จากที่น้องผมตั้งกระทู้ถาม
http://ppantip.com/topic/34256578
ผมอยากตั้งกระทู้ เพื่อถามใหม่โดยเล่าแบบละเอียดครับ
1.เรื่องของการผ่าตัดไส้ติ่ง จริงๆๆ ทางผมและภรรยา ไม่ได้ต้องการ ตัดไส้ติ่งหรอกนะครับ แต่คุณหมอ ถามว่าจะผ่าคลอดผ่าตัดไส้ติ่งด้วยมั้ย เพิ่ม 3000 บาท ตอนแรกแฟนผมจะไม่ผ่าครับ แต่หมอบอกว่า ผ่าเลยจะได้เจ็บรอบเดียว ผมกับภรรยาเลยเลยปรึกษาและตกลงว่าผ่าครับ
ต่อมาขออธิบายเรื่องของอาการนะครับ
ภรรยาผมผ่าคลอดวันที่ 23 กันยายน 2558 พักรักษาตัว ที่โรงพยาบาลถึงวันที่ 26 กันยายน 2558 กลับมาภรรยาผมรู้สึกปวดท้อง ไข้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่กลับมาแต่ คิดว่าน่าจะเกิดจากแผลผ่าตัด เลยแค่กินยาที่หมอให้มากับพาราลดไข้ อาการไข้ก้อลดลง แต่แผลยังเจ็บอยู่
จนเวลาล่วงเลย มาถึงวันที่ 1 ตุลาคมอาการเจ็บไม่ทุเลา ทุกคนก้อคิดว่า เป็นอาการจากแผลผ่าตัด แต่วันที่ 1 อาการหนักสุด เพราะภรรยาผมหายใจไม่ได้ หายใจแล้วเจ็บไปทั่วบริเวณท้อง แม่ยายเลยพามาโรงบาลอย่างเร่งด่วนช่วง 1 ทุ่ม เพราะผมทำงานครับ ช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ผ่าตัดจนถึงวันที่ 1 อาการเจ็บไม่ได้ลดลงเลย ลูกผมแทบไม่ได้กินนมแม่ครับ
พอมาถึงโรงพยาบาลหมอให้เข้าเครื่องเอกซเรย์ แบบแพงๆๆอะครับ เรียกว่าอะไรจำไม่ได้ ราคา 26000 บาท เพื่อดูว่ามีอะไร ผลออกมาคือรู้แค่ว่าในท้อง นี้ มีน้ำเต็มท้อง แต่ก็ยังไม่รู้สาเหตุ จึงต้องแอทมิต คืนแรกที่อยู่โรงพยาบาล หมอให้แค่ยาฆ่าเชื้อกับยาแก้ปวด แต่อาการไม่ทุเลาคืนนั้นภรรยาผมไม่ได้นอนทั้งคืน หายใจไม่ได้ทั่วท้องต้องขอออกซิเจน ผมไม่ได้เฝ้านะครับ แม่ยายกะพ่อตาเฝ้า เพราะผมต้องมาดูลูก
7 โมงเช้าวันที่2 หมอโทรมาบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงเริ่มหอบเหนื่อย ต้องเข้าไอซียูแล้วนะเพราะอุปกรณ์บนห้องไม่เพียงพอ อันตราย ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด บอกตรงๆๆ เกินความคาดหมายครับ เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายมันต้องสูงมากแน่ๆ เพราะพยาบาลแจ้งค่าใช้จ่ายที่นอนคืนแรกถึง 7 โมงเช้า 55000 แล้วครับ แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไรและผมก้อไม่ได้รู้เรื่องการรักษา คิดว่า อาจเป็นแฟนเราร่างกายไม่แข็งแรงหรืออะไรก้อแล้วแต่แต่ขอให้แฟนปลอดภัยไว้ก่อน
พอผมมาถึงโรงพยาบาล ในห้อง icu หมอ 3-4 คน ทั้งหมอทางเดินอาหาร หมอสูติ หมอทางด่านติดเชื้อ และอาจารย์หมอ ยืนคุยกัน ปรึกษากัน แต่บอกผมว่ายังหาสาเหตุไม่ได้แต่อาจจะเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะแฟนผมไม่ได้ปวดที่แผลแต่ปวดท้องช่วงบน สักสิบนาทีหมอ คนนึงเดินมาบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัดนะเพื่อตรวจเชคทั้งหมด ผมเลยถามเรื่องค่าใช้จ่าย แฟนผมมีประกันนครับ แต่เป็นแบบไม่ได้สูงมาก คือครอบครุมประมาน 1 แสนบาท และผมกลัวว่ามันเบิกไม่ได้ เพราะเป็นแผลจากการผ่าคลอด และพยาบาลแจ้งราคาให้เซ็นรับทราบราคาผ่าตัด คือ 300000 บาท ซึ่งบอกเลยครับ ราคานี้ผมไม่มีปัญญาจ่าย แต่อาจารย์หมอคนนึงบอกว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวช่วยเอาคนไข้ไว้ก่อนเรื่องค่าใช้จ่าย ค่อยว่ากัน อันนี้ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไรนะครับ ผมคิดว่าหมอเห็นใจ ผมเลยเซนใบยินยอมให้ผ่าตัด ผ่าตัดวันนั้นเลย เวลาบ่ายโมงครับ
ประมาณสี่โมงกว่า ผ่าตัดเสร็จ หมอผ่าตัดเรียกผมเข้าไปบอกถึงสาเหตุ สาเหตุคือ มีเนื้อตายบริเวณไส้ติ่งที่ผ่าครับ แล้วติดเชื้อ ลามเป็นหนองทั่วลำไส้ หมอต้องดูดหนองออก เป็นจำนวนกว่า 1 ลิตร ผมขอถามหน่อยครับ สาเหตุมันเกิดจากาผ่าตัดไส้ติ่งที่หมอเสนอแะนำมาแล้วเก็บค่าใช้จ่ายรวมในแพตเกจ ระยะเวลาออกจากโรงพยาบาลไม่ถึง 1 อาทิตย์เลยครับ ผมต้องมารับค่าใช้จ่ายตรงนี้หรอครับ เพราะมันเกิดจากการผ่าตัดแล้วติดเชื้อ ผมรู้ครับ ว่าใครก็ไม่ต้องการให้เกิด แต่แบบนี้มันยุติธรรมกับผมมั้ยครับ เพราะแฟนผมต้องอยู่ในicu ต่ออีกประมาณ 1 อาทิตย์ ค่าใช้จ่ายทะลุ 7 แสนแน่ๆๆ แต่คุณหมอบอกว่า เดี๋ยวจะช่วยคุยกับผู้บริหารให้ แต่เรื่องคุยจะจบไปในทิศทางไหนครับ ผมยังต้องจ่ายอยู่หรือครับ
ตอนนี้ผมรอคำตอบจากโรงพยาบาลว่ายังไงและได้ปรึกษาหลายๆฝ่ายแล้ว ให้จบเคสรักษาจนภรรยาผมหายดี แล้วค่อยเจรจากะโรงพยาบาล
ผมจึงอยากถามว่า แบบนี้ผมสามารถเรียกร้องอะไรได้มั้ยครับ
ลูกผมไม่ได้กินนมแม่ แฟนผมเกือบตาย มันยุติธรรมกับผมมั้ยที่เลือกโรงพยาบาลที่คิดว่าดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของลูกเมียครับ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ
ผมเข้าใจครับว่า คุณหมอก็ไม่อยากให้เกิด แต่ผลออกมาแบบนี้ ผมต้องมารับกรรมหรอครับ
คือทางโรงพยาบาลบอกว่าจะช่วยเต็มที่ครับ แต่ ยังไม่รู้ว่าคืออะไรครับ
ตอนนี้ผมก็รอขอแค่ให้แฟนผมหายดีครับ เพราะปรึกษากับหลายๆๆฝ่าย บอกรอให้ร่างกายหายดี แล้วค่อยเจรจาทีเดียวครับ
ผมอยากได้ความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆๆ ว่าผมควรทำยังไงครับ
ผมขอแทคหลายๆห้องนะครับ ไม่รู้ว่าควรแทคห้องไหนบ้าง
อยากปรึกษาหน่อยครับ ผลจากการผ่าคลอดบวกผ่าไส้ติ่งจากแพคเกจของโรงพยาบาล
ผมอยากตั้งกระทู้ เพื่อถามใหม่โดยเล่าแบบละเอียดครับ
1.เรื่องของการผ่าตัดไส้ติ่ง จริงๆๆ ทางผมและภรรยา ไม่ได้ต้องการ ตัดไส้ติ่งหรอกนะครับ แต่คุณหมอ ถามว่าจะผ่าคลอดผ่าตัดไส้ติ่งด้วยมั้ย เพิ่ม 3000 บาท ตอนแรกแฟนผมจะไม่ผ่าครับ แต่หมอบอกว่า ผ่าเลยจะได้เจ็บรอบเดียว ผมกับภรรยาเลยเลยปรึกษาและตกลงว่าผ่าครับ
ต่อมาขออธิบายเรื่องของอาการนะครับ
ภรรยาผมผ่าคลอดวันที่ 23 กันยายน 2558 พักรักษาตัว ที่โรงพยาบาลถึงวันที่ 26 กันยายน 2558 กลับมาภรรยาผมรู้สึกปวดท้อง ไข้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่กลับมาแต่ คิดว่าน่าจะเกิดจากแผลผ่าตัด เลยแค่กินยาที่หมอให้มากับพาราลดไข้ อาการไข้ก้อลดลง แต่แผลยังเจ็บอยู่
จนเวลาล่วงเลย มาถึงวันที่ 1 ตุลาคมอาการเจ็บไม่ทุเลา ทุกคนก้อคิดว่า เป็นอาการจากแผลผ่าตัด แต่วันที่ 1 อาการหนักสุด เพราะภรรยาผมหายใจไม่ได้ หายใจแล้วเจ็บไปทั่วบริเวณท้อง แม่ยายเลยพามาโรงบาลอย่างเร่งด่วนช่วง 1 ทุ่ม เพราะผมทำงานครับ ช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ผ่าตัดจนถึงวันที่ 1 อาการเจ็บไม่ได้ลดลงเลย ลูกผมแทบไม่ได้กินนมแม่ครับ
พอมาถึงโรงพยาบาลหมอให้เข้าเครื่องเอกซเรย์ แบบแพงๆๆอะครับ เรียกว่าอะไรจำไม่ได้ ราคา 26000 บาท เพื่อดูว่ามีอะไร ผลออกมาคือรู้แค่ว่าในท้อง นี้ มีน้ำเต็มท้อง แต่ก็ยังไม่รู้สาเหตุ จึงต้องแอทมิต คืนแรกที่อยู่โรงพยาบาล หมอให้แค่ยาฆ่าเชื้อกับยาแก้ปวด แต่อาการไม่ทุเลาคืนนั้นภรรยาผมไม่ได้นอนทั้งคืน หายใจไม่ได้ทั่วท้องต้องขอออกซิเจน ผมไม่ได้เฝ้านะครับ แม่ยายกะพ่อตาเฝ้า เพราะผมต้องมาดูลูก
7 โมงเช้าวันที่2 หมอโทรมาบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงเริ่มหอบเหนื่อย ต้องเข้าไอซียูแล้วนะเพราะอุปกรณ์บนห้องไม่เพียงพอ อันตราย ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด บอกตรงๆๆ เกินความคาดหมายครับ เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายมันต้องสูงมากแน่ๆ เพราะพยาบาลแจ้งค่าใช้จ่ายที่นอนคืนแรกถึง 7 โมงเช้า 55000 แล้วครับ แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไรและผมก้อไม่ได้รู้เรื่องการรักษา คิดว่า อาจเป็นแฟนเราร่างกายไม่แข็งแรงหรืออะไรก้อแล้วแต่แต่ขอให้แฟนปลอดภัยไว้ก่อน
พอผมมาถึงโรงพยาบาล ในห้อง icu หมอ 3-4 คน ทั้งหมอทางเดินอาหาร หมอสูติ หมอทางด่านติดเชื้อ และอาจารย์หมอ ยืนคุยกัน ปรึกษากัน แต่บอกผมว่ายังหาสาเหตุไม่ได้แต่อาจจะเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะแฟนผมไม่ได้ปวดที่แผลแต่ปวดท้องช่วงบน สักสิบนาทีหมอ คนนึงเดินมาบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัดนะเพื่อตรวจเชคทั้งหมด ผมเลยถามเรื่องค่าใช้จ่าย แฟนผมมีประกันนครับ แต่เป็นแบบไม่ได้สูงมาก คือครอบครุมประมาน 1 แสนบาท และผมกลัวว่ามันเบิกไม่ได้ เพราะเป็นแผลจากการผ่าคลอด และพยาบาลแจ้งราคาให้เซ็นรับทราบราคาผ่าตัด คือ 300000 บาท ซึ่งบอกเลยครับ ราคานี้ผมไม่มีปัญญาจ่าย แต่อาจารย์หมอคนนึงบอกว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวช่วยเอาคนไข้ไว้ก่อนเรื่องค่าใช้จ่าย ค่อยว่ากัน อันนี้ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไรนะครับ ผมคิดว่าหมอเห็นใจ ผมเลยเซนใบยินยอมให้ผ่าตัด ผ่าตัดวันนั้นเลย เวลาบ่ายโมงครับ
ประมาณสี่โมงกว่า ผ่าตัดเสร็จ หมอผ่าตัดเรียกผมเข้าไปบอกถึงสาเหตุ สาเหตุคือ มีเนื้อตายบริเวณไส้ติ่งที่ผ่าครับ แล้วติดเชื้อ ลามเป็นหนองทั่วลำไส้ หมอต้องดูดหนองออก เป็นจำนวนกว่า 1 ลิตร ผมขอถามหน่อยครับ สาเหตุมันเกิดจากาผ่าตัดไส้ติ่งที่หมอเสนอแะนำมาแล้วเก็บค่าใช้จ่ายรวมในแพตเกจ ระยะเวลาออกจากโรงพยาบาลไม่ถึง 1 อาทิตย์เลยครับ ผมต้องมารับค่าใช้จ่ายตรงนี้หรอครับ เพราะมันเกิดจากการผ่าตัดแล้วติดเชื้อ ผมรู้ครับ ว่าใครก็ไม่ต้องการให้เกิด แต่แบบนี้มันยุติธรรมกับผมมั้ยครับ เพราะแฟนผมต้องอยู่ในicu ต่ออีกประมาณ 1 อาทิตย์ ค่าใช้จ่ายทะลุ 7 แสนแน่ๆๆ แต่คุณหมอบอกว่า เดี๋ยวจะช่วยคุยกับผู้บริหารให้ แต่เรื่องคุยจะจบไปในทิศทางไหนครับ ผมยังต้องจ่ายอยู่หรือครับ
ตอนนี้ผมรอคำตอบจากโรงพยาบาลว่ายังไงและได้ปรึกษาหลายๆฝ่ายแล้ว ให้จบเคสรักษาจนภรรยาผมหายดี แล้วค่อยเจรจากะโรงพยาบาล
ผมจึงอยากถามว่า แบบนี้ผมสามารถเรียกร้องอะไรได้มั้ยครับ
ลูกผมไม่ได้กินนมแม่ แฟนผมเกือบตาย มันยุติธรรมกับผมมั้ยที่เลือกโรงพยาบาลที่คิดว่าดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของลูกเมียครับ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ
ผมเข้าใจครับว่า คุณหมอก็ไม่อยากให้เกิด แต่ผลออกมาแบบนี้ ผมต้องมารับกรรมหรอครับ
คือทางโรงพยาบาลบอกว่าจะช่วยเต็มที่ครับ แต่ ยังไม่รู้ว่าคืออะไรครับ
ตอนนี้ผมก็รอขอแค่ให้แฟนผมหายดีครับ เพราะปรึกษากับหลายๆๆฝ่าย บอกรอให้ร่างกายหายดี แล้วค่อยเจรจาทีเดียวครับ
ผมอยากได้ความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆๆ ว่าผมควรทำยังไงครับ
ผมขอแทคหลายๆห้องนะครับ ไม่รู้ว่าควรแทคห้องไหนบ้าง