ผมเพิ่งรู้นะรับว่า
การใช้บัตรเครดิต จริงๆแล้วมันไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เฉพาะที่ตัวบัตรอย่างเดียว แต่มันไม่ปลอดภัยที่ระบบการตรวจสอบ
นั่นเพราะ ระบบการเก็บเงินจากเจ้าของบัตร หรือผู้ถือนั่น ไม่เคยได้รับการตรวจสอบเลยจากธนาคารเจ้าของบัตร โดยอ้างว่ามีธุรกรรมมากทำให้ตรวจสอบไม่ได้ ต้องให้เกิดเรื่องแล้วว่ากันเป็นกรณีๆไป
เนื่องจาก ผมเคยใช้ระบบเขียนใบสลิปแล้วตั้งวันจ่ายบัตรเครดิตล่วงหน้า
แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ร้านค้าลืม ส่งเรื่องไปเก็บเงินเลย
ทางแบงก์ก็อนุมัติให้ ผมเลยสงสัยแล้วถามทางแบงก์
แบงก์ตอบว่า เค้าไม่ได้ดูหรอกนะสลิปที่พวกเราเซ็นต์อะไรไป
เค้าดูแค่invoice ที่ร้านค้าเรียกเก็บเงินนะครับ
เพื่อนๆดูสิครับ ความปลอภัยอยู่ที่ใด
ยิ่งไปกว่านั่น. ในสัญญาบัตรเครดิต. เท่าที่ทราบเดี๋ยวนี้ระบุว่าให้ผู้ถือบัตรต้ิงจ่ายค่าใช้จ่าย
จ่ายที่เกิดจากบัตร ทุกกรณีใช่ไหมครับ ผมไม่แน่ใจ
แบบนี้มันเอาเปรียบมากนะครับ
เดี๋ยวนี้ เวลาเซ็นต์ชื่อในบัตร ผมเซ็นต์ชื่ออื่นไป มันยังผ่านลบ
แล้วถามจริงๆ เวลามันเกิดเรื่อง มันจะตรวจสอบยังงับ
ในเรื่องกฏ ก็ไม่ทำตามกฏ
1. ผู้ถือบัตรต้องเซ็นต์ให้เหมือนกันลายเซ็นต์บนบัตร
2. ร้านค้าต้องดูลายเซ็นต์ว่าเหมือนไหม
3. แบงก์ก็ต้องตรวจสอบสลิปก่อนเรียกเก็บเงิน
จะอาจจะว่า เพื่อความรวดเร็วแต่ให้มันสะเพร่าไปก่อนนี่
มันก็ดูแปลกๆดีนะครับ คนสมัยนี้
ความไม่ปลอดภัยของการใช้บัตรเครดิต
การใช้บัตรเครดิต จริงๆแล้วมันไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เฉพาะที่ตัวบัตรอย่างเดียว แต่มันไม่ปลอดภัยที่ระบบการตรวจสอบ
นั่นเพราะ ระบบการเก็บเงินจากเจ้าของบัตร หรือผู้ถือนั่น ไม่เคยได้รับการตรวจสอบเลยจากธนาคารเจ้าของบัตร โดยอ้างว่ามีธุรกรรมมากทำให้ตรวจสอบไม่ได้ ต้องให้เกิดเรื่องแล้วว่ากันเป็นกรณีๆไป
เนื่องจาก ผมเคยใช้ระบบเขียนใบสลิปแล้วตั้งวันจ่ายบัตรเครดิตล่วงหน้า
แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ร้านค้าลืม ส่งเรื่องไปเก็บเงินเลย
ทางแบงก์ก็อนุมัติให้ ผมเลยสงสัยแล้วถามทางแบงก์
แบงก์ตอบว่า เค้าไม่ได้ดูหรอกนะสลิปที่พวกเราเซ็นต์อะไรไป
เค้าดูแค่invoice ที่ร้านค้าเรียกเก็บเงินนะครับ
เพื่อนๆดูสิครับ ความปลอภัยอยู่ที่ใด
ยิ่งไปกว่านั่น. ในสัญญาบัตรเครดิต. เท่าที่ทราบเดี๋ยวนี้ระบุว่าให้ผู้ถือบัตรต้ิงจ่ายค่าใช้จ่าย
จ่ายที่เกิดจากบัตร ทุกกรณีใช่ไหมครับ ผมไม่แน่ใจ
แบบนี้มันเอาเปรียบมากนะครับ
เดี๋ยวนี้ เวลาเซ็นต์ชื่อในบัตร ผมเซ็นต์ชื่ออื่นไป มันยังผ่านลบ
แล้วถามจริงๆ เวลามันเกิดเรื่อง มันจะตรวจสอบยังงับ
ในเรื่องกฏ ก็ไม่ทำตามกฏ
1. ผู้ถือบัตรต้องเซ็นต์ให้เหมือนกันลายเซ็นต์บนบัตร
2. ร้านค้าต้องดูลายเซ็นต์ว่าเหมือนไหม
3. แบงก์ก็ต้องตรวจสอบสลิปก่อนเรียกเก็บเงิน
จะอาจจะว่า เพื่อความรวดเร็วแต่ให้มันสะเพร่าไปก่อนนี่
มันก็ดูแปลกๆดีนะครับ คนสมัยนี้