ทฤษฎีดาว (Dow Theory by Charles H. Dow)
คือ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายพฤติกรรมของตลาดหุ้น เพื่อหาจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม หรือค้นหาการเคลื่อนไหวของทิศทางตลาดจนเกิดแนวโน้มใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 2 ช่วงใหญ่ๆ คือ ช่วงตลาดขาขึ้น และช่วงตลาดขาลง ดังนี้
ตลาดขาขึ้น
ขั้นที่ 1 - สะสม
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนยังสับสน และหวาดกลัวกับการเข้าซื้อ เนื่องจากตลาดประกอบไปด้วยข่าวร้าย และมีการทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามช่วงนี้นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มทยอยซื้อสะสม เพราะราคาหุ้นมักจะมี ราคาถูก ในส่วนแรกนี้จะต้องวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเจอแรงเทขาย
ข้อสังเกตุ :: ดูที่ทิศทางราคาหากยกตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดเดิม อาจจะเป็นไปได้ว่าตลาด อาจจะเปลี่ยนแนวโน้มใหม่ในอนาคต
ขั้นที่ 2 - การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
ช่วงนี้ข่าวดีต่างๆเริ่มออกมา รวมทั้งการประกาศผลประกอบการบริษัทที่ออกมา ในเชิงบวก ปริมาณการซื้อขายต่อวันเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อตาม แนวโน้มเพิ่มขึ้น
ข้อสังเกตุ :: RSI เริ่มมีทิศทางกลับตัวขึ้นและตัดขึ้นผ่านเส้น Oversold Zone
ขั้นที่ 3 - เกินมูลค่า
ช่วงนี้หากดูจากราคาของหลักทรัพย์มักจะสูงมาก ทิศทางของราคาอาจจะทำ New high หรือทดสอบ High เดิม แต่แรงซื้อกับเบาบางหรือลดลงอย่างมีนัย สำคัญ และอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นช่วงๆ
ข้อสังเกตุ :: RSI อยู่ใน Overbought Zone และเริ่มมีทิศทาง Sideway ส่วนทาง Volume มีการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดขาลง
ขั้นที่ 1 - กระจาย
แนวโน้มหรือทิศทางของราคาทำจุดสูงสุดและมีปริมาณการซื้อขายเบาบางลง หรือมีการทดสอบจุดสูงสุดเดิมแต่ไม่ทำ New high นักลงทุนที่ระวังตัวจะขายทำกำไรในจุดนี้ เพราะคาดว่าจะเป็นจุดกลับตัวของ ตลาด
ข้อสังเกตุ :: ทิศทางของราคาทำจุดสูงสุด เริ่มทำ Sideway และปริมาณการซื้อขาย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขั้นที่ 2 - การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
ช่วงนี้ข่าวร้ายต่างๆเริ่มทยอยออกมา ผลประกอบการบริษัทมีแนวโน้มที่แย่ลง ภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การปรับลดประมาณการ กำไรบริษัท ปรับลดประมาณการ GDP เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :: การที่รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น
ขั้นที่ 3 - สิ้นหวัง
เป็นช่วงที่ตลาดเกิดแรงเทขาย จนทิศทางของราคา Break out จาก Trend line หรือมีการเปลี่ยนแนวโน้ม จากขาขึ้นเป็นขาลง จุดนี้นักลงทุนควรมีวินัยในการ ลงทุน ทำตามกฎ Stop loss และ Take profit อย่างเคร่งครัด
ข้อสังเกตุ :: RSI เปลี่ยนทิศทางเข้าใกล้ Oversold ปริมาณการซื้อขาย lower low
พฤติกรรมของหุ้นใน Dow Theory มักจะเกิดในรูปแบบนี้เสมอไป วนๆเวียนๆ จนเป็นวัฏจักร ฉะนั้นนักลงทุนควรหาจังหวะที่ "ถูกที่ถูกเวลา" และที่สำคัญต้องมีวินัย ในการ Take profit และ Stop loss ด้วยนะครับ
ทฤษฎีดาว (Dow Theory by Charles H. Dow)
คือ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายพฤติกรรมของตลาดหุ้น เพื่อหาจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม หรือค้นหาการเคลื่อนไหวของทิศทางตลาดจนเกิดแนวโน้มใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 2 ช่วงใหญ่ๆ คือ ช่วงตลาดขาขึ้น และช่วงตลาดขาลง ดังนี้
ตลาดขาขึ้น
ขั้นที่ 1 - สะสม
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนยังสับสน และหวาดกลัวกับการเข้าซื้อ เนื่องจากตลาดประกอบไปด้วยข่าวร้าย และมีการทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามช่วงนี้นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มทยอยซื้อสะสม เพราะราคาหุ้นมักจะมี ราคาถูก ในส่วนแรกนี้จะต้องวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเจอแรงเทขาย
ข้อสังเกตุ :: ดูที่ทิศทางราคาหากยกตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดเดิม อาจจะเป็นไปได้ว่าตลาด อาจจะเปลี่ยนแนวโน้มใหม่ในอนาคต
ขั้นที่ 2 - การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
ช่วงนี้ข่าวดีต่างๆเริ่มออกมา รวมทั้งการประกาศผลประกอบการบริษัทที่ออกมา ในเชิงบวก ปริมาณการซื้อขายต่อวันเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อตาม แนวโน้มเพิ่มขึ้น
ข้อสังเกตุ :: RSI เริ่มมีทิศทางกลับตัวขึ้นและตัดขึ้นผ่านเส้น Oversold Zone
ขั้นที่ 3 - เกินมูลค่า
ช่วงนี้หากดูจากราคาของหลักทรัพย์มักจะสูงมาก ทิศทางของราคาอาจจะทำ New high หรือทดสอบ High เดิม แต่แรงซื้อกับเบาบางหรือลดลงอย่างมีนัย สำคัญ และอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นช่วงๆ
ข้อสังเกตุ :: RSI อยู่ใน Overbought Zone และเริ่มมีทิศทาง Sideway ส่วนทาง Volume มีการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดขาลง
ขั้นที่ 1 - กระจาย
แนวโน้มหรือทิศทางของราคาทำจุดสูงสุดและมีปริมาณการซื้อขายเบาบางลง หรือมีการทดสอบจุดสูงสุดเดิมแต่ไม่ทำ New high นักลงทุนที่ระวังตัวจะขายทำกำไรในจุดนี้ เพราะคาดว่าจะเป็นจุดกลับตัวของ ตลาด
ข้อสังเกตุ :: ทิศทางของราคาทำจุดสูงสุด เริ่มทำ Sideway และปริมาณการซื้อขาย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขั้นที่ 2 - การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
ช่วงนี้ข่าวร้ายต่างๆเริ่มทยอยออกมา ผลประกอบการบริษัทมีแนวโน้มที่แย่ลง ภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การปรับลดประมาณการ กำไรบริษัท ปรับลดประมาณการ GDP เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :: การที่รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น
ขั้นที่ 3 - สิ้นหวัง
เป็นช่วงที่ตลาดเกิดแรงเทขาย จนทิศทางของราคา Break out จาก Trend line หรือมีการเปลี่ยนแนวโน้ม จากขาขึ้นเป็นขาลง จุดนี้นักลงทุนควรมีวินัยในการ ลงทุน ทำตามกฎ Stop loss และ Take profit อย่างเคร่งครัด
ข้อสังเกตุ :: RSI เปลี่ยนทิศทางเข้าใกล้ Oversold ปริมาณการซื้อขาย lower low
พฤติกรรมของหุ้นใน Dow Theory มักจะเกิดในรูปแบบนี้เสมอไป วนๆเวียนๆ จนเป็นวัฏจักร ฉะนั้นนักลงทุนควรหาจังหวะที่ "ถูกที่ถูกเวลา" และที่สำคัญต้องมีวินัย ในการ Take profit และ Stop loss ด้วยนะครับ