/// ยกมาวิพากษ์เล่นๆ จากคำตอบในกระทู้ๆ หนึ่ง หรือ หลายกระทู้ ที่มีการถามไถ่ถึงเซียนหุ้นกัน


คำว่าสินทรเงียบ เซียนหาย นี่ได้ยินมาอยู่ครับ ขอลองเล่าสาเหตุนะครับ ถ้าท่านใดเห็นต่างก็มาแย้งกันได้ครับ
เรื่องราวนี้
มันเริ่มต้นมาจากวัฒนธรรม social network ที่เปลี่ยนไป จาก สังคม weboard สู่สังคมออนไลน์ สไตล์ FB IG Twitter จนมาถึง กลุ่มไลน์หุ้น
จนขนาดพันทิป ยังต้องปรับตัวเข้าแนวทาง ที่หนีจากเว็บบอร์ดแรกๆมากขึ้น เห็นจากระบบ แท็ก

ผสมกับ ภาวะหุ้นขึ้น ในยุคที่ข่าวสาร แพร่ได้ดั่งใจและมีนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมากมาพร้อมๆกัน


แรกสุดสมัยผมอยู่ ติดบอร์ด (สมัยนั้น ผมมาโพสต์ ถามมั่ง ตอบมั่ง ทุกวัน สมัยนี้เหรอ บางทีอาทิตย์นึงยังไม่เข้าเลย)
แรกเริ่ม สินทร เป็นเว็บบอร์ด จะมีผู้คนมากหน้ามาแสวงหาความรู้ และมีผู้รอบรู้หลากหลาย แบบเทพๆ ปลอมตัวมาก็มี
มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ถกเถียงแต่ไม่ทะเลาะ
แลกเปลี่ยน แต่ไม่ข่มทับ มีความสุภาพ นบนอบ ผู้ใหญ่ได้รับการยอมรับ ผู้น้อยมีความอยากรู้
เป็นสังคมเว็บในอุดมคติมาก  ผมจำได้เลยว่า มียุคนึง ทุกคนเรียกอีกฝ่ายว่าพี่หมด ขนาดแก่กว่าก็เรียกขาน เด็กอย่างผมว่าพี่

***
หลายปีผ่าน
-ระบบห้องสินทรเปลี่ยน เป็นแบบแท็ก ให้คล้ายกับการเล่น social
-ผู้คนเปลี่ยนมากขึ้นและหลากหลาย อายุเฉลี่ยคนเข้ามาเล่นหุ้นลดลง และ หลากหลายมากขึ้น ว่ากันว่า บางคนเป็นเด็ก ม.ปลายก็มี
-การลงทุนเริ่มซับซ้อน ไม่ได้มีแค่หุ้น แต่มี ออปชั่น ฟิวเจอร์ พฤติกรรมการลงทุนเปลี่ยนไปจาก แรกๆ

ผู้คนมีปฎิสัมพันธ์ ที่เปลี่ยนไป ไม่ต่างจากที่เราเห็นในเฟสบุค มีการประชด ท้าทาย เย้ยบ้าง เฮโน่น โห่นี่ .  
รูปแบบการโพสต์ได้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ผมก็ชอบอยู่นะ มันมีความสนุกสนาน มีสีสัน ไม่วิชาการจ๋า มีฮาแทรกตลอดๆ อ่านเพลินมาก ยิ่งมีดราม่า คนยิ่งอ่าน
แต่ด้วยยุคข่าวสารท่วมท้น พร้อมกับ ยุคที่หุ้นขึ้นทันใจแบบสั่งผ่านไลน์ได้  หุ้นปั่นตามโพยทำงานตรงเวลา

ความรู้ กลับไม่ใช่เรื่องจำเป็น ข่าวสารมีความสำคัญที่เหนือกว่า ไวกว่าได้ชัย

และหลายครั้งข่าวสารเหล่านี้ ทำให้กำไรได้ซะด้วย ทันใดนั้นจึงเกิด
เทพทันใจ และเซียนร่างทรงข่าว และจ้าวไซเบอร์ ขึ้น แม้สมัยก่อนจะมีอยู่ แต่สำนักไม่ได้หลากหลาย มากขนาดนี้
(ไม่ต้องดูอะไรมาก ถ้าคุณไปยืนหน้า แผงหนังสือกี่ยวกับหุ้น
หลายๆๆๆ ปีก่อน จะเป็นหนังสือเครียดๆๆ เด็ยวนี้ มีทุกสไตล์ เขียนแบบเอามันส์ก็มี การ์ตูนเข้าใจง่ายก็มี เขียนแบบฮิปๆก็มี

และแล้วยุคสมัย มันก้มาพร้อมกับ แว้นซ์ใหม่กำไรฉาบฉวย
หลายคนที่กำลังจะศึกษาการลงทุนอย่างเป็นระบบ อย่างจริงจัง ได้หลงไปในแนวทางแว้นซ์ตลาดหุ้น ที่กำไรทันใจจำนวนมาก

และ แว๊นซ์ ก็มีที่พักในห้องสินทร อยู่ ก็แวะมา อวดพลัง เร่งเครื่อง ขับโชว์บ้างตามประสาแว๊นซ์
และเมื่อมีกลุ่มแว้นซ์ มาขับฉวัดเฉวียน บนท้องถนน. พร้อมกับยวดยานปกติ ที่ขับตามกฏ
เมื่อผู้ใช้ทางปกติรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของเส้นทาง หลายคนเลือกหลบตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ



เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาถึง ตลาดได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่ง

ให้แว้นซ์หลายๆคน ได้รู้ ความจริงที่ว่ากำไรที่ได้มามีเพียงลม การเอาตัวรอดในตลาดยามขาลง. หรือยามวิกฤตินั้น ไม่ง่าย เมื่อฝนตกลมแรงมากๆ
บนถนนสายนั้น เหล่าแว้นซ์ ที่ไม่ระวังฟ้าฝน หรือไม่จอดรถหลบฝนได้ล้มระเนระนาด กลาดเกลื่อน บาดเจ็บถ้วนหน้า
จนถนนนั้นกล้บมาโล่งอีกครั้ง

เซียนจริงอาจหายไปนานแล้ว แต่เซียนแว๊นซ์พึ่งถูกเห็นว่า บาดเจ็บมากน้อย

เมื่อเวลาผ่านไป **
เดี๋ยววัฎจักรใหม่ก็เกิดขึ้น และวนเวียน ไม่จบสิ้น ซ้ำแล้ว และ ซ้ำเล่า