เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558
ผมได้เรียก Taxi ผ่านโปรแกรม Grabtaxi เพื่อกลับบ้าน และในขณะเดินทางกลับบ้าน Taxi คันนั้น ได้ขับรถเสียหลักเสยขึ้นฟุตบาทและพุ่งชนเข้ากับต้นไม้อย่างรุนแรง ส่งผลให้ผมซึ่งเป็นผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ ได้แก่
             - กระดูกที่จมูกร้าว
             - แขนถลอกอย่างรุนแรงและลึก
             - แผลฟกช้ำตามตัว
นอกจากนี้มือถือ Iphone6Plus ที่ใส่อยู่บริเวณกระเป๋ากางเกงข้างขวาก็ได้รับการกระแทกจนจอร้าวและตัวเครื่องงอ และเคสที่ใส่มือถือก็หัก

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ผมก็เข้ารับการรักษาโดยใช้ประกันกลุ่ม (ของบริษัทที่ผมทำงานอยู่) สำรองจ่ายไปก่อนทั้งหมดจนอาการดีขึ้นและหมอไม่ได้นัดให้ไปรักษาต่อแล้ว

ในขณะเดียวกันทางประกันรถยนต์ของ Taxi และคนขับรถ Taxi ก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลและทรัพย์สินที่เสียหาย แต่ผมไม่ค่อยกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะผมใช้ประกันกลุ่มของบริษัทในการชำระไปแล้ว แต่ผมกังวลในส่วนของทรัพย์สินที่เสียหายมากกว่าซึ่งก็คือ มือถือ Iphone6plus (ซื้อมา 33,400 บาท ใช้มายังไม่ถึง 1 ปีเลย )

โดยประกันรถยนต์ของ Taxi นั้นได้จ่ายชดเชยที่ผมหยุดงานจำนวน 6 วัน คิดเป็นเงิน 1,800 บาท (วันละ 300 บาท)
และจ่ายชดเชยค่าเสียหายของ Iphone6plus ในจำนวนเงินเพียง 26,720 บาท (คิดเป็น 80% ของราคาเต็ม 33,400 บาท) เพื่อให้ผมไปซื้อเครื่องใหม่ โดยผู้จัดการสาขาของบริษัทประกันชี้แจงว่า สำนักงานใหญ่แจ้งมาว่ามือถือมีค่าเสื่อมราคา เนื่องจากใช้มาแล้วหลายเดือนจึงไม่สามารถจ่ายในราคาเต็มได้ และผมต้องคืนมือถือ Iphone6plus ที่เสียหายให้แก่บริษัทประกันด้วย ภายหลังจากที่ผมได้รับค่าชดเชยดังกล่าว

ผมจึงสงสัยว่าผมกำลังถูกบริษัทประกันดังกล่าวเอาเปรียบอยู่หรือไม่ครับ
          - เนื่องจากมือถือของผมก็ดีๆอยู่แล้ว ถ้าเค้าจ่ายในราคานี้เท่ากับว่าผมต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหลายพันบาทเพื่อซื้อเครื่องใหม่ ทั้งๆที่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินก้อนนี้เลยเพื่อซื้อเครื่องใหม่ เนื่องจากมือถือผมก็สภาพดีอยู่แล้ว
          - ผมได้แจ้งกับทางประกันไปว่า มือถือผมสามารถเคลมกับ Operator ที่ผมซื้อมาได้นะ แต่มันมีค่าใช้จ่ายในการเคลมอยู่หมื่นกว่าบาท เนื่องจากหลุดประกัน จึงต้องเสียค่าเคลมเครื่องใหม่ พร้อมกับนำส่งหลักฐานค่าใช้จ่ายการเคลมไปให้ทางประกัน เพราะผมเห็นว่าเป็นการช่วยให้บริษัทประกันประหยัดค่าชดเชยด้วย แต่ทางผู้จัดการสาขาของบริษัทประกันกลับแจ้งว่า ทางบริษัทต้องการจ่ายชดเชยเพื่อซื้อเครื่องใหม่ให้ผมมากกว่าและให้ผมนำมือถือที่เสียหายมาให้บริษัทประกัน เพราะบริษัทประกันจะนำไปซ่อมและเอาไปขายซากทิ้ง (ผมสงสัยว่ามีนโยบายแบบนี้ด้วยหรอ ทั้งๆที่ทางออกในการจ่ายค่าเคลมให้ผมนั้นเป็น win-win situation ของทั้งคู่ เนื่องจากผมก็ได้เครื่องใหม่ บริษัทประกันก็จ่ายชดเชยน้อยลงไปตั้งหมื่นกว่าบาท)
          - ค่าสินไหมทดแทนที่ผมได้ 1,800 บาท คิดจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จำนวน 6 วันที่ไม่ได้ไปทำงาน (แต่ปัจจุบันเงินเดือนผมประมาณ 50,000 บาท)
          

ผมจึงอยากสอบถามกูรูใน pantip หน่อยครับ
          1. เรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายของมือถือผม ผมสามารถยืนกรานที่จะเรียกร้องในราคาเต็มได้หรือไม่ครับ (เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อเครื่องใหม่) ในกรณีที่บริษัทประกันยังยืนกรานที่จะไม่ยอมออกค่าเคลมเครื่องให้ผม แต่จะชดเชยเป็นเงินสดให้ผมไปซื้อเครื่องใหม่แทน

          2. ผมมีความจำเป็นต้องคืนมือถือ Iphone6plus ที่เสียหายให้แก่บริษัทประกันหรือไม่ครับ ภายหลังจากที่ผมได้รับค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าว

          3. ถ้าสมมุติว่าบริษัทยังยืนกรานที่จะจ่ายชดเชยค่าเสียหายของมือถือไม่เต็มจำนวน (จำนวนเงินที่ประกันจ่ายไม่สามารถนำไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ได้) ผมสามารถยืนกรานที่จะให้บริษัทประกันจ่ายค่าเคลมมือถือให้ผมแทนได้หรือไม่ครับ เนื่องจากค่าใช้จ่ายน้อยกว่าตั้งหมื่นกว่าบาท แต่บริษัทประกันจะไม่ได้รับมือถือของผมที่เสียหาย เพราะเป็นการเคลมแบบ Exchange เครื่องกับ Operator

          3. ค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจ่ายผมต่ำเกินไปหรือไม่ครับ

ขอบคุณมากครับ