(ย้อนรอยละครช่อง3)เทพบุตรขนตางอน ละครเรื่องแรกทางช่อง3 ของพระเอกลิเกเงินล้านขวัญใจแม่ยก เอ ไชยา มิตรชัย



เทพบุตรขนตางอน
บทประพันธ์ เพ็ญศิริ 
บทโทรทัศน์ ภควดี แสงเพชร 
กำกับการแสดง อดุลย์ บุญบุตร 
ควบคุมการผลิต ปิ่น ณัฎฐนันท์ ฉวีวงษ์
ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 19.15 น. 
นำแสดงโดย
เอ ไชยา มิตรชัย รับบท อนุนาท/อติณันย์
โอ๋ เพชรลดา เทียมเพ็ชร รับบท บุษรา
แจ็ค ธนพล สัมมาพรต รับบท สุนทร
เปิ้ล ชไมพร สิทธิวรนันท์ รับบท ชมพูพิศ
ออย ศรุตา เรื่องวิริยะ รับบท ยมลภัทร
เอ พศิน เรืองวุฒิ รับบ ภูสิทธิ์
มิค บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ รับบท ปกรณ์
และอีกมากมาย
เรื่องย่อ
อนุนาท ชายหนุ่มผู้รักการแสดงเป็นชีวิตจิตใจ เป็นลูกชายคนเดียวของ ลุงเพชร เจ้าของคณะลิเก เพชรศิลา นาฏดนตรี เขาฝันเอาไว้ว่าว่าเมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้วเขาจะกลับมารับช่วงเป็นเจ้าของคณะลิเกต่อจากพ่อ แต่อนุนาทกลับต้องมาเป็นพระเอกลิเกจำเป็น เนื่องจากพระเอกคนเดิมลาออกอย่างกระทันหัน แต่อนุนาทเห็นว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะสมที่จะเล่นเป็นพระเอกลิเก ดังนั้นเขาจึงว่าจ้าง ฟ้าเทวา มาเป็นพระเอกลิเกของคณะด้วยค่าตัวที่สูง จากนั้นอนุนาทก็เดินทางกลับไปเรียนต่อ บุษรา สาวสวยนางเอกประจำคณะ เธอไม่ชอบใจในพฤติกรรมของเทวาที่ชอบฉวยโอกาสลวนลามเธอเสมอๆเมื่อมีโอกาส และเมื่อลุงเพชรเห็นการกระทำของเทวาเข้าจึงว่ากล่าวตักเตื่อนไป ทำให้เทวาไม่พอใจและขอลาออกจากการเป็นพระเอกของชาวคณะไปในที่สุด อนุนาทถูกเรียกให้มาเป็นพระเอกจำเป็นอีกครั้ง แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะคนดูตามไปดูการแสดงจากคณะของเทวาที่สร้างขึ้นมาเพื่อแข่งกับคณะเพชรศิลา อนุนาทตัดสินใจไม่กลีบไปเรียนหนังสือต่อแล้ว เมื่อรู้ความจริงว่าพ่อกับแม่เป็นหนี้เพราะค่าจ้างที่สูงของเทวาและจากค่าเล่าเรียนของเขาเอง อนุนาทไปทำงานที่โรงน้ำแข็งกับสุนทรเพื่อนสนิท ขณะที่ไปทำงานวันแรกทั้งสองได้ไปเจอกองถ่ายหนัง ซึ่งกำลังรับสมัครแสตนท์อินแทนพระเอกทั้งคู่จึงได้ชวนกันไปสมัคร และทั้งสองก็ถูกเลือกให้เป็นแสตนท์อินโดยไม่บอกให้ทางบ้านรู้ เสี่ยวีรยุทธ เจ้าของบริษัท อ๊อฟไซด์ โปรโมชั่น เห็นแววของอนุนาทก็ชวนให้มาเป็นพระเอก แต่อนุนาทปฏิเสธและได้บอกไปว่าเขาชอบที่จะร้องเพลงมากกว่า เสี่ยวีรยุทธตัดสินใจปั้นอนุนาทให้เป็นนักร้องโดยใช้ชื่อว่า อดิณันย์ พันธุ์เทวา พร้อมกับสั่งอนุนาท ไม่ให้ไปมาหาสู่กับที่บ้าน และสร้างประวัติให้ใหม่เป็นนักร้องไฮโซ อนุนาทกลับบ้านครั้งสุดท้ายพร้อมกับให้เงินจำนวนหนึ่งกับพ่อแม่ โดยที่ต่อมาไม่มีใครรู้ว่าอนุนาทหายไปไหน บุษราเกิดความเป็นห่วงอนุนาทจึงเข้ามาตามหาที่กรุงเทพแต่ก็ไม่เจอ ขณะที่เธอหลบแดดอยู่ในห้างก็บังเอิญเห็นการบันทึกเทปของรายการ ทอล์คโชว์ ซึ่งก็ได้เห็นนักร้องลูกทุ่ง อดิณันย์ พันธุ์เทวา ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับ อนุนาท เธอพยายามเข้าไปพิสูจน์แต่ก็ถูกผู้จัดการไล่ออกมา เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริงให้ได้ บุษราตัดสินใจไปสมัครเป็นแม่บ้านที่บริษัทแต่ ปกรณ์ เห็นหน่วยก้านดีประกอบกับรู้สึกถูกใจในตัวของบุษราจึงชวนเธอมาเป็นแดนเซอร์ให้กับอดิณันย์ ขณะซ้อมเต้นบุษราและอดิณันย์เจอหน้ากันอย่างจังแต่ชายหนุ่มกลับทำแกล้งเป็นไม่รู้จักและไม่ยอมรับว่าเป็นคนๆ เดียวกับอนุนาท ชื่อเสียงของอนุนาทเริ่มโด่งดังจน ตระกล เจ้าของบริษัท เซ็นจูรี่ คอสเมติค ต้องการที่จะให้อดิณันย์ เป็นพรีเซนเตอร์คู่กับ ยมลภัทร ผู้เป็นลูกสาว เมื่อพบหน้ากันครั้งแรกอดิณันย์ก็ตกหลุมรักยมลภัทรทันที สร้างความไม่พอใจให้กับบุษราและ ภูสิทธิ์ ผู้ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเซ็นจูรี่ คอสเมติค หลังจากที่อดิณันย์ได้เข้ามาทำงานในบริษัท ทำให้เขาได้รู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลของภูสิทธิ์ จึงรีบไปปรึกษา พลอยผกา ผู้เป็นหลานสาวของตระกลทำให้พลอยผกาเห็นในความสามารถของชายหนุ่มมากขึ้น เสี่ยวีรยุทธ รู้สึกไม่พอใจนักที่ต้องให้ อดิณันย์ ทำงานในบริษัทของตระกล อดิณันย์ไม่พอใจเมื่อรู้ว่าบุษราจะเข้ามาเป็นเลขาของตระกล เขาส่งสุนทรไปเจรจากับบุษราทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วอดิณันย์คือคนๆ เดียวกันกับอนุนาทนั่นเอง ภูสิทธิ์ไม่พอใจและพยายามหาทางแกล้งให้เขาทำงานผิดพลาด แต่นักร้องหนุ่มกลับทำยอดขายเพิ่มมากกว่าเดิม ตระกลตัดสินใจพาพวกเขาไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อเป็นการขอบคุณ ส่วนภูสิทธิ์พยายามวางแผนที่จะให้ยมลภัทรเกลียดอดิณันย์ ขณะล่องเรืออยู่กลางทะเลเครื่องยนต์เกิดขัดข้องด้วยฝีมือของ ภูสิทธิ์ จึงทำให้พวกเขาติดอยู่บนเกาะ เหตุการณ์ต่างๆทำให้ยมลภัทรเริ่มมองอดิณันย์ในแง่ดีขึ้น บุษราเสียใจเมื่อเห็นยมลภัทรกับอดิณันย์เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ประกอบกับพลอยผกาที่ประทับใจในความเฉลียวฉลาดของอดิณันย์ ภูสิทธ์ติดการพนันจนได้พบเพื่อนใหม่คือปกรณ์ งานฉลองปีใหม่ของพนักงาน ยมลภัทร ได้ทำการติดต่อคณะลิเกเพื่อที่จะเอาใจอดิณันย์ แต่กลับทำให้ชายหนุ่มตะลึงเมื่อคณะลิเกที่ติดต่อให้มาเล่นคือคณะ เพชรศิลา นั่นเอง ภูสิทธิ์เริ่มสังเกตุเหตุการณ์ดังกล่าวและคิดว่าอดิณันย์ต้องมีอะไรเกี่ยวพันกับคณะลิเกเพชรศิลาแน่นอน จึงวางแผนให้คณะลิเกขึ้นรับรางวัลพร้อมกับอดิณันย์ แต่กลับทำให้ชาวคณะลิเกต้องเสียใจเมื่อชายหนุ่มปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ลูกหลานชาวคณะ บุษราต่อว่าอดิณันย์จนชายหนุ่มต้องบอกความจริงทั้งหมด บังเอิญพลอยผกาผ่านมาได้ยิน ทำไห้อดิณันย์ต้องสารภาพความจริง บุษราเสียใจที่ถูกอดิณันย์กล่าวหาว่าเป็นตัวการที่ทำให้เรื่องราววุ่นๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นจึงตัดสินใจกลับบ้าน พบว่าลุงเพชรกำลังป่วยหนัก ชาวคณะลิเกจึงไปตามอดิณันย์ที่กรุงเทพแต่ถูกปกรณ์กีดกันทำให้ทุกคนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ส่วนบุษรากลับมาทำงานพร้อมกับบอกว่าพ่อของอดิณันย์หายดีแล้ว เมื่ออดิณัณย์เริ่มมีข่าวไม่ค่อยดีออกมา เสี่ยวีรยุทธกับปกรณ์จึงปรึกษาหารือกันเรื่องที่จะปั้นนักร้องหญิงขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนักข่าว แต่บุษราไม่สนใจและพยายามหาทางให้อดิณันย์กลับไปร่วมงานไหว้ครู แต่ปกรณ์ไม่อนุญาตแถมยังหางานมาให้ บังเอิญเป็นงานที่อยุธยาเขาจึงใช้ช่วงเวลาที่เผลอกลับไปกราบเท้าพ่อแม่จนทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้น อดิณันย์ต้องการกลับไปดูแลพ่อแม่จึงไม่ขอต่อสัญญาเป็นนักร้อง ทำให้ปกรณ์โกรธมาก ทั้งสองคนมีปากเสียงกันประกอบกับบุษราโทรมาปฏิเสธไม่ขอเป็นนักร้องลูกทุ่งอีกแล้ว เขาจึงวางแผนเพื่อฆ่าอดิณันย์ หลังจากอดิณันย์ทะเลาะกับยมลภัทรด้วยเรื่องเข้าใจผิด เขาตัดสินใจขับรถออกไปโดยไม่รู้ว่า ปกรณ์ได้ตัดสายเบรคไว้ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมามียมลภัทรคอยดูแลทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่ชายหนุ่มยังไม่ได้สติบุษราต่างหากที่เป็นคนดูแลอาการมาโดยตลอด ตระกลเห็นความสนิทชอบพอของคนทั้งคู่จึงจัดให้มีการหมั้นกัน ในวันแถลงรับรางวัลหลังจากที่อดิณันย์หายดีแล้ว ซึ่งข่าวการหมั้นสร้างความไม่พอใจให้กับภูสิทธิ์ที่หลงรักยมลภัทรเป็นอย่างมาก เขาจึงนำบัตรเชิญไปให้ชาวคณะลิเกมาเป็นสักขีพยาน ในวันแถลงรับรางวัลทุกคนต่างก็ลุ้นให้อดิณันย์เปิดเผยความจริง ในขณะที่ลุงเพชรและป้าศิลาเดินเข้ามา อดิณันย์รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป จึงเดินเข้าไปก้มกราบเท้าป้าศิลาและบอกกับทุกคนว่าลุงเพชรกับป้าศิลาคือพ่อแม่ที่แท้จริง ยมลภัทรถึงกับช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างก็เดินหนีอดิณันย์เหลืออยู่ก็แต่ชาวคณะลิเกและบุษรา หลังจากนั้น อดิณันย์ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวเหมือนเดิม พร้อมกับพัฒนาคณะลิเกและนักร้องลูกทุ่งเข้าด้วยกันจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ตระกลกับยมลภัทรเริ่มคิดได้ ทั้งหมดจึงตามไปให้กำลังใจอนุนาทที่งานแสดง ส่วนอนุนาทก็มั่นใจว่าผู้หญิงที่เขารักเสมอมาคือบุษรานั่นเอง เสี่ยวีรยุทธยื่นข้อเสนอให้อนุนาทกลับมาเป็นนักร้องลูกทุ่งเหมือนเดิมโดยให้ใช้ชื่อว่า อนุนาท ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอให้สุนทรเป็นผู้จัดการส่วนตัว ปกรณ์โกรธมากเมื่อรู้ข่าว จึงวางแผนลอบยิงอนุนาท แต่บุษราเห็นเข้าจึงเอาตัวเข้าไปรับกระสุนปืน แต่โชคดีไม่เป็นอะไรมาก ภูสิทธิ์กับปกรณ์โดนจับเข้าคุก สุดท้ายบุษรากับอนุนาทก็แต่งงานกัน ทั้งสองสัญญาว่าจะช่วยกัน รักษาคณะลิเกเพชรศิลาให้อยู่คู่คนไทยตลอดไป
เกร็ดน่ารู้
จำได้ว่าเป็นละครเย็นที่ดังมากๆ ฉายชนกับเรื่องหน้ากากที่จอนนี่กับน้ำฝน กุลณัฐที่โดนดองจนเปื่อย ไม่สดใหม่ แถมแม่ยกพี่เอก็เยอะแยะ พี่เอก็เล่นลิเกอ้อนแฟนๆให้มาติดตามจนกระแสตอบรับดีมากๆ จนป้าปิ่นผู้จัดละครยิ้มแก้มปริ จัดละครให้พี่เอ ไชยารวดเดียวอีก2เรื่องคือเลือดสามสีกับผู้ใหญ่เห็ดกำนันหอย และเป็นจุดเรื่มต้นทำให้พี่เอติดหนึบเป็นตัวพ่อละครเย็นทางช่อง3ไปช่วงนึงเลยทีเดียวเชียวครับ
เรื่องนี้มีเพลงประกอบเพราะๆตั้งสามเพลงแนะ จัดไปกับเพลงแรก อยากบอกรักเธอ ชะเออเงิงเงอ(ร้องผิดขออภัยด้วยครับ อิอิ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เพลงที่สองกับเพลงเพราะๆ อ้อมแขนคนธรรมดาครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
และสุดท้ายกับเพลงสนุกๆ ขอเกี่ยวแล้วกัน ปิดท้ายกระทู้ครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ถ้าชอบกระทู้นี้อย่างไรก็กดโหวตกันด้วยนะครับ
Cr.เรื่องย่อ : http://movie.sanook.com/21317/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่