[Mini-Review] The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์ (ไม่ Spoil)
.
The Martian ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างภารกิจการสำรวจดาวอังคาร นักบินอวกาศ มาร์ค วัทนีย์ (แมตต์ เดมอน) ได้รับการสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้วหลังเกิดพายุรุนแรงและทีมปฏิบัติภารกิจได้ทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง แต่วัทนีย์กลับเอาชีวิตรอดมาได้และพบว่าตนเองถูกทิ้งไว้ตามลำพังบนดาวเคราะห์ที่มีสภาพไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย ด้วยเสบียงเพียงเล็กน้อย เขาต้องใช้ความฉลาด ไหวพริบ และความมุ่งมั่นเพื่อการอยู่รอดและหาทางส่งสัญญาณกลับมายังโลกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จากระยะทางที่ไกล นับหลายล้านไมล์ นาซ่าและทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติต่างพยายามนำ “เดอะ มาร์เชียน” กลับบ้าน ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ร่วมกันวางแผนว่าจะเป็นอย่างไรหากภารกิจการช่วยเหลือล้มเหลว จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เห็นความกล้าหาญ ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้แวทนีย์กลับมาอย่างปลอดภัย (Cr.majorcineplex.com)
.
ภาพยนตร์สร้างจากนวนิยายไซไฟในชื่อเดียวกัน เขียนโดย Andy Weir โดยภาพยนตร์กำกับโดย Ridley Scott ผู้เคยฝากผลงานคุณภาพไว้อย่าง Alien (1979), Gladiator (2000) และ Prometheus (2012) อีกทั้งยังได้นักแสดงชื่อดัง Matt Damon มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการเอาชีวิตรอดในครั้งนี้อีกด้วย แม้ตัวหนังจะเดินเรื่องด้วยการเอาชีวิตรอดของนักบินอวกาศ ซึ่งโทนหนังอยู่ในรูปแบบไซไฟอวกาศและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ แต่กลับสื่อสารได้เข้าใจง่ายและไม่ซีเรียสจริงจังจนเกินไป ด้วยบุคลิคของตัวละครหลักที่มีอารมณ์ขันและต่อสู้ไม่ยอมแพ้ทำให้ผู้ชมพร้อมที่จะร่วมลุ้นการเอาชีวิตรอดไปกับเขาตลอดทั้งเรื่อง ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งด้านวิศวกรรม เคมี พฤกษศาสตร์ คณิตศาสตร์ และระบบการติดต่อสื่อสาร ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของตัวละครหลัก รวมถึงถ่ายทอดให้กับผู้ชมได้อย่างกลมกล่อมและเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้หนังยังเผยถึงรายละเอียดและรูปแบบการทำงานของนาซ่า อีกทั้งใส่เนื้อหาถึงการหยิบยื่นน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ของชาติมหาอำนาจ ซึ่งเข้มข้นไม่แพ้กับการต่อสู้ต่ออุปสรรคที่ตัวละครหลักต้องพบเลยทีเดียว
.
My Score : 8.5/10
[CR] [Mini-Review] The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์ (ไม่ Spoil)
.
The Martian ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างภารกิจการสำรวจดาวอังคาร นักบินอวกาศ มาร์ค วัทนีย์ (แมตต์ เดมอน) ได้รับการสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้วหลังเกิดพายุรุนแรงและทีมปฏิบัติภารกิจได้ทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง แต่วัทนีย์กลับเอาชีวิตรอดมาได้และพบว่าตนเองถูกทิ้งไว้ตามลำพังบนดาวเคราะห์ที่มีสภาพไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย ด้วยเสบียงเพียงเล็กน้อย เขาต้องใช้ความฉลาด ไหวพริบ และความมุ่งมั่นเพื่อการอยู่รอดและหาทางส่งสัญญาณกลับมายังโลกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จากระยะทางที่ไกล นับหลายล้านไมล์ นาซ่าและทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติต่างพยายามนำ “เดอะ มาร์เชียน” กลับบ้าน ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ร่วมกันวางแผนว่าจะเป็นอย่างไรหากภารกิจการช่วยเหลือล้มเหลว จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เห็นความกล้าหาญ ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้แวทนีย์กลับมาอย่างปลอดภัย (Cr.majorcineplex.com)
.
ภาพยนตร์สร้างจากนวนิยายไซไฟในชื่อเดียวกัน เขียนโดย Andy Weir โดยภาพยนตร์กำกับโดย Ridley Scott ผู้เคยฝากผลงานคุณภาพไว้อย่าง Alien (1979), Gladiator (2000) และ Prometheus (2012) อีกทั้งยังได้นักแสดงชื่อดัง Matt Damon มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการเอาชีวิตรอดในครั้งนี้อีกด้วย แม้ตัวหนังจะเดินเรื่องด้วยการเอาชีวิตรอดของนักบินอวกาศ ซึ่งโทนหนังอยู่ในรูปแบบไซไฟอวกาศและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ แต่กลับสื่อสารได้เข้าใจง่ายและไม่ซีเรียสจริงจังจนเกินไป ด้วยบุคลิคของตัวละครหลักที่มีอารมณ์ขันและต่อสู้ไม่ยอมแพ้ทำให้ผู้ชมพร้อมที่จะร่วมลุ้นการเอาชีวิตรอดไปกับเขาตลอดทั้งเรื่อง ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งด้านวิศวกรรม เคมี พฤกษศาสตร์ คณิตศาสตร์ และระบบการติดต่อสื่อสาร ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของตัวละครหลัก รวมถึงถ่ายทอดให้กับผู้ชมได้อย่างกลมกล่อมและเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้หนังยังเผยถึงรายละเอียดและรูปแบบการทำงานของนาซ่า อีกทั้งใส่เนื้อหาถึงการหยิบยื่นน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ของชาติมหาอำนาจ ซึ่งเข้มข้นไม่แพ้กับการต่อสู้ต่ออุปสรรคที่ตัวละครหลักต้องพบเลยทีเดียว
.
My Score : 8.5/10