สวัสดีค่ะ ตอนนี้เรามาต่อจากที่เดินทางไปอีเจี้ยนและโบรโม่กันค่ะ ตอนนี้มาถึงยอร์คยาการ์ต้า ได้ที่พักที่ Kreastna homestay ราคาเบาๆและใกล้ถนนมาริโอโบโร การเดินทางไปไหนมาไหนก็สดวกค่ะ ใกล้แหล่งอาหาร
วันแรกพาไปเที่ยวที่เดียง พลาโต้แล้ว ไปดูโบราณสถานเก่าแก่ของฮินดู บ่อโคลนเดือดที่ใหญ๋มากๆ และทะเลสาปสองสีไปแล้ว
http://ppantip.com/topic/34252783 ภาค1 ค่ะ
วันที่สองเดินทางแต่เช้าเพื่อไปเที่ยว Jomblang Cave ก็นั่งรถอีกเกือบ3ชม.เหมือนเดิม
Jomblang cave เป็นถ้ำใหญ่ที่สะพานถ้ำถูกน้ำกัดเซาะจนถล่มลงเมื่อนานมาแล้ว การเข้าไปในถ้านี้ต้องโรยตัวลงไปอย่างเดียว ซึ่งก็มีบริษัทนำเที่ยวพาเราลงไป เสียค่าใช้จ่าย 450.000 IDR ซึ่งก็คุ้มนะคะ กับการที่ต้องใช้อุปกรณ์ในการโรยตัวลงไป และแรงงานของคนที่นั่น
ก็ต้องแต่งตัวกันแบบนี้แหละค่ะ
ก่อนจะลงก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ และการเดินเข้าถ้ำอย่างปลอดภัย
ปากปล่องถ้ำจากมุมสูง ค่อนข้างสูงเอาการน่าจะตึกประมาณ8 ชั้น
เค้าจะหย่อนลงไปครั้งละ2คน ถ้า นน มากก็ครั้งละ1คน
เมื่อลงข้างล่างจนครบคน เราก็เริ่มเดินลงๆๆๆไปที่ตัวถ้ำ ตรงนี้ทางชันมากแบบต้องเกาะเชือกกันลงไป อยากจะบอกว่ารองเท้าบูทยางที่ทางเค้าจัดเตรียมไว้ให้ มันไม่เหมาะกับการใส่เดินในสภาพแบบนี้เลย มันแค่ช่วยไม่ให้เปียกน้ำเท่านั้นเอง แต่ยังงัยรองเท้าผ้าใบที่เราสวมมาก็ดีกว่าอยู่แล้ว เพราะด้านในทั้งลื่น ทั้งเต็มไปด้วยหินก้อนเล็กๆที่เดินแล้วเจ็บเท้าชมัดเลย
อยู่ด้านล่าง มองขึ้นไปที่ปากถ้ำ
ด้านในมืดมาก ต้องใช้ไฟฉายในการนำทาง
และเราก็มาถึงจุด hilight ของถ้า นั่นคือปล่องด้านบนที่ส่องแสงลงมายังถ้ำด้านใน ลำแสงที่ส่องสว่างตัดกับความมืดในถ้ำ สวยงามมาก
ด้านล่างเป็นธารน้ำตก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนญาติให้เราลงไป เพราะอันตราย สูงและลื่น
ออกจากถ้ำก็เกือบบ่ายโมง ก็เลยแวะน้ำตกไม่ไกลกันเท่ารัย น้ำตกนี้ธรรมดามากๆ ส่วนมากเป็นคนพื้นที่มาเที่ยวเท่านั้น
วันที่3 เราออกเดินทางไปยังพุทธสถานที่ใหญ่ที่สุด และสวยงามที่สุด คือ บุโรพุทโธ
และปรัมบานัน วัดเก่าแก่ของฮินดู
แค่สองสถานที่นี่เราก็ใช้เวลาไปเกือบเต็มวัน แต่คุ้มค่าจริงๆต่ะ เพราะสวยงามและยิ่งใหญ่จริงๆ เดินกันขาขวิดเลยค่ะ
รายการต่อไไปเรามาต่อกันที่ Lava Adventure Merapi วันนี้ไปลุยฝุ่นกันอีกรอบ กับภูเขาไฟเมราปี ที่สำแดงเดชปะทุครั้งใหญ่ไปเมือ่ปี2010 คร่าชีวิตผู้คน,สัตว์เลี้ยง, ข้าวของทรัพย์สินมากมาย วันนี้เราจะทัวร์แบบใช้มอเตร์ไซด์วิบาก เค้ามีทัวร์รถจิ๊ป แต่เราไปคนเดียวมอไซด์มันส์กว่าเยอะ ค่าเช่าก็ 150.000 Idr / 2 ชม.
ตรงนี้คือลำธารที่ทั้งโคลน หิน ดิน ทราย ไหลลงมาหลังจากที่ลาวาและเถ้าร้อนได้ประทุออกมาซ้ำเป็นระลอก2 ถมทับบ้านเรือนและคร่าผู้คนไปมากมาย
บ้านเรือนที่กลายเป้นบ้านร้าง
ซากข้างของเครื่องใช้ที่โดนเถ้าถ่านร้อนจนเปลี่ยนสภาพไป โศกนาฎกรรมที่น่าสพรึงของเมราปี
วันที่4 วันนี้ป้าเดินทางไกลอีกหน่อย ไปถึง Solo เพราะอยากไปดูโบราณสถานที่เก่าแก่เลียนแบบสไตล์มายา ของเปรู แต่น่าเสียดายที่พอไปถึงเค้ากำลังบูรณะและสร้างหลังคาครอบไว้ เลยไม่ได้เห็นแบบเต็มๆ
ที่นี่มีไกด์มาคอยให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติทั้งหมดของสถานที่ เป็น Local guild ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม
และนี่ก็เป็นอีกที่นึง ที่เหมือนจะโดนหลอกเรื่องระยะทาง เพราะไกด์บอกเดิน15-20นาที แต่เอาเข้าจริงๆมีเราเดินอยู่คนเดียวร่วมชั่วโมง ระยะทางไปกลับเกือบ4 กิโล ท่ามกลางแดดที่แผดเผาอย่างแรง ดีที่เราใส่เสื้อมีฮู้ดไป ไปงั้นเกรียมแน่ๆ
ทางเดินเลาะลัดเนินเขาเตี้ยๆ ซึ่งชาวบ้านทำการเกษตร ปลูกนาข้าวขั้นบันได
เดินเกือบ4 กิโล เพื่อไปดูสถูปอันเดียวนี่นะ แล้วก็มีอยู่สถูปเดียวจริงๆ
วันที่5 วันนี้เราจะไปลอยคอในน้ำเข้าถ้ำกันแบบเย็นๆมั่ง เราเรียกว่า Pindul cave และ tawanmangu waterfall อันนี้ใช้ภาพจากเว็บ เพราะไม่ได้เอากล้องเข้าไป กลัวเปียกน้ำ
ใช้เวลาในการเดินชมน้ำตกและล่องห่วงยางจนบ่ายแก่ๆ เราก็เดินทางกลับเช้าเมืองยอร์คยา
วันที่6 นี่ Freeday ค่ะ ขอนอนตื่นสายสักวันนึง วันนี้ออกไปเดินช่วงบ่ายๆ แดดก็ร้อนมาก เดินไปจนสุดถนนมาริโอโบโร เพื่อไปโบสถ์คาทอลิค
บรรยากาศย่านมาริโอโบโร กับไก่สะเต้ะ
ถนนเส้นนี้คล้ายกับประตูน้ำบ้านเรา ซึงมีทั้งห้างสรรพสินค้า และของขายแผงลอย ซึ่งขายเหมือนๆกัน
มีพลอย หิน มากมาย ทำกันตรงนั้น เข้าเรือนกันตรงนั้นเลย เราก็ดูไม่เป้นว่าแท้หรือเทียว ก็เลยได้แต่ยืนมองงอยู่ห่างๆ
บรรยากาศกลางคืนของที่นี่
มีศิลปินมาแต่งตัวโชว์และถ่ายรูปแลกเงิน
นักดนตรีที่หิ้วกีต้าร์เดินร้องเพลงไปตามริมทาง เสียงเพราะนะคะ ก็แล้วแต่เราจะให้ค่าตอบแทนเค้า แต่เห็นคนที่นี่ให้แต่เหรียญ ซึ่งเหรียญส่วนมากก็มี500,1000,2000 ซื่งก็ราวๆ1.50 บาท,3 บาท,6บาทประมาณนั้น
ร้านอาหารที่นี่เค้านั่งกันกับพื้น ปูเสื่อเป็นทางยาว จะนั่งท่าไหนก็แล้วแต่สดวก
เมนูอาหารเพียบ เหมือนกันทุกร้าน
ว่าด้วยเรื่องอาหาร ที่กินได้อย่างเต็มปากเต็มคำก็จะมีข้าวผัด,ก๋วยเตี๋ยว,Sotoซึ่งมีทั้งเนื้อวัว,ไก่,แพะ แต่เราชอบเนื้อวัวมากกว่า แล้วก็บะโซ เรื่องความสะอาดก็ทำใจกันนินึง ร้านข้างทางไม่ค่อยจะสะอาดเหมือนในห้าง
เนื้อที่หมด ต่อภาค3นะคะ
http://ppantip.com/topic/34264860 ภาค3 จ้า
เที่ยวโบรโม่ อีเจี้ยน ยอร์คยาการ์ต้า 13 วัน (ต่อ ภาค2)
วันแรกพาไปเที่ยวที่เดียง พลาโต้แล้ว ไปดูโบราณสถานเก่าแก่ของฮินดู บ่อโคลนเดือดที่ใหญ๋มากๆ และทะเลสาปสองสีไปแล้ว
http://ppantip.com/topic/34252783 ภาค1 ค่ะ
วันที่สองเดินทางแต่เช้าเพื่อไปเที่ยว Jomblang Cave ก็นั่งรถอีกเกือบ3ชม.เหมือนเดิม
Jomblang cave เป็นถ้ำใหญ่ที่สะพานถ้ำถูกน้ำกัดเซาะจนถล่มลงเมื่อนานมาแล้ว การเข้าไปในถ้านี้ต้องโรยตัวลงไปอย่างเดียว ซึ่งก็มีบริษัทนำเที่ยวพาเราลงไป เสียค่าใช้จ่าย 450.000 IDR ซึ่งก็คุ้มนะคะ กับการที่ต้องใช้อุปกรณ์ในการโรยตัวลงไป และแรงงานของคนที่นั่น
ก็ต้องแต่งตัวกันแบบนี้แหละค่ะ
ก่อนจะลงก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ และการเดินเข้าถ้ำอย่างปลอดภัย
ปากปล่องถ้ำจากมุมสูง ค่อนข้างสูงเอาการน่าจะตึกประมาณ8 ชั้น
เค้าจะหย่อนลงไปครั้งละ2คน ถ้า นน มากก็ครั้งละ1คน
เมื่อลงข้างล่างจนครบคน เราก็เริ่มเดินลงๆๆๆไปที่ตัวถ้ำ ตรงนี้ทางชันมากแบบต้องเกาะเชือกกันลงไป อยากจะบอกว่ารองเท้าบูทยางที่ทางเค้าจัดเตรียมไว้ให้ มันไม่เหมาะกับการใส่เดินในสภาพแบบนี้เลย มันแค่ช่วยไม่ให้เปียกน้ำเท่านั้นเอง แต่ยังงัยรองเท้าผ้าใบที่เราสวมมาก็ดีกว่าอยู่แล้ว เพราะด้านในทั้งลื่น ทั้งเต็มไปด้วยหินก้อนเล็กๆที่เดินแล้วเจ็บเท้าชมัดเลย
อยู่ด้านล่าง มองขึ้นไปที่ปากถ้ำ
ด้านในมืดมาก ต้องใช้ไฟฉายในการนำทาง
และเราก็มาถึงจุด hilight ของถ้า นั่นคือปล่องด้านบนที่ส่องแสงลงมายังถ้ำด้านใน ลำแสงที่ส่องสว่างตัดกับความมืดในถ้ำ สวยงามมาก
ด้านล่างเป็นธารน้ำตก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนญาติให้เราลงไป เพราะอันตราย สูงและลื่น
ออกจากถ้ำก็เกือบบ่ายโมง ก็เลยแวะน้ำตกไม่ไกลกันเท่ารัย น้ำตกนี้ธรรมดามากๆ ส่วนมากเป็นคนพื้นที่มาเที่ยวเท่านั้น
วันที่3 เราออกเดินทางไปยังพุทธสถานที่ใหญ่ที่สุด และสวยงามที่สุด คือ บุโรพุทโธ
และปรัมบานัน วัดเก่าแก่ของฮินดู
แค่สองสถานที่นี่เราก็ใช้เวลาไปเกือบเต็มวัน แต่คุ้มค่าจริงๆต่ะ เพราะสวยงามและยิ่งใหญ่จริงๆ เดินกันขาขวิดเลยค่ะ
รายการต่อไไปเรามาต่อกันที่ Lava Adventure Merapi วันนี้ไปลุยฝุ่นกันอีกรอบ กับภูเขาไฟเมราปี ที่สำแดงเดชปะทุครั้งใหญ่ไปเมือ่ปี2010 คร่าชีวิตผู้คน,สัตว์เลี้ยง, ข้าวของทรัพย์สินมากมาย วันนี้เราจะทัวร์แบบใช้มอเตร์ไซด์วิบาก เค้ามีทัวร์รถจิ๊ป แต่เราไปคนเดียวมอไซด์มันส์กว่าเยอะ ค่าเช่าก็ 150.000 Idr / 2 ชม.
ตรงนี้คือลำธารที่ทั้งโคลน หิน ดิน ทราย ไหลลงมาหลังจากที่ลาวาและเถ้าร้อนได้ประทุออกมาซ้ำเป็นระลอก2 ถมทับบ้านเรือนและคร่าผู้คนไปมากมาย
บ้านเรือนที่กลายเป้นบ้านร้าง
ซากข้างของเครื่องใช้ที่โดนเถ้าถ่านร้อนจนเปลี่ยนสภาพไป โศกนาฎกรรมที่น่าสพรึงของเมราปี
วันที่4 วันนี้ป้าเดินทางไกลอีกหน่อย ไปถึง Solo เพราะอยากไปดูโบราณสถานที่เก่าแก่เลียนแบบสไตล์มายา ของเปรู แต่น่าเสียดายที่พอไปถึงเค้ากำลังบูรณะและสร้างหลังคาครอบไว้ เลยไม่ได้เห็นแบบเต็มๆ
ที่นี่มีไกด์มาคอยให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติทั้งหมดของสถานที่ เป็น Local guild ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม
และนี่ก็เป็นอีกที่นึง ที่เหมือนจะโดนหลอกเรื่องระยะทาง เพราะไกด์บอกเดิน15-20นาที แต่เอาเข้าจริงๆมีเราเดินอยู่คนเดียวร่วมชั่วโมง ระยะทางไปกลับเกือบ4 กิโล ท่ามกลางแดดที่แผดเผาอย่างแรง ดีที่เราใส่เสื้อมีฮู้ดไป ไปงั้นเกรียมแน่ๆ
ทางเดินเลาะลัดเนินเขาเตี้ยๆ ซึ่งชาวบ้านทำการเกษตร ปลูกนาข้าวขั้นบันได
เดินเกือบ4 กิโล เพื่อไปดูสถูปอันเดียวนี่นะ แล้วก็มีอยู่สถูปเดียวจริงๆ
วันที่5 วันนี้เราจะไปลอยคอในน้ำเข้าถ้ำกันแบบเย็นๆมั่ง เราเรียกว่า Pindul cave และ tawanmangu waterfall อันนี้ใช้ภาพจากเว็บ เพราะไม่ได้เอากล้องเข้าไป กลัวเปียกน้ำ
ใช้เวลาในการเดินชมน้ำตกและล่องห่วงยางจนบ่ายแก่ๆ เราก็เดินทางกลับเช้าเมืองยอร์คยา
วันที่6 นี่ Freeday ค่ะ ขอนอนตื่นสายสักวันนึง วันนี้ออกไปเดินช่วงบ่ายๆ แดดก็ร้อนมาก เดินไปจนสุดถนนมาริโอโบโร เพื่อไปโบสถ์คาทอลิค
บรรยากาศย่านมาริโอโบโร กับไก่สะเต้ะ
ถนนเส้นนี้คล้ายกับประตูน้ำบ้านเรา ซึงมีทั้งห้างสรรพสินค้า และของขายแผงลอย ซึ่งขายเหมือนๆกัน
มีพลอย หิน มากมาย ทำกันตรงนั้น เข้าเรือนกันตรงนั้นเลย เราก็ดูไม่เป้นว่าแท้หรือเทียว ก็เลยได้แต่ยืนมองงอยู่ห่างๆ
บรรยากาศกลางคืนของที่นี่
มีศิลปินมาแต่งตัวโชว์และถ่ายรูปแลกเงิน
นักดนตรีที่หิ้วกีต้าร์เดินร้องเพลงไปตามริมทาง เสียงเพราะนะคะ ก็แล้วแต่เราจะให้ค่าตอบแทนเค้า แต่เห็นคนที่นี่ให้แต่เหรียญ ซึ่งเหรียญส่วนมากก็มี500,1000,2000 ซื่งก็ราวๆ1.50 บาท,3 บาท,6บาทประมาณนั้น
ร้านอาหารที่นี่เค้านั่งกันกับพื้น ปูเสื่อเป็นทางยาว จะนั่งท่าไหนก็แล้วแต่สดวก
เมนูอาหารเพียบ เหมือนกันทุกร้าน
ว่าด้วยเรื่องอาหาร ที่กินได้อย่างเต็มปากเต็มคำก็จะมีข้าวผัด,ก๋วยเตี๋ยว,Sotoซึ่งมีทั้งเนื้อวัว,ไก่,แพะ แต่เราชอบเนื้อวัวมากกว่า แล้วก็บะโซ เรื่องความสะอาดก็ทำใจกันนินึง ร้านข้างทางไม่ค่อยจะสะอาดเหมือนในห้าง
เนื้อที่หมด ต่อภาค3นะคะ
http://ppantip.com/topic/34264860 ภาค3 จ้า