มาถึงรีวิวฉบับที่สองนะครับ
สำหรับใครที่เพิ่งหลงเข้ามาแล้วสนใจ ติดตามรีวิวฉบับแรกสามารถตามไปได้ดังลิ้งข้างล้างนี้เลยครับ
Vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv
EP1 :South tyrol
http://ppantip.com/topic/34268522
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
สำหรับบันทึกการเดินทาง ของผมฉบับนี้ที่จะพาเพื่อนๆไปนะครับจะยังคงอยู่ที่อิตาลีครับ (เอาทีละประเทศเนอะ ^^) เป็นเส้นทางการเดินทางเพื่อที่จะไปที่เวนิช ซึ่งผมจะไม่พูดถึงเวนิชเนอะในรีวิวชุดนี้ เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว
ไว้....... ผมจะลองเขียนบันทึกการเดินทางที่เป็นเมืองท่องเที่ยวดูอีกชุดละกันครับ (ถ้ามีเพื่อนๆคนไหนสนใจ ^^)
ก็คือ.....วันนี้จะพาไปเที่ยว “ Garda lake” และ "Verona"
เกริ่นคร่าวๆ นะครับ Garda เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เว่อร์ เฟร่ออลังของอิตาลี ซึ่งถ้าเรายืนที่ ต้นทาง จะมองไม่เห็นอีกฝั่ง ทำให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นทะเลจริงๆ (งงไหม? เหมืองมองจากแนวยาวน่ะ) แต่ถ้ามองจากแนวขวาง ก็ยังคงใหญ่อยู๋ดี แต่จะเห็นภูเขาอยู่อีกฝั่ง ให้ความรู้สึกเหมือน อยู่บนเกาะกลายๆ
ส่วน Verona เป็นเมืองเล็กๆ ที่พูดเลยว่า จขกท ไม่เคยได้ยิน แต่เพื่อนชาวฝรั่งเศสบอกว่า มาอิตาลี ต้องมาแวะที่เมืองนี้ให้ได้..... ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ
มาเริ่มกันที่ Garda lake กันก่อนเลยดีกว่าครับ อย่างที่บอก เดินทางโดยรถยนต์ของเพื่อนครับ จขกท สบาย หลับๆตื่นๆ 555+
นี่คือรถติดของเขานะ...... ติดแปปเดียวไม่หมือนประเทศเรา 555+
ระหว่างทางเจอเครื่องจักรทางการเกษตร นั่นคือ สปริงเกอร์ครับ บิ๊กเบิ้มอลังการมาก..... ถ้าคนไทยพูดถึงก็คือ ท่อpvp สีฟ้าๆ มีหัวแกว่งน้ำเบาๆนั่นแหละครับ เทคโนโลยีต่างกันจริงๆ
อย่างที่บอกครับ ทะเลสาบใหญ่มากบางจุดของทะเลสาบมองไปเจอภูเขา แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ทะเล
ควรจะเป็นหาดทรายแต่ที่นี่เป็นหาดกรวดครับ
มองไปลิบๆ มีปราสาทเก่าๆด้วย สมัยก่อนคงโรแมนติกมากผมว่า ริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตก เจ้าหญิง กับเจ้าชายสวีทกัน อะไรประมาณนั้น #เพ้อเจ้อไปเรื่อย
เป็ดน้อย ก็อยู่ 555+ เพื่อนฝรั่งเศสเห็นเป็ด ชอบพูดว่า หยั่มๆ look delicious 5555+
มีคนเล่นพายเรือ หรือ....อะไรสักอย่างไม่แน่ใจว่า เขาเรียกว่า Kayak หรือเปล่าใครมีความรู้ แนะนำกันได้ครับ
บางคนเพิ่งฝึกล้มบ่อยครั้ง และก็ไม่เคยยอมแพ้ครับ
ส่วนคนเก่งๆ ก็เท่เลย
ฝรั่งเขาอาบแดด กันแบบนี้แหละ..... ถ้าเป็นคนไทย ทำใจไม่ได้ วิ่งหนีแดด 5555+ เพื่อนฝรั่งตอนแรกแปลกใจนะครับที่ครั้งแรกเขามาไทย เจอ โลชั่นที่ทาแล้วให้ผิวขาว รักแร้ขาว เขาก็งงว่า จะขาวไปเพื่อ? พอๆกับผมที่งงว่า ไปเจอครีมกันแดดที่ทาแล้วให้ผิวเป็นสีแทน....... ผมก็คิดในใจ จะแทนไปเพื่อ? 5555+ อย่างว่าค่านิยมไม่เหมือนกัน
ไฮไลท์ตื่นตาตื่นใจมาก นักกินข้าวไปสักพัก อยู่ๆก็มีเรือมาเทียบครับ อื้อหือออออ เรือขายของ ขายน้ำ เหล้า ไอติม ยังกะประเทศไทย แถเปิดเพลง ติ๊ดชึ่งๆ สะด้วย สาวๆหนุ่มๆ ที่อาบแดดกันนี่ เหมือนเด็กๆเลยครับ วิ่งไปซื้อไอติมกันใหญ่ การตลาดดีเลิศพูดเลย
ให้ดูมุมทะเลสาบอีกมุมครับ ที่พวกผม พัก ปิกนิกกัน มุมดี ลมดี วิวดีนั่งกินขนมปัง กับชีส เพราะไม่มีอะไรติดมากัน เก็บของเก่ากิน..... จะบอกเลยว่า เอียนชีสพอสมควรกลับมาไทยเนี่ย 5555+
น้ำใสและเย็นมาก สาวสวยมากด้วย 555+
โดดน้ำกันไหมครับ??? เสียดายโฟกัสไม่ทัน เลยได้ ภาพมาแบบ เบลอๆ
ร้านค้าที่เมืองแถวนั้นครับ เป็นร้านที่มีแต่ผลิตภัณฑ์จาก ลาเวนเดอร์ อื้อหือออออ หอมมาก สีร้านมุ้งมิ้งมาก ขัดกับหน้าของเจ้าของร้าน 555+
ช่วงเย็นๆ (สองทุ่มแล้วนะนั่น) คนก็จะชอบมานั่งชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน ดื่มไวน์ กินไอศกรีม กันครับ
ก็จะมีท่าเรือสำหรับทำการประมงจอดเรียงกันเต็มเลยครับให้อารมณ์เหมือนเนเธอแลนด์อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวไว้รีวิวเนเธอแลนด์ให้ฟังนะครับประเทศนี้น่ารักพอสมควรเลย
แหล่งชอปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวครับ ของวางขายกันเกลื่อน แบบไม่ค่อยมีระเบียบ บ้านเขาก็จะทาสีสันสดใส น่ารักๆ ให้อารมณ์พอๆกับปาลิโอ้บ้านเราเลยครับ แต่ของจริงอลังการกว่าเยอะ 5555+
อันนี้ขอนอกเรื่องนะครับ ในกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศยุโรปเนี่ยอิตาลีเป็นประเทศที่เรียกได้ว่าอิเหละเขละขละมากที่สุด 5555+ ถ้าอธิบายง่ายๆ นะครับบ้านเมืองที่คนเป็นระเบียบมากที่สุดคือเยอรมันนี เปรียบเทียบได้กับ.... สิงคโปร์ในกลุ่มอาเซียนเราแล้วกัน ส่วนอิตาลีน่ะหรอครับ..... พฤติกรรมหลายๆอย่าง เหมือนคนไทยเด๊ะเลยครับ 5555+ จะว่ามักง่ายก็.... พอได้ แต่จะว่า relax จะดูดีกว่านะ 5555+ คนที่นี่ friendly มาก ถึงมากที่สุด ในกลุ่มยูโรโ:นที่ผมไปเยี่ยมเยียนมา และตาสวยที่สุดด้วยครับ ทั้งชายหญิง 555+
ยกตัวอย่างง่ายๆก็ได้ครับ.....เวลาจอดรถตามที่จอดรถ เขาจะมีช่องสีฟ้าตีเส้นขอบเขตสำหรับจอดรถไว้ ซึ่งที่อิตาลีเขาจะต้องมีป้ายกำกับว่า กรุณาจอดให้ตรงช่อง ซึ่ง ฟังดุแล้วมันเป็น common sense ซึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีป้ายเขียนไว้..... แต่ที่อิตาลีจำเป็นต้องมีครับเพราะคนจะจอดไม่ตรงช่องกัน...... คุ้นๆไหมครับ? ประเทศไทยเราเองก็ มี คือ กัน !!! นี่ออาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งก็ได้ครับที่ชาว Tyrol (ในรีวิว Ep.1) ไม่อยากถูบนับเป็นชาวอิตาลี555+
กลับมาเข้าเรื่องต่อครับ พระอาทิตย์ตกดินนี้ สวยจริงๆ
มื้อเย็นครับ มาอิตาลี ต้องนี่เลยครับ !!! พาสต้า และ พิซซ่า ! ขอบอกเยว่า คาโบนาร่าเค้านี่แบบว่า อื้อหือออออออคุณพระ อร่อยอลังการเว่อวัง เป็นหมูก็ยอม
ส่วนพิซซ่านี่คือ มาการิต้า คือแป้ง ทาซอสมะเขือเทศ กับมอสซาเรลล่าชีส แต่นั้นแหละครับ ก็อร่อยดีนะ แบบมังสวิรัติ ซึ่งร้านอาหารในอิตาลี ปกติ เขาจะมี ขนมปังวางไว้ที่โต๊ะเป็นอามณ์เหมือนออเดิร์ฟครับ ทานได้เลย ส่วนพิซซ่า เขาจะมีน้ำมันมะกอกใส่พริกมาด้วย กินกับพิซซ่าก็ ซู่ซ่า ให้คิดถึงรสเผ็ดของอาหารไทยได้หน่อยนึง แต่ที่ต้องระวังนะครับเวลาเข้าร้านอาหารที่อิตาลีคือ เขาจะมีการบวกค่า “โต๊ะ” หรือง่ายๆ ก็ค่าบริการเพิ่มไปด้วยนั่นเองครับ ดูรายละเอียดดีๆนะครับ ในบางร้าน ก็ไม่มี บางร้านจะเขียนไว้ในเมนูครับ
ส่วนอันนี้ก็ค่อนข้างเป็นอาหารชื่อดังของอิตาลีนะครับคือ Risorto อารมณ์เหมือน ข้าว แต่วิธีทำคือไม่ได้หุงครับ คั่วในกระทะ ค่อยๆเติมน้ำทีละหน่อยๆ จนข้าวสุก บางคนใส่นม บางคนไม่ใส่ แล้วแต่สูตรครับ เคยไปกิน Risorto ที่ฝรั่งเศสเหมือนกัน แม่เพื่อนเขาทำให้กิน โดยเขาใส่เลม่อนเข้าไปด้วย ก็อร่อยไปอีกแบบ อารมณ์แบบข้าวผัด แฉะๆอ่ะ แต่อร่อยนะ คีย์สำคัญคือต้องมี พาร์มีซานชีสครับ จะทำให้หอมมากกกกกกกกกกก (เพื่อนสอนทำมาเหมือนกัน)
มาต่อกันที่ Verona นะครับ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ว่าเป็นแหล่งชอปปอิ้งอย่างดีเลยแหละ มีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั้งเอเชีย และยุโรปมาท่องเที่ยวที่นี่
ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองก็จะมีเหมือน กำแพงเมืองเก่าๆ ให้อารมณ์ เราเข้ากรุงศรีอยุธยาเลยครับ 555+
สถานที่เที่ยวสำคัญของเมืองนี้คือ Arena ครับ คล้ายๆกับโคลอสเซียม แต่ดูเหมือนจะเล็กกว่านิดหน่อย
หน้าตาเป็นแบบนี้เลยครับ แต่ด้านในเป็นอย่างไรไม่ทราบนะครับ เพราะคิว ยาว มาก และ แพงเอาการ เลยไม่เข้าดีกว่า เดินชมรอบๆเอา
บรรยากาศในเมือง มุม สงบๆ ครับ......มุมอื่นมีแต่นักท่องเที่ยว 555+
ที่อิตาลีนี่ ไม่เหมือนที่อื่นนะครับ สถานที่เที่ยวจำพวกโบสถ์ต้องเสียเงินครับ อย่างน้อยก็ราวๆ 1-2 ยูโร จขกท เลย เอาแต่ชมรอบนอกเอาครับ เพราะไปชมโบสถ์ที่สวยๆ มาเยอะในแถบ เวียนนา กับ มิวนิค ความตื่นตา อลังการใจเลยไม่เท่าไหร่
ความหวาน และสวยของเมืองนี้ผมคิดว่าอยู่ที่ มีแม่น้ำคั่นผ่านกลางเมืองเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ อย่าง ปราก หรือ บูดาเปสครับ
ปราสาทเก่าๆ ลิบๆนั่นเราสามารถเดินขึ้นไปชมได้ครับ
จะไปได้ก็ต้องข้ามแม่น้ำกันก่อนเนอะ
แต่ก่อนข้าม พากินไอติมกันก่อนครับ ชาตินี้ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะซื้อไอติมรสชอคโกแลต เพราะในความรู้สึกว่าเป็นรสที่แบบ เบสิคมาก ชอคโกแลต วนิลลา สตอเบอร์รี่ แต่พอมาเจอชอคโกแลตของร้านนี้ครับ......
โอ๊ว มาย ก๊อต มือสั่น ปากสั่น เหมือนคนติดยาลงแดง อยากได้ (เว่อร์ไปไหม?) คือ มัน แบบ น่ากินมากกกกกกกก
อื้อหือออออออ อร่อยฟิน สุดๆครับ บอกเลยครับ มาอิตาลี ทุกวันต้องกินไอศกรีมครับ อร่อยทุกร้าน ผมมาสามวัน กินทั้งสามวัน สามร้าน อร่อยหมดทุกร้าน ที่สำคัญครับ ถูก มาก ! 1 สกู๊ป 1 ยูโร ก็ ราวๆ 40บาท คุณพระ ถูกกว่า ไอติม แบรนด์ในบ้านเราสะอีก แต่รสชาตินี่คือ สุดยอด
โอเค หลังจากพักกินขนมหวานกันและ มาข้ามสะพานกันครับ วิวสวย อารมบ้านช่องก็สวย
ตรอกเล็กๆสีสันสดใส พร้อมบันได ที่จะเดินไปสู่ยอดครับ
พร้อมกันหรือยัง? บริหารต้นขากันหน่อยยยย
[CR] แบกเป้ ท่องยุโรป เรียนรู้วัฒนธรรม ในที่ที่ทัวร์ไม่พาไป ในสไตล์นักเรียนแลกเปลี่ยน // Ep.2 Garda-Verona: Italy\\
สำหรับใครที่เพิ่งหลงเข้ามาแล้วสนใจ ติดตามรีวิวฉบับแรกสามารถตามไปได้ดังลิ้งข้างล้างนี้เลยครับ
Vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv
EP1 :South tyrol http://ppantip.com/topic/34268522
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
สำหรับบันทึกการเดินทาง ของผมฉบับนี้ที่จะพาเพื่อนๆไปนะครับจะยังคงอยู่ที่อิตาลีครับ (เอาทีละประเทศเนอะ ^^) เป็นเส้นทางการเดินทางเพื่อที่จะไปที่เวนิช ซึ่งผมจะไม่พูดถึงเวนิชเนอะในรีวิวชุดนี้ เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว
ไว้....... ผมจะลองเขียนบันทึกการเดินทางที่เป็นเมืองท่องเที่ยวดูอีกชุดละกันครับ (ถ้ามีเพื่อนๆคนไหนสนใจ ^^)
ก็คือ.....วันนี้จะพาไปเที่ยว “ Garda lake” และ "Verona"
เกริ่นคร่าวๆ นะครับ Garda เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เว่อร์ เฟร่ออลังของอิตาลี ซึ่งถ้าเรายืนที่ ต้นทาง จะมองไม่เห็นอีกฝั่ง ทำให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นทะเลจริงๆ (งงไหม? เหมืองมองจากแนวยาวน่ะ) แต่ถ้ามองจากแนวขวาง ก็ยังคงใหญ่อยู๋ดี แต่จะเห็นภูเขาอยู่อีกฝั่ง ให้ความรู้สึกเหมือน อยู่บนเกาะกลายๆ
ส่วน Verona เป็นเมืองเล็กๆ ที่พูดเลยว่า จขกท ไม่เคยได้ยิน แต่เพื่อนชาวฝรั่งเศสบอกว่า มาอิตาลี ต้องมาแวะที่เมืองนี้ให้ได้..... ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ
มาเริ่มกันที่ Garda lake กันก่อนเลยดีกว่าครับ อย่างที่บอก เดินทางโดยรถยนต์ของเพื่อนครับ จขกท สบาย หลับๆตื่นๆ 555+
นี่คือรถติดของเขานะ...... ติดแปปเดียวไม่หมือนประเทศเรา 555+
ระหว่างทางเจอเครื่องจักรทางการเกษตร นั่นคือ สปริงเกอร์ครับ บิ๊กเบิ้มอลังการมาก..... ถ้าคนไทยพูดถึงก็คือ ท่อpvp สีฟ้าๆ มีหัวแกว่งน้ำเบาๆนั่นแหละครับ เทคโนโลยีต่างกันจริงๆ
อย่างที่บอกครับ ทะเลสาบใหญ่มากบางจุดของทะเลสาบมองไปเจอภูเขา แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ทะเล
ควรจะเป็นหาดทรายแต่ที่นี่เป็นหาดกรวดครับ
มองไปลิบๆ มีปราสาทเก่าๆด้วย สมัยก่อนคงโรแมนติกมากผมว่า ริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตก เจ้าหญิง กับเจ้าชายสวีทกัน อะไรประมาณนั้น #เพ้อเจ้อไปเรื่อย
เป็ดน้อย ก็อยู่ 555+ เพื่อนฝรั่งเศสเห็นเป็ด ชอบพูดว่า หยั่มๆ look delicious 5555+
มีคนเล่นพายเรือ หรือ....อะไรสักอย่างไม่แน่ใจว่า เขาเรียกว่า Kayak หรือเปล่าใครมีความรู้ แนะนำกันได้ครับ
บางคนเพิ่งฝึกล้มบ่อยครั้ง และก็ไม่เคยยอมแพ้ครับ
ส่วนคนเก่งๆ ก็เท่เลย
ฝรั่งเขาอาบแดด กันแบบนี้แหละ..... ถ้าเป็นคนไทย ทำใจไม่ได้ วิ่งหนีแดด 5555+ เพื่อนฝรั่งตอนแรกแปลกใจนะครับที่ครั้งแรกเขามาไทย เจอ โลชั่นที่ทาแล้วให้ผิวขาว รักแร้ขาว เขาก็งงว่า จะขาวไปเพื่อ? พอๆกับผมที่งงว่า ไปเจอครีมกันแดดที่ทาแล้วให้ผิวเป็นสีแทน....... ผมก็คิดในใจ จะแทนไปเพื่อ? 5555+ อย่างว่าค่านิยมไม่เหมือนกัน
ไฮไลท์ตื่นตาตื่นใจมาก นักกินข้าวไปสักพัก อยู่ๆก็มีเรือมาเทียบครับ อื้อหือออออ เรือขายของ ขายน้ำ เหล้า ไอติม ยังกะประเทศไทย แถเปิดเพลง ติ๊ดชึ่งๆ สะด้วย สาวๆหนุ่มๆ ที่อาบแดดกันนี่ เหมือนเด็กๆเลยครับ วิ่งไปซื้อไอติมกันใหญ่ การตลาดดีเลิศพูดเลย
ให้ดูมุมทะเลสาบอีกมุมครับ ที่พวกผม พัก ปิกนิกกัน มุมดี ลมดี วิวดีนั่งกินขนมปัง กับชีส เพราะไม่มีอะไรติดมากัน เก็บของเก่ากิน..... จะบอกเลยว่า เอียนชีสพอสมควรกลับมาไทยเนี่ย 5555+
น้ำใสและเย็นมาก สาวสวยมากด้วย 555+
โดดน้ำกันไหมครับ??? เสียดายโฟกัสไม่ทัน เลยได้ ภาพมาแบบ เบลอๆ
ร้านค้าที่เมืองแถวนั้นครับ เป็นร้านที่มีแต่ผลิตภัณฑ์จาก ลาเวนเดอร์ อื้อหือออออ หอมมาก สีร้านมุ้งมิ้งมาก ขัดกับหน้าของเจ้าของร้าน 555+
ช่วงเย็นๆ (สองทุ่มแล้วนะนั่น) คนก็จะชอบมานั่งชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน ดื่มไวน์ กินไอศกรีม กันครับ
ก็จะมีท่าเรือสำหรับทำการประมงจอดเรียงกันเต็มเลยครับให้อารมณ์เหมือนเนเธอแลนด์อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวไว้รีวิวเนเธอแลนด์ให้ฟังนะครับประเทศนี้น่ารักพอสมควรเลย
แหล่งชอปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวครับ ของวางขายกันเกลื่อน แบบไม่ค่อยมีระเบียบ บ้านเขาก็จะทาสีสันสดใส น่ารักๆ ให้อารมณ์พอๆกับปาลิโอ้บ้านเราเลยครับ แต่ของจริงอลังการกว่าเยอะ 5555+
อันนี้ขอนอกเรื่องนะครับ ในกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศยุโรปเนี่ยอิตาลีเป็นประเทศที่เรียกได้ว่าอิเหละเขละขละมากที่สุด 5555+ ถ้าอธิบายง่ายๆ นะครับบ้านเมืองที่คนเป็นระเบียบมากที่สุดคือเยอรมันนี เปรียบเทียบได้กับ.... สิงคโปร์ในกลุ่มอาเซียนเราแล้วกัน ส่วนอิตาลีน่ะหรอครับ..... พฤติกรรมหลายๆอย่าง เหมือนคนไทยเด๊ะเลยครับ 5555+ จะว่ามักง่ายก็.... พอได้ แต่จะว่า relax จะดูดีกว่านะ 5555+ คนที่นี่ friendly มาก ถึงมากที่สุด ในกลุ่มยูโรโ:นที่ผมไปเยี่ยมเยียนมา และตาสวยที่สุดด้วยครับ ทั้งชายหญิง 555+
ยกตัวอย่างง่ายๆก็ได้ครับ.....เวลาจอดรถตามที่จอดรถ เขาจะมีช่องสีฟ้าตีเส้นขอบเขตสำหรับจอดรถไว้ ซึ่งที่อิตาลีเขาจะต้องมีป้ายกำกับว่า กรุณาจอดให้ตรงช่อง ซึ่ง ฟังดุแล้วมันเป็น common sense ซึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีป้ายเขียนไว้..... แต่ที่อิตาลีจำเป็นต้องมีครับเพราะคนจะจอดไม่ตรงช่องกัน...... คุ้นๆไหมครับ? ประเทศไทยเราเองก็ มี คือ กัน !!! นี่ออาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งก็ได้ครับที่ชาว Tyrol (ในรีวิว Ep.1) ไม่อยากถูบนับเป็นชาวอิตาลี555+
กลับมาเข้าเรื่องต่อครับ พระอาทิตย์ตกดินนี้ สวยจริงๆ
มื้อเย็นครับ มาอิตาลี ต้องนี่เลยครับ !!! พาสต้า และ พิซซ่า ! ขอบอกเยว่า คาโบนาร่าเค้านี่แบบว่า อื้อหือออออออคุณพระ อร่อยอลังการเว่อวัง เป็นหมูก็ยอม
ส่วนพิซซ่านี่คือ มาการิต้า คือแป้ง ทาซอสมะเขือเทศ กับมอสซาเรลล่าชีส แต่นั้นแหละครับ ก็อร่อยดีนะ แบบมังสวิรัติ ซึ่งร้านอาหารในอิตาลี ปกติ เขาจะมี ขนมปังวางไว้ที่โต๊ะเป็นอามณ์เหมือนออเดิร์ฟครับ ทานได้เลย ส่วนพิซซ่า เขาจะมีน้ำมันมะกอกใส่พริกมาด้วย กินกับพิซซ่าก็ ซู่ซ่า ให้คิดถึงรสเผ็ดของอาหารไทยได้หน่อยนึง แต่ที่ต้องระวังนะครับเวลาเข้าร้านอาหารที่อิตาลีคือ เขาจะมีการบวกค่า “โต๊ะ” หรือง่ายๆ ก็ค่าบริการเพิ่มไปด้วยนั่นเองครับ ดูรายละเอียดดีๆนะครับ ในบางร้าน ก็ไม่มี บางร้านจะเขียนไว้ในเมนูครับ
ส่วนอันนี้ก็ค่อนข้างเป็นอาหารชื่อดังของอิตาลีนะครับคือ Risorto อารมณ์เหมือน ข้าว แต่วิธีทำคือไม่ได้หุงครับ คั่วในกระทะ ค่อยๆเติมน้ำทีละหน่อยๆ จนข้าวสุก บางคนใส่นม บางคนไม่ใส่ แล้วแต่สูตรครับ เคยไปกิน Risorto ที่ฝรั่งเศสเหมือนกัน แม่เพื่อนเขาทำให้กิน โดยเขาใส่เลม่อนเข้าไปด้วย ก็อร่อยไปอีกแบบ อารมณ์แบบข้าวผัด แฉะๆอ่ะ แต่อร่อยนะ คีย์สำคัญคือต้องมี พาร์มีซานชีสครับ จะทำให้หอมมากกกกกกกกกกก (เพื่อนสอนทำมาเหมือนกัน)
มาต่อกันที่ Verona นะครับ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ว่าเป็นแหล่งชอปปอิ้งอย่างดีเลยแหละ มีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั้งเอเชีย และยุโรปมาท่องเที่ยวที่นี่
ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองก็จะมีเหมือน กำแพงเมืองเก่าๆ ให้อารมณ์ เราเข้ากรุงศรีอยุธยาเลยครับ 555+
สถานที่เที่ยวสำคัญของเมืองนี้คือ Arena ครับ คล้ายๆกับโคลอสเซียม แต่ดูเหมือนจะเล็กกว่านิดหน่อย
หน้าตาเป็นแบบนี้เลยครับ แต่ด้านในเป็นอย่างไรไม่ทราบนะครับ เพราะคิว ยาว มาก และ แพงเอาการ เลยไม่เข้าดีกว่า เดินชมรอบๆเอา
บรรยากาศในเมือง มุม สงบๆ ครับ......มุมอื่นมีแต่นักท่องเที่ยว 555+
ที่อิตาลีนี่ ไม่เหมือนที่อื่นนะครับ สถานที่เที่ยวจำพวกโบสถ์ต้องเสียเงินครับ อย่างน้อยก็ราวๆ 1-2 ยูโร จขกท เลย เอาแต่ชมรอบนอกเอาครับ เพราะไปชมโบสถ์ที่สวยๆ มาเยอะในแถบ เวียนนา กับ มิวนิค ความตื่นตา อลังการใจเลยไม่เท่าไหร่
ความหวาน และสวยของเมืองนี้ผมคิดว่าอยู่ที่ มีแม่น้ำคั่นผ่านกลางเมืองเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ อย่าง ปราก หรือ บูดาเปสครับ
ปราสาทเก่าๆ ลิบๆนั่นเราสามารถเดินขึ้นไปชมได้ครับ
จะไปได้ก็ต้องข้ามแม่น้ำกันก่อนเนอะ
แต่ก่อนข้าม พากินไอติมกันก่อนครับ ชาตินี้ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะซื้อไอติมรสชอคโกแลต เพราะในความรู้สึกว่าเป็นรสที่แบบ เบสิคมาก ชอคโกแลต วนิลลา สตอเบอร์รี่ แต่พอมาเจอชอคโกแลตของร้านนี้ครับ......
โอ๊ว มาย ก๊อต มือสั่น ปากสั่น เหมือนคนติดยาลงแดง อยากได้ (เว่อร์ไปไหม?) คือ มัน แบบ น่ากินมากกกกกกกก
อื้อหือออออออ อร่อยฟิน สุดๆครับ บอกเลยครับ มาอิตาลี ทุกวันต้องกินไอศกรีมครับ อร่อยทุกร้าน ผมมาสามวัน กินทั้งสามวัน สามร้าน อร่อยหมดทุกร้าน ที่สำคัญครับ ถูก มาก ! 1 สกู๊ป 1 ยูโร ก็ ราวๆ 40บาท คุณพระ ถูกกว่า ไอติม แบรนด์ในบ้านเราสะอีก แต่รสชาตินี่คือ สุดยอด
โอเค หลังจากพักกินขนมหวานกันและ มาข้ามสะพานกันครับ วิวสวย อารมบ้านช่องก็สวย
ตรอกเล็กๆสีสันสดใส พร้อมบันได ที่จะเดินไปสู่ยอดครับ
พร้อมกันหรือยัง? บริหารต้นขากันหน่อยยยย