สายการบิน xxหัด พ่อแม่เราหรือเราทำอะไรผิดเหรอคะ ถึงต้องโดนอะไรแบบนี้

สรุปนะคะ

จากข้อมูลที่ทุกๆท่านเข้ามาแชร์ พ่อแม่เราถือวีซ่าไอริชไทป์ C ค่ะ พ่อแม่เราต้องมีวีซ่าเพื่อทรานสิทจากอังกฤษมาที่ไอร์แลนด์ค่ะ สายการบินทำถูกแล้ว ทางเราผิดเองที่หาข้อมูลได้ไม่ลึกพอ

หลายความเห็นให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มาก กระจ่างแจ้งเลยค่ะตอนนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ วันนี้ทางเราก็เขาไปคุยกับสายการบินมา เค้าก็ให้เมล์ที่ต้องติดต่อมา ทางเราก็จะติดต่อไปค่ะ

ยังมีอีกเรื่องนึงที่เราสงสัย แต่เราคงต้องติดต่อสายการบินกรณีนี้เอง ในกรณีที่ว่า ทางสายการบินจะอนุญาตให้พ่อแม่เราเดินทางได้ถ้ามีตั๋วใบที่สามจากแอร์ลิงกุส แต่แอร์ลิงกุสไม่สามารถเช็คอินออนไลน์ให้พ่อแม่เราได้ เพราะระบบเป็นของสายการบินแรก แต่ก็ยืนยันให้ว่าตั๋วใบที่สามเป็น Valid ticket เราก็คุยกะสตาฟสายการบินแรกให้สตาฟเช็คอินให้แทน สตาฟบอกว่าเช็คอินให้ไม่ได้เพราะประมานว่ามันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องทำเองอะไรนี่แหล่ะ คือ พอเรามาคิดตรงนี้ถ้าพ่อแม่เราสามารถเช็คอินได้ มีตั๋วใบที่สาม มันก็จะตรงกับ ข้อ  Or ต่อมาจาก star alliance เว็บไซต์ที่ว่าถ้ามีตั๋ว  valid confirmed ก็ผ่านได้ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ทีนี้มันก็มี warning ต่อท้าย
***Warning*** Passengers may make a landside transit if
   holding a valid biometric visa issued by Ireland (Rep.)
   endorsed "BC" or "BC BIVS" and traveling to Ireland (Rep.).
   (SEE NOTE 57399)
    NOTE 57399: E-visas or e-residence permits are not
    accepted for landside transit.

แล้วยังงี้ถ้าสมมุติตั๋วใบที่สามเราบังเอิญเช็คอินให้พ่อแม่ได้ แล้วสตาฟก็อนุญาตให้พ่อแม่เราขึ้นเครื่อง แล้วพ่อแม่เราก็ทรานสิทไม่ได้ โดนส่งกลับมาไทย ทางสายการบินก็ต้องเสียค่าปรับ

แล้วทางสตาฟไม่รู้ตัวนี้เหรอ ทำไมถึงยังเสนอให้ทางเรามีความหวัง + ไม่เข้าใจเพิ่มอีกว่าทำไมสายการบินเจ้าของระบบไม่ออกตั๋วให้
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แต่ยังไงก็ขอขอบคุณสตาฟของสายการบินที่ช่วยพ่อแม่เรา ถึงกับเข็นรถเข็นไปส่ง ทางเราได้คุยผ่านไลน์กับสตาฟสองสามคน มีสตาฟคนนึงที่คุมสติได้ดีคุยทั้งภาษาอังกฤษและไทย และอยู่ช่วยจนนาทีสุดท้าย บอกว่าเราต้องทำอะไรยังไง ต้องโทรหาใครติดต่อใคร รวมถึงสตาฟคนอื่นๆที่ช่วยเหลือพ่อแม่เราด้วย เราขอขอบคุณค่ะ มีคนบอกว่ากระทู้ดังไกลในสุวรรณภูมิ ทางสตาฟก็คงรู้ล่ะเนอะคะว่าใคร ตอนที่คุยกันเป็นอะไรยังไงเกิดเหตุการณ์อะไรยังไง ตัวเราไม่ได้ด่าหรือว่าอะไรทางเจ้าหน้าที่ไปเพราะเราก็รู้ดีว่าคุณก็ทำงานของคุณ ตอนที่เราโมโหเราก็เลือกที่จะเลิกคุยให้สตาฟคุยกับคนที่มีสติแทน เพราะเรากลัวพลั้งปากพูดอะไรไม่ดีใส่ไป เราก็คิดว่าเราทำถูกแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษ ณ จุดนี้ และอีกอย่างนะคะไม่เคยคิดดูถูกว่าสตาฟไม่รู้เรื่องอะไร ทางเราตอนนั้นก็ยืนยันสิ่งที่คิดว่าเรารู้เราถูก ทางสตาฟก็ยืนยันว่าต้องมี แล้วก็หาทางออก

ส่วนเรื่องจะให้ขอโทษที่ตั้งกระทู้เราคงไม่ขอโทษอะค่ะ เพราะเราไม่ได้คิดว่าตัวเองด่าสตาฟคนไหน ทั้งในกระทู้นี้และสถานการณ์จริง ส่วนใครจะว่าเราด่าอยากให้เราขอโทษก็เอาตามสบายใจละกันค่ะ ขอขอบคุณสตาฟแต่ไม่ขอโทษค่ะ

แล้วอีกอย่างถ้าเราไม่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เราจะได้รู้ข้อมูลขนาดนี้มั้ยคะ??? ข้อมูลที่หาได้ดาษๆทั่วไปทางเน็ตก็ตามที่เราโพสต์ไว้ ได้จากเว็บรัฐบาลอังกฤษ จากประสบการณ์ จากไปหาอ่านมา ที่ทำให้เรากล้าไปเถียงกะสตาฟนั่นแหล่ะค่ะ ถ้าไม่ตั้งเราคงจะไม่มีวันรู้ว่าเช็คได้จากเว็บ staralliance จากข้อมูลของ star alliance ไปจนถึงเรื่อง  Endorsement ต่างๆ ถ้าเราไม่ตั้งกระทู้นี้ เราก็ไม่มีวันรู้ ก็จะยังสงสัย เจ็บใจ อยู่นั่นแหล่ะ ว่าทำไมๆๆๆ เราทำอะไรผิดตรงไหน


ใครจะว่าเราโลกสวย แถสีข้างถลอก เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น โง่ ไม่หาข้อมูลให้ดีเอง ไม่ยอมขอโทษก็ตามใจค่ะ แต่เราคิดว่าถ้าสตาฟอธิบายทั้งหมดให้เราฟังตั้งแต่แรก เลยว่า มันต้องมี ทำไมมันถึงต้องมี อธิบายมาทั้งหมด ไม่ใช่แค่บอกว่าต้องมีๆ ไม่มีปล่อยผ่านไม่ได้อย่างเดียว กระทู้นี้คงไม่เกิด ทางเราจะเข้าใจ ยอมรับความผิดพลาดและทำตามคำแนะนำของสตาฟตั้งแต่แรกอย่างไม่กังขาใดๆเลยค่ะ (ตรงนี้จะว่าเราโทษสตาฟก็ได้นะ แต่ตรงนี้เราคิดงี้จริงๆ เพราะทางเราก็พยายามหาข้อมูลมาดีเฟ้นต์ก็หาได้งูๆปลาๆมายืนยันความมั่นของตัวเองเท่าที่เห็น ถ้าทางสตาฟรู้ดีที่สุด น่าจะอธิบายมาทั้งหมดให้กระจ่างเลย เราจะได้เงิบ ได้รู้ ได้เข้าใจ ได้ขอโทษได้ขอบคุณ ไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย จบ)

สรุปกระทู้นะคะ ทางเราผิดเองหาข้อมูลได้ไม่ดีพอ ขอโควทคุณ คคห. 43 สมาชิกหมายเลข 1180467 มาเลยนะคะ

"ประเด็นนี้ผมขอตอบความรู้ทางด้านวีซ่าให้ฟังนะครับจากประสบการณ์ที่เคยเดินทางเข้าประเทศไอร์แลนด์มา ซึ่งไอร์แลนด์มีระบบวีซ่าที่แปลกกว่าชาวบ้านตรงที่ว่าแม้ว่าอยู่ในสหภาพยุโรป ใช้เงินยูโร แต่ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาการใช้วีซ่าเช็งเก้นครับ และที่น่าแปลกคือดันไปเจรจากับประเทศอังกฤษด้านการตรวจคนเข้าเมืองเป็น Common Travel Area ซึ่ถือว่าการเดินทางจากอังกฤษเข้าไปในไอร์แลนด์เป็นเสมือนการเดินทางภายในประเทศของอังกฤษครับ แต่เมื่อไปถึงสนามบินไอร์แลนด์จะมีการตรวจวีซ่าไอร์แลนด์อีกทีหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีทั้งวีซ่าอังกฤษและไอร์แลนด์ แต่ด้วยความยุ่งยากดังกล่าวไอร์แลนด์จึงออกนโยบายใหม่คือ Visa Waiver Program ซึ่งจะเป็นการงดลงตราวีซ่าให้กับผู้ถือวีซ่าอังกฤษประเภท C มีอายุ 6 เดือน แบบเข้าออกได้หลายครั้งขึ้นไปให้แก่บางประเทศ มีประเทศไทยด้วย จขกท บินเข้าประเทศอังกฤษแล้วต่อเครื่องไปไอร์แลนด์ ก็เข้ากฎที่ว่าต้องเข้าประเทศอังกฤษเสียก่อน ด้วยเหตุนี้สายการบินจึงทำถูกต้องแล้วครับที่ไม่อนุญาตให้พ่อแม่ จขกท เดินทางได้เพราะขาดวีซ่าเข้าอังกฤษ แล้วจริงๆ จขกท น่าจะไปทำวีซ่าอังกฤษเพียงที่เดียวขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวประเภท C ก็พอแล้วครับ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปทำวีซ่าไอร์แลนด์เลย"

ขอบคุณค่ะ


.............................................................................................................................................................................


อีดิท1 เพิ่มตรงนี้ค่ะ

จาก คคห.ที่ 13 บังเอิญมันมีข้อต่อมาที่พ่อแม่เราเข้าข่าย ตอนนี้เรากำลังพยายามตามเรื่องต่อค่ะ จะทำการติดต่อกับสายการบินทั้งสอง และสถานทูตอังกฤษ คือเราอยากได้คอนเฟิร์มจากทุกที่อย่างเป็นทางการจริงๆว่าเราผิดเองสายการบินทำถูกแล้ว โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรโผล่มาให้เราสงสัยอีก หึหึ จะเงิบต้องเงิบอย่างเป็นทางการค่ะ (บ้าเนอะ)

................................................................................................................................................................................

เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อแม่เรามีกำหนดการเดินทางบินมาไอร์แลนด์ วันนี้!!! แน่นอนวีซ่าพร้อมอยู่แล้ว เราเลือกซื้อตั๋วผ่านเอเจนซี่ออนไลน์ เลือกต่อเครื่องสองต่อให้แกเพราะมันประหยัดทั้งสองก็ไม่มีปัญหาไร ต่อเครื่องครั้งแรกที่อาบูดาบี จากนั้นไปต่อที่ลอนดอน แล้วถึงมาถึงดับลินไอร์แลนด์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง แต่ละต่อใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมงที่สนามบิน

     ทีนี้พ่อแม่ป้าน้า ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่องเกือบ 7 ชม. อันนี้ก็รอไปไม่มีปัญหา แต่พอถึงช่วงเช็คอิน ปัญหามา สตาฟสายการบิน xxx บอกว่าพ่อแม่เราไม่มีวีซ่ายูเค คงจะให้ให้พ่อแม่กับป้าเราขึ้นเครื่องไม่ได้ (ส่วนน้าผ่านฉลุเพราะเค้าแพลนจะไปเยี่ยมพี่สาวเค้าที่อังกฤษหลังจากทริปไอร์แลนด์) ที่เราเข้าใจคือพ่อแม่เราไปเปลี่ยนเครื่องมั้ยคะ ไม่ถึงสองชั่วโมง จะให้ขอวีซ่า UK ทำไม แม้กระทั่งขอวีซ่าทรานสิทเค้ายังจะขอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ด้วยเวลาสองชั่วโมงนี่ เหล่าสตาฟก็หัวเด็ดตรีนขาด ว่าไม่ได้ ปล่อยให้ขึ้นเครื่องไม่ได้ ต้องซื้อตั๋วใหม่  ยกเลิกตั๋วไปขอวีซ่าซะ ไม่ก็รีรูทเสียเงินเพิ่มจำนวน 19,xxx บาทเท่านั้น!!!! เม่าตาสว่าง

     เราเห็นไลน์ที่แม่เราพยายามส่งมาหาเรา เรารีบโทรกลับไป บอกไปว่า เส้นทางนี้ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเลย เสิร์ชเน็ตดูก็ได้ ในเว็บสถานทูตอังกฤษก็มี(ตรงนี้ที่เราพลาดไม่ได้แคปหน้าจอแบบสอบถามว่าจำเป็นต้องใช้วีซ่ามั้ยจากเว็บสถานทูตอังกฤษส่งไปให้เค้าดู) ทางสตาฟก็เลยให้เราโทรไปคุยกับสายการบินแอร์ลิงกุสเองเพื่อทำการเช็คอินออนไลน์ เราก็โทรแต่ทางสายการบินแอร์ลิงกุสยืนยันมาว่าเช็คอินให้ไม่ได้ต้องไปเช็คอินที่เคาเตอร์สนามบินฮีทโทรวเท่านั้น เพราะระบบเป็นของ xxx แอร์ลิงกุสเช็คตั๋วของพ่อแม่กับป้าเราให้ก็บอกมาว่าตั๋วทั้งสาม Valid แต่ไม่สามารถเช็คอินให้ได้เพราะระบบเป็นของ xxหัด หลังจากพยายามคิดหาทางกัน เราพยายามเช็คอินผ่านเว็บของ xxหัด ตามคำแนะนำของสตาฟก็ไม่ได้ ระบบให้เช็คอินที่เคาเตอร์ที่ลอนดอนเท่านั้น  ทางสตาฟก็บอกว่าคอนเซ้าท์กับอิมมิแกรนท์ของ UAE และที่ดับลิน แล้ว ทางยูเออีไม่แนะนำให้อนุญาตให้พ่อแม่เราขึ้นเครื่อง ส่วนทางดับลินบอกว่าให้ขึ้นได้ถ้ามีตั๋วทั้ง  3 ไฟลท์ แต่คือเราก็พยายามเช็คอินออนไลน์ ถามสตาฟไปว่าแอร์ลิงกุสบอกว่าเป็นระบบของ xxx สายการบิน xxx ออกตั๋วสุดท้ายให้ทั้งสามคนไม่ได้หรือ ก็ไม่มีคำตอบ  เราคุยกับสตาฟให้ทางสตาฟติดต่อ ทางเทอร์มินอลที่อังกฤษ สตาฟบอกว่าไม่ทราบเบอร์ติดต่อ ทางเราก็กูเกิ้ลเบอร์ไปให้ สตาฟก็โทร ไม่ทราบว่ากี่ครั้ง แป็ปนึงก็มาบอกว่าติดต่อไม่ได้ ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนที่พ่อแม่กับป้าเราจะตกเครื่องอย่างเป็นทางการ เราเลยไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากรีรูทหรือแคนเซิลตั๋ว เราเลยต้องเลือกรีรูท จ่ายเงินเพิ่ม 19,xxx บาท ต่อคน แล้วรีบไปขึ้นเครื่องนาทีสุดท้ายให้ทัน เฮ้ออ เม่าฝนตก

   มีอยู่ช่วงนึงที่เราคุยกับหนึ่งในสตาฟเรื่องที่ว่าไม่จำเป็นต้องมีวีซ่า เราบอกไปว่าเราบินกับสายการบินอื่นเส้นทางคล้ายๆกันนี้หลายครั้ง ทำไมเราถึงไม่เคยต้องขอแม้กระทั่ง ทรานสิทวีซ่า เราก็ยืนยันนั่งยันนอนยันนั่นแหล่ะค่ะว่าไม่ต้องขอ สตาฟบอกว่าไม่ทราบว่าสายการอื่นเป็นไง แต่สายการบินเราก็ต้องปกป้องตัวเองในกรณีถ้าเกิดพ่อแม่เราแอบลักลอบเข้าเมืองอังกฤษ..... โอเค เราเข้าใจ แต่เราก็ปรี๊ดดด คิดในใจ งั้นทำไมไม่ให้ตำรวจประกบพ่อแม่เราเลยล่ะ ไม่กะส่งแอสซิสแต๊นท์มาประกบเลยสิ ฮ่วย!!  คือโอเคร้ เฉดหัว โยนขี้ลูกค้าแบบนี้เลยละกันเนอะ  โอเคร้ เรา (กัดฟัน) เข้าใจ!!!!  ด้วยความปรี๊ด เราก็เลย บอกนางว่า เอาแบบนี้เลยนะคะ สายการบินผลักภาระให้ลูกค้าแบบนี้เลยเหรอคะ สตาฟคนนั้นก็บอกว่า (เท่าที่เราจำได้) เรื่องเอกสารเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง ไม่เกี่ยวกับสายการบิน (จำได้เท่านี้หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกะสตาฟคนนี้อีกเพราะเราโมโหมาก)

  ช่วงบ่น  เรื่องเอกสารเรารับผิดชอบของเราอย่างดีครบถ้วนทุกอย่าง จนมาถึงวีซ่ายูเคที่สายการบินต้องการให้พ่อแม่ป้าเรามีนี่แหล่ะค่ะ!! คือพ่อแม่เราจะมาไอร์แลนด์มั้ย ไม่ได้จะไปอังกฤษ!!! อีกอย่างมันเป็น ชอร์ททรานสิท เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ ต่อให้ขอทรานสิทวีซ่าเค้าก็คงไม่ให้ด้วยซ้ำ อีกอย่างเราเช็คกะเว็บสถานทูต ย้ำรอบที่ล้านแปด เค้าบอกมาว่าไม่ต้องขอ ไม่ต้องมีวีซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  โอ้ยยยยยยยย ส่วนเรื่องตั๋วใบที่สาม เราคุยกะสายการบินโคแล้วเค้าออกให้ไม่ได้เพราะไม่ใช้ระบบของเค้า แล้ว xxx ซึ่งเป็นเจ้าของระบบ ทำไมออกให้ไม่ได้คะ!!?? หรือจะบอกว่าไม่มีวีซ่า UK เลยออกตั๋วบินไปไอร์แลนด์ให้ไม่ได้ ??? เม่าโกรธ


ปัญหาคือ

1.    เราเช็คที่เว็บของสถานทูตอังกฤษแล้ว ทำแบบสอบถาม ผลปรากฏแแกมาว่าพ่อแม่กับป้าเราไม่จำเป็นต้องถือวีซ่าอะไรทั้งนั้น ทั้งทรานสิท ทั้งยูเค ไม่จำเป็น เราก็ยืนยันกับทางสตาฟไป ทางสตาฟก็บอกมาว่าระบบของสายการบินไม่อนุญาต สายการบินต้องเซฟตัวเอง กลัวว่าพ่อแม่เราจะแอบเข้าอังกฤษแบบผิดกฏหมาย ถึงจะมีไอทินารี แต่ไม่มีตั๋ว (ซึ่งสายการบินที่โคด้วยออกให้ไม่ได้ เช็คอินก็ไม่ได้เพราะไม่ใช่ระบบของเขา) เขาไม่อยากเสี่ยง พ่อแ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 50


In this case I prefer to follow the latest rules update.




และขออนุญาตเสริมเรื่อง Common Travel Area นะคะ
The Common Travel Area (CTA) is a travel zone that comprises Ireland, the United Kingdom, the Isle of Man, Jersey and Guernsey. With certain exceptions, the CTA's internal borders are subject to minimal or non-existent border controls and can normally be crossed by British and Irish citizens with minimal identity documents.
ซึ่งถ้าว่ากันตามคำจำกัดความข้างต้นแล้ว สามารถอนุมานได้ว่า CTA ใช้ได้กับ British และ Irish Citizens เท่านั้นนะคะ
ไม่ได้หมายรวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศดังกล่าว

ส่วนเรื่อง BIVS นั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า อังกฤษและไอร์แลนด์มีกรอบความร่วมมือในเรื่องวีซ่า
(แบบไม่นับรวมผู้ถือ Citizen ของทั้งสองประเทศ) อยู่สองโครงการ

1) Visa Waiver Programme
ซึ่งโครงการนี้อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่าอังกฤษ Type C(เท่านั้น) จากประเทศที่กำหนดตามภาพด้านล่าง

สามารถเข้าประเทศไอร์แลนด์ได้ โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ซึ่งข้อจำกัดของโครงการนี้คือ ระยะเวลาที่สามารถอยู่ในไอร์แลนด์ได้
คือระยะเวลาที่ทางตม.อนุญาติให้อยู่ในอังกฤษได้ นั่นหมายรวมไปถึงวีซ่าต้องยังไม่หมดอายุ และต้องเข้าประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรก
โดยไม่ใช่การทรานสิท หรือจะนับได้ว่าวีซ่าอังกฤษแต่เข้าไปเที่ยวไอร์แลนด์ได้นั่นเอง


2.British Irish Visa Scheme หรือ BIVS
อันนี้คือการที่สามารถใช้วีซ่าอังกฤษที่มีระบุ Endorsement ว่า BIVS ในการเข้าไอร์แลนด์
หรือในทางกลับกัน คือใช้วีซ่าไอร์แลนด์ที่มีระบุว่า BIVS ในการเข้าอังกฤษได้
ภาพด้านล่างคือวีซ่าอังกฤษแบบปกติ ที่ใช้เข้าไอร์แลนด์ไม่ได้

และภาพต่อไปด้านล่างนี้คือวีซ่าอังกฤษแบบ BIVS ที่สามารถใช้เข้าไอร์แลนด์ได้

โดยข้อจำกัดของโครงการนี้คือ วีซ่าที่ใช้จะต้องออกจากประเทศจะไปเข้าไปเป็นประเทศแรก(ไม่นับรวมทรานสิท)
เช่นจะไปอังกฤษก่อนต่อไปไอร์แลนด์ก็ต้องขอวีซ่าอังกฤษ
ในทางกลับกัน ถ้าจะไปไอร์แลนด์ก่อนแล้วต่อไปอังกฤษก็ต้องขอวีซ่าไอร์แลนด์
โดยโครงการนี้จะทำให้ผู้โดยสารสามารถทรานสิทจากอังกฤษไปไอร์แลนด์ได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
หากเวลาในการทรานสิทไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง
แต่
รายชื่อประเทศที่สามารถเข้าร่วมโครงการ BIVS นั่น ตามภาพด้านล่างเลยค่ะ

โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีรายชื่อประเทศไทยในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่มีนะคะ!
ภาพด้านล่างคือแคปจอมาจาก Department of Foreign Affairs and Trade ของไอร์แลนด์
เป็นรายชื่อของประเทศที่อยู่ในโครงการนี้อย่างเป็นทางการ ณ ปัจจุบันค่ะ


หรือถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมแนะนำให้ติดต่อตามเบอร์ติดต่อด้านล่างเลยค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ในฐานะที่ผมก็ทำงานในอุตสาหกรรมธุระกิจการบิน คงต้องขอพูดว่าสิ่งที่พนักงานทำนั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะพนักงานทุกคนที่มีสิทธิ์ได้นั่งทำงานเพื่อตรวจสอบเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารทุกท่านในการเดินทางไปต่างประเทศ จำเป็นและต้องผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี นอกจากจะใช้หลักความรู้และประสบการณ์แล้ว เรายังมีเอกสารในระบบอิเล็กซ์ทรอนิกส์ ซึ้งสามารถใช้เพื่อยืนยันได้เช่นกัน พวกเราไม่ได้นั่งสมาธิ เพ่งกระเเสจิตเพื่อหาคำตอบ หรือถามอับดุล หรือแม่แต่พรายกระซิบเราก็ไม่ทำ เพราะเรามีมาตรฐานในการทำงาน หัวหน้างานทุกท่านก็ไม่ใช่สอบเทียบมานะครับ แล้ว จขกท คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นหรอคับ??? และการที่พนักงานปฏิเสธไม่ให้เดินทาง มันก็ควรที่จะมีเหตุผลที่สำคัญ เพราะเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับตัวผู้โดยสารทุกท่านแม้เเต่น้อย ถ้าในทางกลับกัน พนักงานปล่อยปะละเลยต่อหน้าที่ อนุญาตให้พวกท่านๆผู้มีอุปการะคุนเดินทางไปตามที่ใจนั้นแสนจะปราถนา แล้วเมื่อท่านๆเดินทางไปถึงสนามบินที่ประเทศอังกฤษ แล้วโดนเจ้าพนักงานที่นั้นปฏิเสธไม่อนุญาตให้เดินทางต่อ คุณอลิสโรสก็คงจะต้องเปลี่ยนหัวข้อกะทู้ใหม่เป็น "ทำไมพนักงานสายการบิน xxหัดไม่มีความรู้ไม่รอบคอบ บลาๆๆ" ใช่รึป่าวคับ
ส่วนท่านอื่นๆผู้มีความรู้รอบที่มาแสดงความคิดเห็นกันนั้น ก็ควรจะให้เกียรติคนที่ประกอบอาชีพนี้ด้วย ไม่ใช่สักเเต่เอามันส์ หรือพิมพ์ไปตามอารมณ์ ผมเชื่อว่าคนที่สามารถที่จะกดสมัครมาเป็นสมาชิกของพันทิปได้ก็ควรจะมีวุฒิภาวะพอสมควรนะครับ
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา
ความคิดเห็นที่ 13


Exclude Ire แปลว่ายกเว้น ประเทศไอร์แลนด์ หมายความว่า ต้องใช้นี่
ความคิดเห็นที่ 18
ขอตอบในฐานะ ที่ทำงานทางด้านนี้ มาเป็นเวลา เกือบ 8 ปี แล้ว ว่าเจ้าหน้าที่สายการบิน ไม่ได้โง่ หรือ ขี้เกียจอย่างที่คุณเข้าใจนะคะ พวกเราทุกคน ต้องได้รับการ Traning เรื่องเอกสารและวีซ่า มาเป็นอย่างดีค่ะ โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญหรือตำรวจ ต.ม ของแต่ละประเทศ มาเทรนเรื่องวีซ่า ในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย จีน ฯลฯ  ไม่ใช่แค่วีซ่า หรอกค่ะ แต่มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะมากมาย รูปในพาสปอร์ต ในส่วนของใบหน้า ระหว่างตัวจริงหน้าเช็คอินเคาท์เตอร์กับรูป ว่าตรงกันมั้ย ต้องดูแม้กระทั่ง ลักษณะใบหู  เพราะ ว่า มันมีผลกระทบต่อสายการบินเป็นอย่างมาก หากเกิดกรณีเอกสารผิดพลาดขึ้นมา เคสละ เกิน 100,000 บาท ที่เราต้องรับผิดชอบ จึงจำเป็นต้องมีการเทรนและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเอกสารเหล่านี้อย่างละเอียด พวกเราทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด ถ้าเจ้าของกระทู้ได้รับข้อมูลมาไม่ถูกต้อง ก็ไม่ควรจะกล่าวหาทางสายการบิน หรือ พนักงานที่ทำงานเหล่านั้นนะคะ แล้วถ้าเกิดมีการฟ้องร้องมา หากสายการบินทำทุกอย่างได้ถูกต้องแล้ว คุณคิดว่า ผล จะเป็นอย่างไรคะ
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าอ่านตามรูปที่ คห13 แปะมาให้นี่ คือถ้าคนไทยไปต่อเครื่องที่อังกฤษไปประเทศที่3นี่ ไม่ต้องใช้วีซ่า นอกจากไปไอร์แลนด์ประเทศเดียว ซึ่งผมว่าทางพนักงานเขาก็ทำถูกต้องแล้วนี่ครับ ??
ความคิดเห็นที่ 15
คนไทยไป transit LHR, MAN, LGW by airside
สามารถไปต่อเครื่องไปประเทศที่ 3 ได้โดยไม่ใช้วีซ่า
ยกเว้นเดินทางไปไอร์แลนด์ ที่ต้องใช้ transit visa

อ้อ ฉลาดแล้วค่าาา ขอบคุณค่ะ ยิ้ม

edit ความรู้เพิ่มเติม

อยากยกตัวอย่าง
ถ้าชาติไหนที่ต้อง transit ในประเทศ SCHG
แล้ว via พอร์ตในประเทศเชงเก้น 2 ประเทศติดกัน (เช่น BKK-CGD-FRA-DME)
จริงอยู่ที่ไปรัสเซียเราไม่ต้องขอวีซ่า แค่มีตั๋วขากลับและ sufficient funds เยอะพอสมควรที่จะอยู่ที่นู้นได้

ยังไงก็ต้องขอ transit visa อยู่ดี ไม่งั้นก็

...จ๊ะเอ๋ คุณเป็น inadmissible นะจ๊ะ เราไม่ให้ยูทรานซิทนะ โดนส่งกลับไทยโดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ...
หุหุ

เขามี air transport law and regulation แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน ค่ะ
กรณีที่ยกตัวอย่าง ถ้ามี schg visa ที่ยัง valid อยู่ ถึงจะ transit ไปได้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่