Movses Haneshyan วัย 105 ปี
ถือไม้เท้า ยืนหยุดนิ่ง แล้วเริ่มร้องเพลง
My home My Armenia
.
ครั้งแรก Diana Markosian
ค้นพบเรื่องราวของพ่อตนเอง
ต่อมาเธอก็พบเรื่องราวของปู่ตนเองด้วย
สุดท้ายเธอก็พบว่าทั้งหมด
คือส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ
Diana Markosian ช่างภาพอเมริกัน
ได้ใช้เวลาหลายปีในการถ่ายภาพ
ในโครงการเจาะลึกเรื่องราวของบุคคล
โครงการค้นหาพ่อของฉัน
Inventing My Father
ด้วยความโหยหาการกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง
หลังจากพ่อแม่แยกทางกันตอนเธอยังวัยเด็ก
เธออยู่ใน Armenia เพื่อทำงานเรื่องราวชิ้นนี้
จนกระทั่งตอนปลายตุลาคมที่ผ่านมา
เธอบอกว่า เริ่มรู้สึกว่าหมดอาลัยตายอยาก
และต้องการจะหยุดพักสักพักหนึ่ง
อยากจะเดินทางออกจากประเทศสักชั่วคราว
ในตอนที่เธอได้รับการติดต่อจากหน่วยงาน
แห่งหนึ่งที่อยากให้เธอถ่ายภาพ
ชาวอาร์เมนียผู้ที่รอดตาย
หลังการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยชาวตุรกี
.
.
Ani ครั้งหนึ่งคือ เมืองหลวงของ Armenia
ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพรมแดน
ระหว่าง Turkey กับ Armenia
ในอดีตครั้งหนึ่งรู้จักกัน
ในชื่อว่า นคร 1,001 โบสถ์
Ani ถูกทอดทิ้งกลายเป็นเมืองร้างไป
หลังจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนั้น
ในตอนนี้มีเพียงแต่กองทหารตุรกี
มาตรวจตราชายแดนเป็นครั้งคราว
.
.
จากโศกนาฎกรรมตั้งแต่ปี 2458-2466
อาณาจักรออตโตมาน/ตุรกี
ได้สังหารเข่นฆ่าชาวอาร์เมเนีย
ประมาณการว่ามากกว่า 1,500,000 คน
และผู้คนอีกจำนวนมากที่ถูกขับไล่ไส่ส่ง
ให้เดินหน้าไปตายในทะเลทราย Syrian
มีประเทศมากกว่า 20 ชาติที่ระบุอย่างเป็นทางการว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
แต่สหรัฐอเมริกา/ตุรกีกลับ
ใช้วาทกรรมว่า ยุทธการจักรวรรดิ์
ตุรกียอมรับว่ามีการสังหารโหดเกิดขึ้นจริง
แต่ระบุว่ามีคนตายน้อยมาก
มีคนอาร์เมเนียตายเพียง 300,000 คน
แต่ชาวเตอร์หลายคนก็ถูกฆ่าตาย
เพราะสาเหตุสงครามกลางเมือง
กับความอดหยากเพราะอาหารขาดแคลน
.
.
ชาวอาร์เมเนียที่ถูกฆ่าตายในปี 1915
Henry Morgenthau ทูตสหรัฐอเมริกา
.
“ ฉันไม่เคยสนใจเรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฉันคิดว่า ถ้าคุณเป็นคนอาร์เมเนียแล้ว
มันคือ เรื่องสุดท้ายที่คุณต้องการจะคิดถึงมัน ”
Markosian ยอมรับข้อตกลงดังกล่าว
แต่ก็พบกับเรื่องราวที่ท้าทายอย่างมากเช่นกัน
เพราะหน่วยงานดังกล่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าจะหาผู้รอดตายได้จากที่ใดได้บ้าง
ดังนั้น Markosian จึงต้องเริ่มต้นค้นหา
ด้วยการทุ่มทั้งกายและใจอย่างเต็มที่
เดินทางไปยังท้องถิ่นต่าง ๆ
ที่ใครก็ได้ที่เป็นชาวอาร์เมเนีย
ที่ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงปี 2458
และได้หลบหนีออกจากตุรกี
ในช่วงมหกรรมกีฬาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ในการค้นหาคนเหล่านั้น
เธอเริ่มต้นค้นหาจากทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ใครก็ได้ที่เกิดก่อนปี 2458
แล้วได้รายชื่อพร้อมที่อยู่จำนวน 20 ราย
จากนั้นเธอก็เริ่มเดินทางไปยังเมืองในชนบท
เพื่อเคาะประตูบ้านค้นหาเพื่อพบปะพูดคุยด้วย
เธอพบผู้รอดตายจำนวน 10 ราย
.
.
.
Mariam Sahakyan อายุ 101 ปี
ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการเดินทางไปมา
ระหว่างบ้านในอาร์เมเนียกับซีเรีย
เพื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่นั่น
เธอไม่เคยเห็นหมู่บ้านเกิดของเธออีกเลย
เรื่องเดียวที่เธอขอร้องกับ Markosian
" ช่วยกลับไปที่หมู่บ้านของฉัน
นำดินในหมู่บ้านกลับมา
จะได้ฝังรวมในหลุมศพฉันด้วย “
และ Markosian ก็ได้ทำเรื่องนี้ให้กับเธอ
.
.
เบื้องหลังการถ่ายภาพต่าง ๆ นั้น
Markosian ได้ตัดสินใจ
ที่จะเชื้อเชิญผู้รอดตาย
ให้บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวในอดีต
ที่ผ่านมาให้มากขึ้นกว่าเดิม
ผู้คนจำนวน 10 คนที่เธอได้พบปะพูดคุย
อีก 6 คนที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่อีก 3 คนกำลังล้มป่วยอยู่
เธอได้พูดคุย/สัมภาษณ์แบบเจาะลึก
เพื่อทบทวนฟื้นฟูความทรงจำในวัยเยาว์
“ ฉันได้เข้าใจอย่างแท้จริงเลยว่า
โครงการนี้ค่อนข้างเป็นกลางอย่างยิ่ง
ถ้าฉันต้องเห็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ฉันเข้าใจดีว่าการนำพวกเขา
มาร่วมกันถ่ายทอดความทรงจำในอดีตนั้น
แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตฉัน
แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ
ฉันไม่ได้ทำไปเพราะคำบงการแต่อย่างใด ”
ในระหว่างช่วงการถ่ายภาพโครงการนี้
เธอกลับค้นพบด้วยตนเองว่า
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมานั้น
เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอด้วยเช่นกัน
ในการสนทนกับคุณทวดคนหนึ่ง
เธอได้เรียนรู้ว่า คุณทวดรอดตาย
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนั้นได้
เพราะครอบครัวชาวตุรกีครอบครัวหนึ่ง
ได้ดึงตัวให้เข้าไปหลบซ่อน
อยู่ในบ้านครอบครัวนั้นเอง
.
งานแต่งงานวันแรกของ Mariam กับสามี
.
โครงการใหม่ของเธอ
1915
Markosian ได้ขอให้ผู้สูงวัยจำนวน 3 ราย
ช่วยบรรยายภาพความทรงจำ
เกี่ยวกับบ้านเกิดครั้งสุดท้าย
แล้วเธอก็เดินทางไปตามหา
สถานที่ตามที่พวกเขาบรรยาย
ที่พวกเขาไม่เคยเห็นเลยเกือบ 100 ปีแล้ว
.
.
ภาพร่างด้วยมือแผนที่หมู่บ้าน Kebusie
ในเทือกเขา Musa Dagh Mountain
ที่อยู่ครั้งสุดท้ายในช่วงปี 2458
ก่อนที่จะถูกชาวตุรกีเนรเทศออกมา
Movses Haneshyan กับพ่อ
ต้องหนีตายออกจากหมู่บ้าน
ไปอยู่ที่ซีเรียในปี 2458
100 ปีต่อมา ท่านได้ขอร้องให้ Markosian
ช่วยหาโบสถ์หลังเดิม
และขอภาพสถานที่แห่งนั้นด้วยเช่นกัน
.
.
เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
Markosian ได้ขยายภาพถ่ายขนาดใหญ่
ใหญ่ขนาด 10 ฟุตกว้างเต็มแผ่น
เพื่อให้ผู้คนที่ขอร้องเรื่องนี้
จะได้มีภาพบ้านเดิมในอดีตอีกครั้ง
“ มันคือ การพาพวกเขาได้ใกล้ชิดกับ
สถานที่จริงที่ไม่เคยได้รับจากรัฐบาลใด ๆ เลย
ไม่ว่าจากอาร์เมเนีย หรือตุรกี "
.
.
Movses Haneshyan วัย 105 ปี
ได้มองย้อนหลังดูทิวทัศน์บ้านเดิมในตุรกี
นับเป็นครั้งแรกที่ท่านได้เห็นมันอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่มันผ่านพ้นมาถึง 98 ปีแล้ว
Movses ยังจำได้ว่า
ตอนที่ทหารบุกเข้ามาในหมู่บ้านของท่าน
“ ผมจับมือพ่อเดินผ่านถนน
ที่กองเต็มไปด้วยศพครึ่งถนน”
.
.
Markosian เล่าว่า ทั้งสามคนนี้
ได้แขวนภาพขนาดใหญ่นี้ไว้ในห้องนอน
เพื่อรำลึกเรื่องราว/บ้านเกิด
ในที่สุด เธอรู้สึกว่า
เธอได้ทำสิ่งที่ดีมีคุณค่ามากที่สุด
“ ก่อนเริ่มโครงการนี้
ฉันไม่เคยรู้สึกเปิดใจยอมรับว่า
ฉันเป็นชาวอาร์เมเนียคนหนึ่ง
เพราะฉันเป็นส่วนหนึ่งของ
ทายาททางประวัติศาสตร์
ที่มีการเล่าขานสืบต่อกันมา
เหมือนตำนานเรื่องราว
บรรพบุรุษเดิมของครอบครัว
แต่เมื่อฉันได้ค้นพบว่าเส้นกั้นบาง ๆ
ระหว่างชีวิตฉันกับผู้คนที่รอดตาย
การถูกบีบบังคับออกจากบ้านเกิดเมืองนอน
จึงทำให้พวกเราพยายามเลิกคิด
ถึงเรื่องราวในอดีตไปเสียเลย
แต่ครั้งนี้กลับทำให้ฉันได้ใกล้ชิดกับ
เรื่องราวต่าง ๆ กับผู้คนเหล่านี้ขึ้นมาอีก "
.
Landscape with a girl skipping rope 1936
@ Salvador Dali
.
นัยภาพนี้ ประวัติศาสตร์เลวร้ายในอดีต
มักจะเป็นเรื่องที่พยายามจำไม่ได้
แต่กลับลืมไม่ลง ไม่อยากขุดคุ้ย
ความทรงจำที่เลวร้ายขึ้นมาอีก
ขอจดจำแต่เรื่องงดงามในอดีต
.
.
เมือง Sason ใน Turkey
คือเมืองหลักของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ครั้งหนึ่งในเมืองนี้
มีแต่ชาวอาร์เมเนียเป็นส่วนมาก
แต่ตอนนี้ยังมีชาวอาร์เมีย
ที่ปกปิดตนเองเพียงจำนวนเล็กน้อย
หลายคนกล้วที่จะเปิดเผยเชื้อชาติตนเอง
หรือหวาดเกรงที่จะเปิดเผยเรื่องนี้
ให้ใคร ๆ ได้รับรู้ แบบกลัวโดนฆ่าทิ้งอีก
.
.
โครงการ 1915
คือ ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของ Markosian
ในเว็ปไซด์ชองเธอได้นำเสนอ
ภาพถ่ายของ Henry Morgenthau เอกอัครราชทูตอเมริกา
ผู้พยายามแจ้งเตือนเรื่องเลวร้ายในปี 2458
ให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ภาพเขียนลายมือ แผนที่ ภาพ และวิดีโอสั้น ๆ
เรื่องราวประสบการณ์น่าประทับใจของ Movses
กับภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่เธอมอบให้กับพวกเขา
เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
สื่อต่าง ๆ ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวผู้รอดตาย
พร้อมกับเรื่องราวที่บอกเล่า
ขึ้นมาใหม่อีกครั้งของ Markosian
.
.
Yepraksia Gevorgyan วัย 110 ปี
หลบหนีทหารตุรกีด้วยการข้ามแม่น้ำ
ที่ตอนนี้เป็นของชาติอาร์เมเนีย
เธอเห็นพวกออตโตมันฆ่าชาวอาร์เมเนีย
ด้วยการโยนศพทิ้งลงในแม่น้ำ
เธอประคองถือภาพภูมิทัศน์
ที่เธอจำเรื่องราวการหลบหนี
มาพร้อมกับครอบครัวของเธอ
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี
ที่เธอได้เห็นภาพบ้านเก่าอีกครั้ง
.
.
“ ตอนที่ฉันเริ่มโครงการ Father
ฉันรู้สึกว่าแค่การถ่ายภาพน่าจะยังไม่เพียงพอ
ในโครงการนี้ ฉันได้ยกระดับตนเอง
จากการเป็นเพียงแค่เป็นช่างภาพ
กลับกลายเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแรง
เมื่อตอนที่คุณเปิดตาเปิดใจ (ตาสว่าง)
มันมีเรื่องราวมากมาย
ที่คุณจะทำได้อย่างจริงใจ
มากกว่าการเป็นแค่การถ่ายภาพ
ลงในวารสาร นิตยสารต่าง ๆ
ฉันต้องไปบ้านของพวกเขาแต่ละคน
ไม่น้อยกว่าหลายสิบครั้ง
มันไม่ใช่แค่การพูดคุยสนทนา
แบบไม่ตั้งอกตั้งใจฟังคำบอกเล่า
ฉันใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ
ดื่มน้ำชาด้วยกัน ช่วยเหลือพวกเขา
มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
เกี่ยวกับการถ่ายภาพในตอนนี้
แต่คือ การอยู่ร่วมและรับรู้เกี่ยวกับ
เรื่องราวเก่า ๆ ของพวกเขาแต่ละคน
ฉันต้องการสานความสัมพันธุ์
ที่มากกว่าการเป็นแค่เพียงช่างภาพ
และฉันต้องการตอบแทนให้กับพวกเขา "
Diana Markosian กำลังระดมทุนช่วยเหลือ
Movses Mariam และ Yepraksia
ด้วยการขายภาพพิมพ์จากเว็ปไซด์ของเธอ
ภาพพิมพ์ที่ได้รับการอนุเคราะห์การพิมพ์จาก
Genesis Imaging
Markosian จะไปบรรยายที่
New York University’s Hagop Kevorkian Center for Near Eastern Studies
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ศกนี้
และนำเสนอผลงานภาพถ่ายโครงการ 1915
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/AWNl9P
http://goo.gl/3FnCQB
http://goo.gl/arA4hF
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ตุรกี/เตอร์ก ภาษาจีนดั้งเดิมหมายถึง ทาส
พวกนี้เป็นชนเผ่าเร่ร่อนในอดีต
ตอนนี้ก็มี พวกอุยกูร์ ที่มีเชื้อสายตุรกี
อยู่แถวมณฑลซินเกียงเป็นส่วนมาก
จีนมักจะรบราฆ่าฟันกับพวกชนเผ่านี้มาตลอด
ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คือขี้ข้า
ตามคติการรบการเมืองจนถึงทุกวันนี้
.
.
.
อาณาจักรออตโตมัน/ตุรกี/เตอร์ก
เดิมยิ่งใหญ่มากยึดครองพื้นที่กว้างขวางมาก
เคยกินเขตดินแดนยุโรปบางส่วน
เคยเป็นผู้ดูแลนครเมกกะฮ์ เมดิน่า
ก่อนตกเป็นของราชวงศ์ซาอูด(เซาว์ดี้)
ที่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายวาฮาบี
ที่ถือเคร่งรับใช้ราชันต์สุดลิ่มสิ้นประตู
ตอนนี้ เจ้าชายคนใหม่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
ตุรกีเคยรบชนะกรีก ในไซปรัส
ข้อหาแบบพวกคนพาลอ้างว่า
รุกล้ำดินแดนรังแกคนตุรกี
100 ปีหลังเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอาร์เมเนีย
Movses Haneshyan วัย 105 ปี
ถือไม้เท้า ยืนหยุดนิ่ง แล้วเริ่มร้องเพลง
My home My Armenia
.
ครั้งแรก Diana Markosian
ค้นพบเรื่องราวของพ่อตนเอง
ต่อมาเธอก็พบเรื่องราวของปู่ตนเองด้วย
สุดท้ายเธอก็พบว่าทั้งหมด
คือส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ
Diana Markosian ช่างภาพอเมริกัน
ได้ใช้เวลาหลายปีในการถ่ายภาพ
ในโครงการเจาะลึกเรื่องราวของบุคคล
โครงการค้นหาพ่อของฉัน
Inventing My Father
ด้วยความโหยหาการกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง
หลังจากพ่อแม่แยกทางกันตอนเธอยังวัยเด็ก
เธออยู่ใน Armenia เพื่อทำงานเรื่องราวชิ้นนี้
จนกระทั่งตอนปลายตุลาคมที่ผ่านมา
เธอบอกว่า เริ่มรู้สึกว่าหมดอาลัยตายอยาก
และต้องการจะหยุดพักสักพักหนึ่ง
อยากจะเดินทางออกจากประเทศสักชั่วคราว
ในตอนที่เธอได้รับการติดต่อจากหน่วยงาน
แห่งหนึ่งที่อยากให้เธอถ่ายภาพ
ชาวอาร์เมนียผู้ที่รอดตาย
หลังการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยชาวตุรกี
.
.
Ani ครั้งหนึ่งคือ เมืองหลวงของ Armenia
ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพรมแดน
ระหว่าง Turkey กับ Armenia
ในอดีตครั้งหนึ่งรู้จักกัน
ในชื่อว่า นคร 1,001 โบสถ์
Ani ถูกทอดทิ้งกลายเป็นเมืองร้างไป
หลังจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนั้น
ในตอนนี้มีเพียงแต่กองทหารตุรกี
มาตรวจตราชายแดนเป็นครั้งคราว
.
.
จากโศกนาฎกรรมตั้งแต่ปี 2458-2466
อาณาจักรออตโตมาน/ตุรกี
ได้สังหารเข่นฆ่าชาวอาร์เมเนีย
ประมาณการว่ามากกว่า 1,500,000 คน
และผู้คนอีกจำนวนมากที่ถูกขับไล่ไส่ส่ง
ให้เดินหน้าไปตายในทะเลทราย Syrian
มีประเทศมากกว่า 20 ชาติที่ระบุอย่างเป็นทางการว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
แต่สหรัฐอเมริกา/ตุรกีกลับ
ใช้วาทกรรมว่า ยุทธการจักรวรรดิ์
ตุรกียอมรับว่ามีการสังหารโหดเกิดขึ้นจริง
แต่ระบุว่ามีคนตายน้อยมาก
มีคนอาร์เมเนียตายเพียง 300,000 คน
แต่ชาวเตอร์หลายคนก็ถูกฆ่าตาย
เพราะสาเหตุสงครามกลางเมือง
กับความอดหยากเพราะอาหารขาดแคลน
.
.
ชาวอาร์เมเนียที่ถูกฆ่าตายในปี 1915
Henry Morgenthau ทูตสหรัฐอเมริกา
.
“ ฉันไม่เคยสนใจเรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฉันคิดว่า ถ้าคุณเป็นคนอาร์เมเนียแล้ว
มันคือ เรื่องสุดท้ายที่คุณต้องการจะคิดถึงมัน ”
Markosian ยอมรับข้อตกลงดังกล่าว
แต่ก็พบกับเรื่องราวที่ท้าทายอย่างมากเช่นกัน
เพราะหน่วยงานดังกล่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าจะหาผู้รอดตายได้จากที่ใดได้บ้าง
ดังนั้น Markosian จึงต้องเริ่มต้นค้นหา
ด้วยการทุ่มทั้งกายและใจอย่างเต็มที่
เดินทางไปยังท้องถิ่นต่าง ๆ
ที่ใครก็ได้ที่เป็นชาวอาร์เมเนีย
ที่ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงปี 2458
และได้หลบหนีออกจากตุรกี
ในช่วงมหกรรมกีฬาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ในการค้นหาคนเหล่านั้น
เธอเริ่มต้นค้นหาจากทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ใครก็ได้ที่เกิดก่อนปี 2458
แล้วได้รายชื่อพร้อมที่อยู่จำนวน 20 ราย
จากนั้นเธอก็เริ่มเดินทางไปยังเมืองในชนบท
เพื่อเคาะประตูบ้านค้นหาเพื่อพบปะพูดคุยด้วย
เธอพบผู้รอดตายจำนวน 10 ราย
.
.
.
Mariam Sahakyan อายุ 101 ปี
ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการเดินทางไปมา
ระหว่างบ้านในอาร์เมเนียกับซีเรีย
เพื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่นั่น
เธอไม่เคยเห็นหมู่บ้านเกิดของเธออีกเลย
เรื่องเดียวที่เธอขอร้องกับ Markosian
" ช่วยกลับไปที่หมู่บ้านของฉัน
นำดินในหมู่บ้านกลับมา
จะได้ฝังรวมในหลุมศพฉันด้วย “
และ Markosian ก็ได้ทำเรื่องนี้ให้กับเธอ
.
.
เบื้องหลังการถ่ายภาพต่าง ๆ นั้น
Markosian ได้ตัดสินใจ
ที่จะเชื้อเชิญผู้รอดตาย
ให้บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวในอดีต
ที่ผ่านมาให้มากขึ้นกว่าเดิม
ผู้คนจำนวน 10 คนที่เธอได้พบปะพูดคุย
อีก 6 คนที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่อีก 3 คนกำลังล้มป่วยอยู่
เธอได้พูดคุย/สัมภาษณ์แบบเจาะลึก
เพื่อทบทวนฟื้นฟูความทรงจำในวัยเยาว์
“ ฉันได้เข้าใจอย่างแท้จริงเลยว่า
โครงการนี้ค่อนข้างเป็นกลางอย่างยิ่ง
ถ้าฉันต้องเห็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ฉันเข้าใจดีว่าการนำพวกเขา
มาร่วมกันถ่ายทอดความทรงจำในอดีตนั้น
แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตฉัน
แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ
ฉันไม่ได้ทำไปเพราะคำบงการแต่อย่างใด ”
ในระหว่างช่วงการถ่ายภาพโครงการนี้
เธอกลับค้นพบด้วยตนเองว่า
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมานั้น
เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอด้วยเช่นกัน
ในการสนทนกับคุณทวดคนหนึ่ง
เธอได้เรียนรู้ว่า คุณทวดรอดตาย
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนั้นได้
เพราะครอบครัวชาวตุรกีครอบครัวหนึ่ง
ได้ดึงตัวให้เข้าไปหลบซ่อน
อยู่ในบ้านครอบครัวนั้นเอง
.
งานแต่งงานวันแรกของ Mariam กับสามี
.
โครงการใหม่ของเธอ 1915
Markosian ได้ขอให้ผู้สูงวัยจำนวน 3 ราย
ช่วยบรรยายภาพความทรงจำ
เกี่ยวกับบ้านเกิดครั้งสุดท้าย
แล้วเธอก็เดินทางไปตามหา
สถานที่ตามที่พวกเขาบรรยาย
ที่พวกเขาไม่เคยเห็นเลยเกือบ 100 ปีแล้ว
.
.
ภาพร่างด้วยมือแผนที่หมู่บ้าน Kebusie
ในเทือกเขา Musa Dagh Mountain
ที่อยู่ครั้งสุดท้ายในช่วงปี 2458
ก่อนที่จะถูกชาวตุรกีเนรเทศออกมา
Movses Haneshyan กับพ่อ
ต้องหนีตายออกจากหมู่บ้าน
ไปอยู่ที่ซีเรียในปี 2458
100 ปีต่อมา ท่านได้ขอร้องให้ Markosian
ช่วยหาโบสถ์หลังเดิม
และขอภาพสถานที่แห่งนั้นด้วยเช่นกัน
.
.
เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
Markosian ได้ขยายภาพถ่ายขนาดใหญ่
ใหญ่ขนาด 10 ฟุตกว้างเต็มแผ่น
เพื่อให้ผู้คนที่ขอร้องเรื่องนี้
จะได้มีภาพบ้านเดิมในอดีตอีกครั้ง
“ มันคือ การพาพวกเขาได้ใกล้ชิดกับ
สถานที่จริงที่ไม่เคยได้รับจากรัฐบาลใด ๆ เลย
ไม่ว่าจากอาร์เมเนีย หรือตุรกี "
.
.
Movses Haneshyan วัย 105 ปี
ได้มองย้อนหลังดูทิวทัศน์บ้านเดิมในตุรกี
นับเป็นครั้งแรกที่ท่านได้เห็นมันอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่มันผ่านพ้นมาถึง 98 ปีแล้ว
Movses ยังจำได้ว่า
ตอนที่ทหารบุกเข้ามาในหมู่บ้านของท่าน
“ ผมจับมือพ่อเดินผ่านถนน
ที่กองเต็มไปด้วยศพครึ่งถนน”
.
.
Markosian เล่าว่า ทั้งสามคนนี้
ได้แขวนภาพขนาดใหญ่นี้ไว้ในห้องนอน
เพื่อรำลึกเรื่องราว/บ้านเกิด
ในที่สุด เธอรู้สึกว่า
เธอได้ทำสิ่งที่ดีมีคุณค่ามากที่สุด
“ ก่อนเริ่มโครงการนี้
ฉันไม่เคยรู้สึกเปิดใจยอมรับว่า
ฉันเป็นชาวอาร์เมเนียคนหนึ่ง
เพราะฉันเป็นส่วนหนึ่งของ
ทายาททางประวัติศาสตร์
ที่มีการเล่าขานสืบต่อกันมา
เหมือนตำนานเรื่องราว
บรรพบุรุษเดิมของครอบครัว
แต่เมื่อฉันได้ค้นพบว่าเส้นกั้นบาง ๆ
ระหว่างชีวิตฉันกับผู้คนที่รอดตาย
การถูกบีบบังคับออกจากบ้านเกิดเมืองนอน
จึงทำให้พวกเราพยายามเลิกคิด
ถึงเรื่องราวในอดีตไปเสียเลย
แต่ครั้งนี้กลับทำให้ฉันได้ใกล้ชิดกับ
เรื่องราวต่าง ๆ กับผู้คนเหล่านี้ขึ้นมาอีก "
.
Landscape with a girl skipping rope 1936
@ Salvador Dali
.
นัยภาพนี้ ประวัติศาสตร์เลวร้ายในอดีต
มักจะเป็นเรื่องที่พยายามจำไม่ได้
แต่กลับลืมไม่ลง ไม่อยากขุดคุ้ย
ความทรงจำที่เลวร้ายขึ้นมาอีก
ขอจดจำแต่เรื่องงดงามในอดีต
.
.
เมือง Sason ใน Turkey
คือเมืองหลักของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ครั้งหนึ่งในเมืองนี้
มีแต่ชาวอาร์เมเนียเป็นส่วนมาก
แต่ตอนนี้ยังมีชาวอาร์เมีย
ที่ปกปิดตนเองเพียงจำนวนเล็กน้อย
หลายคนกล้วที่จะเปิดเผยเชื้อชาติตนเอง
หรือหวาดเกรงที่จะเปิดเผยเรื่องนี้
ให้ใคร ๆ ได้รับรู้ แบบกลัวโดนฆ่าทิ้งอีก
.
.
โครงการ 1915
คือ ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของ Markosian
ในเว็ปไซด์ชองเธอได้นำเสนอ
ภาพถ่ายของ Henry Morgenthau เอกอัครราชทูตอเมริกา
ผู้พยายามแจ้งเตือนเรื่องเลวร้ายในปี 2458
ให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ภาพเขียนลายมือ แผนที่ ภาพ และวิดีโอสั้น ๆ
เรื่องราวประสบการณ์น่าประทับใจของ Movses
กับภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่เธอมอบให้กับพวกเขา
เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
สื่อต่าง ๆ ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวผู้รอดตาย
พร้อมกับเรื่องราวที่บอกเล่า
ขึ้นมาใหม่อีกครั้งของ Markosian
.
.
Yepraksia Gevorgyan วัย 110 ปี
หลบหนีทหารตุรกีด้วยการข้ามแม่น้ำ
ที่ตอนนี้เป็นของชาติอาร์เมเนีย
เธอเห็นพวกออตโตมันฆ่าชาวอาร์เมเนีย
ด้วยการโยนศพทิ้งลงในแม่น้ำ
เธอประคองถือภาพภูมิทัศน์
ที่เธอจำเรื่องราวการหลบหนี
มาพร้อมกับครอบครัวของเธอ
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี
ที่เธอได้เห็นภาพบ้านเก่าอีกครั้ง
.
.
“ ตอนที่ฉันเริ่มโครงการ Father
ฉันรู้สึกว่าแค่การถ่ายภาพน่าจะยังไม่เพียงพอ
ในโครงการนี้ ฉันได้ยกระดับตนเอง
จากการเป็นเพียงแค่เป็นช่างภาพ
กลับกลายเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแรง
เมื่อตอนที่คุณเปิดตาเปิดใจ (ตาสว่าง)
มันมีเรื่องราวมากมาย
ที่คุณจะทำได้อย่างจริงใจ
มากกว่าการเป็นแค่การถ่ายภาพ
ลงในวารสาร นิตยสารต่าง ๆ
ฉันต้องไปบ้านของพวกเขาแต่ละคน
ไม่น้อยกว่าหลายสิบครั้ง
มันไม่ใช่แค่การพูดคุยสนทนา
แบบไม่ตั้งอกตั้งใจฟังคำบอกเล่า
ฉันใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ
ดื่มน้ำชาด้วยกัน ช่วยเหลือพวกเขา
มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
เกี่ยวกับการถ่ายภาพในตอนนี้
แต่คือ การอยู่ร่วมและรับรู้เกี่ยวกับ
เรื่องราวเก่า ๆ ของพวกเขาแต่ละคน
ฉันต้องการสานความสัมพันธุ์
ที่มากกว่าการเป็นแค่เพียงช่างภาพ
และฉันต้องการตอบแทนให้กับพวกเขา "
Diana Markosian กำลังระดมทุนช่วยเหลือ
Movses Mariam และ Yepraksia
ด้วยการขายภาพพิมพ์จากเว็ปไซด์ของเธอ
ภาพพิมพ์ที่ได้รับการอนุเคราะห์การพิมพ์จาก Genesis Imaging
Markosian จะไปบรรยายที่
New York University’s Hagop Kevorkian Center for Near Eastern Studies
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ศกนี้
และนำเสนอผลงานภาพถ่ายโครงการ 1915
.
Diana Markosian
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/AWNl9P
http://goo.gl/3FnCQB
http://goo.gl/arA4hF
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ตุรกี/เตอร์ก ภาษาจีนดั้งเดิมหมายถึง ทาส
พวกนี้เป็นชนเผ่าเร่ร่อนในอดีต
ตอนนี้ก็มี พวกอุยกูร์ ที่มีเชื้อสายตุรกี
อยู่แถวมณฑลซินเกียงเป็นส่วนมาก
จีนมักจะรบราฆ่าฟันกับพวกชนเผ่านี้มาตลอด
ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คือขี้ข้า
ตามคติการรบการเมืองจนถึงทุกวันนี้
.
.
อาณาจักรออตโตมัน/ตุรกี/เตอร์ก
เดิมยิ่งใหญ่มากยึดครองพื้นที่กว้างขวางมาก
เคยกินเขตดินแดนยุโรปบางส่วน
เคยเป็นผู้ดูแลนครเมกกะฮ์ เมดิน่า
ก่อนตกเป็นของราชวงศ์ซาอูด(เซาว์ดี้)
ที่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายวาฮาบี
ที่ถือเคร่งรับใช้ราชันต์สุดลิ่มสิ้นประตู
ตอนนี้ เจ้าชายคนใหม่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
ตุรกีเคยรบชนะกรีก ในไซปรัส
ข้อหาแบบพวกคนพาลอ้างว่า
รุกล้ำดินแดนรังแกคนตุรกี