ออกตัวก่อนว่าไม่ได้อยู่ต่างประเทศ แต่เท่าที่สังเกตดูจากสื่อต่าง ๆ ทั้งภาพยนตร์และนิยาย เด็กหัวแดงมักจะโดนล้ออย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เคยได้ยินว่าคนหัวแดงจะมีลักษณะอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเมลานินในผิวหนังที่จะทำให้เขาหรือเธอผิวซีดกว่าคนทั่ว ๆ ไป ตกกระ ต่อให้คนกลุ่มนี้ไปอาบแดดเพื่อให้ผิวแทนก็ยังไม่เข้มขึ้น กลับกันแล้วอาการผิวไหม้จะถามหาและมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่ายกว่าคนอื่นเขา

คิดว่าผิวซีด ๆ ตกกระนี่คงดูไม่แข็งแรง น่ากลัวและแปลกแยก เมื่อก่อนถึงได้มีเหตุการณ์ล่าแม่มดเกิดขึ้น โดยพุ่งเป้ามาที่คนผมแดงโดยเฉพาะ
แต่ต่อมาความคิดก็เปลี่ยนไปบ้าง ปัจจุบันสาวผมแดงพอโตแล้วนี่เขาเชื่อว่าเจ้าอารมณ์แต่ขณะเดียวกันก็ร้อนแรงด้วย ส่วนหนุ่มผมแดงก็ยังคงไม่ค่อยมีใครเหลียวแลสักเท่าไหร่ค่ะ

เด็กผู้หญิงก็คงถูกล้อว่าเป็นแม่มด เด็กผู้ชายก็คงถูกล้อว่าเป็นพวกอ่อนแอขี้โรคแบบพี่เอ็ดเขาแหละค่ะ


จริง ๆ เรื่องของสีผมนี่เหมือนเป็นความเชื่อของฝรั่งบางจำพวกยังไงก็ไม่รู้นะคะ ลองสังเกตดูจากพวกหนังพวกภาพยนตร์ดูก็ได้ค่ะ

อย่างคนผมทองหรือผมบลอนด์นี่มักจะโดนหาว่าเป็นพวกไม่ค่อยฉลาด ถ้าผู้หญิงผมบลอนด์หน้าตาดี ๆ หุ่นดี ๆ ก็จะโดนหาว่าเป็นพวกสวยใสไร้สมอง ถ้าเป็นผู้ชายก็จะโดนหาว่าเป็นพวกหุ่นก้ามปูไร้สมองเหมือนกัน มีดีแค่กล้ามและกำลัง ดีแต่อวดหุ่นไปวัน ๆ อะไรงี้

พวกผมสีน้ำตาลหรือบรูเน็ตต์นี่เขาเชื่อกันว่าเป็นพวกฉลาด ถ้าตัวละครในหนังเป็นหมอหรือทนายก็มักจะมีผมสีนี้ ไม่รู้ว่าความเชื่อนี้มาจากไหนเหมือนกัน หรือเพราะว่าเหมือนกับชาวยิวที่เขาว่ากันว่าเป็นชนชาติที่ฉลาดมากก็ไม่รู้นะคะ เมื่อก่อนตอนที่ฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวก็แยกชาวยิวออกจากคนอื่นด้วยสีผมและสีตา ใครมีสีผมและตาสีเข้ม ๆ อย่างน้ำตาลหรือดำก็ถือว่าเข้าข่ายทั้งสิ้น ซึ่งที่จริงแล้วชาวยิวเองก็มีลักษณะที่หลากหลาย ผมทองตาฟ้าก็เป็นยิวได้ค่ะ


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นแค่ความเชื่อแหละค่ะ ซึ่งความเชื่อหลาย ๆ อย่างก็ทำร้ายความรู้สึกของใครหลาย ๆ คนด้วย
ลองมาเล่าสู่กันฟังเฉย ๆ แหละค่ะ ทั้งหมดที่ว่ามามันก็เป็นแค่เรื่องที่คนเขาเชื่อกัน คนเราจะดีจะร้ายหรือจะอะไรยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลล่ะเนอะ