----- มาฟังเรื่องราว ดีดี ที่ศาลเมตตา แก่ประชาชนบ้าง -------

เผอิญวันนี้ผมลาหยุดงาน พาเพื่อนบ้านที่รู้จักไปรายงานตัว ต่ออัยการจังหวัดร้อยเอ็ด......
เนื่องจากแกตกเป็นผู้ต้องหา (ศาลยังไม่ประทับรับฟ้อง) ในข้อหายักยอกทรัพย์ ก็ไปรายงานตัวตามปกติ อัยการก็บอกให้
ไปรอที่ศาลร้อยเอ็ดเลย เดี๋ยวจะส่งสำนวนฟ้องอาญาไปตามหลัง ให้เตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวเพื่อต่อสู่คดีด้วย
ผมกับผู้ต้องหา ก็ไปรอที่ศาลตามปกติ..แต่ ในใจรุ่มร้อนขึ้นมาทันที ตอนไป นึกว่ายังไงเสีย อัยการคงยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จ
และก็คงยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลเป็นจำเลยในวันนี้แน่ ๆ เลย ที่สำคัญเงินในกระเป๋า ผู้ต้องหามีเงินเพียง 500 บาท ซึ่งจริง ๆแล้ว
หลักทรัพย์ที่ต้องใช้ ประกัน ในข้อหายักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 352 ทุนทรัพย์ในการประกันตัว
น่าจะอยู่ที่ ประมาณ 40,000 บาท แล้วจะเอาที่ใหนดีหว่า....แต่ยังไม่บอกตัวผู้ต้องหากลัวเขาตกใจ
ตำแหน่งทางราชการผมก็ถูกใช้ค้ำประกันเพื่อนบ้านผู้ยากส์ไร้ไปหมดแล้ว.....

ระหว่างนั่งคิด นั่งนึกรอสำนวนที่ท่านผู้พิพากษา ไตร่สวนจำเลยอยู่นั้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากจำเลย(ศาลประทับรับฟ้องอาญาแล้ว)ให้เอา บัตรปชช.มาให้
ที่ห้องสมานฉันท์หน่อย ก็เลยเอาเข้าไปให้ และได้รับแจ้งจากท่านผู้พิพากษาว่า ศาลให้"สาบานตน"เพื่อค้ำประกันตัวเอง
ไม่ต้องไปหาเช่า หาซื้อหลักทรัพย์เพื่อประกันอิสระภาพให้เป็นภาระแก่ตัวเอง และครอบครัว ผมงี้โล่งอกน้ำตาไหลซึมทันที
ทำไมจำเลยคนนี้เจอ ท่านผู้พิพากษาดีดีแบบนี้  ซึ่งจะว่าไปแล้ว การให้สาบานตนหรือการขอปล่อยตัวชั่วคราว เป็นดูลย์พินิจ
ของศาลที่ให้ไว้ในระเบียบของศาลอยู่แล้ว ว่าการสาบานตนก็สามารถปล่อยตัวได้  แต่จะมีผู้พิพากษาสักกี่ท่าน ที่ไม่โยนภาระให้แก่จำเลย
ที่จะต้องแบบกภาระไปหา  หยิบยืมเงินทองเพื่อซื้อหลักประกันอิสระภาพให้แก่ตัวเอง  เจอคดี เจอข้อหาก็ทุกข์ใจพอแรงอยู่แล้ว
บ้านนอกคอกนาบางคนที่โดนคดี.. ต้องขายที่ไร่ ที่นา บ้าน เพื่อเข้าต่อสู้คดี เกี่ยวกับการซื้อประกันอิสระภาพ
ในคดีอาญาที่ตัวเองโดน  ธุรกิจนายประกัน จึงผุดขึ้นตามศาลต่าง ๆ ราวกับดอกเห็ด แท้จริงก็คือการหากินทางเชิงพานิชย์กับศาล
ในหลักประกันที่ต้องขูดเลือด ขูดเนื้อ แลกมาด้วยคราบน้ำตาของคนจน ๆ โดยการขึ้นทะเบียนเป็นนายประกันอาชีพตามศาล
ในจังหวัดต่าง ๆ คดีผิดสัญญาทางแพ่งมากมาย ที่แปลงร่างจาก ความแพ่งเพื่อไปเป็น ความอาญา เสมือนหนึ่งว่า สามารถทำได้และทำกันแทบทุกจังหวัด
ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ พากันทำเป็นล่ำเป็นสัน เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาเกรงกลัว และเพื่อให้ตัวเอง(โจทก์)ได้รับการชำระหนี้อย่างรวดเร็ว
แม้กระทั่ง สัญญาค้ำประกัน ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพานิชย์ กรณีเช่าซื้อรถยนต์ แล้วผู้เช่าซื้อผิดสัญญา และไม่สามารถ
คืนรถให้เจ้าของได้ ยังโดนตั้งข้อหา"ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง" คดีลักษณะนี้ ในทางอิสานเจอกันมากที่สุด ผมเจอมาแล้ว ค้ำประกัน
แต่สู้สุดใจขาดดิ้นที่ศาลขอนแก่น สุดท้ายผู้เสียหาย ยอมถอน อาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์...ส่วนทางแพ่งก็ว่ากันไปตามกฏหมาย

ขอกราบขอบพระคุณ ท่านผู้พิพากษาศาลร้อยเอ็ด ที่ท่านเมตตาไม่ผลักภาระให้แก่จำเลยในคดีนี้ ในการหาซื้อเบี้ยประกัน
เพื่อประกันอิสระภาพให้แก่จำเลย กุศลผลบุญที่ท่านได้กระทำในครั้งขอจงเกื้อหนุนท่านให้ได้พบเจอแต่สิ่งดีดีในชีวิต
และครอบครัว การกระทำของท่านสามารถกระทำได้ และไม่ผิดกฏระเบียบแต่อย่างไร โดยใช้วิธี"สาบานตนของจำเลยว่าจะมาศาลตามที่นัด"
ซึ่งผู้พิพากษาส่วนมาก ไม่มีใครทำ แต่ท่านกลับทำในสิ่งที่สังคมเห็นว่า หากวันนี้ไม่มีเงินซื้อหลักทรัพย์ประกันตัว คงต้องไปนอนรอที่คุก
เพื่อรอพิจารณาคดี ที่กำลังขึ้นสู่ศาล อยากเห็นศาลหลาย ๆ จังหวัดกระทำแบบนี้กับประชาชนผู้ยากส์ไร้ เหมือนอย่างที่ท่านผู้พิพากษา
ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดทำในวันนี้ เชื่อว่า ประชานที่โดนคดีต่าง ๆ และเป็นผู้ยากส์ไร้อนาถา คนปลาบปลื้ม และยินดีกับสิ่งที่ท่านกระทำในครั้ง
.....กราบขอบพระคุณท่านผู้พิพากษาศาลร้อยเอ็ด แทนจำเลยเป็นอย่างสูงครับ........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่