กระทู้นี้วิเคราะห์ด้วยมุมมองส่วนตัวของผู้เขียน
จากฮอร์โมนซีซั่น1จนมาถึงฮอร์โมนซีซั่น3 ep2 เราจะเห็นได้ว่าอุปสรรคความรักของดาวและก้อยถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย ใครกันแน่ที่นำพามันเข้ามา ดาว? ก้อย? หรือจะเป็นมือที่สาม? แต่จากที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้วว่าดาวและก้อยรักกันหวานชื่นมาตลอด ก้อยและดาวรักกันสุดหัวใจ แม้กระทั่งตอนที่เนทเข้ามาก้อยก็ยังแสดงความชัดเจนว่ายังรักดาว และหวังจะให้ดาวเป็นมากกว่าเพื่อนเหมือนแต่ก่อนเสียด้วยซ้ำ เนทไม่ใช่ตัวขัดขวางความรักของคู่นี้หรอก อุดมคติของสังคมต่างหาก ที่กีดกันดาวไม่ให้จับมือกับก้อยได้อย่างสนิทใจ
อุดมคติสังคมคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคาดหวัง มองว่าเป็นความสมบูรณ์แบบ ตัวมันไม่ได้บอกว่าความสมบูรณ์แบบที่เป็นเนื้อหาของมันนั้นดีหรือไม่ดี มันเป็นเพียงความคาดหวังของสังคม แต่คนส่วนใหญ่มักติดกับความคิดที่ว่า ถ้าคนมองว่ามันสมบูรณ์แบบ มันก็ต้องเป็นสิ่งที่ดีในตัวมันเองด้วย อย่างในสังคมไทยปัจจุบัน แม้สังคมเราค่อนข้างเปิดให้กับความรักของเพศเดียวกัน แต่คุณลองถามตัวเองแบบคนไทยที่ไร้ความคิดริเบอรัลดู ว่าครอบครัวในอุดมคติเป็นแบบไหน แม้คุณจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่จากการที่คุณเติบโต ถูกหล่อหลอมมาในสังคมไทยนี้ คุณจะได้คำตอบว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบคือครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ซึ่งผู้เขียนก็คิดว่าเป็นผลมาจากความคิดแบบปิตาธิปไตยที่ฝังรากลึกมายาวนานเกินกว่าจะถอนออกไปโดยสิ้นเชิงได้ อันที่จริงแล้วไม่ได้เป็นแค่ในสังคมไทยหรอก สังคมในประเทศอื่นๆแม้แต่ในประเทศที่กล่าวอ้างว่า “Civilize” ก็ยังติดกับกรอบเช่นนี้
แล้วปิตาธิปไตยคืออะไร
ปิตาธิปไตยคือแนวคิดที่ว่าผู้ชายเป็นใหญ่ สังคมปิตาธิปไตยก็คือสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ชายคือพ่อ ชายคือผู้นำ หญิงคือผู้ตาม ชายคืออำนาจ หญิงคือความอ่อนแอ หญิงถูกบอกว่าตนจะมีคุณค่าได้ก็ต่อเมื่อตนตอบสนองชายได้ กรอบความคิดแบบปิตาธิปไตยบอกเราว่า ผู้หญิงจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อหญิงได้ทำ “หน้าที่” หน้าที่ที่เราถูกยัดเยียดจากสังคมอันได้แก่ก็หน้าที่ความเป็นเมียและความเป็นแม่ ถ้าหญิงไม่ได้ทำหน้าที่สองประการที่ถูกทำประหนึ่งว่ามันเป็นธรรมชาติของหญิงเองนั้น หญิงคนนั้นก็จะไม่ได้เป็นหญิงที่สมบูรณ์
นี่ไม่จึงน่าแปลกใจนัก ที่สังคมเราจึงได้หล่อหลอมอุดมคติของครอบครัวให้เป็นแบบทุกวันนี้ แม้เพศที่สามจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ก็จะถูกมองว่าเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์อยู่ดี เพราะอะไรหรือ ก็เพราะพวกคุณมีลูกด้วยกันไม่ได้ คุณเป็นชายทั้งคู่แล้วใครจะเป็นความอ่อนโยนในครอบครัวคุณ คุณเป็นหญิงทั้งคู่แล้วใครจะปกป้องพวกคุณ ธรรมชาติของพวกคุณอ่อนแอ คุณจำต้องมีชายมาปกป้องนะ เสียงคัดค้านเหล่านี้จะไม่เคยถามตนเองกลับหรอกว่า ความสมบูรณ์ที่แท้จริงคืออะไร ชายหญิงที่มีลูกกันก็เลิกรากันไปตั้งหลายคู่ คู่รักเพศเดียวกันที่รักกันดูแลกันจนวันตายก็ยังมีให้เห็นได้มากมาย คุณจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าอะไร? พวกเขาจะไม่ตั้งคำถามหรอกว่า ทำไมผู้หญิงถึงต้องเป็นตัวแทนของความอ่อนแอ ความบอบบาง ความอ่อนโยนเสมอ หญิงจะแข็งแกร่ง ปกป้องตนเองและคนที่ตนรักไม่ได้เชียวหรือ? ศึกที่ยากที่จะชนะนี้ ได้สั่นคลอนจิตใจของคู่รักเพศเดียวกันมาหลายคู่ แม้แต่ดาว-ก้อย ก็ยังไม่อาจจับมือกันฝ่าฟันไปได้
ดาว-ก้อย: แม้ความรักก็มิอาจฝ่ากำแพงอุดมคติของสังคมไปได้
จากฮอร์โมนซีซั่น1จนมาถึงฮอร์โมนซีซั่น3 ep2 เราจะเห็นได้ว่าอุปสรรคความรักของดาวและก้อยถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย ใครกันแน่ที่นำพามันเข้ามา ดาว? ก้อย? หรือจะเป็นมือที่สาม? แต่จากที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้วว่าดาวและก้อยรักกันหวานชื่นมาตลอด ก้อยและดาวรักกันสุดหัวใจ แม้กระทั่งตอนที่เนทเข้ามาก้อยก็ยังแสดงความชัดเจนว่ายังรักดาว และหวังจะให้ดาวเป็นมากกว่าเพื่อนเหมือนแต่ก่อนเสียด้วยซ้ำ เนทไม่ใช่ตัวขัดขวางความรักของคู่นี้หรอก อุดมคติของสังคมต่างหาก ที่กีดกันดาวไม่ให้จับมือกับก้อยได้อย่างสนิทใจ
อุดมคติสังคมคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคาดหวัง มองว่าเป็นความสมบูรณ์แบบ ตัวมันไม่ได้บอกว่าความสมบูรณ์แบบที่เป็นเนื้อหาของมันนั้นดีหรือไม่ดี มันเป็นเพียงความคาดหวังของสังคม แต่คนส่วนใหญ่มักติดกับความคิดที่ว่า ถ้าคนมองว่ามันสมบูรณ์แบบ มันก็ต้องเป็นสิ่งที่ดีในตัวมันเองด้วย อย่างในสังคมไทยปัจจุบัน แม้สังคมเราค่อนข้างเปิดให้กับความรักของเพศเดียวกัน แต่คุณลองถามตัวเองแบบคนไทยที่ไร้ความคิดริเบอรัลดู ว่าครอบครัวในอุดมคติเป็นแบบไหน แม้คุณจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่จากการที่คุณเติบโต ถูกหล่อหลอมมาในสังคมไทยนี้ คุณจะได้คำตอบว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบคือครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ซึ่งผู้เขียนก็คิดว่าเป็นผลมาจากความคิดแบบปิตาธิปไตยที่ฝังรากลึกมายาวนานเกินกว่าจะถอนออกไปโดยสิ้นเชิงได้ อันที่จริงแล้วไม่ได้เป็นแค่ในสังคมไทยหรอก สังคมในประเทศอื่นๆแม้แต่ในประเทศที่กล่าวอ้างว่า “Civilize” ก็ยังติดกับกรอบเช่นนี้
แล้วปิตาธิปไตยคืออะไร
ปิตาธิปไตยคือแนวคิดที่ว่าผู้ชายเป็นใหญ่ สังคมปิตาธิปไตยก็คือสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ชายคือพ่อ ชายคือผู้นำ หญิงคือผู้ตาม ชายคืออำนาจ หญิงคือความอ่อนแอ หญิงถูกบอกว่าตนจะมีคุณค่าได้ก็ต่อเมื่อตนตอบสนองชายได้ กรอบความคิดแบบปิตาธิปไตยบอกเราว่า ผู้หญิงจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อหญิงได้ทำ “หน้าที่” หน้าที่ที่เราถูกยัดเยียดจากสังคมอันได้แก่ก็หน้าที่ความเป็นเมียและความเป็นแม่ ถ้าหญิงไม่ได้ทำหน้าที่สองประการที่ถูกทำประหนึ่งว่ามันเป็นธรรมชาติของหญิงเองนั้น หญิงคนนั้นก็จะไม่ได้เป็นหญิงที่สมบูรณ์
นี่ไม่จึงน่าแปลกใจนัก ที่สังคมเราจึงได้หล่อหลอมอุดมคติของครอบครัวให้เป็นแบบทุกวันนี้ แม้เพศที่สามจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ก็จะถูกมองว่าเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์อยู่ดี เพราะอะไรหรือ ก็เพราะพวกคุณมีลูกด้วยกันไม่ได้ คุณเป็นชายทั้งคู่แล้วใครจะเป็นความอ่อนโยนในครอบครัวคุณ คุณเป็นหญิงทั้งคู่แล้วใครจะปกป้องพวกคุณ ธรรมชาติของพวกคุณอ่อนแอ คุณจำต้องมีชายมาปกป้องนะ เสียงคัดค้านเหล่านี้จะไม่เคยถามตนเองกลับหรอกว่า ความสมบูรณ์ที่แท้จริงคืออะไร ชายหญิงที่มีลูกกันก็เลิกรากันไปตั้งหลายคู่ คู่รักเพศเดียวกันที่รักกันดูแลกันจนวันตายก็ยังมีให้เห็นได้มากมาย คุณจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าอะไร? พวกเขาจะไม่ตั้งคำถามหรอกว่า ทำไมผู้หญิงถึงต้องเป็นตัวแทนของความอ่อนแอ ความบอบบาง ความอ่อนโยนเสมอ หญิงจะแข็งแกร่ง ปกป้องตนเองและคนที่ตนรักไม่ได้เชียวหรือ? ศึกที่ยากที่จะชนะนี้ ได้สั่นคลอนจิตใจของคู่รักเพศเดียวกันมาหลายคู่ แม้แต่ดาว-ก้อย ก็ยังไม่อาจจับมือกันฝ่าฟันไปได้