แพคกระเป๋าตะลุย!! โตเกียวยกครัว 7 วัน 6 คืน

**มือใหม่หัดรีวิวค่ะ ถ้าข้อมูลผิดพลาดตรงไหน รบกวนบอกแก้ไขได้เลยนะคะ 😅

ความจริงเรา 3 คน พ่อ แม่ ลูก แพคกระเป๋าตะลุย!! ยกครัวเที่ยวต่างประเทศเป็นธรรมเนียมอย่างน้อยปีละครั้ง มา 6 ปีซ้อนแล้วคะ ตั้งแต่ลูกชาย 4 ขวบ

และทุกครั้งก่อนเดินทางมักแวบเข้ามาส่องและสอยข้อมูลดีๆ ที่เพื่อนๆ พันทิปเขียนไว้ตลอดๆ ทั้งรีวิวสายการบินที่เราเลือก โรงแรมที่เราจอง และแพลนตารางเที่ยวคร่าวๆ จัดลำดับอันไหนใกล้ๆ ไปวันเดียวกัน อันไหนไกลๆ แยกไปอีกวัน

ทริปนี้ก็เช่นกันคะ แต่หนนี้ที่แวะเข้ามาเจอรีวิวสายการบินเดลต้าและโรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ บ้างเล็กๆ พอได้ไปใช้บริการกลับมาแล้วรู้สึกประทับใจมว๊ากกก!! จนไม่อยากเก็บไว้คนเดียว ว่าแล้วก็ลองรีวิวกะเค้าบ้าง เผื่อเพื่อนๆ ที่กำลังเล็งจะบินแอร์ไลน์ไหน พักโรงแรมอะไรดีจะได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกเพิ่มจ้า หลังจากเป็นติ่งเข้ามากอบโกยข้อมูลไปฝ่ายเดียวอยู่หลายปี 😁

พร้อมแล้ว!! เรามาแพคกระเป๋าตะลุย!! ไปด้วยกันเลยคะ 3..2..1

ด้วยความที่เป็นคนรักความสะดวก รวดเร็ว มีช้อยส์เยอะ แต่จบเบ็ดเสร็จที่เดียว เลยนิยมจองเป็นแพคเกจตั๋วเครื่องบิน+โรงแรมผ่าน expedia โดยตั้งโจทย์เน้นดูสมาชิกในกระเป๋าเป็นหลักว่าพอไหม ตามด้วยเวลาบิน และทำเลโรงแรมว่าโอเครึป่าว และแล้วทริปตะลุย!! โตเกียวยกครัว 7 วัน 6 คืนก็เลยบิงโกที่สายการบินเดลต้าและโรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ 😆

เดลต้าเป็นสายการบิน Full Service ของอเมริกาที่บินตรงกรุงเทพ-โตเกียวทุกวัน สามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี!! 2 ใบๆ ละ 23 กก. และถือขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ ไม่เกิน 7 กก. แถมมีบริการอาหารและเครื่องดื่มฟรี!! ตลอดเส้นทาง อันนี้ประทับใจมว๊ากกกก.. (คหสต. แอบเทียบกับ Full Service สัญชาติไทยบางรายที่เน้นบริการดี๊ดีเฉพาะคนต่างชาติ 555)

ประทับใจแรก.. เป็นไฟล์ทมีอันจิกินที่ฝุด เสิร์ฟ!! จนลูกชายบอก แม่ๆ รอบเมื่อกี้ยังไม่ย่อยเลยง่ะ ไม่กินล่ะนะแม่... หุหุ

หลักๆ เสิร์ฟ 3 รอบคะ รอบแรกเวลคัม ดริ๊งค์และสแน็ค ต่อด้วยรอบสองอาหารจานหลัก ของว่าง และเครื่องดื่มเติมได้เรื่อยๆ ไม่หวง ปิดรอบท้ายด้วยสแน็คและเครื่องดื่มก่อนแลนด์ดิ้ง ระหว่างบินก็เต็มใจเสิร์ฟเครื่องดื่มตลอดๆๆ โดยเฉพาะคอสตาร์บัคน่าจะโดนนนนน.. เพราะเค้ามีให้จิบจุใจ

ประทับใจสอง.. เวลาบินเหมาะกับคนไม่ชอบนอนกลางคืนบนเครื่อง เพราะไฟล์ทขาไปจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ 06.45 น. ถึงสนามบินนาริตะ โตเกียว 15.25 น. มีเวลาเดินชิลๆ ยามเย็นก่อนหมดวัน และไฟล์ทขากลับออกจากสนามบินนาริตะ 17.45 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 22.40 น. มีเวลาเก็บตกเที่ยวช่วงครึ่งเช้าได้อีกนิด

ประทับใจสาม.. แอร์ฯ ส่วนใหญ่ดูจิสูงวัยนิ๊ดๆ แต่ service mind ดีและคล่องตัวฝุดๆ คะ.. ฟันธง!!😍

ปล. มีข้อเสียเล็กๆ คะ ตอนขาไปตอนเช็คอินที่เคาน์เตอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ มีจนท.กรานด์แจ้งล่วงหน้าห้ามซื้อน้ำหอมหรือเหล้าที่ดิวตี้ฟรี เพราะห้ามนำของเหลวขึ้นเครื่องเด็ดขาด!! ตอนแรกก็งง!! แกมไม่เชื่อ บินมานักต่อนักไม่คุ้นกับคำแนะนำนี้ แต่พอถึงหน้าเกท โอ้.. แม่เจ้า!! มีจนท.ตรวจเข้มมั่กๆ จริงๆ ด้วยคะ โชคดีนะไม่ช้อปอะไรมาสักกะนิดดดด.. เหะๆ แต่ขากลับจากนาริตะไม่มีนะคะ หิ้วได้โลดดด.. จ้า 😘

**ขอพักนิ้วแปป เดี๋ยวจิกลับมารีวิวโรงแรมและตารางเที่ยวตะลุย!! โตเกียวยกครัวต่อนะคะ 😊
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
การเดินทางจากสนามบินนาริตะมาเช็คอินที่โรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดคะ แนะนำขึ้นรถไฟ Narita Express หรือ N'EX วิ่งตรงจากสนามบินนาริตะมาสถานีชินจูกุ เพราะไม่ต้องลากกระเป๋าเปลี่ยนขบวนวุ่นวาย ขอเสริมควรซื้อตั๋วแบบไปกลับจะถูกกว่าซื้อทีละขาคะ เฉลี่ยคนละประมาณ 3,300 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และครึ่งราคาสำหรับเด็ก

รถไฟ N'EX ใช้เวลาวิ่งเร็วจาก Terminal 1 ยาวมาสถานีชินจูกุประมาณ 1.40 ชม. มีแวะจอดเฉพาะสถานีหลักๆ เช่น ชิบูย่า หรือโตเกียวที่อาจจอดนานนิดๆ เพราะมีเปลี่ยนหัวรถไฟเพื่อแบ่งขบวนสำหรับวิ่งแยกเป็นสองเส้นทาง อ้อ!! บนรถไฟขบวนนี้มีห้องน้ำ ที่วางกระเป๋าเดินทางด้านหน้าและหลังของแต่ละโบกี้ด้วยคะ เก้าอี้ที่นั่งสะอาด นุ่ม ปรับเอนได้ และช่องว่างระหว่างแถวกว้างขวางแถมสามารถหันเก้าอี้ด้านหน้าเข้ามาหาด้านหลังสำหรับ 4 คนนั่งเม้าท์มอยได้อีกด้วย

เนื่องด้วยสถานีชินจูกุเป็นอีกสถานีใหญ่ที่สามารถต่อรถไฟไปมาได้หลายเส้น ทำให้ผู้คนเดินพลุกพล่านตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อไม่สับสนให้มองหาป้ายทางออกพื้นสีเหลืองๆ ตัวหนังสือสีดำๆ เขียนว่า East แล้วเดินสวยๆ ขึ้นบันไดมาบนถนนนะคะ แต่ถ้ามีกระเป๋าใบโตๆ ติดตัวมาเหมือนเราสามคนให้เลือกเดินขึ้นบันไดเลื่อนออกประตูถัดไปจะได้ทุ่นแรงยกกระเป๋าขึ้นบันไดประมาณเกือบ 20 ขั้น 555 (คือผ่านจุดที่ต้องยกกระเป๋าใบโตๆ ไต่บันไดขึ้นมาถนนท่ามกลางผู้คนขวักไขว้มาแล้วจร้า ถึงค่อยหันไปเห็นบันไดเลื่อนอยู่ประตูใกล้ๆ ง่ะคะ ขอคอนเฟิร์มเหนื่อยโฮก 😂)

พอขึ้นมายืนบนถนนแล้วจะเห็นว่า เมื่อกี้เราออกมาจากห้าง Lumina East คะ จากนี้ให้เดินตรงไปข้างหน้ารอข้ามแยกไฟแดงถึง 2 แยกนะคะ ก็จะเห็นตึกโรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ ในเครือ WHG  หรูหราระดับ 4 ดาว เป็นอาคารสูง 30 ชั้น โดดเด่นด้วยโมเดลก็อตซิล่าขนาดยักษ์โผล่กลางตึกหันเข้าหาถนนจ้า แต่ถ้าใครหาโรงแรมไม่เจอให้แหงนคอหาก็อตซิล่าไว้ไม่มีพลาด!! ชัวร์  😁

ล็อบบี้โรงแรมตั้งอยู่ชั้น 8 สำหรับห้องพักเริ่มที่ชั้น 9-30 ส่วนชั้น 1-7 เป็นโรงหนัง Imax, ศูนย์การค้า และร้านอาหาร รวมถึงมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ตั้งอยู่ชั้น 1 ของโรงแรม

ขณะที่โดยรอบของโรงแรมแวดล้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อแบรนด์อื่น ได้แก่ Familymart, Lawson และร้านอาหารมีเพียบให้เลือกชิม หรือร้านขายยา/เครื่องสำอางที่เข้าร่วมโครงการ Tax Free และร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสองก็มีตลอดสองข้างทางให้ได้ละลายทรัพย์กัน ร้านนั่งจิบเบียร์ชิลๆ ก็มีให้เลือกเข้านะ รวมถึงร้าน toysex ร้านเกมตู้ บลาๆๆ ที่ติดเรทอบายมุขมีอยู่ตามซอยย่อยๆ 😏

**ขอเบรกยาวๆๆ แล้วจิมารีวิวห้องพักและบริการต่างๆ ของโรงแรม รวมถึงสายรถไฟต่างๆ ที่จะใช้ไปเที่ยวตลอดทริป 7 วัน 6 คืนนะคะ 😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่