีทุกเพศทุกวัย วัยรุ่นยันคนแก่ ถ้าเป็นบ้านเรา คนไหนไปดูก็จะเวียนกันจนคุ้นหน้า
ถ้าไม่ใช่ละครฟอร์มใหญ่จริงก็ไม่ดู แล้วละครใหญ่ๆ เนื้อหาก็มักจะวนเรื่องแนวเดิมอีก ก็เลยยิ่งไม่ได้ไปไหนอีก
ซึ่งก็โทษคนดูไม่ได้ เพราะบ้านเรายังนิยมดูของที่คุ้นเคยอยู่แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะเปลี่ยนได้ครับ
Taken - เป็นหนังแอ็คชั่นแนวสายลับมีฝีมือหน่อย คนไทยไม่เชื่อว่าประเทศเรามีสายลับฝีมือสูงแบบนี้
ทำไปก็รู้สึกเปรียบเทียบกับฝรั่ง ที่เรารู้อยู่แล้วว่าเก่งกว่า ตำรวจบ้านเรายังขึ้นชื่อเรื่องรีดไถอยู่เลย จะไปเป็นสายลับได้ไง
007 - นอกจากเรื่องสายลับที่คนไทยไม่เชื่อแล้ว การถ่ายทำที่แพงมหาศาล ฉากแอ็คชั่นอลังการ ไปเที่ยวทั่วโลก
หนังต้องลงทุนไปเท่าไหร่ แต่ทำเป็นภาษาไทย ตลาดคนไทยมีกี่แสนคนที่ดูหนังจริงๆ ไม่คุ้มการลงทุนอย่างยิ่ง
Gone Girl - ขนาดบ้านเราเคยทำหนังฆาตกรรมจากเรื่องจริง คนไทยยังไม่ไปดูกันเลย เพราะคนไทยไม่ชอบเรื่องหดหู่
ยิ่งพล็อตเรื่องแต่งแบบ Gone Girl คนไทยจะเอาไปเทียบว่า ฉันก็ดูเรื่องผัวเมียในทีวีอยู่แล้ว จะไปดูในโรงทำไมอีก
ข้อจำกัดบ้านเราเยอะมากครับ เพราะคนไทยที่เสพสื่อหลากหลายจริงก็ยังเป็นแค่คนในเมือง และก็มีจำนวนน้อย
ไม่เหมือนเมืองนอกที่นอกจากตลาดจะใหญ่กว่ามากแล้ว คนยังนิยมเสพงานศิลปะ ดูหนังดูละครเป็นกิจวัตร
อย่างที่เคยไปนิวยอร์ก ละครเวทีธรรมดาๆ โปรดักชั่นเล็กๆ แค่คนมาเล่นบนเวทีกับของประกอบฉากสองสามชิ้น
คนยังไปดูกันเต็มโรงละคร แล้วมีทุกเพศทุกวัย วัยรุ่นยันคนแก่ ถ้าเป็นบ้านเรา คนไหนไปดูก็จะเวียนกันจนคุ้นหน้า
ถ้าไม่ใช่ละครฟอร์มใหญ่จริงก็ไม่ดู แล้วละครใหญ่ๆ เนื้อหาก็มักจะวนเรื่องแนวเดิมอีก ก็เลยยิ่งไม่ได้ไปไหนอีก
ซึ่งก็โทษคนดูไม่ได้ เพราะบ้านเรายังนิยมดูของที่คุ้นเคยอยู่แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะเปลี่ยนได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 26
จขกท.เคยดูเฉือนมั้ย เราว่าซับซ้อนหักมุมและดราม่ามากๆ บทและการกำกับดี เป็นหนังที่สะเทือนใจจนไม่กล้าดูซ้ำ(เคยรู้สึกแบบนี้กับNobody Knows)
จริงๆนาคปรกก็หนังดี แต่ดันจบแบบโลกสวยไปหน่อย ได้ยินว่าโดนหน่วยงานราชการขอให้เพิ่มเติม"ผลของการกระทำ"ในช่วงตอนจบไป ถ้าเป็นเรื่องจริงก็อาจจะไม่จบแบบในหนัง
มหาลัยเหมืองแร่ โปรดักชั่นและตัวละครดีมีเสน่ห์ เพลงออเครสต้าประกอบดีเยี่ยม แม้จะเจ๊งไม่เป็นท่าแต่ก็อยู่ในใจใครหลายๆคน
15 ค่ำเดือน 11 ที่กล้าหาญเล่นกับความเชื่อของชาวบ้าน และถกเถียงเรื่องศาสนากันอยางตรงไปตรงมา
หนังไทยดีๆมีอยู่เยอะ แม้ประเทศเราจะโดนจำกัดด้วยวัฒนธรรม ความเชื่อ และการตลาด แต่ที่ผ่านมาหลังยุคกระโปรงบานขาสั้น คนทำหนังไทยมีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือที่ขาขึ้นตลอด ถ้ามองกันแบบไม่อคติ ไล่มาตั้งแต่ 2499อันธพาลครองเมือง นางนาก สตรีเหล็ก มีหนังพล็อตที่สร้างสรรค์ไม่ซ้ำใครจนกลายเป็นอินดี้-แมสแบบ Mary Is Happy, Mary Is Happy
เราเคยกังวลนะว่า ความที่กลุ่มเด็กมัธยมเริ่มขายได้ดี (เช่นแกงค์ฮอร์โมน) ก็จะมีหนังเด็กๆไหลออกมาในตลาดมากมายจนกลายเป็นยุคมืดหนังไทยเหมือนช่วงปี3x เพราะว่าจะขายแต่เด็กรุ่นใหม่วัยรุ่นแต่วัยรุ่นกำลังซื้อไม่พอแล้วเนื้อเรื่องก็วนเวียนไปมา แต่ดูทิศทางแล้วตอนนี้คงยังไม่มีใครกล้าทำหนังแนวนี้เพิ่ม ต้องมารอดูล็อตหนังของปีหน้าว่าจะไปทิศทางไหน (ปีนี้มาทิศทางชาย-ชายซะเยอะ)
จริงๆนาคปรกก็หนังดี แต่ดันจบแบบโลกสวยไปหน่อย ได้ยินว่าโดนหน่วยงานราชการขอให้เพิ่มเติม"ผลของการกระทำ"ในช่วงตอนจบไป ถ้าเป็นเรื่องจริงก็อาจจะไม่จบแบบในหนัง
มหาลัยเหมืองแร่ โปรดักชั่นและตัวละครดีมีเสน่ห์ เพลงออเครสต้าประกอบดีเยี่ยม แม้จะเจ๊งไม่เป็นท่าแต่ก็อยู่ในใจใครหลายๆคน
15 ค่ำเดือน 11 ที่กล้าหาญเล่นกับความเชื่อของชาวบ้าน และถกเถียงเรื่องศาสนากันอยางตรงไปตรงมา
หนังไทยดีๆมีอยู่เยอะ แม้ประเทศเราจะโดนจำกัดด้วยวัฒนธรรม ความเชื่อ และการตลาด แต่ที่ผ่านมาหลังยุคกระโปรงบานขาสั้น คนทำหนังไทยมีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือที่ขาขึ้นตลอด ถ้ามองกันแบบไม่อคติ ไล่มาตั้งแต่ 2499อันธพาลครองเมือง นางนาก สตรีเหล็ก มีหนังพล็อตที่สร้างสรรค์ไม่ซ้ำใครจนกลายเป็นอินดี้-แมสแบบ Mary Is Happy, Mary Is Happy
เราเคยกังวลนะว่า ความที่กลุ่มเด็กมัธยมเริ่มขายได้ดี (เช่นแกงค์ฮอร์โมน) ก็จะมีหนังเด็กๆไหลออกมาในตลาดมากมายจนกลายเป็นยุคมืดหนังไทยเหมือนช่วงปี3x เพราะว่าจะขายแต่เด็กรุ่นใหม่วัยรุ่นแต่วัยรุ่นกำลังซื้อไม่พอแล้วเนื้อเรื่องก็วนเวียนไปมา แต่ดูทิศทางแล้วตอนนี้คงยังไม่มีใครกล้าทำหนังแนวนี้เพิ่ม ต้องมารอดูล็อตหนังของปีหน้าว่าจะไปทิศทางไหน (ปีนี้มาทิศทางชาย-ชายซะเยอะ)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมประเทศไทยถึงไม่สามารถสร้างภาพยนต์ แนว ( เทคเค่น / 007 / GONE GIRL ) ได้ครับ คือ
คือเห็นก็ๆม่น่าจะใช้ทุนเย่อะไรมากมาย !!!
เห็นมีแต่หนัง แบบ รักๆ ฟินๆ บ้าๆบอๆ
หรือไม่มีความสามารถจะทำกัน ได้ครับ