รีวิวหนัง : The Martian ทิ้งไว้บนดาวอังคาร



ดาวอังคาร ดาวเคราะห์สีแดง ดาวที่เล็กที่สุดอันดับที่สองในระบบสุริยะรองจากดาวพุธ กำลังเป็นดวงดาวที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ หลังจากที่ Nasa ประกาศพบของเหลวคล้ายน้ำเค็มปรากฏบนพื้นผิวดาวอังคาร จุดประกายความหวังว่ามันจะเป็นดาวดวงที่สองในเอกภพที่มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่ภาพยนตร์เรื่อง The Martian ซึ่งสร้างมาจากนิยายขายดีกำลังเข้าฉายทั่วโลก สองเหตุการณ์นี้จึงอาจมีความเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ

The Martian กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ เนื้อหาเล่าถึง มาร์ค วัทนีย์ (แมตต์ เดมอน) นักบินอวกาศที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคาร หลังเกิดอุบัติเหตุช่วงที่ทีมสำรวจอพยพหนีพายุใหญ่กลับโลก เขาหายตัวไปโดยคนในทีมเชื่อว่าไม่น่ารอด ต่อมาโลกจึงได้ประกาศว่าเขาเสียชีวิตแล้ว เช้าวันถัดมา มาร์ค กลับพื้นขึ้นมาจากกองทราย หลังรักษาอาการบาดเจ็บ เขารู้สถานะว่าตัวเองกำลังเสี่ยงตาย บนดาวที่ไม่มีอากาศ ไม่มีนํ้า ปลูกพืชไม่ได้ กับสเบียงที่เหลือให้ประทังชีวิตได้เพียง1ปีกว่า

มาร์ค ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาลุกขึ้นใช้ความรู้ทั้งหมดในชีวิตเพื่อเอาตัวรอด โชคดีที่เขาเป็นนักพฤกษศาสตร์ มาร์ค หาทางปลูกหัวมันฝรั่ง(Potato)มาเป็นอาหารเพิ่มได้ ขณะที่โลกก็รับรู้ถึงสัญญาณชีพของเขาบนดาวอังคารผ่านทางภาพถ่ายดาวเทียม นาซ่า จึงหาทางติดต่อกับเขา พร้อมเริ่มภารกิจให้ความช่วย มนุษย์ คนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป 140 ล้านไมล์

สำหรับโทนของหนัง The Martian เหมือนเป็น Cast Away ภาคอวกาศ ช่วงหนึ่งเราเห็นภาพของ ทอม แฮงค์ ในตัว แมท เดมอน ผู้กำกับทำให้ดาวอังคารดูอบอุ่น เป็นมิตร มีความหวัง งานภาพสมจริงมาก ให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครอยู่บนดาวอังคารจริงๆ(แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เคยมีใครเคยไปถึงที่นั่น เราไปไกลสุดแค่ดวงจันทร์ แต่ส่งดาวเทียมไปถึงดาวพลูโตมาแล้ว) ส่วนความเนิร์ด การใช้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ น่าจะพอๆกับ Interstellar เพียงแต่เข้าใจได้ง่ายกว่า มีการหยอดมุขตลอดเวลา ไม่เคร่งเครียดหรือหมองหม่นเท่าหนังของ โนแลน

หนังนำเสนอความโดดเดี่ยว ความเวิ้งว้าง บนดาวอังคาร ตัดสลับกับ ความร่วมแรงร่วมใจ กับ ความขัดแย้ง บนโลกมนุษย์ และ มิตรภาพบนระหว่างนักบินบนยานในอวกาศ ได้อย่างกลมกล่อม ลงตัว เพลงประกอบหนังคืนชีพเพลงดิสโก้ได้อย่างสวยงาม คล้ายกับตอนที่ Guardians of the Galaxy ปลุกกระแสเพลงโอลดี้ขึ้นมา

การแสดงของ แมท เดมอน สุดยอดมาก กับการรับบทเป็น มาร์ค วัทนีย์ ไม่ถึงขนาดวันแมนโชว์ แต่ก็เอาอยู่ทุกฉาก แม้จะเป็นการเล่นกับตัวเองคนเดียวซะส่วนใหญ่ สามารถถ่ายทอดอารมณ์ถึงคนดูได้ทุกเม็ด เจสสิกา แชสเทน ในบท เมลิซ่า ลูอิส หัวหน้านักบินอวกาศ เธอคือตัวแทนของความเป็นเฟมินิสต์ในหนัง เจฟ แดเนียล , ฌอน บีน , คริสติน วิก สามคนนี้แสดงเป็นผู้บริหารนาซ่าได้เข้าขากันดี รับส่งบทคล่องแคล่ว ลื่นไหล อีกคนที่โดดเด่นคือ ชิวีเทล เอจิโอฟอร์ กับบท วินเซนต์ กาปูร์ นักวิทยาศาสตาร์หนุ่มผู้มุ่งมั่น เขาสลัดคราบทาสใน 12 Years a Slave ได้หมดจด

ตัวขโมยซีนฝั่งโลกเป็น โดนัลด์ โกลเวอร์ ที่แสดงเป็นนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ผู้หาทางออกให้นาซ่าได้ ฝั่งอวกาศเป็น ไมเคิล พีน่า เจ้าเก่าในบท ริค มาร์ติเนซ นักบินอวกาศชาวลาติน ผู้มีนิสัยขี้เล่น ด้าน เคท มาร่า ซึ่งเล่นเป็นนักบินอวกาศสาว บุคลิกใกล้เคียงกับใน Fantastic Four ทว่าการแสดงดูดีกว่าเยอะเลย ส่วนตัวมีอีกคนที่อยากพูดถึงคือ แม็คเคนซี เดวิส กับบท มินดี้ พาร์ค เจ้าหน้าที่สาวประจำองค์กรนาซ่า คนแรกที่พบสัญญาณชีพของ มาร์ค บนดาวอังคาร นักแสดงผมบลอนด์ชาวแคนาดาผู้เคยรับบทเล็กๆใน That Awkward Moment เธอดูมีสเน่ห์ทุกครั้งที่ปรากฏตัว(คนอะไรใส่แว่นก็ดูดี ถอดแว่นก็สวย)

The Martian เป็นหนังอวกาศชั้นเยี่ยมเรื่องหนึ่ง ถึงจะแอบเหนือจริงไปบ้าง แต่ก็สนุกครบรส คาดเดายาก(สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือ) มีหลายช่วงให้ลุ้น ดูแล้วได้ทั้งความรู้และจินตนาการ ดีพอที่เราอยากเชียร์ให้คว้ารางวัลในเวทีออสการ์ช่วงต้นปีหน้า

คะแนน The Martian 8.5/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/193030/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่