▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
[CR] เคปทาวน์ ขอบฝันและแรงบันดาลใจ
เคปทาวน์ คงเป็นจุดหมายในฝันของใครหลายๆคน เพราะเหมือนล่าสุดจะถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2014 By Lonely Planet
ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เดินทางไป
ผมบินจากโยฮันเนสเบิร์ก มาลงเคปทาวน์ ไฟล์เช้าตรู่วันหนึ่งกลางเดือน กค ที่ถือเป็นหน้าหนาวของที่นั่น อากาศเคปทาวน์กำลังสบายราว 10 กว่าองศา
กลุ่มเรามีกัน 6 คน ทำให้ง่ายต่อการเลือกเหมารถตู้เพื่อใช้เดินทางตลอด 3 วันที่นี่ Local Guide มารับเราที่สนามบินเพื่อเริ่มโปรแกรม
วันแรก เราเที่ยวรอบ Cape Peninsula หรือ แหลมตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา โดยมีแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) เป็นนางเอกรอเราไปยลความงาม
เราออกจากสนามบินแล้วลงใต้ไปตามเส้นทางเรียบชายหาด False Bay อากาศตอนเช้าค่อนข้างปิดพอสมควร รถพาเราไต่ขึ้นไปบนริมเขาให้ได้เห็นวิวทะเลจากมุมสูง แถบนี้จะมีคนนิยมมาเล่นเซิร์พกันเยอะ
รถพาเราวิ่งชมวิวทะเลอันเวิ้งว้างมาสัก 1 ชม จึงแวะพักที่เมืองเล็กๆน่ารัก Simon's Town เมืองท่าและที่พักสำคัญของทหารเรือมานานกว่า 200 ปี
เราแวะถ่ายรูปและจิบมอคค่าร้อนให้พออุ่นท้อง อากาศตอนเช้าดูขมุกขมัว เหมือนทำท่าว่าฝนจะตก ท้องถนนยังดูว่างเปล่า คนบางตา ร้านรวงต่างๆก็ยังไม่เปิดดี เรือหลายลำที่ลอยอยู่ตรงท่าเรือคงกำลังนอนหลับสบายรอเจ้าของเรือไปปลุก
เราเดินทางต่อเพื่อไปดูฝูงเพนกวินแอฟริกากันที่ Boulders Beach หาดที่ห่างไปเพียง 15 นาทีจาก Simon Town ที่นี่เป็นบ้านของเจ้าฝูงเพนกวินน้อย ชาวแอฟริกาที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที
เราเดินตามหลังกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปตามสะพานไม้ที่ลัดเลาะไปในตัวหาด เพื่อไปยืนออกันตรงจุดที่เค้าจัดไว้ให้ชมพวกมัน
ด้วยความที่คนเริ่มเยอะ และจุดที่ให้ยืนก็เป็นเพียงลานไม้เล็กๆ ทำให้พวกเราต้องแย่งกับคนอื่นๆหาจุดที่ดีที่สุดในการถ่ายรูป จนอีกใจผมก็รู้สึกว่าเจ้าเพนกวินต่างหากที่จ้องดูฝูงคนอย่างพวกเรา
แล้วเราก็มุ่งหน้าไปต่อที่ปลายสุดของแหลม เพื่อไปดูจุดที่ครั้งหนึ่ง คนเข้าใจผิดว่าเป็นจุดตัดของมหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติค (ซึ่งจริงๆเป็น Cape Agulhas ทางตะวันออกเฉียงใต้ลงไปอีก 150กม) โดยแหลมกู๊ดโฮปนี้ถูกตั้งชื่อโดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกสที่มาสำรวจเป็นชาติแรก ถือเป็นจุดชมวิวสำคัญ คลื่นลมที่พัดในวันนั้น ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีตำนานเกี่ยวกับเรือล่มที่แหลมนี้มากมายในอดีต
จากแหลมกู๊ดโฮป เราขึ้นเหนือเพื่อเข้าเมืองเคปทาวน์โดยผ่านเส้นทางเรียบผาอันโด่งดัง Chapman's Peak Drive ที่สวยที่สุด 1 ใน 10 ของโลก เป็นถนนที่มองเห็นวิวมหาสมุทรแอตแลนติคตลอดระยะทาง 9 กม. 114 โค้ง มีฉากหลังเป็นภูเขาและเมืองท่า Hout Bay ความงามของที่นี่ไม่น้อยไปกว่า ถนนเส้น 7 apostles ของเมลเบิร์น ออสเตรเลียเลย
เสียดายที่ผมไม่สามารถเก็บภาพสวยได้แม้เสี้ยวของที่เห็น เพราะฝนที่ตกและทางเรียบเขาอันลาดชัน ทำให้การลงไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง
(จะมาเล่าอีก 2วันที่เหลือ คือในเมืองเคปทาวน์ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตและสีสัน และวันสุดท้ายของการชิมไวน์ & ชมเมืองเก่าของชาวดัตน์)