พอดีเห็นช่วงนี้ทางรัฐบาล ห้างสรรพสินค้า เค้ารณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกกันอยู่ ก็เลยขอมาพูดหน่อยครับ
ผมเป็นคนนึงที่พยามยามลดการใช้ถุงพลาสติกมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่เค้าจะรณรงค์กันอีก ไปซื้อของในห้างผมก็จะไม่ใส่ถุง จะเอาเป้คู่ใจติดตัวไปเสมอ แต่สิ่งที่พบเจอตลอดคือ
1. ก่อนเข้าสโตร์มีปัญหาบ่อยมาก รปภ.บอกให้ไปฝากเป้ตลอด ผมก็บอกไปว่าในเป้มีของสำคัญ หรือบางทีก็บอกว่าจะเอามาใส่ของ ก็คือไม่ยินดีที่จะฝาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง รปภ. จะไม่ยอมให้เอาเข้าไป ผมก็โมโหมาก บอกไปแล้ว พูดไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันจะให้ไปฝาก ผมก็เลยบอกไปว่า ของในกระเป๋าผมนะ มีของสำคัญ เงินเดือนคุณครึ่งปีก็ยังซื้อไม่ได้ ถ้าหายไปใครจะรับผิดชอบ อีกอย่างผมก็ไม่ไว้ใจพวกคุณเหมือนกัน รปภ. ก็เลยให้ผ่าน
2. เมื่อซื้อของเสร็จ บอกพนักงานไม่ต้องใส่ถุง แล้วผมก็หยิบของใส่กระเป๋า พอออกมาจากสโตร์ พนักงานด้านหน้าก็จะขอตรวจสิ่งของและใบเสร็จหลายครั้ง ทั้งๆที่พนักงานก็เห็นว่าผมจ่ายเงินแล้ว จนบางครั้งคนรอบๆข้าง ที่เดินผ่านไปผ่านมา มองผมเหมือนว่าไปขโมยของ ลองนึกดูครับ เดินออกมาพนักงานค้นเป้ ดูบิล คนส่วนใหญ่ก็คงคิดว่าไอ้นี้มันขโมยของ
3. กรณีที่ไม่ได้เอากระเป๋าไป เวลาซื้อของเสร็จ ผมก็ไม่ใส่ถุง แต่จะใส่รถเข็นออกมา เพื่อที่จะเอาไปใส่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอด พอออกมาก็อาการเดิม ขอตรวจบิล และมักจะตรวจแบบละเอียดด้วย ในทางกลับกัน คนที่ซื้อของแล้วใส่ถุง ของเต็มรถเข็นไปหมด แต่อยู่ในถุง พนักงานก็ไม่ได้ใส่ใจ หรือสนใจอะไร ปล่อยผ่านไปเลย
4. กรณีที่ไม่ได้เอากระเป๋าไปเช่นกัน อย่างเช่นผมไปซื้อนมสด 2-3 กระติกใหญ่ๆ พอคิดเงินเสร็จ ผมก็จะหิ้วออกมา ด้านหน้า ก็จะขอตรวจบิลอีกตามเคย แล้วยังพิจารณาด้วยนะครับว่า ในบิลตรงกับยี่ห้อนมหรือเปล่า บางครั้งผมก็ลองซื้อโดยใส่ถุง แล้วก็เดินออกมา ปรากฎว่าพนักงานด้านหน้าก็ไม่ได้สนใจครับ
เหตุการณ์ทั้งหมดส่วนใหญ่จะเกิดกับห้าง bigc กับ tesco ครับ ซึ่งรู้สึกว่าทั้งสองห้างนี้ก็รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกด้วย ส่วน top ยังไม่เคยเจอครับ
สำหรับผมก็เองยังคงทำเหมือนเดิม เพราะผมชอบแนวนี้ ลดการใช้ถุง แต่สำหรับบางคนที่เริ่มจะลดการใช้ถุง แต่กลับมาเจอเหตุการณ์คล้ายๆผม ผมว่าหลายคนคงจะคิดว่ากลับไปใช้ถุงพลาสติก คงจะดีกว่า
ที่อยากจะบอกคือ หน่วยงานรัฐบาล ห้างสรรพสินค้า รณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติก แต่ยังคงมีความคิดแบบเดิมๆว่า ลูกค้าที่ถือกระเป๋าเข้าไป สะพายเป้เข้าไป คือคนคิดที่จะไปขโมยของ ต่อให้รณรงค์กันแทบตายก็คงไม่มีทางสำเร็จหรอกครับ
_________________________________________________________
ผมอายุ 27 ปี เดินทางไปต่างประเทศก็บ่อยครั้ง ทั้งไปเที่ยว ไปติดต่อธุรกิจ ไปมาหลายๆประเทศ หลายๆเมือง ที่เค้ารณคงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก เวลาเดินทางสังเกตคนเมืองนั้นๆ แทบทุกคนจะต้องมีกระเป๋าติดตัวมาด้วย ใครไม่มีกระเป่านี้แปลก ยิ่งเวลาเดินเข้าไปซื้อของใส่ห้าง ในซุปเปอร์ แทบทุกคนก็จะสะพายเป้ หรือไม่ก็ถือกระเป๋าเข้าไป ห้างที่นั้นไม่มีที่ฝากกระเป่า ไม่มีการขอตรวจกระเป๋า ซื้อของเสร็จ คิดเงินเสร็จก็หยิบของใส่เป้ แล้วก็เดินออกมา มันเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ สำหรับเมืองที่เค้ารณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก บางทีคนที่ต้องการถุงพลาสติก ยังถูกมองจากคนรอบข้างแบบแปลกๆเลยครับ
บางประเทศ บางเมือง การจะใช้ถุงพลาสติก หรือขอถุงพลาสติก ก็ต้องจ่ายตังค์ค่าถุงเพิ่มด้วย บางประเทศถึงขั้น คิดราคาถุงตามขนาดด้วยซ้ำ
แต่ในประเทศไทยของเรา กำลังรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ถุงพลาสติก แต่คนที่เข้าร่วมกิจกรรมยังถูกมองจากห้างสรรพสินค้า บุคคลที่ถือกระเป๋าเข้าไปนะ ตั้งใจจะขโมยของในห้าง แค่คิดกับลูกค้าแบบนี้ โครงการก็คงจะล้มไม่เป็นท่าแล้วแหละครับ
รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก คงไม่ได้ผลหรอกครับ ถ้าหากห้างยังคิดว่าลูกค้าที่ถือกระเป๋าเข้าไปจะไปขโมยของ
ผมเป็นคนนึงที่พยามยามลดการใช้ถุงพลาสติกมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่เค้าจะรณรงค์กันอีก ไปซื้อของในห้างผมก็จะไม่ใส่ถุง จะเอาเป้คู่ใจติดตัวไปเสมอ แต่สิ่งที่พบเจอตลอดคือ
1. ก่อนเข้าสโตร์มีปัญหาบ่อยมาก รปภ.บอกให้ไปฝากเป้ตลอด ผมก็บอกไปว่าในเป้มีของสำคัญ หรือบางทีก็บอกว่าจะเอามาใส่ของ ก็คือไม่ยินดีที่จะฝาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง รปภ. จะไม่ยอมให้เอาเข้าไป ผมก็โมโหมาก บอกไปแล้ว พูดไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันจะให้ไปฝาก ผมก็เลยบอกไปว่า ของในกระเป๋าผมนะ มีของสำคัญ เงินเดือนคุณครึ่งปีก็ยังซื้อไม่ได้ ถ้าหายไปใครจะรับผิดชอบ อีกอย่างผมก็ไม่ไว้ใจพวกคุณเหมือนกัน รปภ. ก็เลยให้ผ่าน
2. เมื่อซื้อของเสร็จ บอกพนักงานไม่ต้องใส่ถุง แล้วผมก็หยิบของใส่กระเป๋า พอออกมาจากสโตร์ พนักงานด้านหน้าก็จะขอตรวจสิ่งของและใบเสร็จหลายครั้ง ทั้งๆที่พนักงานก็เห็นว่าผมจ่ายเงินแล้ว จนบางครั้งคนรอบๆข้าง ที่เดินผ่านไปผ่านมา มองผมเหมือนว่าไปขโมยของ ลองนึกดูครับ เดินออกมาพนักงานค้นเป้ ดูบิล คนส่วนใหญ่ก็คงคิดว่าไอ้นี้มันขโมยของ
3. กรณีที่ไม่ได้เอากระเป๋าไป เวลาซื้อของเสร็จ ผมก็ไม่ใส่ถุง แต่จะใส่รถเข็นออกมา เพื่อที่จะเอาไปใส่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอด พอออกมาก็อาการเดิม ขอตรวจบิล และมักจะตรวจแบบละเอียดด้วย ในทางกลับกัน คนที่ซื้อของแล้วใส่ถุง ของเต็มรถเข็นไปหมด แต่อยู่ในถุง พนักงานก็ไม่ได้ใส่ใจ หรือสนใจอะไร ปล่อยผ่านไปเลย
4. กรณีที่ไม่ได้เอากระเป๋าไปเช่นกัน อย่างเช่นผมไปซื้อนมสด 2-3 กระติกใหญ่ๆ พอคิดเงินเสร็จ ผมก็จะหิ้วออกมา ด้านหน้า ก็จะขอตรวจบิลอีกตามเคย แล้วยังพิจารณาด้วยนะครับว่า ในบิลตรงกับยี่ห้อนมหรือเปล่า บางครั้งผมก็ลองซื้อโดยใส่ถุง แล้วก็เดินออกมา ปรากฎว่าพนักงานด้านหน้าก็ไม่ได้สนใจครับ
เหตุการณ์ทั้งหมดส่วนใหญ่จะเกิดกับห้าง bigc กับ tesco ครับ ซึ่งรู้สึกว่าทั้งสองห้างนี้ก็รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกด้วย ส่วน top ยังไม่เคยเจอครับ
สำหรับผมก็เองยังคงทำเหมือนเดิม เพราะผมชอบแนวนี้ ลดการใช้ถุง แต่สำหรับบางคนที่เริ่มจะลดการใช้ถุง แต่กลับมาเจอเหตุการณ์คล้ายๆผม ผมว่าหลายคนคงจะคิดว่ากลับไปใช้ถุงพลาสติก คงจะดีกว่า
ที่อยากจะบอกคือ หน่วยงานรัฐบาล ห้างสรรพสินค้า รณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติก แต่ยังคงมีความคิดแบบเดิมๆว่า ลูกค้าที่ถือกระเป๋าเข้าไป สะพายเป้เข้าไป คือคนคิดที่จะไปขโมยของ ต่อให้รณรงค์กันแทบตายก็คงไม่มีทางสำเร็จหรอกครับ
_________________________________________________________
ผมอายุ 27 ปี เดินทางไปต่างประเทศก็บ่อยครั้ง ทั้งไปเที่ยว ไปติดต่อธุรกิจ ไปมาหลายๆประเทศ หลายๆเมือง ที่เค้ารณคงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก เวลาเดินทางสังเกตคนเมืองนั้นๆ แทบทุกคนจะต้องมีกระเป๋าติดตัวมาด้วย ใครไม่มีกระเป่านี้แปลก ยิ่งเวลาเดินเข้าไปซื้อของใส่ห้าง ในซุปเปอร์ แทบทุกคนก็จะสะพายเป้ หรือไม่ก็ถือกระเป๋าเข้าไป ห้างที่นั้นไม่มีที่ฝากกระเป่า ไม่มีการขอตรวจกระเป๋า ซื้อของเสร็จ คิดเงินเสร็จก็หยิบของใส่เป้ แล้วก็เดินออกมา มันเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ สำหรับเมืองที่เค้ารณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก บางทีคนที่ต้องการถุงพลาสติก ยังถูกมองจากคนรอบข้างแบบแปลกๆเลยครับ
บางประเทศ บางเมือง การจะใช้ถุงพลาสติก หรือขอถุงพลาสติก ก็ต้องจ่ายตังค์ค่าถุงเพิ่มด้วย บางประเทศถึงขั้น คิดราคาถุงตามขนาดด้วยซ้ำ
แต่ในประเทศไทยของเรา กำลังรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ถุงพลาสติก แต่คนที่เข้าร่วมกิจกรรมยังถูกมองจากห้างสรรพสินค้า บุคคลที่ถือกระเป๋าเข้าไปนะ ตั้งใจจะขโมยของในห้าง แค่คิดกับลูกค้าแบบนี้ โครงการก็คงจะล้มไม่เป็นท่าแล้วแหละครับ